พ่อดิฉันป่วยเป็นอัมพฤษ ร่างกายซีกด้านขวา ตั้งแต่ศีรษะ จนถึงเท้า ไม่สามารถขยับได้ พ่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน นอนอยู่ที่โรงพยาบาล 3 คืน คุณหมอให้กลับมารักษาต่อที่บ้าน แต่ด้วยสภาพทางบ้านที่พ่ออยู่ ไม่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด ดิฉัน และพี่สาว น้องชาย จึงรับพ่อมารักษาต่อที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้พาพ่อเข้าโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ โดยทำการประกันสังคมของพ่อมารักษาที่ รพ.สิริกิติ์ ด้วย
คุณหมอทาง รพ.สิริกิติ์ ท่านบอกว่า ต้องไปนำประวัติของคนไข้มา เพื่อจะได้ดูประวัติ พ่อได้รักษาอะไรไปบ้าง ดิฉันจึงได้ขับรถไปที่ รพ.หัวหิน ในวันที่ 15 มิ.ย 59 เพื่อขอประวัติของพ่อมาให้ทาง รพ.สิริกิติ์ ในวันที่ 16 มิ.ย 59 ซึ่งเป็นวันที่หมอนัด
ปรากฎว่า ทางโรงพยาบาลหัวหิน โดยเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ บอกว่า ไม่ให้ ถ้าจะขอประวัติ ต้องมาทำเรื่องขอ อีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ เพราะเป็นกฎของทางโรงพยาบาล ถึงจะได้ ดิฉันได้ให้เหตุผลไปว่า พ่อต้องการรักษาต่อเนื่อง และในวันที่ 16 มิ.ย พ่อต้องเข้าพบหมอเฉพาะทาง ด้วยเหตุ ด้วยผล ที่พูดไป ทางโรงพยาบาล พูดคำเดียว ไม่ให้ ดิฉันขอเข้าพบ คุณหมอที่รักษาพ่อ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า วันนี้หมออายุกรรมชาย ไม่เข้าสักคน ดิฉันขอเข้าพบ ผอ. ก็บอกว่า ผอ.ไม่ว่าง ไม่อยู่ ซึ่งตอนที่ดิฉันเข้าไปขอประวัติพ่อ ดิฉันเข้าไปเวลา 08.00 น.
วันที่ 16 มิ.ย ได้พาพ่อไปโรงพยาบาลสิริกิต์ คุณหมอถามไหนประวัติเก่า ก้อเล่าให้ทางคุณหมอฟัง คุณหมอส่ายหน้าและเขียนจดหมายถึงคุณหมอทางโรงพยาบาลหัวหิน ให้ดิฉัถือไปให้ทางโรงพยาบาลหัวหิน ตอนนี้ดิฉันยังไม่ได้ไป เพราะเกรงว่าจะเจอกับปัญหาเดิม ใครพอมีประสบการณ์ หรือแนวทางการแก้ไขบ้างเพราะตอนนี้ดิฉันยังไม่ได้ประวัติพ่อเลยค่ะ