ขอคำแนะนำค่ะ ว่า ดิฉันควรคิด/ทำอย่างไร เมื่อแฟนไม่เห็นความสำคัญของการแต่งงาน/จดทะเบียน ซึ่งดิฉันมองต่างออกไป
เราคบกันเกือบ 3 ปี ทั้งคู่อายุ 30 และมีการงานที่มั่นคง
เราทำงานคนละจังหวัด บ้านพ่อแม่อยู่คนละจังหวัด แต่ระยะทางห่างไม่เกิน 200 กม.
ในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการคุยถึงเรื่องเกี่ยวกับการเป็นครอบครัวบ้าง นานๆที
ด้วยหลายครั้งที่คุยเรื่องนี้ ไปจบลงที่ความไม่เข้าใจกัน ดิฉันร้องไห้ แฟนหงุดหงิด และเลิกคุยเรื่องนี้กันไป
กลับมาคุยเรื่องนี้กันใหม่ เมื่อบรรยากาศการคบกันอยู่ในระดับดี ดิฉันก็จะเป็นฝ่ายชวนแฟนคุย
ล่าสุดที่คุยกัน
แฟนมีความคิดในเรื่องครอบครัว...แบบนี้ค่ะ
- ต้องการมีลูกกับดิฉัน
- เมื่อถามว่า ก่อนมีลูกจะแต่งงานมั้ย >>
แต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้ แต่ไม่ได้เห็นความจำเป็นว่าต้องแต่ง
โดยยกตัวอย่างกรณีเพื่อนสนิท 1 คนของเค้า ที่ไม่แต่งงานแต่มีลูกแล้ว 2 คน (ดิฉันไม่แน่ใจว่าทำพิธีในครอบครัว/จดทะเบียนหรือไม่)
แต่สังคมที่เค้าอยู่ เพื่อนเค้าที่มีแฟนก็แต่งงานเป็นส่วนใหญ่
- แฟนคิดว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับ
การสร้างความมั่นคงทางการเงิน เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี
-
การจดทะเบียน ให้รอเวลานำพาไป (<< อันนี้ ดิฉันไม่เข้าใจ เพราะอนาคตเรา เราต้องวางแผนสิ ไม่ใช่ปล่อยๆ ไป)
การจดทะเบียน ไม่สำคัญเท่าความรัก โดยให้เหตุผลว่า คนสมัยก่อนยังอยู่กันได้แบบไม่จดทะเบียน
- ประโยคเด็ดของแฟนที่มักทำให้ดิฉันต้องหยุดพูดเรื่องนี้ต่อ เช่น
>> "
คนที่ไม่พูด [เรื่องครอบครัว] อาจเป็นฝ่ายที่คิดมากกว่าก็ได้" ... ก็พูดสิ่งที่คิดมาบ้างสิ
>> "
จากคำถามที่ดิฉันถาม เหมือนว่าไม่รู้จักตัวเค้าเลย" ... จุกค่ะ ในใจคิด ที่ยอมเธอหลายๆเรื่องนี่นับมั้ย
>> "
เรื่องพวกนี้มันสำคัญกว่าความรักอีกหรอ" ... รู้ว่ารัก แต่มันคนละเรื่องกันเลย
>> "
ดิฉันอยากแต่งงาน ดิฉันพร้อมแล้วหรอ" ... ถามกลับหลายครั้ง ให้บอกมาว่าให้เตรียมอะไร แต่พอเป็นเรื่องเงิน ดิฉันจอดเพราะเป็นจุดอ่อน
ในส่วน
ความคิดของดิฉัน
- เรื่องมีลูก ยังไงก็ได้ค่ะ การที่เค้าคิดอยากมีลูกกับดิฉัน ดิฉันโอเคมาก
- เรื่องแต่งงาน ดิฉัน
ต้องการ "แต่งงาน" ไม่ได้ต้องการจัด "งานแต่งงาน" ตามมาตรฐาน
แค่อยากได้จุดที่ทั้งคู่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเริ่มการเป็นคู่ชีวิตกัน
ไม่เคยฝันถึงชุดแต่งงาน ไม่เคยรู้สึกอยากถ่ายพรีเวดดิ้งหรือตัดเค้กงานแต่ง
และคิดว่าแม่ดิฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังงานใหญ่โต (เท่าที่รู้จักแม่ตัวเองค่ะ และญาติสนิทก็มีแค่แม่คนเดียว)
ดิฉันอยากตอบคำถามแม่ได้เต็มปาก และอยากมองสายตาที่ห่วงใยกลับได้เต็มตา
ดิฉันอยากทำให้มันถูกต้องเปิดเผย
(แม่ทราบว่า ดิฉันมีอะไรกับแฟน อีกทั้งช่วงแรกคบกันแฟนเจ้าชู้ คบซ้อน ดิฉันเข้ามาแบบไม่ทราบว่าเค้ามีผู้หญิงของเค้าอยู่ ดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้เเม่ฟัง)
- เรื่องความมั่นคงทางการเงิน ดิฉันทำได้ไม่ดีเท่าเค้า
ด้วยงานที่ทำมั่นคงแต่เงินเดือนไม่มาก ประกอบกับภาระผ่อนคอนโด (ของดิฉันเองฝ่ายเดียว)
