จอห์น ซานซ่า นิ้วก้อย (spoil) got se6 ep 9
หลังดูตอนที่ 9 จบ
พร้อมกับการปรากฏตัวแค่ฉากเดียวของนิ้วก้อยและรอยยิ้มนั้น
อดไม่ได้ที่จะมองย้อนไปถึงบุคลิกและการพัฒนา ของตัวละครในซีรี่ส์ ซึ่งคนที่มาไกลสุดน่าจะเป็นซานซ่า และอาจารย์ที่เธออาจไม่ยอมรับโดยเต็มใจแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือนิ้วก้อย
จอห์นยังคงเป็นจอห์น เป็นคนที่เชื่อถือได้ เพื่อนๆให้ความไว้วางใจ มีจุดยืนอันเข้มแข็ง และสิ่งนี้ทำให้จอห์นกลับมาคิดทบทวนเมื่อบางคนในหน่วยไนท์วอทช์ทรยศเขา
การผ่านประสบการณ์เฉียดตายและตายแล้วมาหลายครั้ง เรียนรู้ศาสตร์แห่งการปกครอง เรียนรู้การสู้รบ คลุกคลีมาทั้งชนชั้นสูงจนถึงคนเถื่อน จอห์นมองภาพรวมออก ว่า เหมันภูติคือสิ่งที่อันตรายที่สุด เป็นสิ่งที่ผลักดันให้จอห์นเดินหน้า
แต่จอห์นก็ยังคงยึดมั่นในหลักการของตัวเอง
"ถ้าข้าตาย ไม่ต้องชุบชีวิตข้าอีก"
เขาบอกต่อแม่มดแดง และคำพูดนี้ยืนยันความเป็นตัวจอห์นได้เป็นอย่างดี
"ท่านไม่รู้จักเขา"
ซานซ่าบอกกับจอห์น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการที่ แรมซี่ปล่อยริคคอนให้หนีแล้วเขาก็เล่นเกมที่เขาถนัด คือการล่าสัตว์และเล่นกับความกลัวในใจคน
จอห์นไม่รู้จักแรมซี่ แต่แรมซี่รู้จักจอห์น ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกัน
และเขารู้ว่าจุดอ่อนของจอห์นคืออะไร
ไม่ต่างอะไรกับซานซ่า เธอรู้จุดอ่อนของจอห์น
เธอรู้ว่าจอห์นเชื่อถือได้
เธอเตือนจอห์น มองที่ใบหน้าของจอห์น เด็กสาวที่เคยเย็บปักถักร้อย เฝ้าใฝ่ฝันถึงเจ้าชายขี่ม้าขาวได้หายไปแล้ว
เด็กสาวที่เคยมีแต่จุดอ่อนเต็มไปหมด ค่อยๆเริ่มขัดเกลาตัวเอง ผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย
เธอบอกกับจอห์นว่า ริคค่อนไม่มีทางรอด เพราะเธอรู้จักแรมซี่ดี
จอห์นมองภาพรวมออกว่าเหมันภูติคือภัยคุกคามที่เลวร้ายที่สุด
แต่รายละเอียดปลีกย่อยในเกมการเมือง จอห์นยังด้อยกว่าเงาร่างของนิ้วก้อยที่ค่อยๆทาบทับบนใบหน้าของซานซ่า
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือซานซ่าพูดบอกจอห์นอ้อมๆ ว่าอย่าได้ตกหลุมพรางของแรมซี่ ตัดใจจากริคค่อนเสีย
ริคค่อนคือน้องแท้ๆของซานซ่า
เธอเลือกแล้ว และปล่อยวางแล้ว จะว่าเย็นชาก็พูดลำบากคงต้องให้คนดูตัดสิน
แต่จอห์นไม่ แม้จะไม่ใช่น้องแท้ๆ จอห์นก็ยังคงเป็นจอห์น
และเกมยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การชักใยของนิ้วก้อย
.....
