งานอาคาร ราคา10 ล้าน คุยจบเคลียร์จบ แต่ไม่จบ

ใครพอจะมีแนวทางจัดการเรื่องราวของเราบ้าง. บางทีปัญหาคนอื่นมองง่าย ปัญหาตัวเอง ไปไม่เป็นเหมือนกัน

เรื่องราว เป็นงาน การก่อสร้างอาคารเรียน ที่มีปัญหายังไม่สามารถลงงานได้ ทั้งที่มีการเตรียมงานพร้อมแล้ว

เราหันมาจับงานก่อสร้างได้พักนึง ทั้งที่เคยเป็นอาชีพเดิมที่สร้างรายได้ ครอบครัวอยู่ดีมีสุข พอเกิดสึนามิ ตอนนั้นเราอยู่เขาหลัก งานที่ทำมีแต่งานโรงแรม หมดกัน ไม่เป็นท่า โทษใครก็ไม่ได้

จากนั้นก็ขึ้นเหนือ จับงานหลวง แต่ไม่ได้เคาะเองนะ ร้านวัสดุรายใหญ่เค้าเคาะมา ให้ซับ แล้วเรารับค่าแรง โดยวัสดุต้องเอาจากเค้า คนเรายากดิ้นหนีตาย อะไรก็ต้องทำ งานหลักล้าน จบงานหักค่าวัสดุแล้ว เหลือเงิน 5 พัน เพราะในวัสดุราคาโหดร้ายนึกไม่ถึง ถามก่อนสั่งนะ แต่ถามปากเปล่า บิลมาหนาว แต่ถอยไม่ได้ จบงานนั้นเจ็บใจ เลิกรับเหมาเลย ถ้าทุนไม่พอ

10 กว่าปีแล้ว ทำมาหากินไปตามประสา พอใช้เรื่อยๆ ไม่เหลือเก็บ ดิ้นรนทำกิจการอยุ่บ้าง เพื่อความมั่นคงของครอบครัว. วันนี้ลูกโตมากแล้ว การศึกษาดีๆ สำหรับเด็ก4 คนนี่ เยอะนะ แถมโชคชะตายังเล่นตลก เอางานอาคารตัวนี้เข้ามือเรา มาพร้อมนายทุน ที่จะออกค่าใช้จ่าย ให้เราทำงาน วัสดุทุกอย่างเงินสด งานนี้เหลือกำไรเกือบ 3 ล้าน ดีใจนะ จะได้กลับไปทำงานที่ถนัด เริ่มต้นสร้างความมั่นคงอีกครั้ง


ผลกำไรแบ่งกัน 6/4 นี่เค้าเสนอนะ เราได้4 เราก็โอ. ไม่ได้มองที่เงินเป็นหลักหรอก มองคำว่าโอกาสมากกว่า ตลอดเวลาดำเนินงานเบื้องต้น นายทุนก็สั่ง สั่งให้จัดการนั่นนี่ สั่งชุดคนงาน สั่งหาสนง.ทนายความร่างสัญญาระหว่างเรา หาสนง.บัญชี หานายกเล็ก หาโยธา หาทุกคนที่เกี่ยวข้อง

เราทำตามทุกอย่าง ทุกขั้นตอนมีรายจ่าย บางอันเราจ่าย บางอันนัดเค้าว่าจะจ่าย เพราะนายทุนจะต้องมาทำสัญญา แล้วเค้าจะมาจ่าย ด้วยความคุ้นเคยส่วนตัว ทุกอย่างลงมือก่อน สัญญารอเค้าลงมาทำ เอกสารใช้ของเรา หจก.เรา อะไรที่เป็นการผูกมัดกับงานตัวนี้ชื่อเรา เค้ารอลงมาจ่าย และทำสัญญา แล้วเริ่มงาน

ผ่านมาเดือนกว่า จนถึงวันจะตอกเข็มแล้ว เธอเปลี่ยนใจ จะด้วยเห็นผลส่วนตัวอะไรของเธอ เราไม่เล่า เดี๋ยวจะหลุดประเด็น เอาเป็นว่าเธอไม่ทำแล้ว  งง

เธอไม่เดือดร้อนอะไรกับการเปลี่ยนใจ เพราะแค่ปฏิเสธเรา แต่เราที่รับคำสั่งเธอ ไปตกลงกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับสูง จนถึงปฏิบัติงาน เคลียร์ไว้เป็นทาง ชุดพนักงาน จนถึงหมวกและรองเท้าเซฟตี้  ทนายความที่ทำเอกสารให้ใส่ซองเรียบร้อย ทั้งเพิ่มชื่อเธอในห้าง เพิ่มทุน สัญญาระหว่างเรา ทนายทำไว้หมด เธอนัดมาจ่าย แล้วเธอไม่มา เธอว่าวัสดุซื้อจากกรุงเทพล้อตเดียว ราคาจะถูกลง เธอยอมจ่ายเงินก้อน เพื่อกำไรที่มากขึ้น เราก็ติดต่อวัสดุก่อสร้าง. เธอว่าของสั่งมาเยอะ ไว้หน้างานหมดไม่ได้ หาเช่าโกดังพักของ เป็นสโตร์ เบิกลงหน้างานตามจำเป็น

ย้ำอีกครั้งว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น คือแถวบ้านเรา งานแถวบ้านเรา ทุกคนที่ติดต่อ คือคนที่ต้องเจอกันประจำ เธอเป็นคนที่อื่น ที่ไม่ต้องแคร์ว่าจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่พูดไปอย่างไร

ถึงตอนนี้งานมาถึงจุดที่พร้อม ทุกฝ่ายมองเรา รออะไร ทำไมนิ่ง ไปไม่เป็นสิ เครียดมาเป็นเดือน หาทางออกไม่เจอ เธอเป็นคนที่อื่น งานนี้อยู่บ้านเรา คนเสียคือเรา อยากทำงาน อยากได้เงินก็อยาก แต่รุ้กำลังตัวเองดี ถ้าไม่มีนายทุนเสนอมา จะกล้ารับเหรอ ตอนนี้สิ่งที่มากกว่าอยากได้ทำงาน คือ ความอาย อายที่ลงงานไม่ได้ อายที่ติดต่อใครต่อใครไว้พร้อมแล้วเฉย อายกับค่าใช้จ่าย ที่เธอสั่งให้ไปทำแล้วจะจัดการเอง แต่เธอว่าไม่ทำแล้ว เราจะทำอย่างไรต่อไป. ตั้งใจว่าจะไม่รับเหมาแล้วเชียว ถึงจะถนัดงานแค่ไหน จำตั้งแต่หอถังสูงจบงานเหลือ5 พัน หลงวางใจใคร เจ็บ จุก

ตอนนี้ หน่วยงานราชการ โฟร์แมน บัญชี และสารพัดตำแหน่งที่เธอสั่งให้เรารับสมัคร เฝ้ารอคำตอบจากเรา ว่าจะเอายังไง

ใครอ่านจนจบ บอกเราที ถ้าเหตุการณ์นี้ เกิดกับคุณ คุณจะทำยังไง

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การบริหารจัดการ ปัญหาชีวิต เจ้าของธุรกิจ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่