ดิฉันทำงานเสริม แต่ก็ไม่ได้ทำรายได้ดีขนาดที่จะเลี้ยงลูกให้สุขสบายแบบไร้กังวลได้
ซึ่งเรื่องการเงิน เราเคยคุยกันแล้วว่าดิฉันหาเงินไม่เก่งคงไม่สามารถช่วยเค้าเรื่องนี้ได้มาก แฟนตอบว่า ไม่ได้สนใจในจุดนี้เลย
- การจดทะเบียน - ดิฉันโน้มเอียงไปทางอยากจด
ส่วนหนึ่งคือประสบการณ์ส่วนตัว คุณแม่โดนพ่อจดทะเบียนซ้อน เมื่อพ่อเสียชีวิตลง ทุกอย่างกลับตาลปัตร
โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แฟนก็ค่อนข้างมีความคิดเรื่องครอบครัวที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอะไรๆ ที่เข้ามาในชีวิต
จากเค้าเคยเป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องเเต่งงาน - เห็นความสำคัญกับการจัดงาน - จนไม่อยากแต่งงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- คบได้ 8 เดือน แฟนเคยขอดิฉันแต่งงาน แต่ดิฉันไม่พร้อม เพราะเรื่องผู้หญิงที่เค้าเก็บไว้เพิ่งเคลียร์ไปไม่ถึงเดือน
(จุดนี้คือหลังดิฉันจับเรื่องนี้ได้ 3-4 เดือนแล้ว แต่พบว่า แฟนไม่ได้ไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้น แค่ไม่ติดต่อไป เรื่องจึงคาราคาซัง)
- คบได้ปีกว่า แฟนประสบอุบัติเหตุหลังจากมาหาดิฉันตามที่ดิฉันดื้อขอ (เราอยู่คนละจังหวัดกัน)
หลังจากช่วงนั้น คือมรสุม แฟนค่อนข้างเหวี่ยงใส่ดิฉัน เพราะเค้าเจ็บตัวและเสียรถ
การคุยอะไรที่เกี่ยวกับอนาคตแม้สั้นๆ อาทิตย์หน้าเดือนหน้า ทำไม่ได้เลยเกือบปี
ด้วยเค้าจะให้คำพูดทำนอง เค้าจะมีหรือไม่มีดิฉันก็ได้
- เมื่อมรสุมเพลาลงไป ดิฉันถามเรื่องอนาคตการแต่งงาน ว่า ดิฉันอยากแต่งงาน แต่เฉยๆ กับ 'งานแต่งงาน'
เค้าพูดว่า ดิฉันไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ มีแม่มีสังคม ยังไงก็ต้องจัด ซึ่งเค้ายังไม่พร้อมเรื่องเงิน
ตลอดช่วงการคบกัน (ไม่นับช่วงเค้าเหวี่ยงจากอุบัติเหตุ) เค้าดูแลดิฉันดีพอประมาณ ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้ทิ้งขว้าง
เคยซื้อจักรยานราคาเป็นแสนให้ เพื่อให้ดิฉันได้ร่วมในกิจกรรมที่เค้าชอบ (เรามีกิจกรรมที่ชอบไม่ตรงกัน อันนี้เค้าพยายามแก้ปัญหานี้)
พาไปออกงานบ้าง เคยไปงานบวชเค้า (มักเป็นผลจากที่ดิฉันถามว่าให้ไปด้วยมั้ย)
คุ้นเคยกับพ่อแม่เค้าตามสมควร ไม่มากไม่น้อย พ่อแม่แฟนก็เอ็นดูดิฉัน
ครอบครัวแฟนเคยยากจนมาก แต่ส่งเสียลูกเรียนจบและตอนนี้ฐานะปานกลาง ครอบครัวดิฉันก็ฐานะปานกลาง
ปีหน้าพ่อแฟนเกษียณจะซื้อบ้าน ซึ่งแฟนจะช่วยค่าใช้จ่ายด้วย (เรื่องบ้าน ก็คิดว่าอาจเป็นปัจจัยนึงที่ทำให้แฟนยังไม่อยากคุยเรื่องแต่งงาน)
แม่ดิฉันในช่วงแรกประทับใจตัวแฟนมาก แต่เสียความรู้สึกมากตอนทราบเรื่องนิสัยเจ้าชู้
อยากปรึกษาค่ะ ดิฉันควรคิด ควรทำตัวอย่างไร
การอธิบายให้แฟนเข้าใจความต้องการ ก็พูดจนจบลงที่ดิฉันต้องร้องไห้ ด้วยคำถามที่ทำให้จนมุมไปต่อไม่ถูก
การจะไปบอกว่า อยากจะทำให้แม่สบายใจ ... มันควรต้องเป็นดิฉันที่ไปทวงถามหรอ เค้าควรตระหนักและคิดถึงเรื่องนี้เองมั้ย
ขอข้อเสนอแนะ ข้อคิด ข้อติ อะไรก็ได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แฟนไม่เห็นความสำคัญของการแต่งงาน/จดทะเบียน ฝ่ายหญิงควรทำอย่างไร
เราคบกันเกือบ 3 ปี ทั้งคู่อายุ 30 และมีการงานที่มั่นคง
เราทำงานคนละจังหวัด บ้านพ่อแม่อยู่คนละจังหวัด แต่ระยะทางห่างไม่เกิน 200 กม.
ในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการคุยถึงเรื่องเกี่ยวกับการเป็นครอบครัวบ้าง นานๆที
ด้วยหลายครั้งที่คุยเรื่องนี้ ไปจบลงที่ความไม่เข้าใจกัน ดิฉันร้องไห้ แฟนหงุดหงิด และเลิกคุยเรื่องนี้กันไป
กลับมาคุยเรื่องนี้กันใหม่ เมื่อบรรยากาศการคบกันอยู่ในระดับดี ดิฉันก็จะเป็นฝ่ายชวนแฟนคุย
ล่าสุดที่คุยกัน แฟนมีความคิดในเรื่องครอบครัว...แบบนี้ค่ะ
- ต้องการมีลูกกับดิฉัน
- เมื่อถามว่า ก่อนมีลูกจะแต่งงานมั้ย >> แต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้ แต่ไม่ได้เห็นความจำเป็นว่าต้องแต่ง
โดยยกตัวอย่างกรณีเพื่อนสนิท 1 คนของเค้า ที่ไม่แต่งงานแต่มีลูกแล้ว 2 คน (ดิฉันไม่แน่ใจว่าทำพิธีในครอบครัว/จดทะเบียนหรือไม่)
แต่สังคมที่เค้าอยู่ เพื่อนเค้าที่มีแฟนก็แต่งงานเป็นส่วนใหญ่
- แฟนคิดว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการสร้างความมั่นคงทางการเงิน เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี
- การจดทะเบียน ให้รอเวลานำพาไป (<< อันนี้ ดิฉันไม่เข้าใจ เพราะอนาคตเรา เราต้องวางแผนสิ ไม่ใช่ปล่อยๆ ไป)
การจดทะเบียน ไม่สำคัญเท่าความรัก โดยให้เหตุผลว่า คนสมัยก่อนยังอยู่กันได้แบบไม่จดทะเบียน
- ประโยคเด็ดของแฟนที่มักทำให้ดิฉันต้องหยุดพูดเรื่องนี้ต่อ เช่น
>> "คนที่ไม่พูด [เรื่องครอบครัว] อาจเป็นฝ่ายที่คิดมากกว่าก็ได้" ... ก็พูดสิ่งที่คิดมาบ้างสิ
>> "จากคำถามที่ดิฉันถาม เหมือนว่าไม่รู้จักตัวเค้าเลย" ... จุกค่ะ ในใจคิด ที่ยอมเธอหลายๆเรื่องนี่นับมั้ย
>> "เรื่องพวกนี้มันสำคัญกว่าความรักอีกหรอ" ... รู้ว่ารัก แต่มันคนละเรื่องกันเลย
>> "ดิฉันอยากแต่งงาน ดิฉันพร้อมแล้วหรอ" ... ถามกลับหลายครั้ง ให้บอกมาว่าให้เตรียมอะไร แต่พอเป็นเรื่องเงิน ดิฉันจอดเพราะเป็นจุดอ่อน
ในส่วนความคิดของดิฉัน
- เรื่องมีลูก ยังไงก็ได้ค่ะ การที่เค้าคิดอยากมีลูกกับดิฉัน ดิฉันโอเคมาก
- เรื่องแต่งงาน ดิฉันต้องการ "แต่งงาน" ไม่ได้ต้องการจัด "งานแต่งงาน" ตามมาตรฐาน
แค่อยากได้จุดที่ทั้งคู่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเริ่มการเป็นคู่ชีวิตกัน
ไม่เคยฝันถึงชุดแต่งงาน ไม่เคยรู้สึกอยากถ่ายพรีเวดดิ้งหรือตัดเค้กงานแต่ง
และคิดว่าแม่ดิฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังงานใหญ่โต (เท่าที่รู้จักแม่ตัวเองค่ะ และญาติสนิทก็มีแค่แม่คนเดียว)
ดิฉันอยากตอบคำถามแม่ได้เต็มปาก และอยากมองสายตาที่ห่วงใยกลับได้เต็มตา ดิฉันอยากทำให้มันถูกต้องเปิดเผย