บ่ายๆมาเขียนต่อในพาร์ทของซานซ่าและนิ้วก้อยครับ
พริบตาที่ เน็ด สตาร์ค ถูกตัดหัวต่อหน้าต่อตา
โลกของเธอก็กลับตาลปัตรไปหมด โลกแห่งความเป็นจริงโหดร้ายกว่านิยายของยายแนนที่เล่าให้ฟังก่อนนอน
หลังการตายของพ่อ
เธอผละจากอกคนนั้นมาสู่อกคนนี้ ต่อกันไปเป็นทอดๆ และหลายคนต้องการเธอเพียงเพราะชื่อตระกูลเพื่อเกมการเมือง
นิ้วก้อยก้าวเข้ามาเพื่อบอกให้เธอรู้ว่า สายตาคนรอบข้างมองเธอเป็นเพียงแค่หมากในกระดาน สิ่งที่เขาไม่ได้บอกเธอนั่นคือ เขาคิดแบบนั้นกับเธอเช่นกันในตอนแรก
"ไม่มีใครปกป้องข้าได้ ไม่มีใครปกป้องใครได้"
เธอได้บอกกับจอห์นไปเช่นนั้น และเธอหมายความตามนั้นจริงๆ
เธอไม่ได้เป็นหญิงสาวเย็บปักถักร้อยอีกต่อไป
แต่เธอก้าวขึ้นมาจนมีส่วนผสมทั้งทัลลี่ สตาร์ค และเล่ห์เหลี่ยมของนิ้วก้อย
ในตอนที่เธอพูดกระตุ้นให้ตระกูลที่เคยภักดีกับสตาร์คหันมาจับอาวุธสู้กับโบลตัน
ราวกับภาพซ้อนของ แคทรีน แม่ของเธอที่พูดกระตุ้นทหารในร้านเหล้าให้จับตัวทีเรียนแลนนิสเตอร์ ในซีซั่นแรกๆ
ต่างกันที่ผลลัพธ์ เธอไม่ใช่แม่
และคำพูด คำมั่นสัญญาของชาวเหนือใช้ไม่ได้อีกต่อไปในสถานการณ์ที่เหมือนตอนจบของ ep9
สถานการณ์ที่ว่า คือตอนที่ฝูงสุนัขหิวโซ ต้องการเพียงอาหารประทังชีวิต
สถานการณ์ที่ว่า คือตอนที่สตาร์คไม่อยู่คุ้มกะลาหัว ทำให้แดนเหนือหลายตระกูลต้อหันไปพึ่งเศษเนื้อติดกระดูกจากตระกูลโบลตัน
แต่เธอก็เหมือนแม่ของเธอ
เธอรับรู้มันจากดวงตาที่เฝ้ามองจากนิ้วก้อย
ดอกไม้ตูมที่เบ่งบานในชั่วค่ำคืน มีกลิ่นหอมรัญจวนชวนหลงไหล คำพูดที่เด็ดเดี่ยวนั่นดูคล้ายส่วนผสมของพ่อและแม่
แต่สิ่งที่น่ากลัวของหญิงสาวไม่ใช่คำพูด แต่เป็นตอนที่เธอเงียบต่างหาก
เธอเงียบเมื่อไม่ยอมบอกกับจอห์นถึงทัพเอียรี่ที่จะยกมาช่วย
เธอเงียบเมื่อรู้แผนการทั้งหมด ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปไม่เป็นอย่างที่คิด เธอก็จะมีที่ให้เธอกลับไปได้เสมอที่เอียรี่
และเธอสามารถปกป้องด้วยเองได้ เพราะเธอรู้แล้วว่า ดอกไม้ดอกนี้มีกลิ่นหอมยั่วยวน
บทสรุปสุดท้ายระหว่างเธอกับอดีตสามี บทสนทนาแห่งความว่างปล่าว เจ็บปวดมากกว่าการทรมาณด้วยสัตว์เลี้ยง
ในคืนส่งตัวเธอถูกเฝ้ามองจากความมืด ให้ธีออนได้เห็นทุกสิ่งที่น่าอับอาย กรีดร้องให้กับชะตากรรมที่น่าหดหู่ ด้วยคำสั่งของอดีตสามี
มาในวันนี้เธอเป็นผู้เฝ้ามองดูบ้าง
มองไปยังแรมซี่ที่มักใช้ความกลัว การทรยศหักหลังเป็นเครื่องมือ ความหิวของฝูงหมา
กับคำสั่งของผู้เป็นนาย
สุดท้ายเครื่องมือที่แรมซี่ถนัดที่กลับย้อนมาทำลายตัวเขา
พร้อมกับคำพูดของซานซ่า กับการล่มสลายของตระกูล
แต่นั่นยังไม่เท่ากับรอยยิ้มนั้น
รอยยิ้มที่เหมือนกับนิ้วก้อย
อาจารย์ของเธอ
-------
พาร์ทนิ้วก้อยขอค่ำๆครับ
คนเรามักกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้
และถ้ามีอำนาจหรือโอกาสมากพอ ก็พร้อมที่จะกำจัดสิ่งที่ไม่รู้นั้นให้หมดไป
ปมของนิ้วก้อยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก
มองเผินๆอาจเปิดปมจากความรัก แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น
ต้องการ การยอมรับ จากสายตาหลายคู่ที่ดูถูกดูแคลนเขาว่าต่ำต้อย
ต้องการความรักจากหญิงสาวที่เขาไม่มีวันได้ครอบครอง
หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้ครอบครองจึงยังไม่หยุดถวิลหา
ราชาจากเศษเถ้าถ่าน
เขาเคยบอกเสี้ยวความนึกคิดของความต้องการในใจให้กับชายที่ราวจะเป็นฝาแฝดต่างบิดาของเขา
การเลี้ยงดูและการเติบโตทำให้ความคิดแตกต่าง การกระทำจึงแตกต่าง อย่างน้อยเขาก็ยอมรับว่า วารีส ทัดเทียมและเท่าทันเขาในบางแง่มุม
หมากที่เขาวางไว้ตั้งแต่ จอห์น แอริน, มีดที่จะมาสังหารแบรน
,การทรยศหักหลังเน็ดสตาร์ค
,ลอบฆ่าจอฟฟรี่ย์,ส่งมอบซานซ่าให้บอลตัน, กรีฑาทัพช่วยจอห์น สโนว์ตีวินเทอเฟล
ทั้งหมดทั้งปวงเขาวางแผนและปรับแผนมาเป็นอย่างดี
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นคนเรามักกลัวในสิ่งที่ไม่รู้
เหมันภูติเป็นสิ่งใหม่ของแดนเหนือ จอห์นไม่รู้จักมันมากพอ รู้แค่ว่าเป็นสิ่งอันตรายที่ต้องกำจัด
นิ้วก้อยวางแผนผิดที่ส่งซานซ่าให้บอลตัน แต่เขากลับรู้จักแค่ผู้พ่อ แต่ไม่รู้จักแรมซี่ที่เป็นลูก
เมื่อได้รับฟังเรื่องราวและความเกรี้ยวกราดจากเธอ เขาจึงต้องปรับแผนอีกครั้ง
ระหว่างจอห์น สโนว์ กับ แรมซี่
หมากตัวไหนที่เขาเข้าใจง่ายกว่ากัน
ตัดสินใจได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ยังมีแผนซ้อนเพิ่มเติม เมื่อเขี่ยเชื้อไฟใส่หูของซ่านซ่าสมทบไปอีก
"พี่ชายต่างมารดา"
คำพูดดังคมหอก จี้เข้าไปกลางใจ
แน่ล่ะเขาต้องการครอบครองมันทั้งหมด ปมวัยเด็กของเขาขยายและเติบโตไปมาก
จากเจ้าของซ่องได้ชำระตัวเองจนเป็นถึงลอร์ดแห่งเอียรี่
ก้าวต่อไปที่ต้องก้าวด้วยความระมัดระวัง
ดูราวกับเขาไม่มีจุดอ่อน
จริงหรือ?
กับจอห์น สโนว์แล้ว ยึดถือคุณธรรม และมากน้ำใจ จุดอ่อน ราวกับตัวละครในนิยายโกวเล้งที่ชื่อลี้คิมฮวง
กับซานซ่า หญิงสาวที่เดินทางมาไกลไร้ประสบการณ์ กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ จุดอ่อนเยอะแยะในตอนนี้
แล้วนิ้วก้อยล่ะ
ถ้าซานซ่าจะจำได้ว่าเขาเคยพูดว่าเธอเหมือนแม่
วิธีการที่เขามองเธอ
และ รอยจูบนั้น...
ถ้าเธอจะเข้าใจมันและใช้มันเป็น ไม่ใช่แค่เคลิ้มละมุนไปกับความวาบหวาม
ถ้าจะยังจำกันได้ นิ้วก้อยเคยทำอะไรบู่มบ่ามมาก่อนในวัยเด็ก
เคยท้าสู้กับคนที่โตกว่าทั้งอายุและศักดินา
ทั้งหมดนั้นเขาทำไปก็เพราะ 'ความรัก'
.
.
