วันนี้อยากแชร์ประสบการณ์และความรู้ดีๆ เรื่องกาแฟ ให้เพื่อนๆได้ลองไปใช้ดู น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ซึ่งบ่อยครั้งผู้เขียนรู้สึกเห็นใจต่อคนที่ไม่มีความรู้เรื่องกาแฟ และต้องเข้าใจเรื่องกาแฟผิดๆ จากคนขายกาแฟ หรือคนทำกาแฟที่ไม่มีความรู้มากพอ หรือพูดง่ายๆ คือทำกาแฟมั่วๆ ไรก็ได้ ลูกค้าไม่รู้หรอก (ซึ่งเจอบ่อยมากในเมืองไทย) คนทำธุรกิจที่ดี ไม่ควรดูถูกลูกค้าตัวเอง เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้แบบผิดๆ จนขยายเป็นวงกว้าง บ่อยครั้งที่ผู้เขียนมักจะได้ยินคำพูดประมาณว่า " เฮ่ยเครื่องกาแฟร้านนี้แมร่งโครตแพง สวยวะ กาแฟแมร่งต้องอร่อยแน่เลย ในใจเราก็ตอบว่า...ไม่เสมอไปนะ... จนกระทั่งมีเพื่อนคนนึงมาถามว่า "เครื่องทำกาแฟแพงๆ นี่ ทำให้กาแฟอร่อยจริงๆ ใช่มั้ย" ก็เลยเป็นที่มาของบทความนี้
ขอแนะนำตัวเองนิสสนึง จากประสบการณ์ที่อยู่ในซิดนีย์มา 11 ปี ทำกาแฟมา 6 ปีที่ คาเฟในซิดนีย์ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนออกคือ Cafe Manager และรับจ็อบเล็กๆให้กับคาเฟเปิดใหม่ที่นึงก่อนบินกลับเมืองไทย ทำงานช็อปนี้ได้เกือบสองเดือน ในตำแหน่ง Barista ย่าน Mascot ซึ่งอยู่นอกเมือง Sydney งานนี้ถือว่าช่วยๆกัน เพราะต้องเข้างานตีสี่ เข้าใจเลยว่าหาคนทำกาแฟยากแน่ๆ เพราะงานกาแฟในเมืองจ่ายดีๆมีเยอะ อีกอย่างก็มีแพลนจะกลับเมืองไทยอยู่แล้ว เลยตกลงรับงานนี้ โดยที่เราให้กรอบของเวลา (Timing Frame) กับตัวเองว่า เราจะทำงานให้ที่นี่จนกว่ากาแฟร้านนี้อยู่ในจุดที่ขายได้ดีระดับนึงแล้วถึงจะหยุด จนวีคที่สี่เราเห็นว่าลูกค้าติดกาแฟแล้ว เพราะขายกาแฟได้วันละ 7-8 กิโลกรัมต่อวัน ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับร้านเปิดใหม่ ร้านนี้ไปรอดเรื่องกาแฟแล้ว เพราะยังไงๆ กาแฟสิบโลต่อวันถึงแน่ๆ สบายๆ เลยตัดสินใจจบงานการทำงานด้านกาแฟที่ Australia ไว้ที่ความรู้สึกดีๆตรงนี้ ทุกคนมีแพลนในชีวิตเป็นของตัวเอง ทำแพลนคนอื่นสำเร็จแล้ว อย่าลืมแพลนตัวเอง
พูดถึงซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีคาเฟเยอะมาก สามารถเรียกได้ว่าเป็นเมืองของกาแฟเมืองนึงของโลกก็ว่าได้นะ (และอีกเมืองนึงที่แนะนำคือเมลเบิร์น) ชาวออสเตรเลียนิยมดื่มกาแฟร้อน คนที่นี่ดื่มกาแฟทั้งวัน ทำให้คาเฟส่วนใหญ่ขายกาแฟดีแทบทุกร้าน อย่างน้อยๆเงียบๆก็วันละ 3 กิโลกรัมต้องมี ซึ่งกาแฟที่นั่นเวลาคนทำธุรกิจกาแฟด้วยกันเค้าถามว่าวันนี้ขายดีมั้ย จะถามว่า...How many kilos of coffee have you done today?? วันนี้ขายกาแฟได้กี่กิโล..(ต่างกับการขายกาแฟในเมืองไทยที่ถามว่าวันนี้ขายได้กี่แก้ว) ซึ่งหนึ่งกิโลกรัมเนี่ย โดยเฉลี่ยจะทำกาแฟได้50 - 80 แก้ว ขึ้นอยู่กับขนาดของกาแฟที่ลูกค้าสั่งและความเข้มของกาแฟที่ลูกค้าต้องการ (คนเขียนเคยทำกาแฟ 15 - 20 กิโลกรัม ต่อวัน เวลายุ่งๆนี่ ชั่วโมงละ 2 - 3 กิโลกรัม บอกเลย ....โครตเหนื่อย😂😂😂....)
เมืองนี้เป็นเมืองที่ทำให้ผู้เขียนดื่มกาแฟได้โดยที่ไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะรสของกาแฟมันนุ่ม และละมุนมาก (ซึ่งตอนอยู่เมืองไทยจะน้ำตาลสองตลอด) ทำให้รู้ว่ากาแฟที่ดี และอร่อยจริงๆเนี่ย ควรเป็นยังไง มันนุ่ม และดื่มง่ายมากแค่ไหน กาแฟที่คุณภาพดีไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเลย รสชาดของกาแฟแท้ๆที่ผสมกับนมสดความร้อนที่ 60 - 70ํC เพื่อลดความขื่นและขมของกาแฟมันทำให้ได้สัมผัสความละมุนมากขึ้น ผู้เขียนเคยลองช็อตกาแฟที่เรียกว่า Ristretto Shot ( ริสเตรทโต้ ช็อต) เข้าใจง่ายๆเลยมันคือหัวของกาแฟ คล้ายๆกับหัวกะทินั่นแหละ บอกเลยจะมีความหวานนิดๆติดอยู่ในลำคอ นั่นคือรสชาติแท้ๆของเมล็ดกาแฟที่ดีนั่นเอง
เข้าเรื่องกันซักที สิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกจะดื่มกาแฟร้านไหนซักร้านนึง
1.ร้านต้องสวย
2.Coffee Machine ต้องงาม (เครื่องทำกาแฟ)
3.Latte Art ต้องเริสส (ลวดลายบนกาแฟ)
เพราะถ้าคนที่เป็นนักดื่มกาแฟตัวจริงเนี่ย สามอย่างนี้แทบจะไม่มีผลกับความอร่อยของกาแฟเลยนะ เพราะอะไร
มาเริ่มที่หัวข้อแรก...ร้านต้องสวย แล้วกาแฟจะอร่อย "🤔🤔..เหรอว้าาา??"
....ถ้าร้านสวย แล้วกาแฟอร่อยก็จะดีมากกกก😍😍..
