อยากไป...ก็ไปสิ... โอซาก้า-USJ-เกียวโต-คาวากูจิโกะ-โตเกียว Part 1 วางแผน แจกแผน แจกแจงค่าใช้จ่าย

ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


      นานาสวัสดี สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน กลับมารีวิวอีกครั้งหนึ่ง จากครั้งที่แล้วที่รีวิวทริปฮ่องกง-มาเก๊าเอาไว้ มาครั้งนี้ความฝันยังคงดำเนินต่อไป กับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง กระทู้นี้ไม่ได้เน้นรูปสวยงามอะไร แต่เน้นข้อมูลในการวางแผนการเดินทางสำหรับเพื่อนๆ มือใหม่ ที่อยากจะไปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัยด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากว่า เราก็พึ่งเคยไปครั้งแรก ไม่ใช่เซียนอะไร สิ่งที่เราแนะนำนี้ อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่เพื่อนๆก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับแผนการเดินทางของตนเองได้ค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

        หลายๆครั้งเราเห็นเพื่อนๆบางคนตั้งกระทู้แบบประมาณว่า “ช่วยจัดทริปที่ญี่ปุ่นให้หน่อย” และแน่นอน คุณจะไม่ค่อยได้คำตอบอะไร เพราะคำถามมันกว้างมาก คนตอบก็ไม่รู้จะตอบกันยังไง แต่ถ้าเพื่อนๆได้อ่านกระทู้นี้ คงพอมีแนวทางในการวางแผนได้บ้าง
เพี้ยนออกทริปเราเดินทาง 13-19 เมษายน 2559 เดินทาง 2 คน อมยิ้ม01อมยิ้ม02


วางแผนเดินทาง
           สิ่งที่คุณควรจะต้องรู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

1. แผนที่ ภูมิภาค ระยะทาง

เครดิตภาพ : Google

          จากรูปข้างบน ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้เล็กเลย มีหลายภูมิภาคอีกต่างหาก คุณควรจะหาข้อมูลว่าแต่ละภูมิภาคนั้น มีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วคุณอยากจะไปที่ไหนบ้าง สถานที่นั้นอยู่ส่วนไหนของญี่ปุ่น?

          ตัวจขกท. อยากจะไป USJ เพราะเป็นติ่งแฮรี่ และอยากจะไปเห็นฟูจิซังด้วยตาตัวเองซักครั้งในชีวิต นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก อยากจะไปดูบ้านเมืองเค้า ไปเปิดหูเปิดตา เปิดกะลา ก็เลยเลือกที่จะไปโอซาก้า และไปดูฟูจิที่คาวากูจิโกะ สิ่งที่ต้องรู้คือ โอซาก้า กับคาวากูจิโกะนั้น ไกลกันพอสมควรคาวากูจิโกะจะใกล้โตเกียวมากกว่า แล้วการเดินทางจากโอซาก้าไปโตเกียว ถ้านั่งรถบัสก็ใช้เวลา 1 คืน ถ้านั่งเครื่องบินก็ 1 ชั่วโมง ถ้านั่งชินกันเซ็นก็ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว และการเดินทางข้ามภูมิภาคแบบนี้ก็จะทำให้ค่าเดินทางเพิ่มขึ้นด้วย

2. ช่วงเวลาที่จะไป  
          ยกตัวอย่างเช่น อยากดูซากุระ ก็ต้องรู้ว่า ซากุระของแต่ละเมืองนั้นจะบานช่วงไหน เพราะแต่ละเมืองก็บานไม่พร้อมกัน หรืออยากดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็ต้องรู้ว่าแต่ละเมืองจะเปลี่ยนสีช่วงไหน หรืออยากดูดอกวีสทีเรียต้องไปที่ไหน ช่วงไหน เป็นต้น  การวางแผนให้ถูกที่ ถูกเวลา จะทำให้เกิดความประทับใจมากขึ้นแน่นอน
          ส่วนจขกท.นั้น เลือกไปช่วงหยุดสงกรานต์ เพราะจะได้ลางานน้อยๆ แถมช่วงสงกรานต์ยังพอจะได้เห็นซากุระบ้างอีกด้วย

3. สนามบินในญี่ปุ่นที่ไหนใกล้จุดหมายของเรามากที่สุด ตัวอย่างเช่น
a. ฮาเนดะ (โตเกียว)
b.นาริตะ (ชิบะ)
c. คันไซ (โอซาก้า)
d. นาโงย่า
e. ฟุกุโอกะ
f. คุมะโมะโตะ
g. นิวชิโตเซะ (ฮอกไกโด)
         จขกท.เองก็ขอบอกตามตรงว่า ตอนจองตั๋วไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สนามบินฮาเนดะนั้นใกล้โตเกียว ก็เลยไปจองตั๋วกลับที่สนามบินนาริตะซะงั้น

