[แชร์] 3 พฤติกรรมของผู้หญิงโสด ที่หนุ่มโสดและอยากจีบ ควรเข้าใจ

หลังจากที่อ่านประสบการณ์จากกระทู้ Pantip มาหลายกระทู้ คราวนี้ก็เลยอยากจะแชร์เรื่องตัวเองให้คนอื่นฟังบ้าง เผื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้ชายทั้งหลายที่อยากเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงทำแบบนั้น

1. เธอเฟรนด์ลี่กับคนที่มีแฟนแล้ว แต่กลับดูนิ่งผิดปกติเมื่อต้องมาคุยกับผู้ชายโสดอย่างคุณ
มันคือพฤติกรรมกลัวการถูกจีบค่ะ สาเหตุก็เพราะ… รู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบแฟนมันไม่มั่นคงเท่าความสัมพันธ์แบบอื่นเท่าไหร่
ทีนี้การที่เธอกล้าเฟรนด์ลี่กับคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเธออยากจะผิดศีลข้อ 3 แต่นั่นหมายถึง เธอรู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากการจีบ อย่างถ้าเป็นเรา ถ้าผู้ชายคนไหนมีแฟนแล้ว เราจะรู้สึกปลอดภัยขึ้น เพราะคิดว่าหัวใจของเขามอบได้มอบให้คนอื่นไปแล้ว เราไม่ต้องมานั่งกังวลอีกว่าเขาจะมาจีบเรามั้ย เพราะเขามีแฟนแล้ว เราก็เลยคุยเล่นได้สบายใจ มันก็เลยดูเหมือนว่าเราเฟรนด์ลี่ สดใสเต็มที่ แต่พอหันกลับมาเจอคนที่สเตตัสไม่แน่นอนว่าโสดหรือเปล่า เราก็จะค่อนข้างระแวง ว่าไปทำตัวน่าจีบรึเปล่า (อย่าว่าเรามั่นหน้าเกินไปเลยนะ 555 หน้าเราไม่สวยหรอก แต่เพื่อนเคยบอกว่ามีเสน่ห์ ข้าม ๆ ไปเถอะเนาะ อ่านขำ ๆ นะจ้ะ) เราก็เลยจะพยายามทำตัวนิ่ง ๆ เข้าไว้ ไม่ให้เป็นจุดสนใจ เพราะเคยอ่านมาเหมือนกันว่าผู้ชายชอบผู้หญิงเฟรนด์ลี่ ยิ่งถ้าผู้ชายคนนั้นยังไม่มีใครก็ยิ่งสุ่มเสี่ยง เราก็เลยพยายามทำตัวให้นิ่งกว่าปกติ เพื่อไม่ให้เค้าเคลิ้ม 5555 (ไม่อยากปล่อยเสน่ห์ออกมาพิฆาตใครพร่ำเพรื่ออะนะตะเอง กิ้ว ๆ)

2. เธอทำตัวแปลก ๆ เวลาอยู่ใกล้คนที่แอบชอบ เพราะเขายังไม่แสดงสเตตัสที่แน่นอน
สเตตัสในที่นี้ก็คือ "มีแฟนแล้วหรือยัง"
คุณต้องเข้าใจก่อนว่า ยังมีผู้หญิงบางคนที่เคร่งครัดในศีลข้อ 3 มาก เพราะเธอต้องการความสงบในชีวิต ไม่อยากไปตบตีหรือปวดหัวให้กับการแย่งชิงคนรัก มันน่ารำคาญ เปลืองพลังงานชีวิตสำหรับเธอ เธอก็เลยต้องสแกนให้ดีก่อนว่า ผู้ชายที่เธอแอบชอบนั้น ยังว่างจริง ๆ 100% หรือไม่ พวกที่บอกว่า โสด แต่มีคนที่คุยในเชิงชู้สาวด้วยเป็นล้านน่ะ เธอไม่เอาหรอกนะ มันสุ่มเสี่ยงจะโดนเล่นงานเกินไป เธอไม่ชอบ (ความรักคือสิ่งสวยงาม อย่าให้มันเป็นชนวนเหตุให้เรื่องไม่ดีตามมาเลย)
เพราะฉะนั้น คุณผู้ชายโสดทั้งหลาย ถ้าคุณกำลังสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทำตัวเฟรนด์ลี่ เฮฮาสุด ๆ กับผู้ชายคนอื่น แต่เธอกลับนิ่งใส่คุณผิดปกติ ซึ่งก็หมายความว่า ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีความสดใสต่อหน้าคุณเลย เธอยังคงสดใส แต่ก็แบบกั๊ก ๆ เพราะกลัวสดใสเกินไป แล้วคุณมาหลงชอบ ทั้งที่คุณมีใครคุยด้วยอยู่แล้ว เธอก็ไม่โอเค ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว
ดังนั้น หากคุณแอบสนใจเธอจริง ๆ พยายามหาวิธีแสดงสเตตัสว่ายังว่างอยู่ให้เธอได้เห็นแบบเนียน ๆ (ของแบบนี้ถ้ามันแสดงออกมาแบบมีศิลปะ ก็จะยิ่งน่าสนใจ และน่าค้นหามากขึ้น)

3. เธอไม่เคยชื่นชมคุณตรง ๆ ให้คุณชื่นใจ ทั้งที่กล้าชมชายอื่นออกมาได้เต็มปาก
ต่อหน้าฉันเธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร หา ~ (เพลงนี้อาจจะดักแก่ไปซักนิด แต่ก็ได้ฟีลดี)
คุณอาจจะคิดแบบนั้นอยู่ใช่มั้ย ว่าทำไมคุณทำดีแค่ไหน สาวเจ้าก็ไม่มีประโยคชื่นชมแบบเต็มปากเต็มคำให้คุณได้ชื่นใจซักครั้ง ทั้งที่เธอก็ดูเหมือนจะมีใจให้  ก็อีกนั่นแหละ ถ้าคุณยังไม่แสดงสเตตัสที่ชัดเจนแบบข้อ 2 สิ่งที่จะตามมาก็คือข้อ 3 นี่แหละ ยิ่งเธอชอบคุณมากเท่าไหร่ เธอก็ต้องพยายามควบคุมความรู้สึกเอาไว้ เพราะเธอรู้ว่า เวลาที่หลงใหลได้ปลื้มใครเมื่อไหร่ เธอก็จะมองว่าเขาทำอะไรก็ดีไปหมด เธอไม่อยากชมเขาพร่ำเพรื่อจนกลายเป็นที่สงสัย (เพราะคุณไม่ชัดเจนกับเธอ เธอก็ยังไม่อยากชัดเจนกับคุณเหมือนกัน) แต่เวลาที่คุณทำอะไรได้โดนใจเธอสุด ๆ ไปเลย เธอก็อาจจะมีหลุดออกมาคำสองคำ และแน่นอนว่าคำสองคำนั้นไม่ใช่คำพูดที่เอ่ยปากชมคุณตรง ๆ แต่คุณลองไปถามเพื่อนเธอทีหลังดูสิ แน่นอนว่าเหล่าเพื่อน ๆ ของเธอจะต้องเคยได้ยินเธอเอ่ยปากชื่นชมคุณลับหลังแน่ ๆ

3 ข้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของผู้หญิงฟอร์มจัด แต่ถ้าคุณชอบเธอจริง ๆ ก็ต้องพยายามรับมือกับพฤติกรรมที่อาจจะดูเข้าใจยากของเธอซักหน่อยนะจ้ะ ขุ่นผู้ชม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่