คือเราไม่มีเจตนาร้ายอะไรเลยนะ ไม่ได้ดูถูก เหยียดหรืออะไรเลย แค่มันรู้สึกอึดอัด และที่สำคัญกลัวแทน ไม่รู้เพื่อนๆเป็นกันบ้างไหม?
.....จริงๆที่บ้านเราก็มีรถมอเตอร์ไซค์ เราก็ขับเป็นมีใบขับขี่ด้วย แต่เรานี่ขับไหล่ถนนตลอดชิดซ้ายสุด เปิดไฟใส่หมวกถูกต้องเป๊ะ!
.....ตอนนี้เราขับรถยนต์ แต่เครียดกับมอเตอร์ไซค์ ถนนสาม-สี่เลน นี่เป็นของนางหมด ทุกเลน เปิดไฟเลี้ยวจะเปลี่ยนเลน ก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะติดพวกนาง คัน สองคัน ขับกลางเลน พอนางผ่านไปเปลี่ยนไม่ได้อีก เสียจังหว่ะ จบ เปิดไฟเลี้ยวรออีกต่อไป
....... จอดติดไฟแดงรถแออัด ต้องเว้นช่องว่างให้นางแทรกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางทีมาทั้ง 2ข้าง หลบให้ไม่ถูก ยังกะหลบรถไซเรน บางทีแปะเอากระจกข้างเราไปด้วย (โดน 2ครั้งแล้ว ครั้งแรกกระจกพังกดหุบบานกระจกไม่ได้ต้องใช้มือช่วยดันเข้า-ออก เรียกได้ว่าพิการไปหนึ่งข้าง ครั้งที่2 ฝั่งซ้ายถึงขนาดกระจกหัก เหลือสายไฟห้อยโตงเตงเป็นฟางเส้นสุดท้าย แต่ไร้วี่แววคู่กรณีทั้ง 2ครั้ง ไปเร็วเหลือเกิน T T) เดี๋ยวนี้ต้องเว้ยระยะหน้ารถให้ด้วย เผื่อพวกนางเปลี่ยนเลน
.........รถสองเลน สวนทางกัน ถ้าอีกฝั่งรถติด เรารถยนต์ต้องขับชิดซ้ายให้มากๆ เพื่อให้พวกนางมีพื้นที่มากพอ (ข้ามมาขับเลนเราซะงั้น ช่องจราจรพิเศษไปอีก) ขับสวนทางมา นี่ถ้าพลาดพลั้งชน เราจะผิดไหมเนี่ย
..........จะเลี้ยวออกจากซอย เปิดไฟเลี้ยวซ้าย มองรถด้านขวา พอจังหว่ะรถว่าง เราจะเลี้ยวออก แม่เจ้า!นางนี่ตีคู่ฝั่งซ้ายระยะประชิด เบรคซิคะท่าน! ใจหายไปเลย แต่..นางขับไปสบายใจไม่มาดูใจเราเลย (รถฝั่งขวาก็คงบ่น ทำไม€นี่ไม่เลี้ยวออกมาซะที ตูกะหยุดให้แร้วววว)
..........เคยติดไฟแดงเป็นคันแรกตามแยกมหาโหดต่างๆ ท่ามกลางคาราวานมอเตอร์ไซต์ไหม? พอไฟเขียวมันเป็นจังหว่ะที่ลุ้นถูกไหมว่าเราจะรอดนาทีระทึกขวัญนี่หรือไม่....แต่คันหน้ารอค่ะ ออกตัวไม่ได้ค่ะ คาราวานเยอะมากค่ะ ปิดทุกช่องการจราจร พอว่างจะปล่อยเบรค มันกะแดงอีกแล้ว
.....รู้สึกเหมือนโดนประนามเป็นตราบาปจากรถยนต์คันข้างหลังว่า ไฟเขียวแล้ว...ทามมายมุงไม่ไปแว๊
...........ตอนติดไฟแดงแถวสนามกีฬาชื่อดังใกล้มหาวิทยาแห่งหนึ่ง ใน กทม พอรถข้างหน้าเคลื่อนตัว เราก็จะขยับด้วยไง ไม่รู้ว่านางมาข้างหลังแล้วจะมาเปลี่ยนเลนต่อหน้าเรา (ยังไฟแดงอยู่นะ) นางปาดปุ๊บ เราก็เบรคปั๊บ ยังไม่ชนนะ! นางก็เบรคอย่างแรง หันมามองด้านเราทำปากขมุบขมิบ ว่า €ฮาขับรถโพ่งมุงยังไงไม่มีน้ำใจ กรวย! (อ่านปากแบบนั้น เราเลยปล่อยเบรคแตะคันเร่งเบาๆให้สัมผัสกันเล็กน้อย แล้วลงจากรถ ถามว่า คุณพี่ว่าอะไรนะคะ พอดีอยู่ในรถปิดกระจกได้ยินไม่ค่อยถนัดค่ะ พร้อมกับยิ้มหวานมากๆส่งไป*****แต่อย่าทำตามนะคะ ตอนนั้นวัยรุ่นคิดน้อยค่ะ ไม่ดีๆ *** แล้วนางก็ขับออกไปเลย ฝ่าไฟแดงด้วย..
