ตื่นแต่เช้าเพราะบางคนนอนไม่หลับ บางคนตื่นมาเตรียมอาหารมื้อเช้าให้สมาชิก บางคนตื่นมาเพราะเสียงอีโล้งโคล้งเคล้งของคนอื่น สรุปว่าช่วยๆกันตื่นจะได้ไปเที่ยวตามโปรแกรมได้หมด เรานอนกันที่ Princes street suite แต่จริงๆโรงแรมนี้ตั้งอยู่ถนนWaterloo อย่างที่บอกไปตอนที่แล้วว่าเป็นแนวservice apartmentมีหลายห้องนอนมีครัว มีpantryเล็กๆให้ หลังจากอิ่มหนำตามขนาดของกระเพาะแต่ละคนแล้ว เราก็ขอแวะ Calton hillก่อนเป็นโปรแกรมเมื่อวานแต่เราไม่มีเวลา เราเลยขอแวะวันนี้เพราะใกล้ที่พักเรามาก แค่เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามโรงแรมแล้วเดินย้อนไปคนละทางกับ Princes street
เดินมาเรื่อยๆจนถึงบันไดที่มีป้ายแบบนี้เดินขึ้นไปเลย ไม่กี่สิบขั้นเท่านั้นเองยังไม่ทันหอบก็ถึงล่ะ
เดินขึ้นไปอีกนิดจะเป็นทางเดินที่สามารถเห็นอนุสาวรีย์สำคัญๆ และยังสามารถเห็นทิวทัศน์รอบเมืองเอดินเบอร์กได้ด้วย
อันนี้เป็นอนุสาวรีย์Nelson เพื่อระลึกถึงพลเรือเอกเนลสันซึ่งเสียชีวิตในสงคราม Trafalgarในปี1805 อนุสาวรีย์นี้สร้างเสร็จในปี 1816 ส่วนคุณเนลสันกับสงครามTrafalgarจะเป็นใคร สำคัญอย่างไร อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
รายละเอียดมีอะไรบนHillนี้ดูเอานะ ชอบอันไหนก็ไปดูอันนั้น หรือไม่แน่ใจมีเวลาก็เดินทั่วๆก็ไม่ว่ากัน บนนี้มีคนมาวิ่งออกกำลังกายอยู่บ้างเหมือนกัน
เดินไปรอบๆจะเจออีกmonument
ที่เห็นเสาๆนั่นมี12แท่งเรียก National Monument สร้างขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจจากParthenon ในกรุงเอเธนส์ เพื่อระลึกถึง Scottish servicemen (ไม่รู้แปลเป็นไทยคือสัมมาอาชีพใดเลยยกมาทั้งวลีแล้วกัน) ในสงครามนโปเลียน อันนี้สร้างตอนแรกยังไงก็อยู่เท่านั้น สงสัยแรงบันดาลใจมีไม่มากพอ หรือไม่ก็หมดแรงบันดาลใจที่เห็น Parthenon ของจริง ก็มันหลายแท่งอยู่นะ
ลงจากCalton Hill สมาชิกบางส่วนก็ไปจัดการcheck out ร่ำลาหลานบุ๋ยเพราะไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับเราต้องกลับไปเรียนต่อ อีกสองคนก็เดินไปเอารถที่Qparkซึ่งอยู่หลังตึกฝั่งตรงข้าม เดินไปประมาณ5นาที ข้ามไปฝั่งตรงข้ามเดินไปทางPrinces street พอถึงสี่แยกเลี้ยวขวาไปประมาณ20เมตรเจอเห็นป้ายQ parkบนถนนทางขวามือ ค่าจอดก็10ปอนด์ต่อ24ชั่วโมง บังเอิญตู้เก็บเงินให้ใส่จำนวนเงินเป๊ะๆเราไม่มี เลยกดปุ่มบนตู้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ทำไง เค้าเลยให้เราไปจ่ายที่counterข้างหน้ากับเจ้าหน้าที่จากนั้น เราก็ขับไปทางออก เจ้าหน้าที่ก็ยกคันกั้นรถให้เราออกไปรับสมาชิกอื่นที่โรงแรม แล้วก็บ่ายหน้าไป Rosslyn Chapel ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของEdinburg
อันนี้เป็นเป้าหมายทั้งหมดของเราในวันนี้ ที่แรกเราจะลงไปติ่งทางใต้ก่อนระยะทางสั้นๆ Rosslyn Chapel ห่างไป7.5ไมล์ใช้เวลาประมาณ20นาที (postcodeที่ใช้ key GPS คือ EH25 9PU)
กล้องเราไม่wideเอาไปต่อกันเองล่ะกัน ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 9ปอนด์ Rosslyn Chapelสร้างปีคศ.1446 โดยWilliam St Clair อันนี้สร้างยังไม่เสร็จเหมือนกัน
ทีแรกSir Williamตั้งใจสร้างมากกว่าที่เป็นอยู่นี้แต่เสียชีวิตก่อนและถูกยืดไปหลังจากนั้น เนื่องจากไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างในซึ่งมีรูปแกะสลักสำคัญๆตามพระคัมภีร์ ใครสนใจก็เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.rosslynchapel.com
โบสถ์นี้ดูก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่หลังจากปี2004ที่หนังสือThe Da Vinci Code ของ Dan Brownนักเขียนชาวอเมริกาที่กล่างถึงปมปริศนารหัสลับที่ช่างแกะสลักไว้ตามผนังและหลังคาในโบสถ์ปริศนาแห่งศาสนาคริสต์นี้ ผู้คนก็ทะยอยแวะเวียนมาโบสถ์นี้ไม่ขาดสาย พอเข้าไปในโบสถ์เจ้าหน้าที่จะให้เรานั่งแล้วบรรยายชึ้ไปรูปแกะสลักโน่นนี่นั่น พอเปลี่ยนวิทยากรอีกคนเราเริ่มรู้สึกไม่ใช่ล่ะเรายังมีอีกหลายที่ที่ต้องไป เราอยากเดินซึ่งเค้าก็ออกตัวว่าใครจะเดินชมเองก็ไม่ว่ากันตั้งแต่ต้น เราเลยส่งสัญญาณให้สมาชิกที่เหลือลุกไปเดินดูเองดีกว่า จากนั้นก็ออกมาข้างนอก
รูปนี้แค่อยากลองกล้องว่าถ่ายหน้าชัดหลังจะเบลอได้แค่ไหนไม่มีอะไร เสร็จก็ไปเล็งของที่ระลึกตามธรรมเนียมแล้วก็ไปที่อื่นต่อ Loch Lomond and Trossachs National park(G83 8EG) จากแผนที่เราต้องเดินทางขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีก 55ไมล์
แผนที่อากู๋ประมาณการว่าถ้าวิ่งไปเส้น M9จะใช้เวลาน้อยสุดประมาณ 1ชั่วโมงนิดๆ ที่นี่จำกัดความเร็ววิ่งไม่ถึง100 นั่งเม้ามอยกันไม่นานเราก็ถึง Loch Lomand
ไปถึงจอดรถที่ลานจอดหน้า information เล็งหาที่ทานข้าวเที่ยงก่อน มีร้านอาหารใกล้ๆ information กับLoch (lake)ทานเสร็จก็เริ่มสำรวจกัน
