เมื่อเราได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่เป็นป่าโอโซนแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เราก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บภาพสวยๆ บรรยากาศดีๆ มาอีกสักที่ แต่จะหามุมไหน ถ่ายรูปให้ดูหวานแหววได้หนอ ตามมาอ่านกันเถอะ..
ก่อนอื่น ขอท้าวความนิดหน่อย มี inbox message ในเพจ ทุกที่คือพรีเวดดิ้ง มาเสนอแนะว่า อยากให้บอกเรื่องการปรับกล้อง เช่น ค่า f stop , speed shutter, white balance , บลาๆๆ อันนี้ใจจริงเราอยากทำให้นะ แต่เราว่ามันจะดูยากไป สำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษาการถ่ายภาพในเรื่องพื้นฐานจริงๆอ่ะ แล้วจะดูสับสน ยาก พาลให้เบื่อไปเลย จุดประสงค์หลักของเราคือ อยากให้ทุกคู่ที่เข้ามาดู page นี้ ได้มีแนวคิดเพิ่มเติมในการเก็บภาพสวยๆ แต่ยังเน้นเรื่องอารมณ์และความสนุก ณ ขณะนั้นมากกว่าเทคนิคของตัวกล้องต่างๆ ไม่รู้จะเห็นภาพตรงกันหรือเปล่า แต่เอาเป็นว่า อะไรสำคัญ เราจะใส่ไปให้(ในรูปแบบภาษาพูดแทน) จะลดศัพท์เทคนิคให้น้อยที่สุด สัญญา
หอชมวิว 360'
ป่าในกรุง ในยามเย็นๆ
ป่าในกรุง
สมัยก่อน (จริงๆก็ไม่นานขนาดนั้นหรอก) เวลาจะไปศึกษาธรรมชาติ หาไม้แปลกๆดู ใกล้ กทม. สุด ที่นึกได้ ก็น่าจะเป็น สระบุรี มีเส้นทางเดินป่า เช่น เจ็ดคต โป่งก้อนเส้า อะไรทำนองนั้น แต่เดี๋ยวนี้ ได้มี โครงการ ป่าในกรุง เป็นการเนรมิตต้นไม้นานาพันธุ์มาอยู่ในเมืองกรุงนี้เอง สำหรับ ที่มาที่ไปของ ป่าในกรุง นั้น ไปศึกษากันได้ที่นี่เลย ->
http://www.pttreforestation.com/Edu...
โครงการนี้เปิดมาได้ระยะเวลานึงแล้วหละ เราก็รอให้คนซาๆก่อน จะได้ไม่ต้องเบียดกัน แต่ส่วนตัวแล้วติดใจกับสถานที่นี้นะ เวลามองอะไรเขียวๆกว้างๆอยู่รอบกาย ได้ยินเสียงน้ำไหล แค่นั่งนิ่งๆมองเฉยๆ ก็เพลินแล้ว ไปแล้วก็ยังอยากไปซ้ำ โดยเฉพาะคนที่บ้านอยู่โซน กทม.ตะวันออกนี่ จะใกล้มากเลย แจ่มแมว วันนั้นที่เราไป ก็เจอหลายครอบครัวนะ ที่น่าจะมีบ้านอยู่แถวนั้น พาลูกมาเดินเล่น แล้วป้อนข้าวเย็นไปด้วย ช๊อบชอบ ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆ จะไปทุกวันเลยยยยย
ร่มรื่น ชื่นอารมณ์
ที่ป่าในกรุงนี้ มีจุดที่น่าสนใจมากมาย เรียกว่า มาที่เดียว กว่าจะครบ ก็กินเวลาหลายชั่วโมงเลย หนึ่งในจุดน่าสนใจนั้น คือ sky walk หรือ ทางเดินบนยอดไม้ที่ยาวอยู่กลางเหนือพื้นที่ป่า ซึ่งเวลาเดินข้างบนจะเห็นวิวต้นไม้ และ สายน้ำลำธารด้านล่าง นึกง่ายๆคือ เราจะได้มุมมองแบบนกขณะบินแล้วมองลงมาอ่ะ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง คนกลัวความสูง ก็ค่อยๆเดินระมัดระวัง เกาะรั้วดูวิวไปเรื่อยๆก็คุ้มค่านะ สวยมาก