........ติดไฟแดงอีกเช่นกันแถวๆ รพ.ประสาท คุณพี่ท่านนึงเคาะกระจก แล้วโวยวายว่าเราเหยียบเท้าเขา....และจะเอาค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บและเสียเวลา ..อนิจังเราติดไฟแดงใส่เกียร์ว่างและดึงเบรคมือ รถยังไม่เคลื่อนเลย เราเลยเลื่อนกระจกลงเล็กน้อย แล้วถามว่าคุณพี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บมากไหมคะ มาค่ะ หนูพาไป รพ. รามาก็ได้ค่ะ โอ๊ะคุณตำรวจอยู่นั่นพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวหนูไปขอความให้เขามาช่วยนะคะ กำลังจะปลดเข็มขัด คุณพี่ก็ขับรถออกไปซะแล้ว เรานี่ก็เป็นห่วงเป็นใยไม่รู้เป็นไงบ้าง 4-5ปีผ่านมาละ
...........ถนน 2เลนขับสวนทางกัน เจอนาง 2คัน ขับตีคู่กันพูดคุยกัน เราคิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญมากแน่ๆเลย ถึงรอให้จอดรถก่อนไม่ได้ต้องคุยกันนะตอนนั้น แต่คงเป็นเรื่องที่ดีเห็นคุยไปยิ้มไปหัวเราะไป แต่เรากะขับตามหลังมาไกลแล้วนะ ทำไมธุระยาวจัง เราจะแซงกะไม่ได้อีกฝั่งก็รถสวน เลยต้องขับ 60 ตามหลังนาง ทั้ง 2 คันต่อไป
.......แถวเดอะมอลล์ท่าพระทุกเลนเป็นของเหล่าคาราวาน ไม่เว้นแม้แต่เลน brt แม้ว่ารถจะติดหรือ ถนนจะโล่ง มันก็เป็นแบบนั้นเสมอมา และตลอดไป forever and never
.....บนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุด 1และ2 มีป้ายชัดเจนว่าห้ามขึ้น แต่ก็นั่นแหละ เจอประจำ หลายสิบคัน ตลอดไปและตลอดกาล (ไม่นับสะพานอื่นนะ )
.......แถวตากอากาศ ในเขตสมุทรปราการ เจอซ้อน 3 ขับ100 ปาดซ้ายขวา บางคันคนขับนั่งกลางมีตุ๊กตาหน้ารถผมปลิวข้างหน้า.....เรานี่ทิ้งระยะห่างเลย บอกตามตรงกลัว....กลัวเบรคไม่ทัน
........แถวช่องน้อยสี และเขตใกล้เคียงนี่พีคสุด ทั้งซ้าย ทั้งขวา ทั้งข้างหน้า บางครั้งได้เสียงตึง!ข้างหลังเบาๆ หันไปเห็นหนุ่มน้อยโบกมือทักทาย พร้อมโค้งคำนับ เราก็นึกว่าคนรู้จักกันกลับถึงบ้านถึงกับอึ้ง....หนุ่มน้อยฝากลายแทงเล็กๆแต่ลึกๆไว้ให้ดูต่างหน้า เราเพ่งมองดีๆแล้วก็ไม่ใช่ไอดีไลน์ทุกวันนี้เลยยังติดต่อนางไม่ได้ ต้องติดต่อประกันแทน
.......เอาจริงๆนะ เรากลัว กลัวว่าจะชนนางมากกว่าจะชนรถยนต์ด้วยกันเสียอีก ระวังนางมากกว่าระวังรถยนต์ด้วยกันอีก เราอยากให้คุณๆเค้ากลัวๆกันสักนิด ระวังกันมากกว่านี้หน่อยเกิดอะไรขึ้น คุณๆจะเกิดความเสียหายมากกว่าพวกเราอ่ะ หรืออย่างน้อยๆ เคารพกฎจราจร ไม่สวนเลน ไม่ข้ามเลนก็ยังดี ด้วยความปรารถนาดี จากผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน
รู้สึกเหนื่อยกับการขับรถ....แล้วต้องระวังมอเตอร์ไซค์.....หนูไหว้ล่ะพี่
.....จริงๆที่บ้านเราก็มีรถมอเตอร์ไซค์ เราก็ขับเป็นมีใบขับขี่ด้วย แต่เรานี่ขับไหล่ถนนตลอดชิดซ้ายสุด เปิดไฟใส่หมวกถูกต้องเป๊ะ!
