แชร์เรื่องราวชีวิตที่ต้องเจอกับมือที่3 มาพรากพ่อของลูกไป

.....สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ.....

          หลังจากที่ได้ผ่านเรื่องราวร้ายๆถือว่าร้ายที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมาเลยก็ว่าได้ ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังประสบปัญหาชีวิต
แบบที่เราเจอ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายเมียหลวง ฝ่ายเมียน้อย หรือแม้กระทั่งตัวคุณผู้ชายเอง

         มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เรากับแฟนของเรา(ขอแทนชื่อว่า บอล นามสมมุติ) คบหากันตั้งแต่เราอยู่มหาวิทยาลัยปี1 จนตั้งท้องลูกคนแรกด้วยวัย 19 ปี
เราเคยสัญญากันว่า จะไม่ทิ้งกันเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป ที่พอมีลูกแล้วผู้ชายก็ทิ้งผู้หญิงไปและสุดท้ายลูกก็ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพ่อและแม่ เราอยู่ด้วยกันจนมีลูกคนที่สอง ซึ่งลูกคนที่สองคลอดตอนก่อนน้ำท่วมไม่กี่วัน เราลำบากกันมาก ออกมาเช่าห้องเดือนละ 1800บ. เป็นห้องเปล่า เรามีแค่ฟูกที่เอามาจากบ้านแม่แฟน พัดลม และก็ราวแขวนเสื้อผ้า ที่ได้มาจากการที่เคยลงทุนขายเสื้อผ้าแล้วเจ๊ง เราเริ่มกันมาตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย เราทำงานกันทั้งคู่จนเริ่มมีของเข้าห้องทีละชิ้นสองชิ้น จนเต็มห้อง เรียกได้ว่าของครบก็ว่าได้ เราภูมิใจมาก เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะจริงๆ แล้วแฟนก็ได้งานใหม่ เงินค่อนข้างดีขึ้น แต่เราก็ทำงานที่เดิม ซึ่งเงินเดือนน้อยมาก พอแฟนเราเริ่มมีตังค์ก็เริ่มมีผู้หญิงเข้าหา และตอนนั้นเราก็เพิ่งคลอดคนที่สองได้2เดือน คือไม่ได้ดูแลตัวเองเลย อ้วนมาก และผิวคล้ำน่าเกลียดมาก และแล้วแฟนก็ซื้อโทรศัพท์มือถือมาใหม่ นั่นก็คือ BlackBerry นั่นเอง เราเริ่มเห็นแฟนแชตบ่อยขึ้น โทรศัพท์จับไม่ค่อยได้ กลับบ้านดึกทุกวัน โทรไปก็ไม่ค่อยจะรับ คนเป็นภรรยาเนอะ อยู่กินกันมาตั้งแต่วัยรุ่น ถ้าสามีตัวเองเปลียนไปทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็เริ่มแอบดูมือถือ ตอนเขาหลับ ไปเจออยู่เบอร์นึง เมมชื่อไว้ว่า "อ้วน" โทรเข้าโทรออกบ่อยมาก จนน่าสงสัย เราแอบจดเบอร์ไว้ก่อน แล้วพอแฟนตื่น เราก็ถามว่าเบอร์ใคร แฟนตอบว่า "อ๋อ เบอร์พี่อ้วนน่ะ เค้าจะซื้ออะไหล่รถ" เราก็เชื่อนะ แล้วก็ไปทำงานปกติ
          พอถึงที่ทำงาน เราก็คิดอยู่นานว่าจะโทรหรือไม่โทรดี แต่เอาวะ!! ไหนๆก็ได้เบอร์มาละ แค่โทรไปฟังละกันว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย และแล้วก็ .....
....ตื๊ด......  "ฮัลโหล...ๆ" เสียงจากปลายสายทำไมเป็นผู้หญิงล่ะ ด้วยความตกใจเรารีบตัดสาย โทรกลับไปหาแฟนว่า ไหนบอกเบอร์พี่อ้วน แฟนบอกว่า
"แฟนเขาหรือป่าว โว๊ะ จับผิดอีกและถ้าจับผิดกันแบบนี้อย่าอยู่ด้วยกันดีกว่า แยกกันอยู่สักพักละกัน"  เราว่ามันไม่ใช่ละ เราโทรไปหาผู้หญิงใหม่ เราถามเขาว่าเธอชื่ออะไร ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาว่าเขาชื่อ เมย์(นี่ก็นามสมมุติอีกอ่ะแหระ) ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธ บอกว่าไม่ใช่ ไม่เคยคุยกับแฟนเรา จนเราแกล้งบอกว่าแฟนเราบอกมาหมดแล้ว เธอจึงยอมเล่ากันมา เธอบอกว่าเพิ่งคบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์  พอเรารู้เราก็โทรกลับไปหาแฟน เราอยากฟังคำแก้ตัว เราอยากฟังคำขอโทษ และพูดว่าเราจะไม่ทำอีกแล้ว แต่รู้ไหมว่าคำตอบที่ได้คืออะไร

"บอลรักเขา เข้าใจไหมว่า รักแรกพบ บอลไม่เคยรู้สึกรักใครเท่าเขามาก่อน... บอลขอเลือกเขา "


เข้าใจเลยที่เวลาคนอกหักเขาบอกว่ามันเจ็บที่หัวใจ .. มันเจ็บจริงๆนะ เหมือนมีอะไรมาทิ่มที่หัวใจ มันหายใจไม่ออก แล้วเราก็ตกลงกันไม่ได้ ยิ่งคุยยิ่งทะเลาะ ส่วนผู้หญิงคนนั้นในโทรศัพท์ เขาบอกเราว่าเขามาทีหลังเขาจะไปเอง....
คืนวันนั้น เรากลับไปนอนที่บ้านแม่ตัวเอง คิดว่าพรุ่งนี่ค่อยกลับ เพราะคิดว่าคุยกันวันนี้ก็มีแต่ใช้อารมณ์ หอบลูกสองคนไปนอนด้วย นอนไม่หลับทั้งคืนเลย
พอเช้าเรารีบโทรหาบอลเพราะอยากจะปรับความเข้าใจ เราจะโทรไปง้อ เรานอนกับลูกแล้วเรามองหน้าลูกเรารู้สึกว่าลูกต้องมีพ่อ อาจเป็นเพราะเราไปวุ่นวานกับชีวิตเขามากเกินไปหรือปล่าว เราขี้บ่น จุ้นจ้าน มากไปหรือปล่าว เขาถึงได้เบื่อเราไปหาคนอื่น วันนี้เป็นวันเกิดเราด้วย แต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด
เราเลยตัดสินใจนั่งแทกซี่ไปที่ห้องเช่า เราพูดกับเพื่อนว่า ถ้าเราเข้าไปแล้วเจอมันนอนอยู่ด้วยกัน เราคงใจสลาย เพื่อนบอกว่าไม่หรอกเขาคงไม่ทำขนาดนั้นหรอก ห้องนั้นเสื้อผ้าข้าวของแกก็ยังอยู่ อย่างน้อยก็คงพากันไปที่อื่น แต่แล้วพอถึงคอนโด ด้านล่างเราเห็นรถแฟนจอดอยู่ แสดงว่าอยู่ห้อง เราขึ้นไปบนห้อง และด้วยความที่เรามีกุญแจห้อง เราจึงเปิดเข้าไป ......
          ....แอ๊ดดดดด (เสียงเปิดประตูดังขึ้น) ภาพที่เห็นคือ แฟนเรานอนอยู่บนฟูก แต่... ไม่ได้นอนคนเดียว เราปิดประตูเสียงดัง ทำให้เขาทั้งสองตื่น คือเราเคยพูดนะแบบเจอคลิปเมียหลวงตามไปเจอ เราแบบ ถ้าเป็นเราเราคงตบไม่ยั้ง แต่ตอนนั้นปล่าวเลย เราพูดไม่ออกได้แต่ยืนมอง และเราก็ถามว่า นี่เมย์ใช่ไหม เราบอกว่าออกไปก่อนได้ไหม พี่จะเคลียร์กัน เธอคนนั้นบอกว่า "ได้ค่ะพี่ หนูขอแต่งตัวก่อนนะ" (คือนางเตรียมชุดนอนมานอนด้วย) แต่รู้ไหมว่า เปลลูกเรายังอยู่ในห้อง ของๆเรา เสื้อผ้าเรา เสื้อผ้าลูกทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม เราโมโหนะ แต่นางก็ทำหน้าเศร้าว่า หนูไปเองพี่ หนูมาทีหลังหนูไปเอง คือเราก็ทำอะไรน้องเขาไม่ลง เพราะเราเข้าใจว่า สามีเราก็เลว คือมันเลวกันทั้งคู่ไง อีกอย่างดูน้องเขาก็กลัวๆ เราเลยไม่อยากทำร้ายคนที่ไม่สู้  แล้วน้องเขาก็ออกไป เราเคลียร์กันสักพัก เราอ้อนวอน ขอร้องแฟนให้กลับมาเป็นครอบครัวอะไรที่เราผิด เราจะแก้ไข แต่แฟนก็ยืนยันว่า ไม่ๆ อย่างเดียว คุยกันสักพักเสียงบีบีดังขึ้น เราอยู่ข้างๆแฟน เห็นข้อความนั้นมาจาก น้องเมย์คนนั้น ข้อความมีดังนี้
น้องเมย์ : พี่เขาไปยัง... รออยู่ข้างล่าง
บอล : ยัง
น้องเมย์ : คุยกันไปก่อน... ถ้าพี่เขาไม่ไป เราจะไปแย่งคืนเอง

โอ๊ย....พอเราเห็นข้อความนี้ เราสติหลุดจ้าาา จะลงไปตบน้องเขาให้ได้เลย แฟนเราเลย บีบีไปบอกว่าให้กลับไปก่อน
เราง้อแฟนทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายนางก็ได้แฟนเราไปครอบครอง


          เรากลับไปอยู่บ้านแม่อย่างเป็นทางการ ขนของออกมาทั้งหมดที่เราเป็นคนซื้อ ในเมื่อเรารักกันมาตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย เราสร้างด้วยกันมา ถ้าคุณรักกันจริงคุณก็ต้องสร้างกันมาใหม่ นางจะได้เข้าใจด้วยว่ากว่าจะสร้างคำว่าครอบครัวขึ้นมาได้มันต้องผ่านอะไรบ้าง

         เราเจ็บทุกครั้งที่ลูกคนโต(ตอนนั้นอายุประมาณ 3ขวบ) ถามว่าพ่อไปไหน แม่ร้องไห้ทำไม เดี๋ยวพ่อก็มารับเราแล้ว พอได้ยินลูกถามหรือพูดทำนองนี้เราก็จะโทรง้อแฟนทุกครั้งแต่แล้ว กลับโดนไล่สาปส่งกลับมาว่า จะไปตายที่ไหนก็ไป กูไม่ได้รักแล้ว พอคำนี้แหระเราเลยตัดสินใจที่ว่าเราจะต้องตัดใจจริงๆ ต้องไม่โทรหาเขาอีก แต่ครั้นจะอยู่บ้านเฉยๆก็คงจะฟุ้งซ่านอดโทรไปหาไม่ได้อีก ทุกคืนพอลูกหลับเราจึงออกเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน เราผอมลงไวมาก อาจจะเพราะตรอมใจด้วย และเดิมตอนที่ไม่ท้องก็เป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว พอผอมก็เลยเริ่มกลับมาแต่งตัวดูแลตัวเองให้สวยเหมือนเดิม แล้วก็มีผู้ชายเริ่มมาขายขนมจีบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เที่ยวกลางคืนด้วยกัน เราได้แค่คุยแก้เหงานะ แต่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลย เรายังไม่พร้อมเปิดใจ อีกทั้งเรานึกถึงลูก

        จนมีอยู่คืนนึง เราไปเที่ยวที่ร้านร้านหนึ่งกับรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึง และก็บังเอิญไปเจอกับรุ่นพี่ผู้ชายซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของบอลนั่นเอง และก็เหมือนเช่นทุกคืนเหล่าชายนักเที่ยวมาขายขนมจีบเรา บ้างก็มาเต้นด้วย บ้างก็มานั่งคุย บางคนซื้อดอกกุหลาบมาให้ที่โต๊ะ ด้วยพี่ผู้ชายคงเป็นห่วงแกเลยเดินมาเต้นที่โต๊ะเรามานั่งคุย เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ชายกลางคืนพวกนั้นมายุ่งกับเรา และแล้วเสียงโทรศัพท์เราก็ดังขึ้น เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