ทางเดินเหนือยอดไม้
ว่าแล้วเราก็เอามุมนี้แหละ เป็นมุมเก็บรูปที่ระลึกซะเลย ตอนนั้นเป็นช่วงเย็น อาทิตย์กำลังตกพอดี คนก็เริ่มน้อยแล้ว สะพานจึงโล่ง จริงๆจุดนี้ค่อนข้างเป็นกลางทางแล้ว ไม่ค่อยมีคนหยุดดูเท่าไหร่ จะแน่นตรงหอชมวิว 360องศา กับตรงทางขึ้นสะพานซะเป็นส่วนใหญ่ จุดนี้จึงเหมาะเป็นที่ทำการ(ถ่ายภาพของเรา)มาก
ทำไงต่อ
จับแฟนคุณไปยืนบนรั้วด้วยขาข้างที่ถนัด เขย่งเท้าในท่าบัลเล่ต์ พร้อมกางแขนและขาอีกข้าง ยื่นเชิดขึ้นฟ้าไป 45 องศา จะบ้าเร๊อะ! มันดู hardcore เกินไป
เราเน้นที่อารมณ์และความสนุกในช่วงที่คุณเดทกันให้เป็นธรรมชาติ และผ่อนคลายที่สุด เรื่องภาพสวยๆ อันนั้นมันเป็นของแถม อันนี้สำคัญนะ หลายครั้งที่เคยไปเห็นขณะ pre-wedding ในหลายๆคู่ ภาพเบื้องหน้าฉากที่ได้โชว์ในวันงานอ่ะ เลิศหรูอลังการมาก แต่เบื้องหลังนั้น คนหนึ่งเหนื่อย อีกคนก็ร้อน กลางแดดให้ใส่สูท รีบแอ็ค รีบถ่ายให้ทันกับเวลา เถียงกัน คนโน้นจะเอาอย่างโน้น อีกคนทำไม่ได้ เหยียบชายกระโปรง ทำชุดเลอะ ติดโทรศัพท์ ก็งอนกันอีก บลาๆๆ
เราเลยย้ำหลายรอบมากว่า ให้รักษาบรรยากาศในการเดทกับคู่ของคุณให้เป็นหลัก รูปที่ได้หลังจากนั้น ให้เป็นรอง หรือเป็นของแถมอย่างที่บอก อันไหนได้ดังใจก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรายังไปเดทกันได้อีกหลายที่หลายบรรยากาศ บางทีอะไรที่อยู่นอกเหนือความตั้งใจ อาจจะดีก็ได้ อย่าไปยึดติดจนทำให้บรรยากาศเสียไป จริงมั๊ย
อ่ะ เข้าเรื่อง
แนวคิดเรามีตามนี้
• ดูฝั่งซ้ายก่อนนะ เราไหว้วานให้ชายใจดีผู้หนึ่งยืนถ่ายรูปให้คู่เรา โดยยืนอยู่สูงกว่าระดับที่คู่เรายืน เพื่อที่จะได้รูปที่เป็นมุมกด(คือมุมที่กล้องอยู่สูงกว่าเรานั่นแหละ) เพราะอะไร เพราะว่า จุดเด่นของสะพานคือ ความสูง และ ยอดกิ่งก้านใบไม้เขียวขจีด้านล่าง จึงต้องจัดมุมกล้องให้เก็บสะพาน และ ยอดใบไม้ที่อยู่ด้านล่างมาให้ครบ
• และการกดมุมกล้องลง ทำให้จำกัดขอบบริเวณภาพที่จะถ่ายด้วย เนื่องจากถ้าเราหงายกล้องในมุมปรกติ จะทำให้เห็นถนนใหญ่ ที่มีรถวิ่งอยู่ด้านนอกสวน ติดเข้ามาด้วย มันทำให้บรรยากาศภาพสวนป่าไม้เขียวๆ หายไปเยอะเลย
• อันนี้ตรงกับที่มีคนถามมาเรื่อง f stop เอาเป็นว่า อธิบายแบบนี้ดีกว่า หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า หน้าชัดหลังเบลอ โดยเฉพาะรูปนางแบบ หรือ pretty ตามงานโชว์รถต่างๆ ซึ่งจะทำให้นางแบบเด่นขึ้น เนื่องจากไม่มีฉากหลังมาดึงดูดความสนใจ หรือ ฉากหลังที่อยู่ไกลๆ ก็จะเบลอดูไม่รู้เรื่องนั่นเอง ทีนี้จะเอาหลักการนั้นมาใช้ในรูปนี้ได้ยังไง ก็เพราะว่า เรามองด้วยสายตาจริงจากการขึ้นไปยืนบนสะพาน จะรู้สึกว่า สะพานสูงมาก และเวลาเราเก็บเป็นภาพมาฝากคนอื่นๆ ก็อยากให้เค้ารู้สึกว่าสูงเหมือนกันใช่มั๊ย ทีนี้จะทำยังไงให้เห็นว่า สะพานสูงจากยอดไม้มากจริงๆ นั่นก็ถ่ายภาพให้เราชัด สะพานชัด ส่วนต้นไม้ทำให้เบลอๆ เหมือนว่าอยู่ห่างจากสะพานนั่นเอง
• ทำแบบนี้ คือ ดูที่กล้องนะ จะมีเลข f stop อยู่ บางเครื่องจะเป็นเลข 2.8, 4, 5.6, 8, 11, ... ขึ้นอยู่ที่หน้าจอ ลองหาดูดิ๊ ว่าเห็นหรือยัง บางเครื่องที่เลือก mode ได้ ลองเลือกเป็น mode A (คืออะไรช่างมันก่อน) ถ้าเจอ mode A แล้ว ก็จะเลือก ค่า f ตามเลขด้านบนได้เลย ให้เลื่อนไปในค่าที่เลขน้อยที่สุด เท่าที่กล้องมี เท่านั้นแหละ จบ
• ส่วนกล้องที่ไม่มี หรือหาไม่เจอ อาจจะเพราะเลือกเป็น mode Auto หรือ กล้องจัดการให้ ให้หา mode portrait หรือ beauty อะไรก็ตาม ก็จะได้ผลใกล้เคียงกัน เท่านี้ ถ้าเราให้ผู้ช่วยเล็งกล้องที่คู่เรา ต้นไม้ก็จะเบลอแล้วแน่นอนนนน
นึกไม่ออก ดูภาพตามเลย
• ทีนี้เลื่อนมาดูด้านขวานะ ด้านนี้จะเป็นมุมที่มองลงมาจากบนฟ้า ให้ดูว่าสะพานอ่ะ มันมีทางเดินงอเข้ามาทางซ้าย พยายามเลือกมุมกล้องอย่าให้ทางเดินทางซ้ายเข้ามาในรูปนะ(ดูขอบภาพที่เส้นประสีชมพู) เพราะว่าถ้าติดเข้ามาด้วย จะดูรก แทนที่จะทิ้งพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสีเขียวของใบไม้ แล้วมีเราไปยืนเด่นบนสะพานอย่างเดียว ลองดู
• ทีนี้หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมไม่จัดให้คู่เราอยู่กลางภาพ เว้นพื้นที่เขียวๆทางซ้ายโล่งๆไว้เตะตะกร้อหรือเปล่า หรือเพราะเหตุผลอะไร ขอตอบแบบนี้เลยว่า ที่เว้นไว้เนี่ย เราเผื่อไว้ว่า จะเอารูปนี้ไปเป็น wallpaper ใน notebook ด้วย เวลาที่ icon ของ program ลอยอยู่ในหน้า desktop ทางด้านซ้ายๆ จะได้ไม่บังรูปเราไง ดังเช่นสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า ถึงเส้นผมจะบังเขา แต่รักเราไม่บังเอิญ (เกี่ยวมั๊ย) นั่นแหละ หรือใครจะเอาไปเว้นที่ว่าง ไว้ใส่คำคม แบบแนว hipster ก็ทำแบบนี้ได้
• แต่ใครจะจัดคู่คุณไว้กลางภาพเป๊ะเลยก็ได้นะ ลองดู ว่าชอบแบบไหน ศิลปะมัน ไม่ผิด อยู่แล้ว
ความรู้ในโลก ไม่มีจบสิ้น... ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ ก็ shared กันให้เพื่อนรู้ด้วยดิ่
รออะไรล่ะ ไปถ่ายรูปกัน…
ได้รูปที่โดนใจ แล้วเอามาอวดกันด้วยล่ะ รอดูอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล. ติดขัดอะไร ลองทำแล้วไม่ได้ หรือไม่ถูกใจ สอบถามกันเข้ามาได้เลย #อยากตอบ หรือ ติดตามเทคนิคการถ่ายพรีเวดดิ้งง่ายๆด้วยตัวเอง ในสถานที่อื่นๆต่อ กด like ได้ที่ ทุกที่คือพรีเวดดิ้ง เลยยยย...
https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87/%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%99/1761734337383883
ท้ายสุดอยากทิ้งท้ายว่า อยากแข็งแรงให้ไปวิ่ง อยาก pre-wedding ให้มานี่ นะจ๊ะ
จะชวนไปถ่ายรูปหวานๆ ที่ป่าในกรุง ปรุงโอโซน
ก่อนอื่น ขอท้าวความนิดหน่อย มี inbox message ในเพจ ทุกที่คือพรีเวดดิ้ง มาเสนอแนะว่า อยากให้บอกเรื่องการปรับกล้อง เช่น ค่า f stop , speed shutter, white balance , บลาๆๆ อันนี้ใจจริงเราอยากทำให้นะ แต่เราว่ามันจะดูยากไป สำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษาการถ่ายภาพในเรื่องพื้นฐานจริงๆอ่ะ แล้วจะดูสับสน ยาก พาลให้เบื่อไปเลย จุดประสงค์หลักของเราคือ อยากให้ทุกคู่ที่เข้ามาดู page นี้ ได้มีแนวคิดเพิ่มเติมในการเก็บภาพสวยๆ แต่ยังเน้นเรื่องอารมณ์และความสนุก ณ ขณะนั้นมากกว่าเทคนิคของตัวกล้องต่างๆ ไม่รู้จะเห็นภาพตรงกันหรือเปล่า แต่เอาเป็นว่า อะไรสำคัญ เราจะใส่ไปให้(ในรูปแบบภาษาพูดแทน) จะลดศัพท์เทคนิคให้น้อยที่สุด สัญญา
สมัยก่อน (จริงๆก็ไม่นานขนาดนั้นหรอก) เวลาจะไปศึกษาธรรมชาติ หาไม้แปลกๆดู ใกล้ กทม. สุด ที่นึกได้ ก็น่าจะเป็น สระบุรี มีเส้นทางเดินป่า เช่น เจ็ดคต โป่งก้อนเส้า อะไรทำนองนั้น แต่เดี๋ยวนี้ ได้มี โครงการ ป่าในกรุง เป็นการเนรมิตต้นไม้นานาพันธุ์มาอยู่ในเมืองกรุงนี้เอง สำหรับ ที่มาที่ไปของ ป่าในกรุง นั้น ไปศึกษากันได้ที่นี่เลย -> http://www.pttreforestation.com/Edu...
โครงการนี้เปิดมาได้ระยะเวลานึงแล้วหละ เราก็รอให้คนซาๆก่อน จะได้ไม่ต้องเบียดกัน แต่ส่วนตัวแล้วติดใจกับสถานที่นี้นะ เวลามองอะไรเขียวๆกว้างๆอยู่รอบกาย ได้ยินเสียงน้ำไหล แค่นั่งนิ่งๆมองเฉยๆ ก็เพลินแล้ว ไปแล้วก็ยังอยากไปซ้ำ โดยเฉพาะคนที่บ้านอยู่โซน กทม.ตะวันออกนี่ จะใกล้มากเลย แจ่มแมว วันนั้นที่เราไป ก็เจอหลายครอบครัวนะ ที่น่าจะมีบ้านอยู่แถวนั้น พาลูกมาเดินเล่น แล้วป้อนข้าวเย็นไปด้วย ช๊อบชอบ ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆ จะไปทุกวันเลยยยยย
ที่ป่าในกรุงนี้ มีจุดที่น่าสนใจมากมาย เรียกว่า มาที่เดียว กว่าจะครบ ก็กินเวลาหลายชั่วโมงเลย หนึ่งในจุดน่าสนใจนั้น คือ sky walk หรือ ทางเดินบนยอดไม้ที่ยาวอยู่กลางเหนือพื้นที่ป่า ซึ่งเวลาเดินข้างบนจะเห็นวิวต้นไม้ และ สายน้ำลำธารด้านล่าง นึกง่ายๆคือ เราจะได้มุมมองแบบนกขณะบินแล้วมองลงมาอ่ะ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง คนกลัวความสูง ก็ค่อยๆเดินระมัดระวัง เกาะรั้วดูวิวไปเรื่อยๆก็คุ้มค่านะ สวยมาก
ว่าแล้วเราก็เอามุมนี้แหละ เป็นมุมเก็บรูปที่ระลึกซะเลย ตอนนั้นเป็นช่วงเย็น อาทิตย์กำลังตกพอดี คนก็เริ่มน้อยแล้ว สะพานจึงโล่ง จริงๆจุดนี้ค่อนข้างเป็นกลางทางแล้ว ไม่ค่อยมีคนหยุดดูเท่าไหร่ จะแน่นตรงหอชมวิว 360องศา กับตรงทางขึ้นสะพานซะเป็นส่วนใหญ่ จุดนี้จึงเหมาะเป็นที่ทำการ(ถ่ายภาพของเรา)มาก
