ผมใช้รถยนต์โตโยต้า รุ่นปี 1993 ซึ่งปัจจุบันรถได้ทำการติดตั้งระบบแก๊ส LPG ระบบหัวฉีด
ก่อนหน้านี้ รถเคยมีปัญหาว่าใช้แก๊สได้ไม่หมดถัง คือพอแก๊สใกล้หมดรถจะเร่งไม่ขึ้น เร่งไม่เกิน 30 km/h
และรถก็กินแก๊สอยู่ที่ประมาณ 400 km ต่อถัง (58 kg)

      นอกจากนี้ยังมีปัญหาเวลาตัดจากน้ำมันไปเป็นแก๊สด้วย เครื่องยนต์จะดับทุกครั้งเมื่อตัดไปเป็นแก๊ส
จนกระทั่งค้นพบว่าต้องสตาร์ทรถไว้เฉยๆก่อนขับรถออกไป แต่ขณะที่รอให้รถตัดเป็นระบบแก๊สนั้นรถจะต้องปิดแอร์
เครื่องถึงจะไม่ดับ แต่ถ้าสตาร์ทรถทิ้งไว้แล้วเปิดแอร์ พอตัดเป็นระบบแก๊สเครื่องจะดับทุกครั้ง (อันนี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ)
และอีกทั้งยังพบปัญหาว่าถ้าเครื่องจอดไว้ไม่เกินห้าชั่วโมง สตาร์ทรถปุ๊บเครื่องยนต์ตัดเป็นระบบแก๊สทันที เครื่องก็ดับทันที - -"
ต้องใช้ระบบน้ำมันนั่งรอจนความร้อนเครื่องขึ้นสูงๆ แล้วค่อยกดเปลี่ยนระบบเองด้วยมือ

      เคยไปปรึกษาร้านแก๊สแถวบ้านมาที ช่างก็บอกว่าเป็นเพราะหัวฉีดใหญ่ไปเลยกินแก๊ส และหม้อต้มรุ่นที่ใช้เนี่ยมันปรับแรงดันไม่ได้นะ
แรงดันมันต่ำเกินไป ต้องเปลี่ยนหัวฉีดให้เล็กลง และต้องเปลี่ยนหม้อต้มใหม่ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เปลี่ยนเพราะยังไม่มีตังค์ แหะๆ
เลยได้แค่จูนแก๊สใหม่ และเปลี่ยนตัวกรองแก๊สใหม่ โดนไป 900 บาท (ค่าตัวกรอง 700 + ค่าแรง 200) ที่บ้านบอกแพงไปราคานี้

      จนเมื่อช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเอารถไปตรวจ ตรอ. แล้วคนตรวจบอกว่าเหมือนจะมีแก๊สรั่วที่ข้อต่อ กับแก๊สเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
เพราะวัดระดับแก๊สที่ท่อไอเสียแล้ว เครื่องดังลั่นเลยครับ ก็เลยกลับไปร้านแก๊สแถวบ้านร้านเดิม ทีนี้ช่างบอกให้เปลี่ยนหัวฉีดใหม่
เพราะหัวฉีดมันคงเสื่อมเลยรั่ว อีกทั้งยังคงบอกว่าหัวที่ใช้อยู่มันกินแก๊สเกินไปต้องเปลี่ยนหัวให้เล็กลง ก็เลยเปลี่ยนไปตามระเบียบ
โดนค่าหัวฉีดไป 2500 บาท วิ่งวันแรกรถอืดมากเร่งไม่ขึ้นเลย เลยกลับไปอีกครั้งช่างบอกเจาะรูเล็กไปเลยเจาะรูใหม่ จนรถวิ่งได้ปกติ
แต่พบว่ารถกินแก๊สกว่าเดิมคือประมาณ 350 km ต่อถัง

      หลังจากเปลี่ยนหัวฉีดอาการตัดแก๊สแล้วดับก็ยังคงเหมือนเดิม หักเลี้ยวพวงมาลัยเยอะแล้วรถดับก็ยังเป็น บางครั้งดับตอนเลี้ยวออกจาก
ประตูมหาลัยเพื่อเข้าถนนใหญ่ ซึ่งอันตรายมากกกกกก และอาการรถไม่มีแรงก็ยังคงเป็น บางทีแค่ถอยรถขึ้นทางยกระดับประมาณ 10 cm
รถยังขึ้นไม่ไหวเลย T-T แต่หลังจากเปลี่ยนทีนี้ใช้แก๊สได้หมดถัง คือพอหมดถังปุ๊บก็ตัดกลับมาระบบน้ำมันได้ทันที

