วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว
** คำเตือน ช่วงนี้จะเป็นน้ำล้วนๆ สามารถข้ามไปได้เลยค่ะ
**
คืนนี้เป็นคืนเดียวที่เราไม่ต้องเสียค่าโรงแรม..เพราะเรามีที่นอน VIP แบบเคลื่อนที่ได้ และแถมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทั้งบุหรี่ ถุงเท้าปนๆกันไป บน sleeper bus จาก XInji, Yuanyang กลับไปคุนหมิงจาก 6 โมงเย็นถึงคุนหมิงยังไม่ตี 5 ดี..
“มันจะถึงท่ารถคุนหมิงเช้าเกินไปที่จะเรียกแทกซี่ไปสนามบิน.. คุณนอนอยู่บนรถจนถึงเช้าแล้วค่อยไปเหาแทกซี่นะ”
Jacky แนะนำเราก่อนร่ำลาจากกันเป็นครั้งที่ 2 เราหวังว่าจะได้ร่ำลากับเขาอีกเป็นครั้งที่ 3,4,….
การเดินทางทำให้พบเจอมิตรภาพใหม่ๆ และอยากพบอีก แต่แน่นอนนักเดินทางย่อมอยากแสวงหาที่ใหม่ๆ ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน ถ้าโชคดีมีโอกาสอีกเส้นทางคงให้เรามาเจอกันใหม่...
และรถบัสก็ถึงท่าคุนหมิงเร็วจริงๆ นี่มันแต่ตี 4 กว่า เราต้องนอนรอให้รุ่งสางกว่านี้บนรถบัส...แล้วเดินออกประตูหลังท่ารถ เพราะประตูหน้ายังไม่เปิดเดินหาแทกซี่...นี่มันคือแบคแพคเกอร์จริงๆ ด้วยน้ำหน้กบนหลัง 12 โลกว่าๆ หากเป้ไม่ดี ไม่เข้ากับสรีระ (ด้วยเป็นของปลอม) จะดึงรั้งกระดุกบ่าจนไปถึงกระดูกคอ..เอ มันจะคุ้มค่ากลับไปรักษามั้ย....(จะบ่นทำไมเนี่ย..ขอเนื้อหาเน้นๆ ข้อมูลๆ)
เราเสี่ยงไปหาตั๋วเครื่องบินจากคุนหมิงไปสนามบิน Deqin หรือ จงต้วน หรือ แชงกรีล่าที่สนามบิน ..คือเสี่ยงจริงๆค่ะ ไม่ได้จองอะไรไปก่อนเลย เพราะเพิ่งตัดสินใจเมือวานนี้เองว่าจะบินไปจงต้วน และการจองสายการบินในประเทศถ้าเราไม่ใช่คนจีนใช้บัตรเครดิตไม่ได้ อันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไม ต้องลองเช็คผ่านอินเตอร์เนตจากไทยไปว่าจองได้มั้ย
6 โมงกว่าถึงสนามบินคุนหมิง เราถามหาเค้าท์เตอร์ซื้อตั๋วในประเทศ แล้วเข้าไปซื้อตั๋วเลือกเที่ยว 7 โมงกว่าจะได้มีเวลาหายใจโดยต้องจ่ายเป็นเงินสด ทุกครั้งทั้งซื้อตั๋วเครื่องบืน แลกเงินดอลล่าเป็นเงินหยวนที่ธนาคารหรือจองทัวร์ เค้ามักถามหาเบอร์โทรจีน..ซึ่งเราไม่มีเลย แต่ก็ซื้อมาได้ในราคาเที่ยวเดียว 510 หยวน เครื่องออก 8.05 – 9.00 น.
ความผันที่ไม่คาดฝันได้เป็นจริงครั้งนี้ ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวลว่าจะหนาวมากมั้ย อุณหภูมิเดือนมีนาของคุนหมิงก็ 10 ปลายๆ แต่จงเตี้ยนนี่ขึ้นสูงไปอีกอาจลงเหลือเลขตัวเดียวถึง 0 องศา อุปกรณ์กันหนาวก็ไม่พอ
ก่อนกัปตันร่อนลงสนามบินจงเตี้ยน มองออกไปนอกหน้าต่าง...ทืวเขาสลับซับซ้อนมีหิมะคลุมอยู่ใกล้ๆเรามันงามแบบนี้นี่เอง...ต๋องแอบถ่ายวีดีโอไว้ แต่เสียดายที่โดนอัดทับไป ..ร้องไห้หนักมากกกก...
ลงปุ๋บ..ไม่ได้แล้วค่ะ อย่างแรกที่ต้องหาคือเสื้อกันหนาวเพิ่ม ที่ใส่อยู่เป็นแจ้คเก็ตไม่หนามาก โชคดีที่หนามบินมีร้านขายเสื้อกันหนาวพอดี เลยเลือกโดยใช้ราคาถูกที่สุดเป็นเกณฑ์ ตก .300 หยวน บทเรียนนี้คือถ้ารู้จุดหมายแน่นนอนเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อมค่ะ...เสื้อข้างในมีแค่ 2-3 ตัวเอาไว้สลับกันแล้วค่อยซักเอาได้
สนามบินจงเตี้ยนเป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มาก..หารถได้ยากด้วยสิ
เดินออกมามันหนาวและมันเหงามากกกก คือไมใช่หน้าท่องเที่ยวในฤดูนี้คนน้อยยยมากกก... เดินเอ๋อสักพักเจอคู่คนจีนหาเรียกแทกซี่พอดี และมีอยู่คันเดียว คุยไปเค้าเข้าไปในตัวจงเตี้ยนเหมือนกันเราเลยได้แชร์แทกซี่กันจากสนามบินในราคา 60 หยวนต่อ 2 คน
จุดหมายเราคืนนี้เราจะไปนอนที่เต๋อชิงซึ่งต้องเดินทางจากจงเตี้ยนไปอีก เพราะตัวจงเตี้ยนหรือแชงกรีลาเป็นหัวเมืองๆนึงที่มีครบทุกอย่างทั้งห้าง ธนาคาร....เต๋อชิงจะโอบล้อมไปด้วยเขาโดยมีเขา.....เป็นพระเอก
จากจงเตี้ยนไปเต๋อชิงด้วยรถบัส เราไปหาซื้อตั๋วและรอเที่ยวถัดไปเลยคือออก 10.30น ราคา 58 หยวนใช้เวลา 4 ชั่วโมง
เส้นทางระหว่างจงเตี้ยนไปเต๋อชิงเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งเป็นเส้นทางในฝันของนักเดินทาง ถนนเป็นถนนลาดอย่างสภาพดี ไต่ขึ้นเขาตามความสูงไปเรื่อยๆ วิวสองข้างทางจึงเป็นยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ ข้างทางเรายังเห็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งขาวๆอยู่
“ยิ่งสูงยิ่งหนาว” พี่เต๋อว่าไว้อย่างนั้น..บนรถบัสจีนไม่มีห้องน้ำแต่ต่างจากรถบัสไทยคือมีถังขยะ 3-4 ใบวางตามทางเดิน เข้าใจว่าเอาไว้ทิ้งขยะและอ้วก...555
หันมาอีกที พี่ต๋องคุยจ้อยๆกับน้องสาวคนจีนด้วยภาษาไทย น้องคนนี้ก็เคยไปเรียนเอกไทยที่วิทยาเขตพระนครหลักสี่..เอ..ทริปนี้เราเจอแต่เด็กจีนเรียนภาษาไทย
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหนึ่งที่ทดสอบอาการแพ้ความสูง ..รู้สึกว่าเราจะชินไปแล้วล่ะ... รถบัสจอดเป็นระยะประมาณ 1 ชั่วโมงทีให้ทำธุระส่วนตัว แต่ส่วนมากเราจะลงไปถ่ายรูปมากกว่า
จอดอีกครั้งนึงเราหันไปถามหนุ่มจีนว่า...เค้าจอดทำไม...เลยได้เริ่มบทสนทนากับหนุ่มจีนที่นังมาคนเดียวข้างๆโดยบังเอิญ..
“คุณจะไปไหนคะ”
“อู๋เปิง”
“อะไรนะคะ...??”
“อู๋-เปิง” เน้นช้าๆ ชัดๆ แล้วก็หยิบมือถือมาหาอะไรสักอย่าง...หารูปมาให้ดูค่ะ
“คนที่มาเที่ยวที่จงเตี้ยน ส่วนมากเค้ามาเพื่อที่จะมาพักที่ Feilai Si (เฟยไหลซื่อ) ครับ ”
“แล้วก็เทรคต่อไปยอดเหมยลี่ หรืออู๋เปิง...อู๋เปิงเป็นหมู่บ้านธิเบตที่ต้องเดินเท้าเข้าไป 8 ชั่วโมงครับ เป็นวิธีเดียวที่จะเข้าไปได้ แต่สวยมาก” เค้าพูดอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นแต่พยายามมากก..และเข้าใจได้
คุยไปคุยมาเราใจง่าย..ไปนอน FeilaiSi ด้วยเลยกับ “หลี-ต้า-ชิง” หนุ่มจีนหน้าเกาหลีจากเมืองเหนือและหนาวสุดของจีน Harbin
“หลีต้าชิง” หนุ่ม 26 เพิ่งลาออกจากงานเพื่อเดินทางจาก ฮาร์บินมาคุนหมิง-ลี่เจียง- จนมาถึงแชงกรีล่า และไปถึงลาซาล ธิเบต
“คุณจะใช้เวลาแต่ไหน แล้วใช้เงินยังไงอ่ะ” เป็นเหมือนตัวแทนคำถามของคนทั้งโลกที่คงสงสัยเหมือนๆกัน
“ ผมเดินทางมาแล้ว 2 อาทิตย์..อาจจะเป็นเดือนนึง..”
“ ผมเลือกวิธีเดินทางแบบประหยัดครับ นั่งรถบัส, เลี่ยงตั๋วค่าเข้า “
ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ในจีนถือว่าสูง เริ่มที่ประมาณ 500 บาท ค่าเข้าหมู่บ้านอู๋เปิง ต้องเสียที่ 80 หยวน หลีต้าชิงชวนเราให้ใช้วิธีออกเดินตั้งแต่ตี 4 ให้ไปถึงด่านเช้าก่อนเปิด...แต่ทางที่พักเตือนเราว่าอย่าเสียงดีว่าเพราะเคยมีคนหลงทางมาแล้ว...
จากสถานีเต๋อชิงจากรถบัส ต้องต่อแทกซี่อีกคนละ 10 หยวนไปที่เฟยไหลซื่อ หลีต้าชิงพาเราไปหาที่พักที่เค้าเสิรชหามาว่าไม่แพง วิวดี และก็ดีตามที่เค้าว่าจริง ค่าห้องคืนละ 750 บาท สะอาด พื้นฝังขดลวดความร้อนให้ความอบอุ่น ห้องน้ำมีไฟส่องให้อุ่น มีไวไฟ อุปกรณ์ต้มกาแฟ ทีวี ที่เด็ดคือมีวิวยอดเหมยลี่แบบประเมินค่าไม่ได้......นี่มันคือที่พักระดับ 5 ดาวจริงๆ ถ้าไม่ใช่ฤดูโลว์คงไม่ได้ชนาดนี้
วิวระหว่างทาง
วิวจากหน้าต่างห้องพัก
บนถนนที่เฟยไหลซื่อแทบไม่มีคนเดิน ร้านรวงปิดหมด หาร้านข้าวแทบไม่ได้ เราออกตัวว่าซื้อมาม่ากินได้ หลีค้าชิง ใช้เวลาเสิรชหาร้านทางเน็ต แต่ปรากฎว่าร้านปิด เรายังยืนยันว่ากินง่ายๆได้ เค้าว่าเดี๋ยวเค้าเลี้ยงเอง...
เราเดินไปเจอร้านนึง..ที่ไม่มีคนเลย 555 เข้าไปขอเค้าทำครัวเองด้วยคือทอดไข่เจียว มื้อนี้ต๋องเลยได้โชว์ฝีมือไข่เจียวหนุ่มไทย เป็นมื้อที่ได้คุยกันสนุกแถมเลี้ยงข้าวโดยหนุ่มจีนน่ารัก นิสัยดี ยังไม่มีแฟน....ถ้าป้าเด็กกว่านี้อีก 20 ปี ป้าจะขอสมัครเป็นแฟนค่า
เต๋อชิง (Deqin)
เป็นเมืองเล็กๆทางเหนือยูนานที่ติดกับธิเบตทางทิศตะวันตก ความสูงที่ 3550 เมตร มีชาวธิเบตอยู่ 80%
เต๋อชิงเป็นเมืองสุดเขตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าได้ และมาที่นี่เพื่อเทรคหรือชมยอดเหมยลี่ snow mountain (Kwakarpo)
การเดินทาง
รถบัสจาก Shangri-La(Zhongdian) ราคา 58 หยวน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง โดยระหว่างทางจะหยุดพักให้ถ่ายรูปบ้าง ระหว่างทางจะมีวิวของยอดที่ความสูง 4200 เมตรซึ่งเป็นชายขอบของหิมาลัย
รถบัสต่อไปลาซา ราคา 500 หยวนใช้เวลา 3 วัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มี permit อาจจะซื้อตั๋วผ่านข้ามแดนเข้าไปธิเบตได้แบบไม่ถูกกฎหมาย อาจถูกปรับหรือส่งออกนอกยูนานหรือนอกประเทศหากถูกจับได้
Baimang(ไป๋หมา) Snow Mountain
ระหว่างทางไปเต๋อชิงจะตัดผ่านอุทยานไป๋หมา จุดชมวิวจะอยู่ระหว่างสองข้างทางมองเห็นยอดเขาที่สูงกว่า 4000 เมตร ยอดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 5430 เมตร สามารถมองเห็นได้จากรถบัส แต่จะให้ดีที่สุดคือเหมารถจากจงเตี้ยนและหยุดที่จุดสิ้นสุดอุทยานที่ เหมยลี่
ช่วงเวลาที่ไม่สามารถเข้าถึงได้คือ ธันวาคม – เมษา เนื่องจากถนนปกคลุมด้วยหิมะ
ยอดเขาเหมยลี่ (Meili Snow Mountain/Meili Xueshan),
หรืออีกชื่อว่า Kawakarpo, เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติ UNESCO ในเขตเต๋อชิงเป็นตัวแบ่งยูนานออกจากธิเบต เป็นจุดปีนเขาที่สวยจุดหนึ่งที่จะมีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมธืเบต
เป็นยอดที่อยู่ระหว่างแม่น้ำ 2 เส้นที่ไหลขนานกันคือ แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำโขง
ตำนานเล่าไว้ว่า ยอดเหมยลี่เป็นผู้ปกป้องพุทธธิเบต จาก ยอดทั้งหมด 13 ยอดที่มีความสูงกว่า 6000 เมตร ยอดที่สูงสุดคือ Kawakarpo ("Kawagebo" in Chinese)อยู่ที่ความสูง 6740 เมตร
ฤดูท่องเที่ยว
ระหว่างกันยายน ถึงต้นพฤศจิกายน จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
จุดท่องเที่ยว
• จุดชมเทือกเขาเหมยลี่ – Yingbintai เป็นจุดที่ดีที่สุดที่จะชม Kawa Karpo, และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น
The Kawa Karpo (6740M) ยอดสูงสุดของเทือกเขาเหมยลี่ ซึ่งเป็นทีศรัทธาของชาวธิเบต นักแสวงบุญท้องถิ่นจะสักการะทุกปี
หมู่บ้านอู๋เปิง (Yubeng Village) –
เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่เชิงเขาเหมยลี่และต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านนั้น เป็นที่อยู่ของครอบรัวชาวธิเบตเกือบ 200 ครอบครัวล้อมไปด้วยวิวของยอดเขา และมีทะเลสาปน้ำแข็ง ดังนั้นการเข้าไปจึงต้องเดินเท้าหรือใช้ล่อประมาณ 8 ชั่วโมง
ธารน้ำแข็งมิงหยง Mingyong Glacier
เป็นธารน้ำแข็งที่อยู่ทางใต้สุดของจีนเกิดจากยอด Kawa Karpo ไหลลงมาที่ระดับ 2650m ทางด้านตะวันออกของ Kawa Karpo เป็นทางยาว 12km ถือว่าเป็นธารน้ำแข็งที่ดีที่สุดที่ระดับความสูงเท่านี้
การเดินทาง
รถบัสจาก Shangri-La(Zhongdian) ถึง Deqin(Y38 / 4hrs),ต่อรถมินิบัสหรือแทกซี่จาก Deqin ไป Feilaisi หรือ ธารน้ำแข็งมิงหยง
[CR] [ยูนาน][แบคแพคเกอร์] 3 พันกิโลจากคุนหมิงสู่แชงกรีล่า (ตอน3 ดินแดนในฝันเหมยลี่-แชงกรีล่า)
วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว
** คำเตือน ช่วงนี้จะเป็นน้ำล้วนๆ สามารถข้ามไปได้เลยค่ะ **
คืนนี้เป็นคืนเดียวที่เราไม่ต้องเสียค่าโรงแรม..เพราะเรามีที่นอน VIP แบบเคลื่อนที่ได้ และแถมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทั้งบุหรี่ ถุงเท้าปนๆกันไป บน sleeper bus จาก XInji, Yuanyang กลับไปคุนหมิงจาก 6 โมงเย็นถึงคุนหมิงยังไม่ตี 5 ดี..
“มันจะถึงท่ารถคุนหมิงเช้าเกินไปที่จะเรียกแทกซี่ไปสนามบิน.. คุณนอนอยู่บนรถจนถึงเช้าแล้วค่อยไปเหาแทกซี่นะ”
Jacky แนะนำเราก่อนร่ำลาจากกันเป็นครั้งที่ 2 เราหวังว่าจะได้ร่ำลากับเขาอีกเป็นครั้งที่ 3,4,….
การเดินทางทำให้พบเจอมิตรภาพใหม่ๆ และอยากพบอีก แต่แน่นอนนักเดินทางย่อมอยากแสวงหาที่ใหม่ๆ ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน ถ้าโชคดีมีโอกาสอีกเส้นทางคงให้เรามาเจอกันใหม่...
และรถบัสก็ถึงท่าคุนหมิงเร็วจริงๆ นี่มันแต่ตี 4 กว่า เราต้องนอนรอให้รุ่งสางกว่านี้บนรถบัส...แล้วเดินออกประตูหลังท่ารถ เพราะประตูหน้ายังไม่เปิดเดินหาแทกซี่...นี่มันคือแบคแพคเกอร์จริงๆ ด้วยน้ำหน้กบนหลัง 12 โลกว่าๆ หากเป้ไม่ดี ไม่เข้ากับสรีระ (ด้วยเป็นของปลอม) จะดึงรั้งกระดุกบ่าจนไปถึงกระดูกคอ..เอ มันจะคุ้มค่ากลับไปรักษามั้ย....(จะบ่นทำไมเนี่ย..ขอเนื้อหาเน้นๆ ข้อมูลๆ)
เราเสี่ยงไปหาตั๋วเครื่องบินจากคุนหมิงไปสนามบิน Deqin หรือ จงต้วน หรือ แชงกรีล่าที่สนามบิน ..คือเสี่ยงจริงๆค่ะ ไม่ได้จองอะไรไปก่อนเลย เพราะเพิ่งตัดสินใจเมือวานนี้เองว่าจะบินไปจงต้วน และการจองสายการบินในประเทศถ้าเราไม่ใช่คนจีนใช้บัตรเครดิตไม่ได้ อันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไม ต้องลองเช็คผ่านอินเตอร์เนตจากไทยไปว่าจองได้มั้ย
6 โมงกว่าถึงสนามบินคุนหมิง เราถามหาเค้าท์เตอร์ซื้อตั๋วในประเทศ แล้วเข้าไปซื้อตั๋วเลือกเที่ยว 7 โมงกว่าจะได้มีเวลาหายใจโดยต้องจ่ายเป็นเงินสด ทุกครั้งทั้งซื้อตั๋วเครื่องบืน แลกเงินดอลล่าเป็นเงินหยวนที่ธนาคารหรือจองทัวร์ เค้ามักถามหาเบอร์โทรจีน..ซึ่งเราไม่มีเลย แต่ก็ซื้อมาได้ในราคาเที่ยวเดียว 510 หยวน เครื่องออก 8.05 – 9.00 น.
ความผันที่ไม่คาดฝันได้เป็นจริงครั้งนี้ ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวลว่าจะหนาวมากมั้ย อุณหภูมิเดือนมีนาของคุนหมิงก็ 10 ปลายๆ แต่จงเตี้ยนนี่ขึ้นสูงไปอีกอาจลงเหลือเลขตัวเดียวถึง 0 องศา อุปกรณ์กันหนาวก็ไม่พอ
ก่อนกัปตันร่อนลงสนามบินจงเตี้ยน มองออกไปนอกหน้าต่าง...ทืวเขาสลับซับซ้อนมีหิมะคลุมอยู่ใกล้ๆเรามันงามแบบนี้นี่เอง...ต๋องแอบถ่ายวีดีโอไว้ แต่เสียดายที่โดนอัดทับไป ..ร้องไห้หนักมากกกก...
ลงปุ๋บ..ไม่ได้แล้วค่ะ อย่างแรกที่ต้องหาคือเสื้อกันหนาวเพิ่ม ที่ใส่อยู่เป็นแจ้คเก็ตไม่หนามาก โชคดีที่หนามบินมีร้านขายเสื้อกันหนาวพอดี เลยเลือกโดยใช้ราคาถูกที่สุดเป็นเกณฑ์ ตก .300 หยวน บทเรียนนี้คือถ้ารู้จุดหมายแน่นนอนเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อมค่ะ...เสื้อข้างในมีแค่ 2-3 ตัวเอาไว้สลับกันแล้วค่อยซักเอาได้
สนามบินจงเตี้ยนเป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มาก..หารถได้ยากด้วยสิ
เดินออกมามันหนาวและมันเหงามากกกก คือไมใช่หน้าท่องเที่ยวในฤดูนี้คนน้อยยยมากกก... เดินเอ๋อสักพักเจอคู่คนจีนหาเรียกแทกซี่พอดี และมีอยู่คันเดียว คุยไปเค้าเข้าไปในตัวจงเตี้ยนเหมือนกันเราเลยได้แชร์แทกซี่กันจากสนามบินในราคา 60 หยวนต่อ 2 คน
จุดหมายเราคืนนี้เราจะไปนอนที่เต๋อชิงซึ่งต้องเดินทางจากจงเตี้ยนไปอีก เพราะตัวจงเตี้ยนหรือแชงกรีลาเป็นหัวเมืองๆนึงที่มีครบทุกอย่างทั้งห้าง ธนาคาร....เต๋อชิงจะโอบล้อมไปด้วยเขาโดยมีเขา.....เป็นพระเอก
จากจงเตี้ยนไปเต๋อชิงด้วยรถบัส เราไปหาซื้อตั๋วและรอเที่ยวถัดไปเลยคือออก 10.30น ราคา 58 หยวนใช้เวลา 4 ชั่วโมง
เส้นทางระหว่างจงเตี้ยนไปเต๋อชิงเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งเป็นเส้นทางในฝันของนักเดินทาง ถนนเป็นถนนลาดอย่างสภาพดี ไต่ขึ้นเขาตามความสูงไปเรื่อยๆ วิวสองข้างทางจึงเป็นยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ ข้างทางเรายังเห็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งขาวๆอยู่
“ยิ่งสูงยิ่งหนาว” พี่เต๋อว่าไว้อย่างนั้น..บนรถบัสจีนไม่มีห้องน้ำแต่ต่างจากรถบัสไทยคือมีถังขยะ 3-4 ใบวางตามทางเดิน เข้าใจว่าเอาไว้ทิ้งขยะและอ้วก...555
หันมาอีกที พี่ต๋องคุยจ้อยๆกับน้องสาวคนจีนด้วยภาษาไทย น้องคนนี้ก็เคยไปเรียนเอกไทยที่วิทยาเขตพระนครหลักสี่..เอ..ทริปนี้เราเจอแต่เด็กจีนเรียนภาษาไทย
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหนึ่งที่ทดสอบอาการแพ้ความสูง ..รู้สึกว่าเราจะชินไปแล้วล่ะ... รถบัสจอดเป็นระยะประมาณ 1 ชั่วโมงทีให้ทำธุระส่วนตัว แต่ส่วนมากเราจะลงไปถ่ายรูปมากกว่า
จอดอีกครั้งนึงเราหันไปถามหนุ่มจีนว่า...เค้าจอดทำไม...เลยได้เริ่มบทสนทนากับหนุ่มจีนที่นังมาคนเดียวข้างๆโดยบังเอิญ..
“คุณจะไปไหนคะ”
“อู๋เปิง”
“อะไรนะคะ...??”
“อู๋-เปิง” เน้นช้าๆ ชัดๆ แล้วก็หยิบมือถือมาหาอะไรสักอย่าง...หารูปมาให้ดูค่ะ
“คนที่มาเที่ยวที่จงเตี้ยน ส่วนมากเค้ามาเพื่อที่จะมาพักที่ Feilai Si (เฟยไหลซื่อ) ครับ ”
“แล้วก็เทรคต่อไปยอดเหมยลี่ หรืออู๋เปิง...อู๋เปิงเป็นหมู่บ้านธิเบตที่ต้องเดินเท้าเข้าไป 8 ชั่วโมงครับ เป็นวิธีเดียวที่จะเข้าไปได้ แต่สวยมาก” เค้าพูดอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นแต่พยายามมากก..และเข้าใจได้
คุยไปคุยมาเราใจง่าย..ไปนอน FeilaiSi ด้วยเลยกับ “หลี-ต้า-ชิง” หนุ่มจีนหน้าเกาหลีจากเมืองเหนือและหนาวสุดของจีน Harbin
“หลีต้าชิง” หนุ่ม 26 เพิ่งลาออกจากงานเพื่อเดินทางจาก ฮาร์บินมาคุนหมิง-ลี่เจียง- จนมาถึงแชงกรีล่า และไปถึงลาซาล ธิเบต
“คุณจะใช้เวลาแต่ไหน แล้วใช้เงินยังไงอ่ะ” เป็นเหมือนตัวแทนคำถามของคนทั้งโลกที่คงสงสัยเหมือนๆกัน
“ ผมเดินทางมาแล้ว 2 อาทิตย์..อาจจะเป็นเดือนนึง..”
“ ผมเลือกวิธีเดินทางแบบประหยัดครับ นั่งรถบัส, เลี่ยงตั๋วค่าเข้า “
ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ในจีนถือว่าสูง เริ่มที่ประมาณ 500 บาท ค่าเข้าหมู่บ้านอู๋เปิง ต้องเสียที่ 80 หยวน หลีต้าชิงชวนเราให้ใช้วิธีออกเดินตั้งแต่ตี 4 ให้ไปถึงด่านเช้าก่อนเปิด...แต่ทางที่พักเตือนเราว่าอย่าเสียงดีว่าเพราะเคยมีคนหลงทางมาแล้ว...
จากสถานีเต๋อชิงจากรถบัส ต้องต่อแทกซี่อีกคนละ 10 หยวนไปที่เฟยไหลซื่อ หลีต้าชิงพาเราไปหาที่พักที่เค้าเสิรชหามาว่าไม่แพง วิวดี และก็ดีตามที่เค้าว่าจริง ค่าห้องคืนละ 750 บาท สะอาด พื้นฝังขดลวดความร้อนให้ความอบอุ่น ห้องน้ำมีไฟส่องให้อุ่น มีไวไฟ อุปกรณ์ต้มกาแฟ ทีวี ที่เด็ดคือมีวิวยอดเหมยลี่แบบประเมินค่าไม่ได้......นี่มันคือที่พักระดับ 5 ดาวจริงๆ ถ้าไม่ใช่ฤดูโลว์คงไม่ได้ชนาดนี้
วิวระหว่างทาง
วิวจากหน้าต่างห้องพัก
บนถนนที่เฟยไหลซื่อแทบไม่มีคนเดิน ร้านรวงปิดหมด หาร้านข้าวแทบไม่ได้ เราออกตัวว่าซื้อมาม่ากินได้ หลีค้าชิง ใช้เวลาเสิรชหาร้านทางเน็ต แต่ปรากฎว่าร้านปิด เรายังยืนยันว่ากินง่ายๆได้ เค้าว่าเดี๋ยวเค้าเลี้ยงเอง...
เราเดินไปเจอร้านนึง..ที่ไม่มีคนเลย 555 เข้าไปขอเค้าทำครัวเองด้วยคือทอดไข่เจียว มื้อนี้ต๋องเลยได้โชว์ฝีมือไข่เจียวหนุ่มไทย เป็นมื้อที่ได้คุยกันสนุกแถมเลี้ยงข้าวโดยหนุ่มจีนน่ารัก นิสัยดี ยังไม่มีแฟน....ถ้าป้าเด็กกว่านี้อีก 20 ปี ป้าจะขอสมัครเป็นแฟนค่า
เต๋อชิง (Deqin)
เป็นเมืองเล็กๆทางเหนือยูนานที่ติดกับธิเบตทางทิศตะวันตก ความสูงที่ 3550 เมตร มีชาวธิเบตอยู่ 80%
เต๋อชิงเป็นเมืองสุดเขตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าได้ และมาที่นี่เพื่อเทรคหรือชมยอดเหมยลี่ snow mountain (Kwakarpo)
การเดินทาง
รถบัสจาก Shangri-La(Zhongdian) ราคา 58 หยวน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง โดยระหว่างทางจะหยุดพักให้ถ่ายรูปบ้าง ระหว่างทางจะมีวิวของยอดที่ความสูง 4200 เมตรซึ่งเป็นชายขอบของหิมาลัย
รถบัสต่อไปลาซา ราคา 500 หยวนใช้เวลา 3 วัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มี permit อาจจะซื้อตั๋วผ่านข้ามแดนเข้าไปธิเบตได้แบบไม่ถูกกฎหมาย อาจถูกปรับหรือส่งออกนอกยูนานหรือนอกประเทศหากถูกจับได้
Baimang(ไป๋หมา) Snow Mountain
ระหว่างทางไปเต๋อชิงจะตัดผ่านอุทยานไป๋หมา จุดชมวิวจะอยู่ระหว่างสองข้างทางมองเห็นยอดเขาที่สูงกว่า 4000 เมตร ยอดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 5430 เมตร สามารถมองเห็นได้จากรถบัส แต่จะให้ดีที่สุดคือเหมารถจากจงเตี้ยนและหยุดที่จุดสิ้นสุดอุทยานที่ เหมยลี่
ช่วงเวลาที่ไม่สามารถเข้าถึงได้คือ ธันวาคม – เมษา เนื่องจากถนนปกคลุมด้วยหิมะ
ยอดเขาเหมยลี่ (Meili Snow Mountain/Meili Xueshan),
หรืออีกชื่อว่า Kawakarpo, เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติ UNESCO ในเขตเต๋อชิงเป็นตัวแบ่งยูนานออกจากธิเบต เป็นจุดปีนเขาที่สวยจุดหนึ่งที่จะมีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมธืเบต
เป็นยอดที่อยู่ระหว่างแม่น้ำ 2 เส้นที่ไหลขนานกันคือ แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำโขง
ตำนานเล่าไว้ว่า ยอดเหมยลี่เป็นผู้ปกป้องพุทธธิเบต จาก ยอดทั้งหมด 13 ยอดที่มีความสูงกว่า 6000 เมตร ยอดที่สูงสุดคือ Kawakarpo ("Kawagebo" in Chinese)อยู่ที่ความสูง 6740 เมตร
ฤดูท่องเที่ยว
ระหว่างกันยายน ถึงต้นพฤศจิกายน จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
จุดท่องเที่ยว
• จุดชมเทือกเขาเหมยลี่ – Yingbintai เป็นจุดที่ดีที่สุดที่จะชม Kawa Karpo, และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น
The Kawa Karpo (6740M) ยอดสูงสุดของเทือกเขาเหมยลี่ ซึ่งเป็นทีศรัทธาของชาวธิเบต นักแสวงบุญท้องถิ่นจะสักการะทุกปี
หมู่บ้านอู๋เปิง (Yubeng Village) –
เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่เชิงเขาเหมยลี่และต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านนั้น เป็นที่อยู่ของครอบรัวชาวธิเบตเกือบ 200 ครอบครัวล้อมไปด้วยวิวของยอดเขา และมีทะเลสาปน้ำแข็ง ดังนั้นการเข้าไปจึงต้องเดินเท้าหรือใช้ล่อประมาณ 8 ชั่วโมง
ธารน้ำแข็งมิงหยง Mingyong Glacier
เป็นธารน้ำแข็งที่อยู่ทางใต้สุดของจีนเกิดจากยอด Kawa Karpo ไหลลงมาที่ระดับ 2650m ทางด้านตะวันออกของ Kawa Karpo เป็นทางยาว 12km ถือว่าเป็นธารน้ำแข็งที่ดีที่สุดที่ระดับความสูงเท่านี้
การเดินทาง
รถบัสจาก Shangri-La(Zhongdian) ถึง Deqin(Y38 / 4hrs),ต่อรถมินิบัสหรือแทกซี่จาก Deqin ไป Feilaisi หรือ ธารน้ำแข็งมิงหยง