เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ และเข้าไปดูในส่วนของ ยุทธศาสตร์ / วิสัยทัศน์ / พันธกิจ ของกระทรวงนี้
ก็จะได้ข้อมูลประมาณว่า...



บอกตามตรงนะครับ
ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่ากระทรวงนี้ตั้งขึ้นมาเฉยๆ โดยมีภารกิจหลักคือการประชุมสัมนา กำหนดแนวทางอย่างนั้นอย่างนี้
แล้วก็จบลงโดยที่แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นกับสังคมในทางบวกเลย

และไม่น่าจะมีแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ คนในสังคมส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน
คือผมว่าทุกคนรู้นะ ว่ามีหน่วยงานของรัฐที่ดูแลเรื่องพวกนี้อยู่ แต่เหมือนเจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจที่จะแก้ปัญหา
ชาวบ้านกับหน่วยงานของรัฐ เหมือนอยู่กันคนละโลก

นี่คือลิงค์ผลงานของกระทรวงการพัฒนาสังคม ฯ
ลองเข้าไปอ่านดูครับ
http://www.m-society.go.th/more_news.php?cid=32

ส่วนหนึ่งของผลงาน อ่านแล้วสลดใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รมว.พม. ชื่นชมสองเด็กหญิงสู้ชีวิตวัย ๑๕ ปี และ ๑๗ ปี รับจ้างทำงานหารายได้จุนเจือครอบครัวเลี้ยงดูยายแก่ชรา และน้องสาววัย ๘ ปี และส่งเสียตัวเองเรียน เนื่องจากพ่อและแม่ต้องโทษถูกคุมขังในเรือนจำ ที่ จ.อำนาจเจริญ

    วันนี้ (๑๕ มิ.ย. ๕๙) เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๔๑๘/๒๕๕๗-๒๕๕๙ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ว่าจากกรณีเด็กสาวสู้ชีวิตวัย ๑๕ ปี และ ๑๗ ปี รับจ้างทำความสะอาดบ้านได้ค่าจ้างวันละ ๑๕๐ บาท เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเลี้ยงดูยายแก่ชราวัย ๖๗ ปี ที่ป่วยเป็นโรคต้อกระจก และน้องสาววัย ๘ ปี และส่งเสียตัวเองเรียน เนื่องจากพ่อและแม่ต้องโทษถูกคุมขังในเรือนจำ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ตนขอชื่นชมในความกตัญญูและขยันหมั่นเพียร ไม่ทอดทิ้งการเรียน น่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน และได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญ (พมจ.อำนาจเจริญ) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงชรา และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กหญิงทั้ง ๓ คน ในระยะยาวต่อไป และกรณีชาวสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวขอความช่วยเหลือกรณี ชายชราวัย ๗๙ ปี ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์นานกว่า ๒๐ ปี กระดูกเท้างอผิดรูป ต้องรับภาระตามลำพังเลี้ยงดูลูกพิการ ๒ คน ที่ป่วยเป็นโรคทางจิตและพิการทางด้านการเคลื่อนไหว ด้านชายชราต้องเดินเก็บผักตามทุ่งนา นำไปขายที่ตลาดนัด เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัวเลี้ยงดูทั้ง ๓ ชีวิต ที่จังหวัดชัยนาท ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

     พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับหญิงวัย ๒๙ ปี ก่อเหตุกินยาฆ่าตัวตายภายในรถยนต์ส่วนตัว และจับลูกชายวัย ๕ ขวบ กรอกยาพิษด้วย ด้านแม่เสียชีวิต แต่ลูกชายอาการสาหัส สาเหตุจากมีปัญหากับสามี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี (พมจ.สุพรรณบุรี) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กชายและครอบครัวโดยด่วน


คือสงสัยว่า ทางกระทรวงไม่มีฐานข้อมูลในเรื่องพวกนี้เลยหรือ

ถ้าไม่เป็นข่าวออกมา พวกเขาเหล่านี้จะได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐได้อย่างไร
แล้วถ้าไม่เป็นข่าวล่ะ ?
เด็กๆ เหล่านี้ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันเองใช่หรือไม่

มีเพื่อนสมาชิกท่านใดทำงานที่กระทรวงนี้บ้างครับ อยากรู้จริงๆ ว่าวันๆ นี่ทำอะไรกันบ้าง
เราควรปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือครับ ?