[CR] (EP.4) Paris…1st Time* เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยงบครึ่งแสน กับวิวสวยหลักล้าน….! ( DAY 3 )

สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ กับรีวิวเที่ยวยุโรปกับงบเบาเบาครึ่งแสน...  หลังจากรีวิวครบทริป เราจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดอีกทีนะคะ


ฝากลิงค์กระทู้ก่อนหน้านี้ค่ะ เพื่อใครตามไม่ทัน ยิ้ม

(EP.3) Paris…1st Time* เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยงบครึ่งแสน กับวิวสวยหลักล้าน….! ( DAY 2-2 )
http://ppantip.com/topic/35172784

(EP.2) Paris…1st Time* @ Louvre : เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยงบครึ่งแสน กับวิวสวยหลักล้าน….! ( DAY 2 )
http://ppantip.com/topic/35137841

(EP.1) Paris…1st Time* เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยงบครึ่งแสน กับวิวสวยหลักล้าน….! ( DAY 1)
http://ppantip.com/topic/35109348

กระทู้ที่แล้วเราจบวันกันไปด้วยความงดงามของพิพิธภัณฑ์ Louvre และ ประตูชัยยามค่ำคืน บนถนนช็องเอลิเซ่อันตระการตา เช้านี้ขอพาเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน เริ่มต้นวันใหม่ในปารีส และก็เป็นวันสุดท้ายในปารีสด้วยค่ะ กับพระราชวังแวซายด์อันโด่งดังกันค่ะ



พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งในอดีต พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสมีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในพ.ศ. 2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง

การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายแห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วยกิโยติน ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2332 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้


วิธีเดินทางคือ นั่งรถไฟ RER สาย C มายังสถานีปลายทาง Chateau de Versailles ค่ะ สิ่งสำคัญ*** รถไฟที่นั่งมา หัวขบวณต้องโชว์คำว่า Vick ด้วยนะคะ เพราะเราขึ้นผิดขบวณมาแล้ว 555



ภาพชานชาลาระหว่างรอเปลี่ยนขบวณรถค่ะ




หลังจากออกจากสถานีมาก็เดินเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆตามทางที่ผู้คนเดินไป ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว เป้าหมายเราไม่ต่างกันค่ะ ไม่หลงแน่นอน

ระหว่างทางก็ชมวิวเมืองแวซายไปเรื่อยๆ เพลินดีค่ะ


ถึงแล้วค่า เจอรูปปั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก่อนเลยค่ะ



บรรยากาศด้านหน้าทางเข้าค่ะ



มาถึงก็ต้องต่อแถว ทำการตรวจกระเป๋า 1 รอบค่ะ


ด้านหน้าพระราชวัง สวยงามมากกกกกกกกก





หลังจากตรวจกระเป๋าด้านในเสร็จอีก 1 รอบ เราก็เริ่มทำการสำรวจและเยี่ยมชมพระราชวังอย่างเป็นทางการกันเลยค่ะ

บรรยากาศภายในค่ะ สวยงามอลังการสมคำล่ำลือมากค่ะ





ในพระราชวังแวร์ซายมี - ทั้งหมด 700 ห้อง - ภาพวาดทั้งหมด 6,123 ภาพ - งานแกะสลักทั้งหมด 15,034 ชิ้น



และแล้วเราก็มาถึงห้องกระจกค่ะ ห้องที่ห้ามพลาดในแวซายเลยค่ะ คือมันสวยมากจริงๆๆๆๆๆ อลังการงานสร้างมากๆเลยค่ะ


ขอซักแชะ


ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายอันสวยงาม





หลังจากดื่มด่ำกับการเยี่ยมชมพระราชวังแวซายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนออกจากวัง ก็ขอรองท้องมื้อกลางวันด้วยอาหารเบาเบาสไตล์ฝรั่งเศสกันหน่อยค่ะ  Salmon Cake , Bacon Cake and Brownie ค่ะ รสชาติใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ


ช่วงบ่าย เราก็มุ่งหน้ามาเสพศิลป์กันต่อที่พิพิธภัณฑ์ Musée d'Orsay




พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d'Orsay) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์การออกแบบ/สิ่งทอ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ออร์แซก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1986 บนฝั่งซ้ายแม่น้ำเซน ในสถานที่ที่เดิมเคยเป็นสถานีรถไฟออร์แซ ที่สร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์ โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ถูกสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1898 ถึง ค.ศ. 1900 เพื่อให้เสร็จทันงาน Exposition Universelle เพื่อใช้เป็นชุมทางรถไฟสายตะวันตกเฉียงใต้ จนถึงปีค.ศ. 1939 ได้เลิกกิจการเนื่องจากขนาดของชานชลาไม่กว้างพอสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจำนวนมาก สถานีรถไฟออร์แซ จึงลดความสำคัญลงเป็นสถานีรถไฟสำหรับเดินทางในระยะใกล้ ในปัจจุบันใต้ดินส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ยังคงใช้เป็นสถานีรถไฟชานเมืองด่วนพิเศษ หรือ RER โดยใช้ชื่อสถานีเดียวกัน





งานศิลป์มากมายที่สำคัญ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์ และภาพถ่าย แต่ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคืองานชิ้นเอกจากงานของ แวน โก้ะ, โกลด มอแน, เอดัวร์ มาแน, แอดการ์ เดอกา, ปีแยร์-โอกุสต์ เรอนัวร์, ปอล เซซาน, ฌอร์ฌ-ปีแยร์ เซอรา,ปอล โกแก็ง และฟินเซนต์ ฟัน โคค เป็นต้น




เพลิดเพลินที่สุดก็คือการเลียนแบบท่าทางต่างๆกับรูปปั้นค่ะ น่ารักและตลกมากจริงๆ 5555+


ด้านบนสุดคือวิวเมืองและแม่น้ำแซนจากนาฬิกาใหญ่ยักษ์ สวยงามน่าประทับใจมากค่ะ




วิธีเดินทางมา Musée d'Orsay คือ จากแวซาย นั่งรถไฟสายเดิม RER C ไปลงสถานี Musée d'Orsay ได้เลยค่ะ


เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์มาทางซ้าย เราก็จะเจอสะพานไม้กว้างๆ สวยสะอาดตา พร้อมด้วยกุญแจมากมายที่คู่รักนำมาคล้องใจกันไว้ที่นี่ค่ะ




เราก็ไม่ลืมที่จะคล้องกับเค้าเหมือนกัน กุญแจมีสามดอก ดอกแรกโยนทิ้งแม่น้ำไปค่ะ หมายถึงสิ่งไม่ดีในอดีต ขอให้ทิ้งมันไป ต่อไปนี้จะมีแต่สิ่งดีๆที่คงไว้ อีกสองดอก เราเก็บไว้คนละดอก เพื่อเป็นการระลึกถึงว่าครั้งหนึ่งเราผ่านช่วงเวลาดีๆด้วยกันที่นี่ค่ะ
"Remember that happiness is a way of travel – not a destination." – Roy M. Goodman







เดินข้ามสะพานมาเรื่อยๆก็ตัดเข้าสวน Jardin Des Tuileries สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่17และเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังลุยเตอรีหลังเก่า โดยมีเนื้อที่ขนานไปกับแม่น้ำแซนระหว่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และจตุรัสลากงกอร์ด



ชื่อสินค้า:   ปารีส
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่