จะว่าไปก็ไม่ต่างจากตัวละครในนิยายของโกวเล้งที่ชื่ออาฮุย
แล้วใครเล่าจะเป็นลิ่มเซียนยี้
จอห์น ซานซ่า นิ้วก้อย (spoil) got se6 ep 9
หลังดูตอนที่ 9 จบ
พร้อมกับการปรากฏตัวแค่ฉากเดียวของนิ้วก้อยและรอยยิ้มนั้น
อดไม่ได้ที่จะมองย้อนไปถึงบุคลิกและการพัฒนา ของตัวละครในซีรี่ส์ ซึ่งคนที่มาไกลสุดน่าจะเป็นซานซ่า และอาจารย์ที่เธออาจไม่ยอมรับโดยเต็มใจแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือนิ้วก้อย
จอห์นยังคงเป็นจอห์น เป็นคนที่เชื่อถือได้ เพื่อนๆให้ความไว้วางใจ มีจุดยืนอันเข้มแข็ง และสิ่งนี้ทำให้จอห์นกลับมาคิดทบทวนเมื่อบางคนในหน่วยไนท์วอทช์ทรยศเขา
การผ่านประสบการณ์เฉียดตายและตายแล้วมาหลายครั้ง เรียนรู้ศาสตร์แห่งการปกครอง เรียนรู้การสู้รบ คลุกคลีมาทั้งชนชั้นสูงจนถึงคนเถื่อน จอห์นมองภาพรวมออก ว่า เหมันภูติคือสิ่งที่อันตรายที่สุด เป็นสิ่งที่ผลักดันให้จอห์นเดินหน้า
แต่จอห์นก็ยังคงยึดมั่นในหลักการของตัวเอง
"ถ้าข้าตาย ไม่ต้องชุบชีวิตข้าอีก"
เขาบอกต่อแม่มดแดง และคำพูดนี้ยืนยันความเป็นตัวจอห์นได้เป็นอย่างดี
"ท่านไม่รู้จักเขา"
ซานซ่าบอกกับจอห์น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการที่ แรมซี่ปล่อยริคคอนให้หนีแล้วเขาก็เล่นเกมที่เขาถนัด คือการล่าสัตว์และเล่นกับความกลัวในใจคน
จอห์นไม่รู้จักแรมซี่ แต่แรมซี่รู้จักจอห์น ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกัน
และเขารู้ว่าจุดอ่อนของจอห์นคืออะไร
ไม่ต่างอะไรกับซานซ่า เธอรู้จุดอ่อนของจอห์น
เธอรู้ว่าจอห์นเชื่อถือได้
เธอเตือนจอห์น มองที่ใบหน้าของจอห์น เด็กสาวที่เคยเย็บปักถักร้อย เฝ้าใฝ่ฝันถึงเจ้าชายขี่ม้าขาวได้หายไปแล้ว
เด็กสาวที่เคยมีแต่จุดอ่อนเต็มไปหมด ค่อยๆเริ่มขัดเกลาตัวเอง ผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย
เธอบอกกับจอห์นว่า ริคค่อนไม่มีทางรอด เพราะเธอรู้จักแรมซี่ดี
จอห์นมองภาพรวมออกว่าเหมันภูติคือภัยคุกคามที่เลวร้ายที่สุด
แต่รายละเอียดปลีกย่อยในเกมการเมือง จอห์นยังด้อยกว่าเงาร่างของนิ้วก้อยที่ค่อยๆทาบทับบนใบหน้าของซานซ่า
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือซานซ่าพูดบอกจอห์นอ้อมๆ ว่าอย่าได้ตกหลุมพรางของแรมซี่ ตัดใจจากริคค่อนเสีย
ริคค่อนคือน้องแท้ๆของซานซ่า
เธอเลือกแล้ว และปล่อยวางแล้ว จะว่าเย็นชาก็พูดลำบากคงต้องให้คนดูตัดสิน
แต่จอห์นไม่ แม้จะไม่ใช่น้องแท้ๆ จอห์นก็ยังคงเป็นจอห์น
และเกมยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การชักใยของนิ้วก้อย
.....