(แม่ทราบว่า ดิฉันมีอะไรกับแฟน อีกทั้งช่วงแรกคบกันแฟนเจ้าชู้ คบซ้อน ดิฉันเข้ามาแบบไม่ทราบว่าเค้ามีผู้หญิงของเค้าอยู่ ดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้เเม่ฟัง)
- เรื่องความมั่นคงทางการเงิน ดิฉันทำได้ไม่ดีเท่าเค้า
ด้วยงานที่ทำมั่นคงแต่เงินเดือนไม่มาก ประกอบกับภาระผ่อนคอนโด (ของดิฉันเองฝ่ายเดียว)
ดิฉันทำงานเสริม แต่ก็ไม่ได้ทำรายได้ดีขนาดที่จะเลี้ยงลูกให้สุขสบายแบบไร้กังวลได้
ซึ่งเรื่องการเงิน เราเคยคุยกันแล้วว่าดิฉันหาเงินไม่เก่งคงไม่สามารถช่วยเค้าเรื่องนี้ได้มาก แฟนตอบว่า ไม่ได้สนใจในจุดนี้เลย
- การจดทะเบียน - ดิฉันโน้มเอียงไปทางอยากจด
ส่วนหนึ่งคือประสบการณ์ส่วนตัว คุณแม่โดนพ่อจดทะเบียนซ้อน เมื่อพ่อเสียชีวิตลง ทุกอย่างกลับตาลปัตร
โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แฟนก็ค่อนข้างมีความคิดเรื่องครอบครัวที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอะไรๆ ที่เข้ามาในชีวิต
จากเค้าเคยเป็นฝ่ายเริ่มพูดเรื่องเเต่งงาน - เห็นความสำคัญกับการจัดงาน - จนไม่อยากแต่งงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตลอดช่วงการคบกัน (ไม่นับช่วงเค้าเหวี่ยงจากอุบัติเหตุ) เค้าดูแลดิฉันดีพอประมาณ ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้ทิ้งขว้าง
เคยซื้อจักรยานราคาเป็นแสนให้ เพื่อให้ดิฉันได้ร่วมในกิจกรรมที่เค้าชอบ (เรามีกิจกรรมที่ชอบไม่ตรงกัน อันนี้เค้าพยายามแก้ปัญหานี้)
พาไปออกงานบ้าง เคยไปงานบวชเค้า (มักเป็นผลจากที่ดิฉันถามว่าให้ไปด้วยมั้ย)
คุ้นเคยกับพ่อแม่เค้าตามสมควร ไม่มากไม่น้อย พ่อแม่แฟนก็เอ็นดูดิฉัน
ครอบครัวแฟนเคยยากจนมาก แต่ส่งเสียลูกเรียนจบและตอนนี้ฐานะปานกลาง ครอบครัวดิฉันก็ฐานะปานกลาง
ปีหน้าพ่อแฟนเกษียณจะซื้อบ้าน ซึ่งแฟนจะช่วยค่าใช้จ่ายด้วย (เรื่องบ้าน ก็คิดว่าอาจเป็นปัจจัยนึงที่ทำให้แฟนยังไม่อยากคุยเรื่องแต่งงาน)
แม่ดิฉันในช่วงแรกประทับใจตัวแฟนมาก แต่เสียความรู้สึกมากตอนทราบเรื่องนิสัยเจ้าชู้
อยากปรึกษาค่ะ ดิฉันควรคิด ควรทำตัวอย่างไร
การอธิบายให้แฟนเข้าใจความต้องการ ก็พูดจนจบลงที่ดิฉันต้องร้องไห้ ด้วยคำถามที่ทำให้จนมุมไปต่อไม่ถูก
การจะไปบอกว่า อยากจะทำให้แม่สบายใจ ... มันควรต้องเป็นดิฉันที่ไปทวงถามหรอ เค้าควรตระหนักและคิดถึงเรื่องนี้เองมั้ย
ขอข้อเสนอแนะ ข้อคิด ข้อติ อะไรก็ได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