.....ตอนนี้เราขับรถยนต์ แต่เครียดกับมอเตอร์ไซค์ ถนนสาม-สี่เลน นี่เป็นของนางหมด ทุกเลน เปิดไฟเลี้ยวจะเปลี่ยนเลน ก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะติดพวกนาง คัน สองคัน ขับกลางเลน พอนางผ่านไปเปลี่ยนไม่ได้อีก เสียจังหว่ะ จบ เปิดไฟเลี้ยวรออีกต่อไป
....... จอดติดไฟแดงรถแออัด ต้องเว้นช่องว่างให้นางแทรกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางทีมาทั้ง 2ข้าง หลบให้ไม่ถูก ยังกะหลบรถไซเรน บางทีแปะเอากระจกข้างเราไปด้วย (โดน 2ครั้งแล้ว ครั้งแรกกระจกพังกดหุบบานกระจกไม่ได้ต้องใช้มือช่วยดันเข้า-ออก เรียกได้ว่าพิการไปหนึ่งข้าง ครั้งที่2 ฝั่งซ้ายถึงขนาดกระจกหัก เหลือสายไฟห้อยโตงเตงเป็นฟางเส้นสุดท้าย แต่ไร้วี่แววคู่กรณีทั้ง 2ครั้ง ไปเร็วเหลือเกิน T T) เดี๋ยวนี้ต้องเว้ยระยะหน้ารถให้ด้วย เผื่อพวกนางเปลี่ยนเลน
.........รถสองเลน สวนทางกัน ถ้าอีกฝั่งรถติด เรารถยนต์ต้องขับชิดซ้ายให้มากๆ เพื่อให้พวกนางมีพื้นที่มากพอ (ข้ามมาขับเลนเราซะงั้น ช่องจราจรพิเศษไปอีก) ขับสวนทางมา นี่ถ้าพลาดพลั้งชน เราจะผิดไหมเนี่ย
..........จะเลี้ยวออกจากซอย เปิดไฟเลี้ยวซ้าย มองรถด้านขวา พอจังหว่ะรถว่าง เราจะเลี้ยวออก แม่เจ้า!นางนี่ตีคู่ฝั่งซ้ายระยะประชิด เบรคซิคะท่าน! ใจหายไปเลย แต่..นางขับไปสบายใจไม่มาดูใจเราเลย (รถฝั่งขวาก็คงบ่น ทำไม€นี่ไม่เลี้ยวออกมาซะที ตูกะหยุดให้แร้วววว)
..........เคยติดไฟแดงเป็นคันแรกตามแยกมหาโหดต่างๆ ท่ามกลางคาราวานมอเตอร์ไซต์ไหม? พอไฟเขียวมันเป็นจังหว่ะที่ลุ้นถูกไหมว่าเราจะรอดนาทีระทึกขวัญนี่หรือไม่....แต่คันหน้ารอค่ะ ออกตัวไม่ได้ค่ะ คาราวานเยอะมากค่ะ ปิดทุกช่องการจราจร พอว่างจะปล่อยเบรค มันกะแดงอีกแล้ว
.....รู้สึกเหมือนโดนประนามเป็นตราบาปจากรถยนต์คันข้างหลังว่า ไฟเขียวแล้ว...ทามมายมุงไม่ไปแว๊
...........ตอนติดไฟแดงแถวสนามกีฬาชื่อดังใกล้มหาวิทยาแห่งหนึ่ง ใน กทม พอรถข้างหน้าเคลื่อนตัว เราก็จะขยับด้วยไง ไม่รู้ว่านางมาข้างหลังแล้วจะมาเปลี่ยนเลนต่อหน้าเรา (ยังไฟแดงอยู่นะ) นางปาดปุ๊บ เราก็เบรคปั๊บ ยังไม่ชนนะ! นางก็เบรคอย่างแรง หันมามองด้านเราทำปากขมุบขมิบ ว่า €ฮาขับรถโพ่งมุงยังไงไม่มีน้ำใจ กรวย! (อ่านปากแบบนั้น เราเลยปล่อยเบรคแตะคันเร่งเบาๆให้สัมผัสกันเล็กน้อย แล้วลงจากรถ ถามว่า คุณพี่ว่าอะไรนะคะ พอดีอยู่ในรถปิดกระจกได้ยินไม่ค่อยถนัดค่ะ พร้อมกับยิ้มหวานมากๆส่งไป*****แต่อย่าทำตามนะคะ ตอนนั้นวัยรุ่นคิดน้อยค่ะ ไม่ดีๆ *** แล้วนางก็ขับออกไปเลย ฝ่าไฟแดงด้วย..
