ความสุขของมนุษย์เงินเดือน ตอน ทุกข์จากงานเกิดจากความกลัว



“เพราะกลัว ถึงต้องรู้จักความกลัว”
.................................................

“ทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะ”     

ประโยคสุดคลาสสิคของคนที่ไม่มีความสุขกับงาน ไม่ว่าจะเป็นทำไมต้องเจอหัวหน้าแบบนี้ เพื่อนร่วมงานแบบนี้ โปรเจคแบบนี้ และอีกสารพัดแบบนี้

แต่มีไม่กี่คนที่พยายามหาคำตอบว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่

คนส่วนใหญ่ในโลกทุนนิยมต่างก็ไม่มีความสุขกับงาน นิตยสาร Forbes รายงานล่าสุดคนอเมริกันถึง 52.3% ไม่มีความสุขกับงาน ที่เกาหลีใต้มีคนที่ไม่พอใจกับงานที่ตัวเองทำถึง 81% แต่คนอเมริกันและเกาหลีส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งปกติ การที่คนยอมทำงานอย่างไม่มีความสุขเพื่อความมั่นคงในอนาคตเป็นสิ่งปกติของสังคม

แต่นั่นไม่น่าใช่สิ่งปกติ การที่คนยอมทิ้งความสุขจากการทำงานในปัจจุบันเพื่อความมั่นคงในอนาคตไม่ควรเป็นสิ่งปกติ เราใช้ชีวิตแค่ “เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้”  ร้อยต่อกันจนสิ้นอายุขัย ไม่มีใครสามารถใช้ชีวิตได้ในอนาคต ได้ แล้วทำไมเราถึงต้องยอมทุกข์ตอนนี้ เพื่อมีความสุขวันข้างหน้า
การจัดการความทุกข์ในงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เราจะได้ “รักในสิ่งที่ทำ”
.
.
.
จะจัดการความทุกข์ ต้องเข้าใจความทุกข์
“นับจากกว่า 2,500 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครค้นพบวิธีดับทุกข์ได้ดีเท่าพระพุทธเจ้า” โอโช (OSHO) ผู้นำจิตวิญญาณคนสำคัญของโลกกล่าวเอาไว้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้นับถือศาสนาใด แต่เขายกย่องคำสอนอริยสัจ 4 ของพระพุทธเจ้า

ทุกข์ (สภาวะที่เป็นทุกข์) สมุหทัย (เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์) นิโรธ (ความดับทุกข์) มรรค (ทางปฏิบัติเพื่อดับทุกข์)

หลักคิดนี้ไม่เพียงแก้ปัญหาทุกข์ของชีวิต แต่ยังปรับใช้เพื่อแก้ความบีบคั้นของมนุษย์ออฟฟิสได้เช่นกัน

จะดับทุกข์ในออฟฟิส ต้องเริ่มจากเข้าใจทุกข์ที่เกิดขึ้นในออฟฟิส
.
.
.
ความทุกข์เกิดจากความกลัว

โลกนี้ขับเคลื่อนด้วยพลัง 2 พลังที่ตรงข้ามกัน ความรัก และ ความกลัว

เมื่อเราถูกผลักดันด้วยความกลัว เราจะคิดถึงแต่การ “อยู่รอด” แต่ถ้าเราถูกขับด้วยความรัก เราจะคิดถึงการ “อยู่ร่วม”
โลกทุนนิยมเป็นโลกที่ควบคุมคนด้วยความกลัว เรากลัวไม่สวยถึงต้องซื้อโลชั่นผิวขาว เรากลัวเชยถึงต้องซื้อสินค้าแบรนด์เนม เรากลัวจะไม่มีใครยอมรับถึงต้องซื้อคอนโดหรู รถยนตร์ราคาแพง เรากลัวแก่ถึงต้องซื้อผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอย เรากลัวจะไม่ขึ้นเงินเดือนเราเลยต้องทำงานหนัก ความกลัวทำให้เราเป็นทุกข์ ต้องรีบวิ่งหาเงิน เพื่อวิ่งไปซื้อของที่ไม่จำเป็นมากนักกับชีวิต

