สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ทุกท่านครับ กระทู้แรกของการรีวิวของผม จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะรีวิว แต่เห็นว่ายังไม่มีใครรีวิวโฉมใหม่ของโรงหนังที่กล่าวได้ว่าแพงที่สุดในไทยโฉมใหม่ เลยเค้นรูปที่ถ่ายไว้มาประกอบกัน อาจจะถ่ายบรรยากาศเอาไว้ไม่ครบ ไปช้า หิวและคนเยอะ เบื้องต้นขออภัยสำหรับจุดนี้ด้วยนะครับ
Enigma The Shadow Screen Theater โรงภาพยนตร์ที่ 15 ณ Paragon Cineplex ซึ่งมีค่าตั๋วแพงที่สุดในไทยมาช้านาน ผมรู้จักโรงนี้มาหลายปี ตั้งแต่สมัยที่ราคาค่าตั๋วยังอยู่ที่คู่ละ 3000 บาทอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยเข้าไปลิ้มลองสัมผัสมันในสมัยนั้น เนื่องจากหนังที่เข้าโรงนั้นส่วนใหญ่ก็เข้าระบบ IMAX ด้วย เลยคิดว่าคงไม่คุ้มมั้งครับ
ภาพบรรยากาศ Enigma Theater ฉบับเก่า
ต้นฉบับภาพจาก Major Cineplex
แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปีผมก็ยังอยากเข้าไปสัมผัสมันดู จนกระทั้ง The Hobbit ภาค 3 เข้าฉาย ว่าจะลองลิ้มรสดูครับ แต่ทว่าราคาก็ทะยานขึ้นเป็น 3500 บาท เดี่ยวนะ ทำไมขึ้นราคาล่ะ งั้นช่างมันแล้วกัน ไปนั่งดู IMAX HFR ATMOS มัน 3 ระบบดีกว่า จนกระทั่งมาถึงเดือนพฤษภาคมนี้ พอดีว่าเป็นเดือนเกิดผม เพื่อนเลยว่าจะลากไปดู
แต่แล้วก็พบว่าราคาทะยานขึ้นมาเป็น 4000 บาท/คู่ เสียแล้ว ฮ๊ะะะ พร้อมกับเปลี่ยนโฉมใหม่เมื่อเดือนเมษายนที่มาด้วย จึงเป็นเหตุที่มาของการลองในครั้งนี้ครับ กับ X-Men ซึ่งรอบที่ไปดูนั้นก็เป็นรอบที่ 3 แล้ว จัดรอบสื่อกับ IMAX ไปก่อนหน้าแล้ว
ประตูทางเข้าดินแดน Enigma ที่ชั้น 6 ข้างๆ โรงภาพยนตร์ Pavalai
(ภาพทางเข้าอัพเดทใหม่เป็นของปัจจุบันครับ ช่วงที่ไปใช้บริการยังรีโนเวทกันไม่เสร็จ เห็นเป็นกำแพงยิบซัมเปลือย)
ทางเดินขึ้นไปสู่เลานจ์
บอร์ดถ่ายภาพ
บรรยากาศภายในเลานจ์พักผ่อนก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
เครื่องดื่ม มีค็อกเทล ไวน์ น้ำผลไม้ เลือกประเภทเดียว 1 คน/แก้ว
ในภาพประกอบ ค็อกเทลเมนู ไหมไทย (ให้อารมณ์เหมือนเด็กน้อยกับน้ำผลไม้ยังไงก็ไม่รู้)
อาหารจานหลัก เลือกได้ 1 คน/จาน
ในภาพประกอบ เมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมา
เตียงนอนโฉมใหม่ หมอนใหญ่ 5 ใบ หมอนเล็ก 2 ใบ ผ้าห่ม 2 ผืน ไม่มีที่กั้น ปรับระดับให้หัวเอนขึ้นได้และปรับให้ปลายโค้งรับเข่าได้ นอนกลิ้งได้สบายครับ เอาจริงๆนอนได้ถึง 4 คนเลยล่ะครับ
สมัยก่อนเป็นเตียงนอนจริงๆ ครับ ปรับระดับไม่ได้ ใช้หมอนดันหลังกันเอาเอง หรือจะนั่งดูก็แล้วแต่ - -*
มีน้ำอัดลมและป็อปคอร์นเสิร์ฟให้ภายในโรงคนละ 1 ชุด มีโคมไฟข้างๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องมืด เปิดแล้วแสงไม่รบกวรคนข้างหลัง
คงต้องกล่าวว่ามันเหมาะที่จะนอนเสียมากกว่าครับ ส่วนตัวผมชอบเก้าอี้แบบ Cocoon ของโรง Bangkok airways, Embassy Diphomat, Aeon Theater มากกว่าครับ ปรับได้สบาย ทรงเหมาะแก่การเอนมากกว่าจะเป็นการนอน อาจจะแบบว่าเกิดเข้ามาชมแล้วรู้สึกไม่สนุกหรือมาดูเป็นเพื่อนใครสักคนแล้วเบื่อก็นอนหลับไปเลย รึเปล่า น่าเสียดายที่ไม่มีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จมือถือแบบ Embassy Diphomat และ Aeon Theater ครับ
เลานจ์ 3/5 คะแนน
เข้าใจว่าห้องเล็กแลยทำให้พื้นที่ใช้สอยน้อย แต่การจัดวางเอาหรูก็ทำให้ที่นั่งลดลงไปด้วย มีเก้าอี้นวด OSIM uInfinity 2 ตัวในห้อง แต่เจ้ากรรมเก้าอี้ตัวที่ผมไปลองใช้กดแล้วขึ้น Error 20 พอดีในรอบนั้น T-T เก้าอี้นวดนี้ที่ Aeon Theater มีอยู่ 1 ตัว ส่วนที่อื่นรู้สึกว่าจะไม่มีครับ
อาหารและเครื่องดื่ม 3/5 คะแนน
หากเทียบกับโรง Embassy Diphomat และ Aeon Theater แล้ว ผมรู้สึกชอบแบบนั้นมากกว่า แม้จะไม่ได้เป็น Main Dish ก็ตาม ยกเว้นว่าจะมาดูหนังอย่างรีบๆ แล้วต้องการความอิ่ม ที่นี่เอาใจไปเลย
ห้องน้ำ 2/5 คะแนน
สภาพห้องน้ำยังไม่มีการรีโนเวท แถมเล็กอีกด้วย เช่นเดียวกับหัวข้อก่อนครับ หากเทียบกับโรง Embassy Diphomat และ Aeon Theater แล้ว แพ้ครับ โดยเฉพาะ Aeon Theater @ Quartier Cineart ห้องน้ำอลังการงานสร้างจริงๆ ครับ
Enigma Theater มีอยู่เพียงโรงเดียว หนังที่เข้าฉายก็จะมีจำกัดเรื่องและรอบครับ หากตั้งใจจะมาดูโรงนี้แล้ว นอกเหนือจากเงินที่ต้องเตรียมก็ยังต้องเตรียมเวลามาเพิ่มด้วยครับ เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ หรือาจจะแค่อยากมาลองดูสักครั้งนึงในชีวิต ก่อนที่ราคามันจะทะยานขึ้นไปถึง 5000 บาท/คู่ (มีเตียงนอน 3 คน 5500 บาท อยู่ที่แถว A ของโรง) แต่จะมาทำอะไรเหมือนเป็นที่ส่วนตัวคงจะไม่เหมาะนะครับ คนข้างหลังลุกขึ้นมาทีเห็นข้างล่างหมดเลย
ค่าเสียหาย 4000 บาท
[CR] Enigma Theater โฉมใหม่ของโรงหนังที่แพงที่สุดในประเทศไทยกับการขยับราคาใหม่
Enigma The Shadow Screen Theater โรงภาพยนตร์ที่ 15 ณ Paragon Cineplex ซึ่งมีค่าตั๋วแพงที่สุดในไทยมาช้านาน ผมรู้จักโรงนี้มาหลายปี ตั้งแต่สมัยที่ราคาค่าตั๋วยังอยู่ที่คู่ละ 3000 บาทอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยเข้าไปลิ้มลองสัมผัสมันในสมัยนั้น เนื่องจากหนังที่เข้าโรงนั้นส่วนใหญ่ก็เข้าระบบ IMAX ด้วย เลยคิดว่าคงไม่คุ้มมั้งครับ
ภาพบรรยากาศ Enigma Theater ฉบับเก่า
ต้นฉบับภาพจาก Major Cineplex
แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปีผมก็ยังอยากเข้าไปสัมผัสมันดู จนกระทั้ง The Hobbit ภาค 3 เข้าฉาย ว่าจะลองลิ้มรสดูครับ แต่ทว่าราคาก็ทะยานขึ้นเป็น 3500 บาท เดี่ยวนะ ทำไมขึ้นราคาล่ะ งั้นช่างมันแล้วกัน ไปนั่งดู IMAX HFR ATMOS มัน 3 ระบบดีกว่า จนกระทั่งมาถึงเดือนพฤษภาคมนี้ พอดีว่าเป็นเดือนเกิดผม เพื่อนเลยว่าจะลากไปดู แต่แล้วก็พบว่าราคาทะยานขึ้นมาเป็น 4000 บาท/คู่ เสียแล้ว ฮ๊ะะะ พร้อมกับเปลี่ยนโฉมใหม่เมื่อเดือนเมษายนที่มาด้วย จึงเป็นเหตุที่มาของการลองในครั้งนี้ครับ กับ X-Men ซึ่งรอบที่ไปดูนั้นก็เป็นรอบที่ 3 แล้ว จัดรอบสื่อกับ IMAX ไปก่อนหน้าแล้ว
(ภาพทางเข้าอัพเดทใหม่เป็นของปัจจุบันครับ ช่วงที่ไปใช้บริการยังรีโนเวทกันไม่เสร็จ เห็นเป็นกำแพงยิบซัมเปลือย)