Balmaha Milennium Forest path เป็นเส้นทางชิวๆที่ให้ชมต้นไม้ใบหญ้าและลัดเลาะเรียบฝั่งใช้เวลาเดินประมาณ45นาที
ดอกไม้ยังบานไม่มาก Blue bell ตามพื้นยังเป็นแค่หย่อมๆ ไม่นานเราก็เดินครบรอบ กลับไปที่จอดรถมุ่งหน้าไป Fort William โดยระหว่างทางเราจะเลือกเส้นทางผ่าน Glen Coe (PH49 4HX)เป็นเส้นทางขับรถที่เขาว่าสวยที่สุดในScotland เกิดจากการกัดเซาะของลมฝนและธารน้ำแข็งต่อหินภูเขาไฟหลายร้อยล้านปีจนเป็นรูปคล้ายตัวยู เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ใช้ถ่ายภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ตอนSkyfall ใครจะไปที่นี่ดูหนังไปก่อนก็ดี เพราะเราดูskyfall แล้ว fall from sky หมดแล้วจำอะไรไม่ได้เลย
ระหว่างทางมีจุดแวะชมวิว เพื่อดูหุบเขา The Three Sisters เป็นเขาสามลูก(ฺBeinn Fhada,Gearr Aonach,Aonach Dubh )ทีแรกเราก็เกรงว่าจะรู้ได้ไงหุบไหนเป็นหุบสามใบเถาที่ว่า เอาเข้าจริงๆมีจุดพักจอดรถสะดุดตารถจอดมากมายจนเราต้องจอดมั่ง แล้วก็เห็นสามสี่เขาผุดๆมาดูก็คล้ายรูปที่เราsearchมา ส่วนหุบไหนพี่ไหนน้องก็จนใจจะทราบเหมือนกัน ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก็ไปต่อกะว่าจะแวะจิบกาแฟกับกินขนมsconeซะหน่อย ด้วยความที่ที่นี่มืดช้า เวล่ำเวลาไม่ค่อยสนใจบวกกับความเร็วที่ซิ่งไม่ได้ พอเราถึงGlencoe เห็น Glencoe Cafeแล้วแต่ปิดซะนี่ ใครจะไปก็ดูเวลานิดนึง เมษายน-ตุลาคม ปิด5โมงเย็นเดือนที่เหลือปิด4โมงเย็น ไม่เป็นไรปลอบใจตัวเองปิดก็ไปต่อเอามะขามคลุกในรถมากินแทนก็ได้ จุดหมายปลายทางเราวันนี้ที่เหลือสุดท้ายแล้วคือ Fort William
ใกล้ล่ะ 18ไมล์ ขับประมาณ30นาทีวันนี้เราพักที่ Westcourt B&B เจ้าของน่ารักมากดูแลเป็นอย่างดี ห้องสามารถมองเห็นทะเล
หลังจากเราเลือกอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหาร้านอาหารทานกัน
เจ้าของร้านแนะนำร้านนี้ Crannog เป็นอาหารseafood ออกจากโรงแรมเดินไปทางขวาประมาณ10นาทีก็ถึงที่หมาย แต่พระเจ้าต้องรออีก2ชั่วโมงจึงจะมีโต๊ะว่าง เนื่องจากพวกเราสมองฝ่อเร็วมากถ้าขาดอาหารบำรุงเลี้ยงเลยเปลี่ยนใจหาอย่างอื่นทานดีกว่า สุดท้ายเราก็ได้อาหารคล้ายคลึงกัน fish and chip ปลาcodตัวเท่าบ้าน เห็นแล้วจำต้องสละchip เก็บomega3 บำรุงสมองดีกว่า อิ่มท้องแล้วก็เดินย่อยกลับที่พัก อากาศก็เริ่มเย็นลงอีก เร่งฝีเท้าหน่อยก็ดี ถึงที่พักก็แยกย้ายอาบน้ำอาบท่านอน อาหารเช้าพรุ่งนี้ไม่ต้องคิด วันที่2ผ่านไปแล้ว ราตรีสวัสดิ์......
Day 0 เตรียมตัวไป Scotland
http://ppantip.com/topic/35258357
Day 1 Landing Scotland
http://ppantip.com/topic/35263926
Day 3 Fort William - Portree
http://ppantip.com/topic/35290368
Day 4 Isle of Skye
http://ppantip.com/topic/35299390
Day 5 Inverness
http://ppantip.com/topic/35308500
Day 6 Perthshire Aberfeldy
http://ppantip.com/topic/35314025
Day 7Aberfeldy -Glasglow
http://ppantip.com/topic/35317289
Day 8 Back to Edinburg
http://ppantip.com/topic/35321629
[CR] Day2 Edinburg - Fort William
ตื่นแต่เช้าเพราะบางคนนอนไม่หลับ บางคนตื่นมาเตรียมอาหารมื้อเช้าให้สมาชิก บางคนตื่นมาเพราะเสียงอีโล้งโคล้งเคล้งของคนอื่น สรุปว่าช่วยๆกันตื่นจะได้ไปเที่ยวตามโปรแกรมได้หมด เรานอนกันที่ Princes street suite แต่จริงๆโรงแรมนี้ตั้งอยู่ถนนWaterloo อย่างที่บอกไปตอนที่แล้วว่าเป็นแนวservice apartmentมีหลายห้องนอนมีครัว มีpantryเล็กๆให้ หลังจากอิ่มหนำตามขนาดของกระเพาะแต่ละคนแล้ว เราก็ขอแวะ Calton hillก่อนเป็นโปรแกรมเมื่อวานแต่เราไม่มีเวลา เราเลยขอแวะวันนี้เพราะใกล้ที่พักเรามาก แค่เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามโรงแรมแล้วเดินย้อนไปคนละทางกับ Princes street
เดินมาเรื่อยๆจนถึงบันไดที่มีป้ายแบบนี้เดินขึ้นไปเลย ไม่กี่สิบขั้นเท่านั้นเองยังไม่ทันหอบก็ถึงล่ะ
เดินขึ้นไปอีกนิดจะเป็นทางเดินที่สามารถเห็นอนุสาวรีย์สำคัญๆ และยังสามารถเห็นทิวทัศน์รอบเมืองเอดินเบอร์กได้ด้วย
อันนี้เป็นอนุสาวรีย์Nelson เพื่อระลึกถึงพลเรือเอกเนลสันซึ่งเสียชีวิตในสงคราม Trafalgarในปี1805 อนุสาวรีย์นี้สร้างเสร็จในปี 1816 ส่วนคุณเนลสันกับสงครามTrafalgarจะเป็นใคร สำคัญอย่างไร อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
รายละเอียดมีอะไรบนHillนี้ดูเอานะ ชอบอันไหนก็ไปดูอันนั้น หรือไม่แน่ใจมีเวลาก็เดินทั่วๆก็ไม่ว่ากัน บนนี้มีคนมาวิ่งออกกำลังกายอยู่บ้างเหมือนกัน
เดินไปรอบๆจะเจออีกmonument
ที่เห็นเสาๆนั่นมี12แท่งเรียก National Monument สร้างขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจจากParthenon ในกรุงเอเธนส์ เพื่อระลึกถึง Scottish servicemen (ไม่รู้แปลเป็นไทยคือสัมมาอาชีพใดเลยยกมาทั้งวลีแล้วกัน) ในสงครามนโปเลียน อันนี้สร้างตอนแรกยังไงก็อยู่เท่านั้น สงสัยแรงบันดาลใจมีไม่มากพอ หรือไม่ก็หมดแรงบันดาลใจที่เห็น Parthenon ของจริง ก็มันหลายแท่งอยู่นะ
ลงจากCalton Hill สมาชิกบางส่วนก็ไปจัดการcheck out ร่ำลาหลานบุ๋ยเพราะไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับเราต้องกลับไปเรียนต่อ อีกสองคนก็เดินไปเอารถที่Qparkซึ่งอยู่หลังตึกฝั่งตรงข้าม เดินไปประมาณ5นาที ข้ามไปฝั่งตรงข้ามเดินไปทางPrinces street พอถึงสี่แยกเลี้ยวขวาไปประมาณ20เมตรเจอเห็นป้ายQ parkบนถนนทางขวามือ ค่าจอดก็10ปอนด์ต่อ24ชั่วโมง บังเอิญตู้เก็บเงินให้ใส่จำนวนเงินเป๊ะๆเราไม่มี เลยกดปุ่มบนตู้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ทำไง เค้าเลยให้เราไปจ่ายที่counterข้างหน้ากับเจ้าหน้าที่จากนั้น เราก็ขับไปทางออก เจ้าหน้าที่ก็ยกคันกั้นรถให้เราออกไปรับสมาชิกอื่นที่โรงแรม แล้วก็บ่ายหน้าไป Rosslyn Chapel ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของEdinburg
อันนี้เป็นเป้าหมายทั้งหมดของเราในวันนี้ ที่แรกเราจะลงไปติ่งทางใต้ก่อนระยะทางสั้นๆ Rosslyn Chapel ห่างไป7.5ไมล์ใช้เวลาประมาณ20นาที (postcodeที่ใช้ key GPS คือ EH25 9PU)
กล้องเราไม่wideเอาไปต่อกันเองล่ะกัน ค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 9ปอนด์ Rosslyn Chapelสร้างปีคศ.1446 โดยWilliam St Clair อันนี้สร้างยังไม่เสร็จเหมือนกัน
ทีแรกSir Williamตั้งใจสร้างมากกว่าที่เป็นอยู่นี้แต่เสียชีวิตก่อนและถูกยืดไปหลังจากนั้น เนื่องจากไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างในซึ่งมีรูปแกะสลักสำคัญๆตามพระคัมภีร์ ใครสนใจก็เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.rosslynchapel.com
โบสถ์นี้ดูก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่หลังจากปี2004ที่หนังสือThe Da Vinci Code ของ Dan Brownนักเขียนชาวอเมริกาที่กล่างถึงปมปริศนารหัสลับที่ช่างแกะสลักไว้ตามผนังและหลังคาในโบสถ์ปริศนาแห่งศาสนาคริสต์นี้ ผู้คนก็ทะยอยแวะเวียนมาโบสถ์นี้ไม่ขาดสาย พอเข้าไปในโบสถ์เจ้าหน้าที่จะให้เรานั่งแล้วบรรยายชึ้ไปรูปแกะสลักโน่นนี่นั่น พอเปลี่ยนวิทยากรอีกคนเราเริ่มรู้สึกไม่ใช่ล่ะเรายังมีอีกหลายที่ที่ต้องไป เราอยากเดินซึ่งเค้าก็ออกตัวว่าใครจะเดินชมเองก็ไม่ว่ากันตั้งแต่ต้น เราเลยส่งสัญญาณให้สมาชิกที่เหลือลุกไปเดินดูเองดีกว่า จากนั้นก็ออกมาข้างนอก
รูปนี้แค่อยากลองกล้องว่าถ่ายหน้าชัดหลังจะเบลอได้แค่ไหนไม่มีอะไร เสร็จก็ไปเล็งของที่ระลึกตามธรรมเนียมแล้วก็ไปที่อื่นต่อ Loch Lomond and Trossachs National park(G83 8EG) จากแผนที่เราต้องเดินทางขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีก 55ไมล์
แผนที่อากู๋ประมาณการว่าถ้าวิ่งไปเส้น M9จะใช้เวลาน้อยสุดประมาณ 1ชั่วโมงนิดๆ ที่นี่จำกัดความเร็ววิ่งไม่ถึง100 นั่งเม้ามอยกันไม่นานเราก็ถึง Loch Lomand
ไปถึงจอดรถที่ลานจอดหน้า information เล็งหาที่ทานข้าวเที่ยงก่อน มีร้านอาหารใกล้ๆ information กับLoch (lake)ทานเสร็จก็เริ่มสำรวจกัน
Balmaha Milennium Forest path เป็นเส้นทางชิวๆที่ให้ชมต้นไม้ใบหญ้าและลัดเลาะเรียบฝั่งใช้เวลาเดินประมาณ45นาที
