คือผมได้มีโอกาสได้อยู่ร่วมคนที่นับถือศาสนาคริสต์คนหนึ่งครับ โดยที่เมื่อก่อนเขาก็เป็นคนนึงที่นับถือศาสนาพุทธมากๆ แต่พอมีคนมาชวน เขาก็เลยลองไปนับถือศาสนาคริสต์ดู แต่สิ่งที่ทำให้ผมมาตั้งกระทู้เนี่ย ก็เป็นเพราะว่ามีพฤติกรรมบางอย่างของเขาที่เปลี่ยนไป ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นปกติของคนนับถือศาสนานี้หรือเปล่าอย่างไร
พฤติกรรมของเขาก็คือ
1. เวลาทำงานหรือเดินไปใหน เขาต้องท่องอะไรซักอย่าง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นบทสวด อยู่"ตลอดเวลา" คือผมได้ยินแทบทุกวินาทีที่อยู่ไกล้เขา ซึ่งผมต้องยอมรับว่าบางทีมันก็ทำให้ผมรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง
2. หลังจากเขานับถือคริสต์แล้ว เขาต้องอ่านหรือจดคำสอนตลอดเวลา โดยจดจนเหมือนต้องการจะไปสอบเข้ามหาลัยอะไรยังงั้นเลย
3. พระพุทธรูป หรือ สร้อยพระต่างๆที่เขามีอยู่ ก็เอาไปทิ้งซะหมดเลย โดยเขาได้ให้เหตุผลำว้ว่า ถ้ายังเก็บเอาไว้ว่า ถ้ายังเก็บเอาไว้ มันจะเป็นบาปหนักมากๆ แล้วพระเจ้าจะลงโทษ
4. เขาจะคอยกรอกหูผมตลอดเวลาเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ โดยบอกว่าถ้าผมไม่ชอบหรือไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า พระเจ้าจะลงโทษผมอย่างร้ายแรง ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าตราบใดที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร เขาจะมาลงโทษผมทำไมกัน?
5. ทุกๆเย็นเขาจะไปหาแม่ของเพื่อนผมทุกวัน (ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้วจากโรคมะเร็ง) และจะคอยไปกุมมือและท่องอะไรซักอย่าง
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ผมก็เลยอยากถามว่า ชาวคริสต์จำเป็นต้องทำอะไรอย่างนั้นตลอดเวลาจริงๆหรือครับ หรือเป็นเพราะความเห่อของคนบางคนเพียงเท่านั้น
ปล.ผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนไม่มีศาสนานะครับ โดยผมมีความคิดว่าตราบใดที่ผมไม่ลบหลู่ศาสนาใดๆ และผมจะนำคำสอนที่ดีๆจากแต่ละศาสนามาใช้ในชีวิต เท่านี้ผมก็ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาใดๆเป็นหลักก็ได้
ปล2, ผมไม่มีเจตนาจะดูถูกศาสดาใดๆนะครับ แต่เป็นเพราะว่าผมมีคำถามก็เพียงเท่านั้น
ปล3. ต้องบอกก่อนว่าผมอายุแค่18ปี เพราะฉะนั้นอาจจะเข้าอะไรผิดไปบ้างนะครับ
มีคำถามเกี่ยวกับศาสนาคริสต์
พฤติกรรมของเขาก็คือ
1. เวลาทำงานหรือเดินไปใหน เขาต้องท่องอะไรซักอย่าง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นบทสวด อยู่"ตลอดเวลา" คือผมได้ยินแทบทุกวินาทีที่อยู่ไกล้เขา ซึ่งผมต้องยอมรับว่าบางทีมันก็ทำให้ผมรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง
2. หลังจากเขานับถือคริสต์แล้ว เขาต้องอ่านหรือจดคำสอนตลอดเวลา โดยจดจนเหมือนต้องการจะไปสอบเข้ามหาลัยอะไรยังงั้นเลย
3. พระพุทธรูป หรือ สร้อยพระต่างๆที่เขามีอยู่ ก็เอาไปทิ้งซะหมดเลย โดยเขาได้ให้เหตุผลำว้ว่า ถ้ายังเก็บเอาไว้ว่า ถ้ายังเก็บเอาไว้ มันจะเป็นบาปหนักมากๆ แล้วพระเจ้าจะลงโทษ
4. เขาจะคอยกรอกหูผมตลอดเวลาเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ โดยบอกว่าถ้าผมไม่ชอบหรือไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า พระเจ้าจะลงโทษผมอย่างร้ายแรง ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าตราบใดที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร เขาจะมาลงโทษผมทำไมกัน?
5. ทุกๆเย็นเขาจะไปหาแม่ของเพื่อนผมทุกวัน (ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้วจากโรคมะเร็ง) และจะคอยไปกุมมือและท่องอะไรซักอย่าง
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ผมก็เลยอยากถามว่า ชาวคริสต์จำเป็นต้องทำอะไรอย่างนั้นตลอดเวลาจริงๆหรือครับ หรือเป็นเพราะความเห่อของคนบางคนเพียงเท่านั้น
ปล.ผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนไม่มีศาสนานะครับ โดยผมมีความคิดว่าตราบใดที่ผมไม่ลบหลู่ศาสนาใดๆ และผมจะนำคำสอนที่ดีๆจากแต่ละศาสนามาใช้ในชีวิต เท่านี้ผมก็ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาใดๆเป็นหลักก็ได้
ปล2, ผมไม่มีเจตนาจะดูถูกศาสดาใดๆนะครับ แต่เป็นเพราะว่าผมมีคำถามก็เพียงเท่านั้น
ปล3. ต้องบอกก่อนว่าผมอายุแค่18ปี เพราะฉะนั้นอาจจะเข้าอะไรผิดไปบ้างนะครับ