สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า ฉันเคยทำงานให้กับ บริษัทค้าปลีกและส่งรายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร
เริ่มทำงานตั้งแต่บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ๆเรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยก็ว่าได้ ทำงานมาเป็นเวลา 1 ปี กว่าๆ(ทนมาได้เน๊อะ) ตอนแรกๆที่เข้ามายังไม่ค่อยรู้อะไรหรือรู้เท่าไม่ทันคนอื่นนั่นเอง ก็คิดว่าที่นี่โอเค ทำไปตามหน้าที่ของแผนกตัวเองไม่ได้ไปวุ่นวายกับใคร ทำเกี่ยวกับเอกสารใบสั่งซื้อ ใบกำกับภาษี ของซัพที่เอาของมาส่งอ่ะค่ะ ทำงานกัน 3 คน มี ผจก.แผนก 1 คน ลูกน้อง 2 คน รวมฉัน ช่วงประมาณต้นปี ผจก.แผนก ได้ลาออกไปอันเนื่องมาจากปัญหาการทำงานนี่แหละค่ะ (รายละเอียดลึกๆขอไม่พูดถึงดีกว่า) คราวนี้ก็เหลือฉันและน้อง 2 คน เท่านั้นที่ทำงานอยู่ พอคนขาดไปงานก็เยอะขึ้นค่ะ ฝ่ายบุคคลก็รับคนเพิ่มมาให้ค่ะ 1 คนค่ะ รับมาในตำแหน่งธุรการเหมือนกันค่ะ ทำงานกันมาแบบสมบุกสมบันเลยค่ะ เพราะงานหนักมากเราทำเกี่ยวกับเอกสารโดยเฉพาะ เอกสารค่อนข้างสำคัญมากเพราะต้องใช้จ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้หลายรายหน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องทำงานให้เสร็จทุกวันค่ะจะไม่ค้างไว้ทำวันถัดไป เพราะไม่อย่างนั้น สนญ.จะโทรมาทวงเอกสารและขอปรับเงินเราเนื่องจากส่งเอกสารล่าช้า เวลาเลิกงานของฉันคือ 6 โมงเย็นค่ะ แต่ไม่เคยเลิกตรงเวลาจริงๆเลยค่ะ เพราะงานเยอะมากกกกก กว่าจะได้กลับบ้านก็นู่นแหละค่ะ 3-5 ทุ่ม บางวันล่าช้าสุดถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ กลับบ้านมาไม่เคยได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเลยค่ะ มาถึงบ้านเค้าก็หลับกันหมดแล้ว บางครั้งก็ไม่ใช่เคลียร์เอกสารอยู่นะคะแต่เพราะรถที่มาลงของค่ะ ยังลงไม่เสร็จ ฉันก็ต้องรอเพราะต้องเตรียมเอกสารให้กับคนรถตอนลงของเสร็จ ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ต้องจำใจอยู่ค่ะ เพราะคิดว่างานคือเงินค่ะ และคิดว่าเดี๋ยวนี้งานหายาก อีกอย่างเราก็คุ้นเคยกับสถานที่นี้และคนที่นี่แล้ว ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหน แต่มาวันนึงความคิดนี้มันต้องเปลี่ยนไปค่ะ เมื่องานมันเยอะมากๆๆๆๆๆ ทุกวันๆๆ คนนู้นจะเอาอย่างนี้ คนนี้จะเอาอย่างนั้น ตามงานกับแผนกเราจ้าละหวั่นเลยค่ะ คืองานปัจจุบันก็ต้องทำ งานอื่นๆก็ต้องเคลียร์ พยายามสู้สุดๆแล้วค่ะ แต่เหนื่อยเหลือเกิน และทนความเห็นแก่ตัวของ ผจก. บางคนไม่ได้ค่ะ ไม่เคยถามลูกน้องว่าไหวไหม งานเหลือเยอะไหม สนใจแต่แผนกอื่นๆ ฉันก็ไม่รู้นะคะว่าไปทำอะไรให้เค้าเพราะเค้าไม่เคยถามแผนกฉันเลยค่ะว่าทำงานเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ติดปัญหาอะไรหรือป่าว อาจจะเป็นเพราะฉันและน้องๆช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ และไม่เคยให้ใครมาว่าได้ เลยไม่มีปัญหาอะไรให้เค้าต้องมาแก้ปัญหาให้(ฉันคิดแบบนี้) แต่เอาจริงๆฉันและน้องๆในแผนกก็ต้องการกำลังใจจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ผจก. บ้างว่าเราไหวไหม เวลาเกิดปัญหาต่างๆฉันก็ไม่เคยทำให้ต้องปวดหัว ไม่ต้องมาแก้ปัญหาให้ แต่ทำไมไม่ใส่ใจลูกน้องตัวเองบ้างคะ จนวันนึงฉันขอลาออก ผ่านไปไม่ถึง 20 วันค่ะ ให้น้องๆที่แผนกโทรมาตามให้กลับไปทำงานค่ะ บอกว่าไม่มีใครแล้ว ผจก.แผนกที่รับเข้ามาใหม่ก็ไม่ไหว จะให้ฉันกลับไปทำงานในตำแหน่งผจก.ค่ะ (เอาตำแหน่งมาล่อด้วย)
ว่าด้วยเรื่องเงินเดือนที่นี่ให้สูงอยู่ค่ะ แต่เวลาส่วนตัวเราแทบไม่มี เป็นคุณจะกลับไปไหมคะ?
ปล.นี่เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ค่ะ
บริษัทเก่าโทรมาตามให้คุณกลับไปทำงาน และรับตำแหน่งผู้จัดการคุณจะไปไหมคะ?