แล้วก็กลับไปวิ่งใหม่เพราะสิ่งของไม่สามารถขจัดความกลัวได้อย่างเด็ดขาด และมีความกลัวใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวันไม่รู้จบ
ความกลัวทำให้เราเป็นทุกข์ และดิ้นรนเพื่อให้พ้นความทุกข์ แต่เรากลับเข้าใจผิดเลือกหนทางที่โฆษณาบอกเรา และมันพาเราวนกลับไปเจอทุกข์ ไม่มีทางออก

คนทำธุรกิจก็ทำไปด้วยความกลัว กลัวว่าจะโดนคู่แข่งขโมยส่วนแบ่งตลาด กลัวยอดขายจะไม่โตตามเป้า กลัวจะช้ากว่าคนอื่นในการเจาะตลาด AEC กลัวประเทศจีนจะตีสินค้าที่ตัวเองขาย และอีกสารพัดความกลัว และเจ้าของธุรกิจก็ถ่ายทอดความกลัวนี้ให้กับพนักงาน ต้องทำเป้าให้ถึง ต้องดันยอดขายให้โต ต้องลดค่าใช้จ่ายให้ได้ตามเกณฑ์ ถ้าทำไม่ได้ก็อดขึ้นเงินเดือน หรือไม่ก็โดนบีบให้ออก

คนในระบบทุนนิยมจึงวิ่งด้วยความกลัว ความกลัวเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ระบบทุนนิยมและธุรกิจหมุนไป
.
.
.
ความกลัว คือ กรงขังของชีวิต

สมัยเมื่อครั้งผมทำงานในออฟฟิส ผมกลัวจะทำงานด้อยกว่าคนอื่นและไม่ได้ขึ้นตำแหน่ง ผมจึงทำงานหนักจนเป็นพนักงานที่ทำงานหนักที่สุดคนหนึ่งในแผนก
ถึงผมจะได้เลื่อนตำแหน่งทุกๆ 2 ปี แต่ผมแทบไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างที่ผมอยากทำ แทบไม่ค่อยได้เที่ยวกับครอบครัว นานๆครั้งถึงจะได้เจอเพื่อนสมัยเรียน ส่วนเรื่องความฝัน ผมลืมมันไปนานแล้ว

แล้วคุณล่ะครับ ตอนนี้กำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า

เรากลัวสิ่งไหน สิ่งนั้นคือกรงขังไม่ให้เรามีอิสรภาพ หากเรากลัวลูกเราจะแพ้เขาจนต้องส่งลูกเรียนพิเศษไม่หยุด ความกลัวจะเป็นกรงขังไม่ให้เราได้มีเวลาร่วมกันและสร้างความทรงจำดีๆกับลูก หากเรากลัวที่จะล้มเหลว ความกลัวจะครอบเราไม่ให้ได้ทำงานในฝัน หากเรากลัวจะแพ้คนอื่น ความกลัวจะขังให้เราทำงานดึกดื่นจนไม่มีเวลาใช้ชีวิต หรือถ้าเรากลัวผลกำไรไม่เป็นไปตามเป้าก็เขี่ยวเข็ญให้พนักงานทำงานหนักมากขึ้น

ความกลัวคือคุกที่มองไม่เห็น คุกทั่วไปเราจะต้องใช้กำลังถึงจะออกจากคุกนั้นได้

แต่คุกนี้ เราออกได้ด้วยการ “เห็น” ความจริง

(มีต่อ)

.............................................
ความสุขของมนุษย์เงินเดือน
ตอนที่ 5: ทุกข์จากงานเกิดจากความกลัว ep 1
ยอดรักเขียน
facebook.com/yodwriter
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่