ดอกไม้ยังบานไม่มาก Blue bell ตามพื้นยังเป็นแค่หย่อมๆ ไม่นานเราก็เดินครบรอบ กลับไปที่จอดรถมุ่งหน้าไป Fort William โดยระหว่างทางเราจะเลือกเส้นทางผ่าน Glen Coe (PH49 4HX)เป็นเส้นทางขับรถที่เขาว่าสวยที่สุดในScotland เกิดจากการกัดเซาะของลมฝนและธารน้ำแข็งต่อหินภูเขาไฟหลายร้อยล้านปีจนเป็นรูปคล้ายตัวยู เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ใช้ถ่ายภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ตอนSkyfall ใครจะไปที่นี่ดูหนังไปก่อนก็ดี เพราะเราดูskyfall แล้ว fall from sky หมดแล้วจำอะไรไม่ได้เลย
ระหว่างทางมีจุดแวะชมวิว เพื่อดูหุบเขา The Three Sisters เป็นเขาสามลูก(ฺBeinn Fhada,Gearr Aonach,Aonach Dubh )ทีแรกเราก็เกรงว่าจะรู้ได้ไงหุบไหนเป็นหุบสามใบเถาที่ว่า เอาเข้าจริงๆมีจุดพักจอดรถสะดุดตารถจอดมากมายจนเราต้องจอดมั่ง แล้วก็เห็นสามสี่เขาผุดๆมาดูก็คล้ายรูปที่เราsearchมา ส่วนหุบไหนพี่ไหนน้องก็จนใจจะทราบเหมือนกัน ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ก็ไปต่อกะว่าจะแวะจิบกาแฟกับกินขนมsconeซะหน่อย ด้วยความที่ที่นี่มืดช้า เวล่ำเวลาไม่ค่อยสนใจบวกกับความเร็วที่ซิ่งไม่ได้ พอเราถึงGlencoe เห็น Glencoe Cafeแล้วแต่ปิดซะนี่ ใครจะไปก็ดูเวลานิดนึง เมษายน-ตุลาคม ปิด5โมงเย็นเดือนที่เหลือปิด4โมงเย็น ไม่เป็นไรปลอบใจตัวเองปิดก็ไปต่อเอามะขามคลุกในรถมากินแทนก็ได้ จุดหมายปลายทางเราวันนี้ที่เหลือสุดท้ายแล้วคือ Fort William
ใกล้ล่ะ 18ไมล์ ขับประมาณ30นาทีวันนี้เราพักที่ Westcourt B&B เจ้าของน่ารักมากดูแลเป็นอย่างดี ห้องสามารถมองเห็นทะเล
หลังจากเราเลือกอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหาร้านอาหารทานกัน
เจ้าของร้านแนะนำร้านนี้ Crannog เป็นอาหารseafood ออกจากโรงแรมเดินไปทางขวาประมาณ10นาทีก็ถึงที่หมาย แต่พระเจ้าต้องรออีก2ชั่วโมงจึงจะมีโต๊ะว่าง เนื่องจากพวกเราสมองฝ่อเร็วมากถ้าขาดอาหารบำรุงเลี้ยงเลยเปลี่ยนใจหาอย่างอื่นทานดีกว่า สุดท้ายเราก็ได้อาหารคล้ายคลึงกัน fish and chip ปลาcodตัวเท่าบ้าน เห็นแล้วจำต้องสละchip เก็บomega3 บำรุงสมองดีกว่า อิ่มท้องแล้วก็เดินย่อยกลับที่พัก อากาศก็เริ่มเย็นลงอีก เร่งฝีเท้าหน่อยก็ดี ถึงที่พักก็แยกย้ายอาบน้ำอาบท่านอน อาหารเช้าพรุ่งนี้ไม่ต้องคิด วันที่2ผ่านไปแล้ว ราตรีสวัสดิ์......
Day 0 เตรียมตัวไป Scotland http://ppantip.com/topic/35258357
Day 1 Landing Scotland http://ppantip.com/topic/35263926
Day 3 Fort William - Portree http://ppantip.com/topic/35290368
Day 4 Isle of Skye http://ppantip.com/topic/35299390
Day 5 Inverness http://ppantip.com/topic/35308500
Day 6 Perthshire Aberfeldy http://ppantip.com/topic/35314025
Day 7Aberfeldy -Glasglow http://ppantip.com/topic/35317289
Day 8 Back to Edinburg http://ppantip.com/topic/35321629
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น