บ่ายๆมาเขียนต่อในพาร์ทของซานซ่าและนิ้วก้อยครับ
พริบตาที่ เน็ด สตาร์ค ถูกตัดหัวต่อหน้าต่อตา
โลกของเธอก็กลับตาลปัตรไปหมด โลกแห่งความเป็นจริงโหดร้ายกว่านิยายของยายแนนที่เล่าให้ฟังก่อนนอน
หลังการตายของพ่อ
เธอผละจากอกคนนั้นมาสู่อกคนนี้ ต่อกันไปเป็นทอดๆ และหลายคนต้องการเธอเพียงเพราะชื่อตระกูลเพื่อเกมการเมือง
นิ้วก้อยก้าวเข้ามาเพื่อบอกให้เธอรู้ว่า สายตาคนรอบข้างมองเธอเป็นเพียงแค่หมากในกระดาน สิ่งที่เขาไม่ได้บอกเธอนั่นคือ เขาคิดแบบนั้นกับเธอเช่นกันในตอนแรก
"ไม่มีใครปกป้องข้าได้ ไม่มีใครปกป้องใครได้"
เธอได้บอกกับจอห์นไปเช่นนั้น และเธอหมายความตามนั้นจริงๆ
เธอไม่ได้เป็นหญิงสาวเย็บปักถักร้อยอีกต่อไป
แต่เธอก้าวขึ้นมาจนมีส่วนผสมทั้งทัลลี่ สตาร์ค และเล่ห์เหลี่ยมของนิ้วก้อย
ในตอนที่เธอพูดกระตุ้นให้ตระกูลที่เคยภักดีกับสตาร์คหันมาจับอาวุธสู้กับโบลตัน
ราวกับภาพซ้อนของ แคทรีน แม่ของเธอที่พูดกระตุ้นทหารในร้านเหล้าให้จับตัวทีเรียนแลนนิสเตอร์ ในซีซั่นแรกๆ
ต่างกันที่ผลลัพธ์ เธอไม่ใช่แม่
และคำพูด คำมั่นสัญญาของชาวเหนือใช้ไม่ได้อีกต่อไปในสถานการณ์ที่เหมือนตอนจบของ ep9
สถานการณ์ที่ว่า คือตอนที่ฝูงสุนัขหิวโซ ต้องการเพียงอาหารประทังชีวิต
สถานการณ์ที่ว่า คือตอนที่สตาร์คไม่อยู่คุ้มกะลาหัว ทำให้แดนเหนือหลายตระกูลต้อหันไปพึ่งเศษเนื้อติดกระดูกจากตระกูลโบลตัน
แต่เธอก็เหมือนแม่ของเธอ
เธอรับรู้มันจากดวงตาที่เฝ้ามองจากนิ้วก้อย
ดอกไม้ตูมที่เบ่งบานในชั่วค่ำคืน มีกลิ่นหอมรัญจวนชวนหลงไหล คำพูดที่เด็ดเดี่ยวนั่นดูคล้ายส่วนผสมของพ่อและแม่
แต่สิ่งที่น่ากลัวของหญิงสาวไม่ใช่คำพูด แต่เป็นตอนที่เธอเงียบต่างหาก
เธอเงียบเมื่อไม่ยอมบอกกับจอห์นถึงทัพเอียรี่ที่จะยกมาช่วย
เธอเงียบเมื่อรู้แผนการทั้งหมด ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปไม่เป็นอย่างที่คิด เธอก็จะมีที่ให้เธอกลับไปได้เสมอที่เอียรี่
และเธอสามารถปกป้องด้วยเองได้ เพราะเธอรู้แล้วว่า ดอกไม้ดอกนี้มีกลิ่นหอมยั่วยวน
บทสรุปสุดท้ายระหว่างเธอกับอดีตสามี บทสนทนาแห่งความว่างปล่าว เจ็บปวดมากกว่าการทรมาณด้วยสัตว์เลี้ยง
ในคืนส่งตัวเธอถูกเฝ้ามองจากความมืด ให้ธีออนได้เห็นทุกสิ่งที่น่าอับอาย กรีดร้องให้กับชะตากรรมที่น่าหดหู่ ด้วยคำสั่งของอดีตสามี
มาในวันนี้เธอเป็นผู้เฝ้ามองดูบ้าง
มองไปยังแรมซี่ที่มักใช้ความกลัว การทรยศหักหลังเป็นเครื่องมือ ความหิวของฝูงหมา
กับคำสั่งของผู้เป็นนาย
สุดท้ายเครื่องมือที่แรมซี่ถนัดที่กลับย้อนมาทำลายตัวเขา
พร้อมกับคำพูดของซานซ่า กับการล่มสลายของตระกูล
แต่นั่นยังไม่เท่ากับรอยยิ้มนั้น
รอยยิ้มที่เหมือนกับนิ้วก้อย
อาจารย์ของเธอ
-------
พาร์ทนิ้วก้อยขอค่ำๆครับ
คนเรามักกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้
