“ทริปนี้ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่ได้วางแผน แต่สิ่งที่เราประทับใจจากทริปนี้ คือเรื่องราวระหว่างทาง ทั้งวิวทิวทัศน์สองข้างทางและผู้คนที่เราพบเจอ”
ทริปนี้เป็น 1 Day Trip ไม่มีแผน ไม่ได้หาที่เที่ยว แค่รู้สึกว่าง และอยากนั่งรถไฟ
เป็นทริปที่เกือบจะล่ม แต่สุดท้ายก็ไม่ล่ม และกลายเป็นทริปที่ประทับใจสำหรับเรา
สำหรับงบประมาณ เฉลี่ย คนละ 150 บาท ถ้าไม่ซื้อขนมนะ 555
เราเริ่มต้นกันที่นี่ "สถานีรถไฟนครราชสีมา" มาถึงกันตอนประมาณ 8 โมงเช้า
มาถึงแล้วก็ต้องไปซื้อตั๋ว จะบอกว่าซื้อก็ไม่ถูกเพราะมันเป็นรถไฟฟรี 555 ก็บอกเค้าไปว่า ไปปากช่อง 4 คนค่ะ ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าก็จะให้ตั๋วเรามา
ตามตาราง รถไฟจะออกตอน 08.22 น.- 10.03 น.
บรรยากาศ "สถานีรถไฟนครราชสีมา"
รถไฟมาแล้วว มาตรงเวลาเป๊ะ ตอนขึ้นรถไฟคนค่อนข้างเยอะพอสมควร อาจจะเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย ก็เลยไม่ได้นั่งด้วยกัน 4 คน ต้องแยกกันนั่ง เราเลือกนั่งฝั่งซ้ายกัน เพราะจะได้เห็นวิวลำตะคอง
แล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง
ระหว่างทางก็ชมวิวไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นสีเขียวๆเต็มสองข้างทาง ลมเย็นๆ ชมวิวบ้าง คุยกันบ้าง แต่ไม่แนะนำให้ฟังเพลงนะ เพราะเสียงรถไฟมันดังมาก ฟังไม่ค่อยได้ยิน 555
นั่งไปสักพัก ก็จะถึงเขื่อนลำตะคอง วิวจริงๆ สวยมาก แต่อยู่บนรถไฟถ่ายไม่ค่อยได้เลย ติดต้นไม้หมด
ใครว่างๆจะมานั่งรถไฟเที่ยวมันก็ไม่ได้แย่นะ สนุกดี
ถึงสถานีปากช่องแล้ววว 10.03 น. เป๊ะ รถไฟรอบนี้ตรงเวลามากก
ชอบสถานีรถไฟปากช่องมากกก สวยดี
ด้านหน้าสถานีเป็นแบบนี้
สำหรับคนที่ไม่รู้จะไปไหนดี แบบเรา ควรเริ่มต้นด้วยการถามคนแถวนั้นค่ะ พอเดินลงจากสถานีรถไฟ ขวามือจะมีป้อมตำรวจอยู่ ให้เราเข้าไปถามได้
ตอนเราไปถามเค้าบอกว่ามีรถสองแถวขึ้นเขาใหญ่อยู่ ให้เดินตรงไปตามทาง เลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร จนเจอเซเว่นที่ 2 แถวนั้นจะมี สองแถวจอดอยู่
เดินตรงไปตามทางนี้เลยค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ
จนเจอกับเซเว่นนี้ อยู่ตรงหัวมุม เดินเลยไปอีกนิดก็จะเจอสองแถวจอดอยู่
หน้าตาเป็นแบบนี้ เขียนว่า ปากช่อง - เขาใหญ่ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเขา เพราะเพื่อนบอกมาว่าต้องเช่ารถแพงมาก แต่คุณลุงคนขับบอกว่า พอไปถึงเขาใหญ่แล้วค่อยโบกรถขึ้นไป ไม่ต้องเสียตังค์ เราก็เลยตัดสินใจจะไปเขาใหญ่กัน
รถ2แถวออกตอน 11 โมง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึงเขาใหญ่ ค่ารถคนละ 30 บาท
มาถึงแล้วเราก็ต้องซื้อตั๋วค่ะ ค่าเข้าคนละ 40 บาท พอซื้อตั๋วเสร็จก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า ช่วยโบกรถให้หน่อยค่ะ เค้าก็จะโบกรถให้เรา เราก็นั่งรอค่ะ
เย้ ได้รถแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ฝากคนขับบอกว่า ให้ไปส่งเราที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
เราก็นั่งรถไปเรื่อยๆ คือชอบบรรยากาศตอนนั้นมาก ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มาโบกรถขึ้นเขา เป็นอะไรที่ฟินมากกก
คือตอนนั้น จริงๆแดดมันค่อนข้างร้อนนะ แต่ว่าลมมันเย็น บรรยากาศดี วิวสองข้างทางก็สวย เลยรู้สึกดีมากกก
ระหว่างทางสวยจริงๆนะ เคยแต่มองวิว จากในรถ พอได้มามองจากข้างนอกแบบนี้ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ถึงแดดจะร้อนพี่ก็ไม่หวั่น 555
เราก็นั่งรถขึ้นไปเรื่อย เฮฮาสนุกสนานกันไป ตื่นเต้นกับบรรยากาศไป เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ 555
นั่งไปเรื่อยๆแล้วรถก็จอดให้เราลงตรงนี้ เราก็ขอบคุณเค้า แล้วก็ลงจากรถ สักพัก เอ๊ะ ตรงนี้ไม่ใช่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนี่ ถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าว่าต้องขึ้น ไป อีก 7 กม. 555 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตรงนี้มีจุดชมวิว ให้ลองเดินไปดู
นี่คือวิวที่เห็นจากจุดชมวิว สวยจริงๆนะ
บรรยากาศก็ดี วิวก็สวย ฟินไปอีกค่ะ 555
พอถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ก็ต้องหาวิธีขึ้นเขาต่อ ด้วยการโบกรถคันต่อไป แต่จะเรียกว่าโบกก็ไม่ถูกนะ เพราะเห็นเค้าจอดอยู่ตรงจุดชมวิว กำลังจะออกก็เลยขอติดไปด้วย
แล้วเราก็เดินทางกันต่อไป วิวสองข้างทางก็ยังสวยเหมือนเดิม
นั่งรถไปอีก 7 กม. สุดท้ายเราก็ถึงแล้ว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ขอบคุณที่ให้ติดรถมาด้วยนะคะ
เนื่องจากว่ากว่าจะมาถึงก็เกือบบ่ายแล้ว เราก็เลยหาข้าวเที่ยวกินกันที่นี่ เรื่องรสชาติอาหารเราจะไม่พูดถึง 555
ตรงบริเวณนี้ก็จะมีพื้นที่ให้นั่งเล่น ถ่ายรูปได้
พอข้ามถนนมาอีกฝั่ง ก็จะเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินทะลุไปก็จะเจอร้านกาแฟ
บริเวณร้านการแฟ บรรยากาศดีมาก
แล้วเราก็เดินออกมา ทางด้านซ้ายของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็จะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