ร้านสวยมันเป็นแค่ปัจจัยที่ทำให้เราเลือกเข้าไปนั่ง สำหรับคนที่ไม่ได้จริงจังเรื่องรสชาดของกาแฟ เหตุผลร้านสวยอาจจะเป็นเหตุผลแรกที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกที่จะนั่ง แต่เมื่อเรามาพูดถึงรสชาดของกาแฟแล้ว จากประสบการณ์ของผู้เขียน หลายๆ ร้านที่แต่งร้านสวย เก๋ ไอเดียดีไซด์เจิดมาก แต่ทำกาแฟออกมาผิด หรือมั่ว เคยมีที่ผิดๆ แบบเอ่อ.. มั่วปะเนี่ยยย... ที่เห็นบ่อยที่สุดเลยในเมนู หรือบอร์ดเมนูของร้านคือ Espresso เย็น และร้อน คือ คิ้วขมวดนิ้ดๆ แล้วก็คิด...มันมีด้วยเหรอวะ🙄🙄... แต่พอเข้าใจได้ว่าเกิดจากการเรียนรู้การทำกาแฟที่ผิดๆมา แล้วคิดว่าแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
Espresso จริงๆ แล้วคือกาแฟที่ดื่มแค่ช็อตกาแฟ ไม่มีอะไรเจือปนเลย ไม่มีทั้งน้ำร้อนและนม เหมือนกับการสั่ง Whisky on the rock (เหล้าเพียวๆ)
Photography by www.delonghi.com
เพราะอะไรถึงยังขายได้ในเมืองไทย เพราะฉวยโอกาสเอาที่ตรงที่คนไทยไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกาแฟ และเมืองไทยไม่ใช่เมืองกาแฟ คือถ้าฝรั่งมาสั่ง Espresso แล้วเจอกาแฟใส่นมมาแก้วเบ้อเริ่ม หรือใส่น้ำร้อนมาก็คงงง "😳😳😳..I just want only a shot of coffee. What the h*ll is this???" (😳😳😳ชั้นต้องการแค่ช็อตกาแฟ...แล้วนี่อะไรฟะ???) นี่คือตัวอย่างการทำกาแฟมั่วๆที่พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทย
ยกตัวอย่างร้านนึงที่ไปนั่ง ร้านนี้มีหลายสาขามาก แต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่ากาแฟร้านนี้จะอร่อย เพราะดูจากเมนูแล้ว ร้านนี้ไม่ใช่ Specialist (ผู้เชี่ยวชาญ) ด้านกาแฟ แต่วันนั้นที่นั่งร้านนี้ เพราะโต๊ะนั่งติดแม่น้ำ บรรยากาศดีมากกก สวย สไตล์เฟรนช์ หรืออิทาเลี่ยน เลย อะนั่งซะหน่อย พอเข้าไปออเดอร์ในร้านถึงได้รู้ว่า อ๋อ ที่แท้เป็นร้านแบรนด์นี้นี่เอง เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว งั้นขอสั่งเมนู Affogato ละกัน (เอสเปรสโซ กับ ไอสครีม 1 สกูป ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟกับไอสครีมวนิลา) อันนี้เป็น Dessert Coffee ที่ส่วนตัวผู้เขียนชอบกินมากช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเมนูนี้เราไม่ต้องคาดหวังเรื่องรสชาดของช็อตกาแฟมาก เพราะมันมีความหวานของไอสครีมวนิลาเป็นตัวช่วยอยู่ หากว่ารสชาดของช็อตกาแฟไหม้ หรือมีรสเปรี้ยว...
พอสั่งเสร็จ ป้าดดด..รอนานนนนนน...มากกก ครึ่งชั่วโมงได้ ในใจก็คิดว่า "ทำไรนานจังฟะ กะแค่ไอติมหนึ่งลูกกับช็อตกาแฟ เมิงนานไปมะเนี่ย" พอพนังงานมาเสิร์ฟ "เฮ้ย..😱😱😱" อึ้งหนักกว่าเดิม มันเป็นแคปปุชิโนร้อน แล้วใส่ไอสครีมลงไปอะ OMG!!! (วันนั้นลืมเอาโทรศัพท์ติดตัวไปเลยไม่มีภาพมายืนยัน) เราเลยถามพนักงานว่า อันนี้คืออะไรคะ พนักงานก็ตอบมาทันทีเลยว่า... อ๋อเป็น Affogato สไตล์ร้านเราครับ... ในใจก็ "กูว่าแล้ว ว่าเมิงต้องตอบแบบนี้ 😒😒😒"...
นอกเรื่องหน่อย ไปทานอาหารร้านนี้ก็ดังอีก สั่งพาสต้าผัดขี้เมา เสิร์ฟพาสต้าไรมาไม่รู้ ซอสท่วมมาเลย ไม่เหมือนในรูป แล้วพนักงานก็แก้ตัวเฉยๆ ว่า "พาสต้าขี้เมาร้านเราเป็นแบบนี้ ในรูปที่คุณลูกค้าเห็นมันผิด"..