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า ฉันเคยทำงานให้กับ บริษัทค้าปลีกและส่งรายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร
เริ่มทำงานตั้งแต่บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ๆเรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยก็ว่าได้ ทำงานมาเป็นเวลา 1 ปี กว่าๆ(ทนมาได้เน๊อะ) ตอนแรกๆที่เข้ามายังไม่ค่อยรู้อะไรหรือรู้เท่าไม่ทันคนอื่นนั่นเอง ก็คิดว่าที่นี่โอเค ทำไปตามหน้าที่ของแผนกตัวเองไม่ได้ไปวุ่นวายกับใคร ทำเกี่ยวกับเอกสารใบสั่งซื้อ ใบกำกับภาษี ของซัพที่เอาของมาส่งอ่ะค่ะ ทำงานกัน 3 คน มี ผจก.แผนก 1 คน ลูกน้อง 2 คน รวมฉัน ช่วงประมาณต้นปี ผจก.แผนก ได้ลาออกไปอันเนื่องมาจากปัญหาการทำงานนี่แหละค่ะ (รายละเอียดลึกๆขอไม่พูดถึงดีกว่า) คราวนี้ก็เหลือฉันและน้อง 2 คน เท่านั้นที่ทำงานอยู่ พอคนขาดไปงานก็เยอะขึ้นค่ะ ฝ่ายบุคคลก็รับคนเพิ่มมาให้ค่ะ 1 คนค่ะ รับมาในตำแหน่งธุรการเหมือนกันค่ะ ทำงานกันมาแบบสมบุกสมบันเลยค่ะ เพราะงานหนักมากเราทำเกี่ยวกับเอกสารโดยเฉพาะ เอกสารค่อนข้างสำคัญมากเพราะต้องใช้จ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้หลายรายหน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องทำงานให้เสร็จทุกวันค่ะจะไม่ค้างไว้ทำวันถัดไป เพราะไม่อย่างนั้น สนญ.จะโทรมาทวงเอกสารและขอปรับเงินเราเนื่องจากส่งเอกสารล่าช้า เวลาเลิกงานของฉันคือ 6 โมงเย็นค่ะ แต่ไม่เคยเลิกตรงเวลาจริงๆเลยค่ะ เพราะงานเยอะมากกกกก กว่าจะได้กลับบ้านก็นู่นแหละค่ะ 3-5 ทุ่ม บางวันล่าช้าสุดถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ กลับบ้านมาไม่เคยได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเลยค่ะ มาถึงบ้านเค้าก็หลับกันหมดแล้ว บางครั้งก็ไม่ใช่เคลียร์เอกสารอยู่นะคะแต่เพราะรถที่มาลงของค่ะ ยังลงไม่เสร็จ ฉันก็ต้องรอเพราะต้องเตรียมเอกสารให้กับคนรถตอนลงของเสร็จ ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ก็ต้องจำใจอยู่ค่ะ เพราะคิดว่างานคือเงินค่ะ และคิดว่าเดี๋ยวนี้งานหายาก อีกอย่างเราก็คุ้นเคยกับสถานที่นี้และคนที่นี่แล้ว ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหน แต่มาวันนึงความคิดนี้มันต้องเปลี่ยนไปค่ะ เมื่องานมันเยอะมากๆๆๆๆๆ ทุกวันๆๆ คนนู้นจะเอาอย่างนี้ คนนี้จะเอาอย่างนั้น ตามงานกับแผนกเราจ้าละหวั่นเลยค่ะ คืองานปัจจุบันก็ต้องทำ งานอื่นๆก็ต้องเคลียร์ พยายามสู้สุดๆแล้วค่ะ แต่เหนื่อยเหลือเกิน และทนความเห็นแก่ตัวของ ผจก. บางคนไม่ได้ค่ะ ไม่เคยถามลูกน้องว่าไหวไหม งานเหลือเยอะไหม สนใจแต่แผนกอื่นๆ ฉันก็ไม่รู้นะคะว่าไปทำอะไรให้เค้าเพราะเค้าไม่เคยถามแผนกฉันเลยค่ะว่าทำงานเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม ติดปัญหาอะไรหรือป่าว อาจจะเป็นเพราะฉันและน้องๆช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ และไม่เคยให้ใครมาว่าได้ เลยไม่มีปัญหาอะไรให้เค้าต้องมาแก้ปัญหาให้(ฉันคิดแบบนี้) แต่เอาจริงๆฉันและน้องๆในแผนกก็ต้องการกำลังใจจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ผจก. บ้างว่าเราไหวไหม เวลาเกิดปัญหาต่างๆฉันก็ไม่เคยทำให้ต้องปวดหัว ไม่ต้องมาแก้ปัญหาให้ แต่ทำไมไม่ใส่ใจลูกน้องตัวเองบ้างคะ จนวันนึงฉันขอลาออก ผ่านไปไม่ถึง 20 วันค่ะ ให้น้องๆที่แผนกโทรมาตามให้กลับไปทำงานค่ะ บอกว่าไม่มีใครแล้ว ผจก.แผนกที่รับเข้ามาใหม่ก็ไม่ไหว จะให้ฉันกลับไปทำงานในตำแหน่งผจก.ค่ะ (เอาตำแหน่งมาล่อด้วย)
ว่าด้วยเรื่องเงินเดือนที่นี่ให้สูงอยู่ค่ะ แต่เวลาส่วนตัวเราแทบไม่มี เป็นคุณจะกลับไปไหมคะ?
ปล.นี่เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ค่ะ