........ติดไฟแดงอีกเช่นกันแถวๆ รพ.ประสาท คุณพี่ท่านนึงเคาะกระจก แล้วโวยวายว่าเราเหยียบเท้าเขา....และจะเอาค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บและเสียเวลา ..อนิจังเราติดไฟแดงใส่เกียร์ว่างและดึงเบรคมือ รถยังไม่เคลื่อนเลย เราเลยเลื่อนกระจกลงเล็กน้อย แล้วถามว่าคุณพี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บมากไหมคะ มาค่ะ หนูพาไป รพ. รามาก็ได้ค่ะ โอ๊ะคุณตำรวจอยู่นั่นพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวหนูไปขอความให้เขามาช่วยนะคะ กำลังจะปลดเข็มขัด คุณพี่ก็ขับรถออกไปซะแล้ว เรานี่ก็เป็นห่วงเป็นใยไม่รู้เป็นไงบ้าง 4-5ปีผ่านมาละ
...........ถนน 2เลนขับสวนทางกัน เจอนาง 2คัน ขับตีคู่กันพูดคุยกัน เราคิดว่าคงเป็นเรื่องสำคัญมากแน่ๆเลย ถึงรอให้จอดรถก่อนไม่ได้ต้องคุยกันนะตอนนั้น แต่คงเป็นเรื่องที่ดีเห็นคุยไปยิ้มไปหัวเราะไป แต่เรากะขับตามหลังมาไกลแล้วนะ ทำไมธุระยาวจัง เราจะแซงกะไม่ได้อีกฝั่งก็รถสวน เลยต้องขับ 60 ตามหลังนาง ทั้ง 2 คันต่อไป
.......แถวเดอะมอลล์ท่าพระทุกเลนเป็นของเหล่าคาราวาน ไม่เว้นแม้แต่เลน brt แม้ว่ารถจะติดหรือ ถนนจะโล่ง มันก็เป็นแบบนั้นเสมอมา และตลอดไป forever and never
.....บนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุด 1และ2 มีป้ายชัดเจนว่าห้ามขึ้น แต่ก็นั่นแหละ เจอประจำ หลายสิบคัน ตลอดไปและตลอดกาล (ไม่นับสะพานอื่นนะ )
.......แถวตากอากาศ ในเขตสมุทรปราการ เจอซ้อน 3 ขับ100 ปาดซ้ายขวา บางคันคนขับนั่งกลางมีตุ๊กตาหน้ารถผมปลิวข้างหน้า.....เรานี่ทิ้งระยะห่างเลย บอกตามตรงกลัว....กลัวเบรคไม่ทัน
........แถวช่องน้อยสี และเขตใกล้เคียงนี่พีคสุด ทั้งซ้าย ทั้งขวา ทั้งข้างหน้า บางครั้งได้เสียงตึง!ข้างหลังเบาๆ หันไปเห็นหนุ่มน้อยโบกมือทักทาย พร้อมโค้งคำนับ เราก็นึกว่าคนรู้จักกันกลับถึงบ้านถึงกับอึ้ง....หนุ่มน้อยฝากลายแทงเล็กๆแต่ลึกๆไว้ให้ดูต่างหน้า เราเพ่งมองดีๆแล้วก็ไม่ใช่ไอดีไลน์ทุกวันนี้เลยยังติดต่อนางไม่ได้ ต้องติดต่อประกันแทน
.......เอาจริงๆนะ เรากลัว กลัวว่าจะชนนางมากกว่าจะชนรถยนต์ด้วยกันเสียอีก ระวังนางมากกว่าระวังรถยนต์ด้วยกันอีก เราอยากให้คุณๆเค้ากลัวๆกันสักนิด ระวังกันมากกว่านี้หน่อยเกิดอะไรขึ้น คุณๆจะเกิดความเสียหายมากกว่าพวกเราอ่ะ หรืออย่างน้อยๆ เคารพกฎจราจร ไม่สวนเลน ไม่ข้ามเลนก็ยังดี ด้วยความปรารถนาดี จากผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน