คือผมเคยเห็นภิกษุณีตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก็เลยไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร
เพราะที่โรงเรียนเป็นโรงเรียนจีน ก็เห็นพระจีนที่เป็นนิกายมหายานบ่อยๆ ครูก็สอนว่า พระผู้ชายเรียกพระภิกษุ พระผู้หญิงเรียกพระภิกษุณี
ตอนเด็กก็เลยถามพ่อว่า พ่อทำไมบ้านเราไม่เห็นมีภิกษุณีเลย พ่อก็บอกว่า เมื่อก่อนบ้านเราก็น่าจะมีนะ แต่คงไม่มีคนบวช และอีกอย่างถ้าจะให้พระสงฆ์กับภิกษุณีอยู่ด้วยกัน มันอาจจะมีปัญหา
พอเริ่มโตมามัธยม ก็ถามครูสังคมอีก คือครูสังคมเป็นคนที่เก่งพระพุทธศาสนามาก เพราะครูเคยบวชเป็นพระหลายปีเลย แกเคยคิดว่าจะไม่สึกด้วยซ้ำ
ครูก็เล่าว่า เนี่ยพระภิกษุณีองค์แรงเนี่ยคือแม่นมของพระพุทธเจ้า (ครูแกก็พูดภาษาที่มันสวยกว่านี้อะนะไม่ได้บอกว่าแม่นมนะแต่แปลได้ว่าทำนองนี้)
แล้วเมื่อก่อนเนี่ย บ้านเราก็เคยมีพระภิกษุณี แต่มีปัญหาบางอย่างเขาก็เลยยกเลิกพระภิกษุณี และก็ในบทเรียนของนักเรียนก็ไม่ได้พูดถึงพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ซึงเป็นภิกษุณีองค์แรก และเมืองไทยก็ไม่ให้มีภิกษุณีแล้วด้วย
ผมก็ถามครูต่อว่า อย่างนี้จะเรียกบิดเบือนศาสนาไหม ทั้งที่ พระพุทธเจ้าให้มีภิกษุณีได้ แต่ที่ไทยไม่ให้มี
ครูก็ตอบว่า จะว่าบิดเบือนก็ใช่ แต่เขาคงมีเหตุผลของเขา
ประเด็นคือ นั่งดูสารคดีในยูทูบ เกี่ยวกับภิกษณีในไทย มีวัดวัดหนึ่งจำไม่ได้ว่าวัดอะไร เป็นสำนักภิกษุณี ซึ่งเขาก็ไปสำรวจสอบถามคนระแวกแถวนั้น บางคนก็ไม่มีเลื่อมใสในภิกษุณี บางคนก็รู้สึกแปลกๆ
ก็เลยกลับไปถามพ่อว่า ป๊าพระภิกษุณีนี่ในใจป๊าลึกๆนี่เคารพ เลือมใสไหม
พ่อก็ตอบว่า เอาจริงๆนะป๊ารู้สึกไม่ค่อยเลื่อมใส ขนาดแม่ชีป๊ายังไม่ไหว้เลย นี่ตอบแบบไม่ดัดจริตเลยนะ รู้สึกแบบนี้จริงๆ
ผมว่าประเทศไทยน่าจะมีการบวชภิกษุณีได้อย่างถูกต้องถูกกฎหมายนะครับ ผมว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่เหยีดเพศอยู่แล้วนะครับ เป็นศาสนาสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว เป็นศาสนาที่มีความเท่าเทียม เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่น่าจะมีการเหยียดเพศแบบนี้
สังคมไทยไม่ยอมรับพระภิกษุณีหรอ
เพราะที่โรงเรียนเป็นโรงเรียนจีน ก็เห็นพระจีนที่เป็นนิกายมหายานบ่อยๆ ครูก็สอนว่า พระผู้ชายเรียกพระภิกษุ พระผู้หญิงเรียกพระภิกษุณี
ตอนเด็กก็เลยถามพ่อว่า พ่อทำไมบ้านเราไม่เห็นมีภิกษุณีเลย พ่อก็บอกว่า เมื่อก่อนบ้านเราก็น่าจะมีนะ แต่คงไม่มีคนบวช และอีกอย่างถ้าจะให้พระสงฆ์กับภิกษุณีอยู่ด้วยกัน มันอาจจะมีปัญหา
พอเริ่มโตมามัธยม ก็ถามครูสังคมอีก คือครูสังคมเป็นคนที่เก่งพระพุทธศาสนามาก เพราะครูเคยบวชเป็นพระหลายปีเลย แกเคยคิดว่าจะไม่สึกด้วยซ้ำ
ครูก็เล่าว่า เนี่ยพระภิกษุณีองค์แรงเนี่ยคือแม่นมของพระพุทธเจ้า (ครูแกก็พูดภาษาที่มันสวยกว่านี้อะนะไม่ได้บอกว่าแม่นมนะแต่แปลได้ว่าทำนองนี้)
แล้วเมื่อก่อนเนี่ย บ้านเราก็เคยมีพระภิกษุณี แต่มีปัญหาบางอย่างเขาก็เลยยกเลิกพระภิกษุณี และก็ในบทเรียนของนักเรียนก็ไม่ได้พูดถึงพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ซึงเป็นภิกษุณีองค์แรก และเมืองไทยก็ไม่ให้มีภิกษุณีแล้วด้วย
ผมก็ถามครูต่อว่า อย่างนี้จะเรียกบิดเบือนศาสนาไหม ทั้งที่ พระพุทธเจ้าให้มีภิกษุณีได้ แต่ที่ไทยไม่ให้มี
ครูก็ตอบว่า จะว่าบิดเบือนก็ใช่ แต่เขาคงมีเหตุผลของเขา
ประเด็นคือ นั่งดูสารคดีในยูทูบ เกี่ยวกับภิกษณีในไทย มีวัดวัดหนึ่งจำไม่ได้ว่าวัดอะไร เป็นสำนักภิกษุณี ซึ่งเขาก็ไปสำรวจสอบถามคนระแวกแถวนั้น บางคนก็ไม่มีเลื่อมใสในภิกษุณี บางคนก็รู้สึกแปลกๆ
ก็เลยกลับไปถามพ่อว่า ป๊าพระภิกษุณีนี่ในใจป๊าลึกๆนี่เคารพ เลือมใสไหม
พ่อก็ตอบว่า เอาจริงๆนะป๊ารู้สึกไม่ค่อยเลื่อมใส ขนาดแม่ชีป๊ายังไม่ไหว้เลย นี่ตอบแบบไม่ดัดจริตเลยนะ รู้สึกแบบนี้จริงๆ
ผมว่าประเทศไทยน่าจะมีการบวชภิกษุณีได้อย่างถูกต้องถูกกฎหมายนะครับ ผมว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่เหยีดเพศอยู่แล้วนะครับ เป็นศาสนาสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว เป็นศาสนาที่มีความเท่าเทียม เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่น่าจะมีการเหยียดเพศแบบนี้