4. จองตั๋วเครื่องบิน
          การจองตั๋วเครื่องบิน ก็แล้วแต่จะสะดวก จะ Low cost หรือ Full Service ก็มีให้เลือกมากมาย ส่วนตัวจขกท.นั้น ก็เลือกใช้บริการ AirasiaX เจ้าเก่า จองโปร Big Sales ตั้งแต่ เมษา ปี 58 เลือกเดินทางในวันที่ 13 – 19 เมษายน 2559 ล่วงหน้าเป็นปี จะได้มีเวลาเก็บเงิน (อย่าลืมเรื่องฟรีวีซ่า 15 วัน ไม่นับวันที่ลงเครื่อง เช่นเราไปวันที่ 13 ตม.จะปั้มออกวันที่ 28 ) และเพื่อที่จะไม่ต้องย้อนไปมาให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายจึงจองแยกขาไปและขากลับโดยไปลงที่สนามบินคันไซ และกลับที่สนามบินนาริตะ ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ 9,260 บาท
ดอนเมือง – คันไซ 5,540 บาท ขากลับ นาริตะ-ดอนเมือง 3,720 บาท

          สิ่งที่ต้องรู้ในการจองแยกขาไปขากลับคือ ขากลับจากญี่ปุ่นมาไทยนั้นจะคิดเป็นเงินเยน ไม่สามารถจ่ายที่เค้าท์เตอร์เซอวิสได้ เลยเลือกจ่ายทางบัตรเครดิตแทน
          ต่อมาคือการเลือกเที่ยวบิน ในวันหนึ่งๆมีให้เลือกหลายเที่ยวบิน เราลงโอซาก้า จะมีบินตรงแค่วันละเที่ยวเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นแบบต่อเครื่อง เราอยากบินตรงก็เลือกเที่ยวบินตรง มันมีจุดที่สำคัญคือ ตอนที่เราจองตั๋วนั้น เวลาเครื่องลงสนามบินคือ 22.40 รถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะไปโรงแรมที่จองนั้น หมด 23.35 จึงตัดสินใจว่านอนสนามบินดีกว่า แต่หลังจากนั้น แอร์เอเชียได้เลื่อนเที่ยวบินเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เครื่องจะลงคันไซ 21.40 ถึงอย่างนั้นก็อย่าพึ่งวางใจว่า เราจะขึ้นรถไฟทันหรือไม่????

5. การจองโรงแรมและเลือกที่พัก
          การจองโรงแรมเราเลือกจองจาก Booking.com สิ่งแรกที่เราดูคือ
1. ราคา ไล่ดูทุกโรงแรมตั้งแต่ถูกที่สุด
2. เงื่อนไขต้องยกเลิกฟรี จ่ายทีหลัง ถ้าเจอที่ดีกว่าหรือเปลี่ยนแผนยังสามารถยกเลิกแล้วจองใหม่ได้
3. ทำเลที่ตั้งต้องใกล้สถานีรถไฟ
4. ดูความคิดเห็นจากผู้ที่เข้าพัก ข้อดีข้อเสีย เอาที่เรารับได้

          สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยแอร์เอเชีย ลงสนามบินคันไซ 21.30 ถ้าคุณคิดว่าจะไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย แนะนำให้เลือกที่พักแถวนัมบะ(Namba) หรืออูเมดะ(Umada) เนื่องจากมีรถบัสวิ่งตลอดคืน แต่ค่าบริการแพงกว่ารถไฟ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://ppantip.com/topic/32503261
           สำหรับเราก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้าเมืองทันหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากนอนสนามบิน เลยจองแยก Booking ที่ Hotel Shin-Imamiya คืนแรกเลือกห้องแบบแคปซูลราคาถูกสุด เผื่อเข้าโรงแรมไม่ทันก็ยังทิ้ง Booking แล้วนอนสนามบินได้ ส่วน 2 คืนต่อมาก็นอนโรงแรมเดิม แต่เลือกห้องแบบ Standard

6. วางแผนการท่องเที่ยว
          จากการหาข้อมูลทั้งหมดและค่อยๆวางแผนไปเรื่อยๆ ก็ได้ออกมาแบบนี้
ฉบับย่อ







ฉบับเต็ม https://docs.google.com/spreadsheets/d/1MkHwHOpgVMcG7Qy8sV7puQXtC6oGSdOrFzlhRzh-RZA/edit?usp=sharing
เราปริ้นฉบับเต็มนี้ไปด้วยค่ะ ช่วยได้มากทีเดียว ใครที่ดูผ่าน Google drive จะดูได้อย่างเดียวนะคะ แต่สามารถปริ้นหรือดาวน์โหลดออกไปได้ค่ะ


7. วางแผนค่าใช้จ่าย (ราคาต่อคน)

          การวางแผนค่าใช้จ่ายเราจะใส่ตารางไว้แบบนี้ ในรูปเรามีการปรับราคาให้เป็นราคาจริงที่เราใช้ ยกเว้นค่าอาหาร เราจะกำหนดไว้ที่มื้อละไม่เกิน 1000 เยน รวมทั้งหมด 17 มื้อ เผื่อๆตีซัก 20000 เยน ค่าฝากกระเป๋าแล้วแต่ขนาด ถ้ากระเป๋าใหญ่ใบละ 800 เยน
ส่วนรายการที่เป็นสีเขียว คือจ่ายที่เมืองไทยก่อนไป
เราแลกเงินไปทั้งหมด 80,000 เยน ได้เรท 0.3245 แต่ใช้ไปทั้งหมด 56,000 เยน
รวมเบ็ดเสร็จแล้วเป็นเงิน 36,000 บาท (รวมช็อปปิ้ง)
ปล. เราไม่ได้คืนบัตร icoca เลยยังไม่ได้ค่ามัดจำคืน 500 เยน และมีเงินเหลือในนั้นนิดหน่อย จำไม่ได้ละ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่