ทางเดินขึ้นไปสู่เลานจ์
บอร์ดถ่ายภาพ
บรรยากาศภายในเลานจ์พักผ่อนก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
เครื่องดื่ม มีค็อกเทล ไวน์ น้ำผลไม้ เลือกประเภทเดียว 1 คน/แก้ว
ในภาพประกอบ ค็อกเทลเมนู ไหมไทย (ให้อารมณ์เหมือนเด็กน้อยกับน้ำผลไม้ยังไงก็ไม่รู้)
อาหารจานหลัก เลือกได้ 1 คน/จาน
ในภาพประกอบ เมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมา
เตียงนอนโฉมใหม่ หมอนใหญ่ 5 ใบ หมอนเล็ก 2 ใบ ผ้าห่ม 2 ผืน ไม่มีที่กั้น ปรับระดับให้หัวเอนขึ้นได้และปรับให้ปลายโค้งรับเข่าได้ นอนกลิ้งได้สบายครับ เอาจริงๆนอนได้ถึง 4 คนเลยล่ะครับ
สมัยก่อนเป็นเตียงนอนจริงๆ ครับ ปรับระดับไม่ได้ ใช้หมอนดันหลังกันเอาเอง หรือจะนั่งดูก็แล้วแต่ - -*
มีน้ำอัดลมและป็อปคอร์นเสิร์ฟให้ภายในโรงคนละ 1 ชุด มีโคมไฟข้างๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องมืด เปิดแล้วแสงไม่รบกวรคนข้างหลัง
คะแนนด้านต่างๆ
ที่นั่ง 4/5 คะแนน
คงต้องกล่าวว่ามันเหมาะที่จะนอนเสียมากกว่าครับ ส่วนตัวผมชอบเก้าอี้แบบ Cocoon ของโรง Bangkok airways, Embassy Diphomat, Aeon Theater มากกว่าครับ ปรับได้สบาย ทรงเหมาะแก่การเอนมากกว่าจะเป็นการนอน อาจจะแบบว่าเกิดเข้ามาชมแล้วรู้สึกไม่สนุกหรือมาดูเป็นเพื่อนใครสักคนแล้วเบื่อก็นอนหลับไปเลย รึเปล่า น่าเสียดายที่ไม่มีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จมือถือแบบ Embassy Diphomat และ Aeon Theater ครับ
เลานจ์ 3/5 คะแนน
เข้าใจว่าห้องเล็กแลยทำให้พื้นที่ใช้สอยน้อย แต่การจัดวางเอาหรูก็ทำให้ที่นั่งลดลงไปด้วย มีเก้าอี้นวด OSIM uInfinity 2 ตัวในห้อง แต่เจ้ากรรมเก้าอี้ตัวที่ผมไปลองใช้กดแล้วขึ้น Error 20 พอดีในรอบนั้น T-T เก้าอี้นวดนี้ที่ Aeon Theater มีอยู่ 1 ตัว ส่วนที่อื่นรู้สึกว่าจะไม่มีครับ
อาหารและเครื่องดื่ม 3/5 คะแนน
หากเทียบกับโรง Embassy Diphomat และ Aeon Theater แล้ว ผมรู้สึกชอบแบบนั้นมากกว่า แม้จะไม่ได้เป็น Main Dish ก็ตาม ยกเว้นว่าจะมาดูหนังอย่างรีบๆ แล้วต้องการความอิ่ม ที่นี่เอาใจไปเลย
ห้องน้ำ 2/5 คะแนน
สภาพห้องน้ำยังไม่มีการรีโนเวท แถมเล็กอีกด้วย เช่นเดียวกับหัวข้อก่อนครับ หากเทียบกับโรง Embassy Diphomat และ Aeon Theater แล้ว แพ้ครับ โดยเฉพาะ Aeon Theater @ Quartier Cineart ห้องน้ำอลังการงานสร้างจริงๆ ครับ
Enigma Theater มีอยู่เพียงโรงเดียว หนังที่เข้าฉายก็จะมีจำกัดเรื่องและรอบครับ หากตั้งใจจะมาดูโรงนี้แล้ว นอกเหนือจากเงินที่ต้องเตรียมก็ยังต้องเตรียมเวลามาเพิ่มด้วยครับ เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ หรือาจจะแค่อยากมาลองดูสักครั้งนึงในชีวิต ก่อนที่ราคามันจะทะยานขึ้นไปถึง 5000 บาท/คู่ (มีเตียงนอน 3 คน 5500 บาท อยู่ที่แถว A ของโรง) แต่จะมาทำอะไรเหมือนเป็นที่ส่วนตัวคงจะไม่เหมาะนะครับ คนข้างหลังลุกขึ้นมาทีเห็นข้างล่างหมดเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น