จะมีสะพานให้เดินเข้าไปแบบนี้ เราเดินเข้าไปแปปเดียวก็เดินออกมาคืน มีแต่ป่า 555
และแล้วก็ถึงเวลากลับลงเขากัน คราวนี้เรียกได้ว่าเป็นการโบกรถจริงๆ มีรถผ่านมาก็โบกแล้วก็ขอลงไปข้างล่างด้วย เค้าก็ใจดีให้เราไปค่ะ 555
วิวระหว่างทางก็ยังดีเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่ค่อยมีแดดแล้ว แต่ท้องฟ้าเริ่มจะครึ้มๆเหมือนฝนจะตก
ขากลับพี่ที่เราติดรถมาด้วยเค้าก็แวะที่นี่อีกค่ะ เลยได้ถ่ายรูปอีก
แล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ
บรรยากาศตอนลงเขา มีบิ๊กไบค์ด้วย เพราะว่าพี่เค้าเป็นเพื่อนกับพี่ที่เราขอติดรถมาค่ะ
แล้วก็ลงมาถึงข้างล่างแล้ว พี่กลุ่มนี้มาจากสระบุรี พี่บอกว่าจริงๆ ถ้าไปทางเดียวกันจะไปส่ง แต่คือไปคนละทางไง 555 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือ บอกขอบคุณพี่เค้าแล้ว ก็รอรถ 2 แถวต่อไป
รูปนี้ยกให้เป็นรูปที่พีคที่สุดในทริปนี้ คือมัวแต่คุยกันไง สองแถวคันแรกก็เลยขับผ่านไป พอคันที่ 2 มาก็มัวแต่คุยกันอีก แต่แบบยอมไม่ได้แล้วนะ ลุงจะทิ้งหนูไว้ไม่ได้นะ -0- ก็เลยตัดสินใจวิ่งตามรถ 2 แถวค่ะ 555 ผลก็คือทันค่ะ แต่ไม่ได้ทันคันที่วิ่งตามนะ ทันอีกคันแทน 5555
ได้ขึ้น 2 แถว ตอนประมาณ บ่าย 2 ครึ่ง แต่รถไฟขากลับ ตามตาราง ออก 15.24 พอลงรถ 2 แถว ก็รีบวิ่งกลับมาสถานีรถไฟ เพราะกลัวไม่ทันไง พอมาถึง แลกตั๋ว พนักงานบอกว่าจะออกประมาณ 15.45 แล้วรีบวิ่งมาเพื่อ? 555
บรรยากาศสถานีรถไฟปากช่อง
ลงไปถ่ายรูปในรางรถไฟ ถ่ายไปหลายรูป จน 15.45 รถไฟก็ยังไม่มา 555
สุดท้าย 4 โมงเย็นรถไฟก็มา ได้เวลาบอกลาปากช่องแล้ว.
ขอบคุณประสบการณ์ใหม่ๆ
ขอบคุณผู้คนที่พบเจอ
ขอบคุณบรรยากาศดีๆสองข้างทาง.
[CR] นั่งรถไฟจะไปปากช่อง ทริปที่เกือบจะล่มแต่ก็ไม่ล่ม (โคราช-ปากช่อง)
“ทริปนี้ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่ได้วางแผน แต่สิ่งที่เราประทับใจจากทริปนี้ คือเรื่องราวระหว่างทาง ทั้งวิวทิวทัศน์สองข้างทางและผู้คนที่เราพบเจอ”
ทริปนี้เป็น 1 Day Trip ไม่มีแผน ไม่ได้หาที่เที่ยว แค่รู้สึกว่าง และอยากนั่งรถไฟ
เป็นทริปที่เกือบจะล่ม แต่สุดท้ายก็ไม่ล่ม และกลายเป็นทริปที่ประทับใจสำหรับเรา
สำหรับงบประมาณ เฉลี่ย คนละ 150 บาท ถ้าไม่ซื้อขนมนะ 555
เราเริ่มต้นกันที่นี่ "สถานีรถไฟนครราชสีมา" มาถึงกันตอนประมาณ 8 โมงเช้า
มาถึงแล้วก็ต้องไปซื้อตั๋ว จะบอกว่าซื้อก็ไม่ถูกเพราะมันเป็นรถไฟฟรี 555 ก็บอกเค้าไปว่า ไปปากช่อง 4 คนค่ะ ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ แล้วเค้าก็จะให้ตั๋วเรามา
ตามตาราง รถไฟจะออกตอน 08.22 น.- 10.03 น.
บรรยากาศ "สถานีรถไฟนครราชสีมา"
รถไฟมาแล้วว มาตรงเวลาเป๊ะ ตอนขึ้นรถไฟคนค่อนข้างเยอะพอสมควร อาจจะเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย ก็เลยไม่ได้นั่งด้วยกัน 4 คน ต้องแยกกันนั่ง เราเลือกนั่งฝั่งซ้ายกัน เพราะจะได้เห็นวิวลำตะคอง
แล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง
ระหว่างทางก็ชมวิวไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นสีเขียวๆเต็มสองข้างทาง ลมเย็นๆ ชมวิวบ้าง คุยกันบ้าง แต่ไม่แนะนำให้ฟังเพลงนะ เพราะเสียงรถไฟมันดังมาก ฟังไม่ค่อยได้ยิน 555
นั่งไปสักพัก ก็จะถึงเขื่อนลำตะคอง วิวจริงๆ สวยมาก แต่อยู่บนรถไฟถ่ายไม่ค่อยได้เลย ติดต้นไม้หมด
ใครว่างๆจะมานั่งรถไฟเที่ยวมันก็ไม่ได้แย่นะ สนุกดี
ถึงสถานีปากช่องแล้ววว 10.03 น. เป๊ะ รถไฟรอบนี้ตรงเวลามากก
ชอบสถานีรถไฟปากช่องมากกก สวยดี
ด้านหน้าสถานีเป็นแบบนี้
สำหรับคนที่ไม่รู้จะไปไหนดี แบบเรา ควรเริ่มต้นด้วยการถามคนแถวนั้นค่ะ พอเดินลงจากสถานีรถไฟ ขวามือจะมีป้อมตำรวจอยู่ ให้เราเข้าไปถามได้
ตอนเราไปถามเค้าบอกว่ามีรถสองแถวขึ้นเขาใหญ่อยู่ ให้เดินตรงไปตามทาง เลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร จนเจอเซเว่นที่ 2 แถวนั้นจะมี สองแถวจอดอยู่
เดินตรงไปตามทางนี้เลยค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ
จนเจอกับเซเว่นนี้ อยู่ตรงหัวมุม เดินเลยไปอีกนิดก็จะเจอสองแถวจอดอยู่
หน้าตาเป็นแบบนี้ เขียนว่า ปากช่อง - เขาใหญ่ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเขา เพราะเพื่อนบอกมาว่าต้องเช่ารถแพงมาก แต่คุณลุงคนขับบอกว่า พอไปถึงเขาใหญ่แล้วค่อยโบกรถขึ้นไป ไม่ต้องเสียตังค์ เราก็เลยตัดสินใจจะไปเขาใหญ่กัน
รถ2แถวออกตอน 11 โมง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึงเขาใหญ่ ค่ารถคนละ 30 บาท
มาถึงแล้วเราก็ต้องซื้อตั๋วค่ะ ค่าเข้าคนละ 40 บาท พอซื้อตั๋วเสร็จก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า ช่วยโบกรถให้หน่อยค่ะ เค้าก็จะโบกรถให้เรา เราก็นั่งรอค่ะ
เย้ ได้รถแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ฝากคนขับบอกว่า ให้ไปส่งเราที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
เราก็นั่งรถไปเรื่อยๆ คือชอบบรรยากาศตอนนั้นมาก ไม่คิดว่าวันนึงจะได้มาโบกรถขึ้นเขา เป็นอะไรที่ฟินมากกก
คือตอนนั้น จริงๆแดดมันค่อนข้างร้อนนะ แต่ว่าลมมันเย็น บรรยากาศดี วิวสองข้างทางก็สวย เลยรู้สึกดีมากกก
ระหว่างทางสวยจริงๆนะ เคยแต่มองวิว จากในรถ พอได้มามองจากข้างนอกแบบนี้ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ถึงแดดจะร้อนพี่ก็ไม่หวั่น 555
เราก็นั่งรถขึ้นไปเรื่อย เฮฮาสนุกสนานกันไป ตื่นเต้นกับบรรยากาศไป เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ 555