     แต่ที่นี้เมื่อสามสี่วันที่ผ่านมานี้ พบว่ารถมีอาการเครื่องเบา แบบว่าเบรครถติดไฟแดง รถก็จะดับไปเลย หรือบางทีจอดติดไฟแดง
เปลี่ยนเกียร์จาก N มา D จะออกตัวรถก็ดับซะงั้น บางครั้งขับอยู่ดีๆชะลอรถ รถก็ดับเอาซะดื้อๆ ไม่รู้เป็นอะไร แต่พบว่าเครื่องเริ่มเบาตั้งแต่
สตาร์ทรถก่อนจะเปลี่ยนเป็นระบบแก๊สแล้วครับ คือพอสตาร์ทรถเครื่องเบามากจนบางครั้งก็ดับไป ต้องสตาร์ทหลายๆรอบ
บางครั้งพอมีการตัดเป็นระบบแก๊สรถก็จะดับไปเลย แม้จะสตาร์ทด้วยวิธีปิดแอร์อย่างที่เคยทำมา ก็เลยไม่แน่ใจว่ารถเป็นอะไรกันแน่ครับ

     ผมอยากทราบว่าอาการดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง แล้วถ้าจะซ่อมหรือเช็คควรทำอย่างไรดีคับ เพราะเริ่มจะไม่ค่อยโอเค
กับร้านแก๊สเจ้าที่ไปทำมาตลอด กะว่ารอบนี้จะลองเปลี่ยนร้านดูแต่ก็อยากหาความรู้เอาไว้ก่อนบ้างกันโดนหลอก รบกวนเพื่อนๆในพันทิป
แนะนำทีนะครับ แล้วขอโทษด้วยที่พิมพ์ซะยาวเหยียด อยากให้ข้อมูลแบบละเอียดๆน่ะคับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ปล. เคยสงสัยว่าเป็นที่ระบบระบายความร้อนหรือเปล่า เนื่องจากเมื่อเปิดแอร์ เสียงแอร์จะดังมาก ซึ่งเสียงน่าจะมาจากคอมแอร์ นอกจากนี้
      พบว่าหลังจากขับรถไปเป็นระยะหนึ่ง (60 - 70 km) แล้วทำการจอดรถทิ้งไว้ จะพบว่ามีน้ำเจิ่งนองเต็มใต้ท้องรถเลยครับ ซึ่งมาจาก
      ท่อแอร์ และเมื่อก่อนบางทีบางครั้งน้ำในหม้อพักน้ำมีอาการเดือดแล้วดันน้ำออกมาจากหม้อพักด้วย (สามสี่เดือนหลังมาเนี่ย ไม่มี
      อาการเดือดให้พบเห็นแล้วครับ)

อับเดตเพิ่มเติมครับ
วันนี้เครื่องมีปัญหาหนักเลยครับ ขับรถไม่ได้เลยรอบเครื่องเบา ถ้าเปิดแอร์เครื่องจะดับทันที ถ้าอยู่ที่เกียร์ว่างรอบเครื่องจะแกว่ง
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเกียร์ D หรือ R เมื่อไหร่เครื่องดับทันที ให้อู่เช็คอู่ให้เปลี่ยนหัวเทียน 4 หัว (400 บาท + ค่าแรง 400 บาท)
และอู่แจ้งว่าวาวล์เสื่อม หัวที่สามกับสี่ไม่ดูดแล้ว ส่วนหัวที่หนึ่งกับสองก็ทำงานได้ไม่ดีรถจึงดับ ต้องเปิดฝาเปลี่ยนวาวล์ใหม่
ราคาประมาณ 20,000 บาท ตอนนี้เลยได้แตฝากรถไว้ที่อู่ แล้วพรุ่งนี้จะไปลากกลับบ้าน ซึ่งราคาซ่อมสูงเกินเดี๋ยวลองมาถามอู่แถวบ้าน