และถ้ามีอำนาจหรือโอกาสมากพอ ก็พร้อมที่จะกำจัดสิ่งที่ไม่รู้นั้นให้หมดไป
ปมของนิ้วก้อยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก
มองเผินๆอาจเปิดปมจากความรัก แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น
ต้องการ การยอมรับ จากสายตาหลายคู่ที่ดูถูกดูแคลนเขาว่าต่ำต้อย
ต้องการความรักจากหญิงสาวที่เขาไม่มีวันได้ครอบครอง
หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้ครอบครองจึงยังไม่หยุดถวิลหา
ราชาจากเศษเถ้าถ่าน
เขาเคยบอกเสี้ยวความนึกคิดของความต้องการในใจให้กับชายที่ราวจะเป็นฝาแฝดต่างบิดาของเขา
การเลี้ยงดูและการเติบโตทำให้ความคิดแตกต่าง การกระทำจึงแตกต่าง อย่างน้อยเขาก็ยอมรับว่า วารีส ทัดเทียมและเท่าทันเขาในบางแง่มุม
หมากที่เขาวางไว้ตั้งแต่ จอห์น แอริน, มีดที่จะมาสังหารแบรน
,การทรยศหักหลังเน็ดสตาร์ค
,ลอบฆ่าจอฟฟรี่ย์,ส่งมอบซานซ่าให้บอลตัน, กรีฑาทัพช่วยจอห์น สโนว์ตีวินเทอเฟล
ทั้งหมดทั้งปวงเขาวางแผนและปรับแผนมาเป็นอย่างดี
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นคนเรามักกลัวในสิ่งที่ไม่รู้
เหมันภูติเป็นสิ่งใหม่ของแดนเหนือ จอห์นไม่รู้จักมันมากพอ รู้แค่ว่าเป็นสิ่งอันตรายที่ต้องกำจัด
นิ้วก้อยวางแผนผิดที่ส่งซานซ่าให้บอลตัน แต่เขากลับรู้จักแค่ผู้พ่อ แต่ไม่รู้จักแรมซี่ที่เป็นลูก
เมื่อได้รับฟังเรื่องราวและความเกรี้ยวกราดจากเธอ เขาจึงต้องปรับแผนอีกครั้ง
ระหว่างจอห์น สโนว์ กับ แรมซี่
หมากตัวไหนที่เขาเข้าใจง่ายกว่ากัน
ตัดสินใจได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ยังมีแผนซ้อนเพิ่มเติม เมื่อเขี่ยเชื้อไฟใส่หูของซ่านซ่าสมทบไปอีก
"พี่ชายต่างมารดา"
คำพูดดังคมหอก จี้เข้าไปกลางใจ
แน่ล่ะเขาต้องการครอบครองมันทั้งหมด ปมวัยเด็กของเขาขยายและเติบโตไปมาก
จากเจ้าของซ่องได้ชำระตัวเองจนเป็นถึงลอร์ดแห่งเอียรี่
ก้าวต่อไปที่ต้องก้าวด้วยความระมัดระวัง
ดูราวกับเขาไม่มีจุดอ่อน
จริงหรือ?
กับจอห์น สโนว์แล้ว ยึดถือคุณธรรม และมากน้ำใจ จุดอ่อน ราวกับตัวละครในนิยายโกวเล้งที่ชื่อลี้คิมฮวง
กับซานซ่า หญิงสาวที่เดินทางมาไกลไร้ประสบการณ์ กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ จุดอ่อนเยอะแยะในตอนนี้
แล้วนิ้วก้อยล่ะ
ถ้าซานซ่าจะจำได้ว่าเขาเคยพูดว่าเธอเหมือนแม่
วิธีการที่เขามองเธอ
และ รอยจูบนั้น...
ถ้าเธอจะเข้าใจมันและใช้มันเป็น ไม่ใช่แค่เคลิ้มละมุนไปกับความวาบหวาม
ถ้าจะยังจำกันได้ นิ้วก้อยเคยทำอะไรบู่มบ่ามมาก่อนในวัยเด็ก
เคยท้าสู้กับคนที่โตกว่าทั้งอายุและศักดินา
ทั้งหมดนั้นเขาทำไปก็เพราะ 'ความรัก'
.
.
จะว่าไปก็ไม่ต่างจากตัวละครในนิยายของโกวเล้งที่ชื่ออาฮุย
แล้วใครเล่าจะเป็นลิ่มเซียนยี้