....สายเข้า  บอล...   แฟนเราโทรมา โทรมาทำไม มีอะไร เราไม่กล้ารับกลัวใจอ่อนจะไปง้อเขาอีก แต่เขาก็โทรมาไม่หยุดเป็นสิบๆสาย เราก็กดรับสาย

บอล : " อยู่ไหน "
เรา : " ถามทำไม "
บอล : " กุถามว่าอยู่ไหน "
เรา : " อยู่ร้าน  XXX  แถวเกษตรนวมินทร์"
บอล : " ออกมารอกูหน้าร้าน เดี๋ยวกูไปรับ "

คือน่าจะมีคนโทรบอกหรือยังไงไม่รู้ แต่เราไม่อยากให้ตามมาที่ผับ เราอายไม่อยากมีเรื่องเราเลยบอกเราจะกลับแล้ว แล้วแฟนรุ่นพี่เราก็ไปส่ง บอลก็โทรมากอีกเรารับสาย เขาได้ยินเสียงแฟนพี่เรา เขาบอกผู้ชายที่ไหน เราบอกแฟนพี บอลว่าบอลไม่เชื่อ นางบอกว่า

.ให้มันมาส่งหน้าบ้านนะ กูรอยิงมันอยู่ "  ด้วยความที่เรากลัวว่า คนอื่นจะเดือดร้อนด้วยเรื่องที่เขาไม่เกี่ยวด้วย เราเลยให้เขาจอดปากซอยแล้วเราเดินเข้าบ้าน ถึงหน้าบ้าน แฟนเรารออยู่หน้าบ้านจริง แต่เราไม่เห็นปืนนะ น่าจะแค่ขู่มากกว่า พอเห็นน่าเรา เรานึกว่าเราจะโดนกระทืบหรือทำร้าย แต่ปล่าวเลย
นางบอกว่านางรักเรา นางทนไม่ได้ถ้าเราจะไปทำตัวเสียหายแบบนั้น เราก็เถียงนะว่าเราไม่ทำตัวเสียหาย ไม่ได้ไปนอนกับคนอื่นมั่วซั่วเพื่อประชด เราทำอะไรเรานึกถึงลูกตลอด ถ้าจะเสียหายก็มีแค่ไปกินเหล้ากับเพื่อนทุกวันแค่นั้นเอง

นางก็ง้อเราอยู่นาน เราก็ใจอ่อน เราก็บอกว่างั้นก็ให้นางไปบอกเลิกผู้หญิงคนนั้นซะ แต่แฟนเราบอกว่ากำลังหาวิธีบอกเลิกอยู่ให้เรารอ เราก็บ้ารอนะ ระหว่างนั้น น้องเมย์บินไปใต้หวัน (เพื่อไปหาแม่ แม่นางได้สามีใหม่อยู่ที่นั่น) แฟนเราก็มารับเราไปกินข้าว ดูหนังตลอด แต่เวลาน้อเมย์โทรมา เราต้องห้ามส่งเสียง ตัวน้องเมย์เองก็ด้วยความทีแย่งเรามา นางก็ระแวงตลอดว่าแฟนเราจะกลับมาหาเรา แบบเวลาแฟนเราโพสอะไรที่เกี่ยวกับเราในเฟซบ๊ก นางก็จะโทรมาต่อว่าแฟนเรา เราทนสภาพหลบๆซ่อนแบบนั้นได้แค่3 วัน เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ เราเป็นเมียหลวงนะ ทำไมเราต้องมาแอบกินกับสามีของเราเองหรอ
เราเลยตัดสินใจออกมา เราบอกแฟนว่า ถ้าเธอเลิกกับเขาไม่ได้ เราจะไปเอง เรื่องลูกเธอยังเป็นพ่อของลูก เราไม่ปิดกั้นอะไรทั้งนั้น แล้วเราก็ห่างออกมา
แต่นางก็โทรมาทุกวัน เราก็อยากตัดบท เราบอกว่าเรามีแฟนใหม่แล้ว แต่บอลไม่เชื่อบอกว่าเขารู้นิสัยเราว่าเราไม่มีทางไปรักใครได้อีก เราเองอยากตัดให้ขาด เพราะยิ่งถ้าเขามาวนเวียนเราก็จะใจอ่อน เราไปเที่ยวกลางคืนเหมือเช่นเคย และเจอนักร้องคนนึง หล่อมากกกก เราจึงบอกเด็กเสริฟซึ่งก็เป็นรุ่นน้องเราเอง ว่าไปตามนักร้องมาให้หน่อยพี่อยากถ่ายรูป แล้วเราก็ขอเขาถ่ายรูป เรายกมือไหว้พี่เขาที่นึง พี่คะหนูขอให้พี่ถ่ายแบบดูสนิทๆกันได้ไหมคะ เขาก็ยอมถ่ายกับเรา เราเอารูปนั้นไปลงเฟซ เราบอกว่าเป็นแฟนใหม่เรา เพื่อที่จะให้แฟนเราเลิกยุ่งกับเรา แต่ปล่าวเลย บอลโทรมาเหมือนคนบ้า ตอนแรกพูดจาน่าสงสาร แบบ เขาวอทแอพไปตัวเองไม่ตอบอยู่กับแฟนหรอไม่คิดถึงเขาแล้วใช่ไหม เราก็แบบ อืม ใช่  แต่แฟนเรากลับโมโห ขู่ว่าจะสาดน้ำกรดว่าถ้าหน้าเราไม่สวยดูซิคนอื่นจะมารักไหม คือตอนนั้นที่เราง้อเขากลับไล่เราเหมือหมูเหมือนหมาไม่สนใจ แต่ตอนนี้กลับจะมาเรียกร้องอะไร เราเล่นตัวอยู่นาน สุดท้ายนางก็ไปบอกเลิก น้องเมย์คนนั้น และก็มาตามง้อเราทุกอย่าง ทำดีมากกว่าตอนที่จีบกันใหม่ๆซะอีก นางพูดมาคำนึงว่า เขารู้แล้วว่าเขารักเรามากแค่ไหน
สุดท้าย เราเห็นว่าเรื่องแบบนี้ก็เป็นครั้งแรกทีเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา อาจจะเป็นบททดสอบ และถ้าเขาสำนึกแล้วจริงๆ เราก็ควรจะลองให้โอกาสผู้ชายที่เรารัก และพ่อของลูกเราอีกสักครั้ง  เราจึงยอมกลับไปอยู่เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก 4คน สมบูรณ์เหมือนเดิม

          ส่วนน้องเมย์ หลังจากเลิกกับแฟนเรา นางก็ยังไม่เลิกนิสัยเดิมๆ นางมีแฟนใหม่ก็ไปพรากเขามาจากลูกเมียเหมือนเดิม ถามว่าเราโกรธเกลียดไหม โกรธนะเกลียดมากด้วยแบบเจอที่ไหนจะตบที่นั่นเลย ข้อหายิ้มใสซื่อต่อหน้า แต่ลับหลังนี่พร้อมจะทำร้ายกูตลอดเวลา แต่ตอนนี้หรอเราไม่โกรธแล้ว อโหสิให้ ทำไมน่ะหรอ ก็หลังจากที่นางเลิกกับแฟนเราไปได้ปีนึงนางก็ไล่ไปแย่งสามีคนอื่นมาอีก นางก็ท้อง แต่ผู้ชายเขาไม่รับเป็นพ่อ เขากลับไปหาลูกเมียของเขา จึงทำให้นางได้รับกรรม คือต้องเป็นซิงเกิ้ลมัมเลี้ยงลูกคนเดียว เราว่านางคงเข้าใจความรู้สึกที่คนเป็นแม่อยากให้ลูกตัวเองมีพ่อและอยู่กันเป็นครอบครัว แต่นางกลับไม่ได้ความรู้สึกแบบนั้น หวังว่านางจะเอาไปเป็นบทเรียน ไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก

        เรื่องนี้ผ่านมา4ปีแล้ว ปัจจุบันเราอายุ26แล้ว แฟนเราอายุ28แล้ว ไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาอีกเลย มีทะเลาะกันบ้าง แต่เราก็ผ่านมันมาได้เพราะมีบ่วงโซ่หนาๆ คือลูกสองคนของเรานั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่