😳😳😳 นั่น!!!...คือดิชั้นผิดว่างั้น...เอ่อมๆๆๆ คือปกติกรูก้อแหลกแบบในรูปนี่มะ😒😒😒..
กลับมาที่คาเฟต่อ...ผู้เขียนเลยขอเมนูมาดูอีกรอบ คือในเมนูอะจะโชว์รูปภาพอยู่ว่าเครื่องดื่มแต่ละประเภทเป็นยังไง แล้วรูปภาพในเมนูก็เป็น Affogato ที่ถูกต้อง เป็นไอสครีม 1 ลูก พร้อมช็อตเอสเปรสโซ ที่กำลังจะลาดลงบนไอสครีมเมนูนี้จะไม่เสริฟกับนมเลย ประมาณนี้
พนักงานให้คำตอบมาว่ารูปในเมนูผิด ...😕😕เอ้านั่น ไปกันใหญ่ ทำกาแฟผิด แต่ไม่ยอมรับ กลับโยนความผิดให้ลูกค้า ก็เลยบอกไปว่าขอคืนคะ จะไม่จ่ายเงินถ้ากาแฟไม่เหมือนในรูป ถ้ายังไงลองไปหาดูใน Google ดูนะว่ากาแฟ Affogato เป็นยังไง ถ้าคุณขายกาแฟให้กับคนที่ไม่รู้อะ คุณทำได้นะ แต่คุณอย่าลืมว่า ลูกค้าแต่ละคนมีความรู้ไม่เท่ากัน เจอคนมีความรู้มา ร้านคุณก็เสียเครดิต เสียความน่าเชื่อถือไป ทางที่ดีทำให้ถูกต้องทุกอย่างจะดีกว่า จะได้ไม่เสียชื่อ อันนี้คือหนึ่งในหลายเคสที่เจอ
มีอีกร้านนึงสั่ง Latte (กาแฟใส่นมร้อน) แต่ได้ Americano (กาแฟใส่น้ำร้อน) โอ้ แม่จ้าวววว เมนูก็มีอยู่ทั้ง Americano และ Latte ศึกษาการทำกาแฟแต่ประเภทให้ดีก่อนนะคะคนทำกาแฟทั้งหลาย ก่อนที่จะเปิดร้านให้บริการลูกค้า และผิดแล้วไม่ยอมรับผิดเนี่ยย 😖😖😖 ไม่จ่ายเงินได้นะ ร้านสวยแล้วมั่วการทำกาแฟนี่ ขอบายคะ👋👋👋
ร้านสวย เครื่องทำกาแฟแพง ลาเต้อาร์ทงาม แค่นี้กาแฟก็อร่อยขั้นเทพแล้ว...เหรอ??...