นั่งไปเรื่อยๆแล้วรถก็จอดให้เราลงตรงนี้ เราก็ขอบคุณเค้า แล้วก็ลงจากรถ สักพัก เอ๊ะ ตรงนี้ไม่ใช่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนี่ ถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าว่าต้องขึ้น ไป อีก 7 กม. 555 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตรงนี้มีจุดชมวิว ให้ลองเดินไปดู
นี่คือวิวที่เห็นจากจุดชมวิว สวยจริงๆนะ
บรรยากาศก็ดี วิวก็สวย ฟินไปอีกค่ะ 555
พอถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ก็ต้องหาวิธีขึ้นเขาต่อ ด้วยการโบกรถคันต่อไป แต่จะเรียกว่าโบกก็ไม่ถูกนะ เพราะเห็นเค้าจอดอยู่ตรงจุดชมวิว กำลังจะออกก็เลยขอติดไปด้วย
แล้วเราก็เดินทางกันต่อไป วิวสองข้างทางก็ยังสวยเหมือนเดิม
นั่งรถไปอีก 7 กม. สุดท้ายเราก็ถึงแล้ว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ขอบคุณที่ให้ติดรถมาด้วยนะคะ
เนื่องจากว่ากว่าจะมาถึงก็เกือบบ่ายแล้ว เราก็เลยหาข้าวเที่ยวกินกันที่นี่ เรื่องรสชาติอาหารเราจะไม่พูดถึง 555
ตรงบริเวณนี้ก็จะมีพื้นที่ให้นั่งเล่น ถ่ายรูปได้
พอข้ามถนนมาอีกฝั่ง ก็จะเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินทะลุไปก็จะเจอร้านกาแฟ
บริเวณร้านการแฟ บรรยากาศดีมาก
แล้วเราก็เดินออกมา ทางด้านซ้ายของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็จะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
จะมีสะพานให้เดินเข้าไปแบบนี้ เราเดินเข้าไปแปปเดียวก็เดินออกมาคืน มีแต่ป่า 555
และแล้วก็ถึงเวลากลับลงเขากัน คราวนี้เรียกได้ว่าเป็นการโบกรถจริงๆ มีรถผ่านมาก็โบกแล้วก็ขอลงไปข้างล่างด้วย เค้าก็ใจดีให้เราไปค่ะ 555
วิวระหว่างทางก็ยังดีเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่ค่อยมีแดดแล้ว แต่ท้องฟ้าเริ่มจะครึ้มๆเหมือนฝนจะตก
ขากลับพี่ที่เราติดรถมาด้วยเค้าก็แวะที่นี่อีกค่ะ เลยได้ถ่ายรูปอีก
แล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ
บรรยากาศตอนลงเขา มีบิ๊กไบค์ด้วย เพราะว่าพี่เค้าเป็นเพื่อนกับพี่ที่เราขอติดรถมาค่ะ
แล้วก็ลงมาถึงข้างล่างแล้ว พี่กลุ่มนี้มาจากสระบุรี พี่บอกว่าจริงๆ ถ้าไปทางเดียวกันจะไปส่ง แต่คือไปคนละทางไง 555 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือ บอกขอบคุณพี่เค้าแล้ว ก็รอรถ 2 แถวต่อไป
รูปนี้ยกให้เป็นรูปที่พีคที่สุดในทริปนี้ คือมัวแต่คุยกันไง สองแถวคันแรกก็เลยขับผ่านไป พอคันที่ 2 มาก็มัวแต่คุยกันอีก แต่แบบยอมไม่ได้แล้วนะ ลุงจะทิ้งหนูไว้ไม่ได้นะ -0- ก็เลยตัดสินใจวิ่งตามรถ 2 แถวค่ะ 555 ผลก็คือทันค่ะ แต่ไม่ได้ทันคันที่วิ่งตามนะ ทันอีกคันแทน 5555
ได้ขึ้น 2 แถว ตอนประมาณ บ่าย 2 ครึ่ง แต่รถไฟขากลับ ตามตาราง ออก 15.24 พอลงรถ 2 แถว ก็รีบวิ่งกลับมาสถานีรถไฟ เพราะกลัวไม่ทันไง พอมาถึง แลกตั๋ว พนักงานบอกว่าจะออกประมาณ 15.45 แล้วรีบวิ่งมาเพื่อ? 555
บรรยากาศสถานีรถไฟปากช่อง
ลงไปถ่ายรูปในรางรถไฟ ถ่ายไปหลายรูป จน 15.45 รถไฟก็ยังไม่มา 555
สุดท้าย 4 โมงเย็นรถไฟก็มา ได้เวลาบอกลาปากช่องแล้ว.
ขอบคุณประสบการณ์ใหม่ๆ
ขอบคุณผู้คนที่พบเจอ
ขอบคุณบรรยากาศดีๆสองข้างทาง.