ขอแนะนำตัวเองนิสสนึง จากประสบการณ์ที่อยู่ในซิดนีย์มา 11 ปี ทำกาแฟมา 6 ปีที่ คาเฟในซิดนีย์ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนออกคือ Cafe Manager และรับจ็อบเล็กๆให้กับคาเฟเปิดใหม่ที่นึงก่อนบินกลับเมืองไทย ทำงานช็อปนี้ได้เกือบสองเดือน ในตำแหน่ง Barista ย่าน Mascot ซึ่งอยู่นอกเมือง Sydney งานนี้ถือว่าช่วยๆกัน เพราะต้องเข้างานตีสี่ เข้าใจเลยว่าหาคนทำกาแฟยากแน่ๆ เพราะงานกาแฟในเมืองจ่ายดีๆมีเยอะ อีกอย่างก็มีแพลนจะกลับเมืองไทยอยู่แล้ว เลยตกลงรับงานนี้ โดยที่เราให้กรอบของเวลา (Timing Frame) กับตัวเองว่า เราจะทำงานให้ที่นี่จนกว่ากาแฟร้านนี้อยู่ในจุดที่ขายได้ดีระดับนึงแล้วถึงจะหยุด จนวีคที่สี่เราเห็นว่าลูกค้าติดกาแฟแล้ว เพราะขายกาแฟได้วันละ 7-8 กิโลกรัมต่อวัน ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับร้านเปิดใหม่ ร้านนี้ไปรอดเรื่องกาแฟแล้ว เพราะยังไงๆ กาแฟสิบโลต่อวันถึงแน่ๆ สบายๆ เลยตัดสินใจจบงานการทำงานด้านกาแฟที่ Australia ไว้ที่ความรู้สึกดีๆตรงนี้ ทุกคนมีแพลนในชีวิตเป็นของตัวเอง ทำแพลนคนอื่นสำเร็จแล้ว อย่าลืมแพลนตัวเอง
พูดถึงซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีคาเฟเยอะมาก สามารถเรียกได้ว่าเป็นเมืองของกาแฟเมืองนึงของโลกก็ว่าได้นะ (และอีกเมืองนึงที่แนะนำคือเมลเบิร์น) ชาวออสเตรเลียนิยมดื่มกาแฟร้อน คนที่นี่ดื่มกาแฟทั้งวัน ทำให้คาเฟส่วนใหญ่ขายกาแฟดีแทบทุกร้าน อย่างน้อยๆเงียบๆก็วันละ 3 กิโลกรัมต้องมี ซึ่งกาแฟที่นั่นเวลาคนทำธุรกิจกาแฟด้วยกันเค้าถามว่าวันนี้ขายดีมั้ย จะถามว่า...How many kilos of coffee have you done today?? วันนี้ขายกาแฟได้กี่กิโล..(ต่างกับการขายกาแฟในเมืองไทยที่ถามว่าวันนี้ขายได้กี่แก้ว) ซึ่งหนึ่งกิโลกรัมเนี่ย โดยเฉลี่ยจะทำกาแฟได้50 - 80 แก้ว ขึ้นอยู่กับขนาดของกาแฟที่ลูกค้าสั่งและความเข้มของกาแฟที่ลูกค้าต้องการ (คนเขียนเคยทำกาแฟ 15 - 20 กิโลกรัม ต่อวัน เวลายุ่งๆนี่ ชั่วโมงละ 2 - 3 กิโลกรัม บอกเลย ....โครตเหนื่อย😂😂😂....)
เมืองนี้เป็นเมืองที่ทำให้ผู้เขียนดื่มกาแฟได้โดยที่ไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะรสของกาแฟมันนุ่ม และละมุนมาก (ซึ่งตอนอยู่เมืองไทยจะน้ำตาลสองตลอด) ทำให้รู้ว่ากาแฟที่ดี และอร่อยจริงๆเนี่ย ควรเป็นยังไง มันนุ่ม และดื่มง่ายมากแค่ไหน กาแฟที่คุณภาพดีไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเลย รสชาดของกาแฟแท้ๆที่ผสมกับนมสดความร้อนที่ 60 - 70ํC เพื่อลดความขื่นและขมของกาแฟมันทำให้ได้สัมผัสความละมุนมากขึ้น ผู้เขียนเคยลองช็อตกาแฟที่เรียกว่า Ristretto Shot ( ริสเตรทโต้ ช็อต) เข้าใจง่ายๆเลยมันคือหัวของกาแฟ คล้ายๆกับหัวกะทินั่นแหละ บอกเลยจะมีความหวานนิดๆติดอยู่ในลำคอ นั่นคือรสชาติแท้ๆของเมล็ดกาแฟที่ดีนั่นเอง
เข้าเรื่องกันซักที สิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกจะดื่มกาแฟร้านไหนซักร้านนึง
1.ร้านต้องสวย
2.Coffee Machine ต้องงาม (เครื่องทำกาแฟ)
3.Latte Art ต้องเริสส (ลวดลายบนกาแฟ)
เพราะถ้าคนที่เป็นนักดื่มกาแฟตัวจริงเนี่ย สามอย่างนี้แทบจะไม่มีผลกับความอร่อยของกาแฟเลยนะ เพราะอะไร
มาเริ่มที่หัวข้อแรก...ร้านต้องสวย แล้วกาแฟจะอร่อย "🤔🤔..เหรอว้าาา??"
....ถ้าร้านสวย แล้วกาแฟอร่อยก็จะดีมากกกก😍😍..
ร้านสวยมันเป็นแค่ปัจจัยที่ทำให้เราเลือกเข้าไปนั่ง สำหรับคนที่ไม่ได้จริงจังเรื่องรสชาดของกาแฟ เหตุผลร้านสวยอาจจะเป็นเหตุผลแรกที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกที่จะนั่ง แต่เมื่อเรามาพูดถึงรสชาดของกาแฟแล้ว จากประสบการณ์ของผู้เขียน หลายๆ ร้านที่แต่งร้านสวย เก๋ ไอเดียดีไซด์เจิดมาก แต่ทำกาแฟออกมาผิด หรือมั่ว เคยมีที่ผิดๆ แบบเอ่อ.. มั่วปะเนี่ยยย... ที่เห็นบ่อยที่สุดเลยในเมนู หรือบอร์ดเมนูของร้านคือ Espresso เย็น และร้อน คือ คิ้วขมวดนิ้ดๆ แล้วก็คิด...มันมีด้วยเหรอวะ🙄🙄... แต่พอเข้าใจได้ว่าเกิดจากการเรียนรู้การทำกาแฟที่ผิดๆมา แล้วคิดว่าแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
Espresso จริงๆ แล้วคือกาแฟที่ดื่มแค่ช็อตกาแฟ ไม่มีอะไรเจือปนเลย ไม่มีทั้งน้ำร้อนและนม เหมือนกับการสั่ง Whisky on the rock (เหล้าเพียวๆ)
Photography by www.delonghi.com
เพราะอะไรถึงยังขายได้ในเมืองไทย เพราะฉวยโอกาสเอาที่ตรงที่คนไทยไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกาแฟ และเมืองไทยไม่ใช่เมืองกาแฟ คือถ้าฝรั่งมาสั่ง Espresso แล้วเจอกาแฟใส่นมมาแก้วเบ้อเริ่ม หรือใส่น้ำร้อนมาก็คงงง "😳😳😳..I just want only a shot of coffee. What the h*ll is this???" (😳😳😳ชั้นต้องการแค่ช็อตกาแฟ...แล้วนี่อะไรฟะ???) นี่คือตัวอย่างการทำกาแฟมั่วๆที่พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทย
ยกตัวอย่างร้านนึงที่ไปนั่ง ร้านนี้มีหลายสาขามาก แต่ก็ไม่เคยคิดหรอกว่ากาแฟร้านนี้จะอร่อย เพราะดูจากเมนูแล้ว ร้านนี้ไม่ใช่ Specialist (ผู้เชี่ยวชาญ) ด้านกาแฟ แต่วันนั้นที่นั่งร้านนี้ เพราะโต๊ะนั่งติดแม่น้ำ บรรยากาศดีมากกก สวย สไตล์เฟรนช์ หรืออิทาเลี่ยน เลย อะนั่งซะหน่อย พอเข้าไปออเดอร์ในร้านถึงได้รู้ว่า อ๋อ ที่แท้เป็นร้านแบรนด์นี้นี่เอง เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว งั้นขอสั่งเมนู Affogato ละกัน (เอสเปรสโซ กับ ไอสครีม 1 สกูป ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟกับไอสครีมวนิลา) อันนี้เป็น Dessert Coffee ที่ส่วนตัวผู้เขียนชอบกินมากช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเมนูนี้เราไม่ต้องคาดหวังเรื่องรสชาดของช็อตกาแฟมาก เพราะมันมีความหวานของไอสครีมวนิลาเป็นตัวช่วยอยู่ หากว่ารสชาดของช็อตกาแฟไหม้ หรือมีรสเปรี้ยว...
พอสั่งเสร็จ ป้าดดด..รอนานนนนนน...มากกก ครึ่งชั่วโมงได้ ในใจก็คิดว่า "ทำไรนานจังฟะ กะแค่ไอติมหนึ่งลูกกับช็อตกาแฟ เมิงนานไปมะเนี่ย" พอพนังงานมาเสิร์ฟ "เฮ้ย..😱😱😱" อึ้งหนักกว่าเดิม มันเป็นแคปปุชิโนร้อน แล้วใส่ไอสครีมลงไปอะ OMG!!! (วันนั้นลืมเอาโทรศัพท์ติดตัวไปเลยไม่มีภาพมายืนยัน) เราเลยถามพนักงานว่า อันนี้คืออะไรคะ พนักงานก็ตอบมาทันทีเลยว่า... อ๋อเป็น Affogato สไตล์ร้านเราครับ... ในใจก็ "กูว่าแล้ว ว่าเมิงต้องตอบแบบนี้ 😒😒😒"...
นอกเรื่องหน่อย ไปทานอาหารร้านนี้ก็ดังอีก สั่งพาสต้าผัดขี้เมา เสิร์ฟพาสต้าไรมาไม่รู้ ซอสท่วมมาเลย ไม่เหมือนในรูป แล้วพนักงานก็แก้ตัวเฉยๆ ว่า "พาสต้าขี้เมาร้านเราเป็นแบบนี้ ในรูปที่คุณลูกค้าเห็นมันผิด"..
😳😳😳 นั่น!!!...คือดิชั้นผิดว่างั้น...เอ่อมๆๆๆ คือปกติกรูก้อแหลกแบบในรูปนี่มะ😒😒😒..
กลับมาที่คาเฟต่อ...ผู้เขียนเลยขอเมนูมาดูอีกรอบ คือในเมนูอะจะโชว์รูปภาพอยู่ว่าเครื่องดื่มแต่ละประเภทเป็นยังไง แล้วรูปภาพในเมนูก็เป็น Affogato ที่ถูกต้อง เป็นไอสครีม 1 ลูก พร้อมช็อตเอสเปรสโซ ที่กำลังจะลาดลงบนไอสครีมเมนูนี้จะไม่เสริฟกับนมเลย ประมาณนี้
พนักงานให้คำตอบมาว่ารูปในเมนูผิด ...😕😕เอ้านั่น ไปกันใหญ่ ทำกาแฟผิด แต่ไม่ยอมรับ กลับโยนความผิดให้ลูกค้า ก็เลยบอกไปว่าขอคืนคะ จะไม่จ่ายเงินถ้ากาแฟไม่เหมือนในรูป ถ้ายังไงลองไปหาดูใน Google ดูนะว่ากาแฟ Affogato เป็นยังไง ถ้าคุณขายกาแฟให้กับคนที่ไม่รู้อะ คุณทำได้นะ แต่คุณอย่าลืมว่า ลูกค้าแต่ละคนมีความรู้ไม่เท่ากัน เจอคนมีความรู้มา ร้านคุณก็เสียเครดิต เสียความน่าเชื่อถือไป ทางที่ดีทำให้ถูกต้องทุกอย่างจะดีกว่า จะได้ไม่เสียชื่อ อันนี้คือหนึ่งในหลายเคสที่เจอ
มีอีกร้านนึงสั่ง Latte (กาแฟใส่นมร้อน) แต่ได้ Americano (กาแฟใส่น้ำร้อน) โอ้ แม่จ้าวววว เมนูก็มีอยู่ทั้ง Americano และ Latte ศึกษาการทำกาแฟแต่ประเภทให้ดีก่อนนะคะคนทำกาแฟทั้งหลาย ก่อนที่จะเปิดร้านให้บริการลูกค้า และผิดแล้วไม่ยอมรับผิดเนี่ยย 😖😖😖 ไม่จ่ายเงินได้นะ ร้านสวยแล้วมั่วการทำกาแฟนี่ ขอบายคะ👋👋👋