ทำไงต่อ
จับแฟนคุณไปยืนบนรั้วด้วยขาข้างที่ถนัด เขย่งเท้าในท่าบัลเล่ต์ พร้อมกางแขนและขาอีกข้าง ยื่นเชิดขึ้นฟ้าไป 45 องศา จะบ้าเร๊อะ! มันดู hardcore เกินไป
เราเน้นที่อารมณ์และความสนุกในช่วงที่คุณเดทกันให้เป็นธรรมชาติ และผ่อนคลายที่สุด เรื่องภาพสวยๆ อันนั้นมันเป็นของแถม อันนี้สำคัญนะ หลายครั้งที่เคยไปเห็นขณะ pre-wedding ในหลายๆคู่ ภาพเบื้องหน้าฉากที่ได้โชว์ในวันงานอ่ะ เลิศหรูอลังการมาก แต่เบื้องหลังนั้น คนหนึ่งเหนื่อย อีกคนก็ร้อน กลางแดดให้ใส่สูท รีบแอ็ค รีบถ่ายให้ทันกับเวลา เถียงกัน คนโน้นจะเอาอย่างโน้น อีกคนทำไม่ได้ เหยียบชายกระโปรง ทำชุดเลอะ ติดโทรศัพท์ ก็งอนกันอีก บลาๆๆ
เราเลยย้ำหลายรอบมากว่า ให้รักษาบรรยากาศในการเดทกับคู่ของคุณให้เป็นหลัก รูปที่ได้หลังจากนั้น ให้เป็นรอง หรือเป็นของแถมอย่างที่บอก อันไหนได้ดังใจก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรายังไปเดทกันได้อีกหลายที่หลายบรรยากาศ บางทีอะไรที่อยู่นอกเหนือความตั้งใจ อาจจะดีก็ได้ อย่าไปยึดติดจนทำให้บรรยากาศเสียไป จริงมั๊ย
อ่ะ เข้าเรื่อง
แนวคิดเรามีตามนี้
• ดูฝั่งซ้ายก่อนนะ เราไหว้วานให้ชายใจดีผู้หนึ่งยืนถ่ายรูปให้คู่เรา โดยยืนอยู่สูงกว่าระดับที่คู่เรายืน เพื่อที่จะได้รูปที่เป็นมุมกด(คือมุมที่กล้องอยู่สูงกว่าเรานั่นแหละ) เพราะอะไร เพราะว่า จุดเด่นของสะพานคือ ความสูง และ ยอดกิ่งก้านใบไม้เขียวขจีด้านล่าง จึงต้องจัดมุมกล้องให้เก็บสะพาน และ ยอดใบไม้ที่อยู่ด้านล่างมาให้ครบ
• และการกดมุมกล้องลง ทำให้จำกัดขอบบริเวณภาพที่จะถ่ายด้วย เนื่องจากถ้าเราหงายกล้องในมุมปรกติ จะทำให้เห็นถนนใหญ่ ที่มีรถวิ่งอยู่ด้านนอกสวน ติดเข้ามาด้วย มันทำให้บรรยากาศภาพสวนป่าไม้เขียวๆ หายไปเยอะเลย
• อันนี้ตรงกับที่มีคนถามมาเรื่อง f stop เอาเป็นว่า อธิบายแบบนี้ดีกว่า หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า หน้าชัดหลังเบลอ โดยเฉพาะรูปนางแบบ หรือ pretty ตามงานโชว์รถต่างๆ ซึ่งจะทำให้นางแบบเด่นขึ้น เนื่องจากไม่มีฉากหลังมาดึงดูดความสนใจ หรือ ฉากหลังที่อยู่ไกลๆ ก็จะเบลอดูไม่รู้เรื่องนั่นเอง ทีนี้จะเอาหลักการนั้นมาใช้ในรูปนี้ได้ยังไง ก็เพราะว่า เรามองด้วยสายตาจริงจากการขึ้นไปยืนบนสะพาน จะรู้สึกว่า สะพานสูงมาก และเวลาเราเก็บเป็นภาพมาฝากคนอื่นๆ ก็อยากให้เค้ารู้สึกว่าสูงเหมือนกันใช่มั๊ย ทีนี้จะทำยังไงให้เห็นว่า สะพานสูงจากยอดไม้มากจริงๆ นั่นก็ถ่ายภาพให้เราชัด สะพานชัด ส่วนต้นไม้ทำให้เบลอๆ เหมือนว่าอยู่ห่างจากสะพานนั่นเอง
• ทำแบบนี้ คือ ดูที่กล้องนะ จะมีเลข f stop อยู่ บางเครื่องจะเป็นเลข 2.8, 4, 5.6, 8, 11, ... ขึ้นอยู่ที่หน้าจอ ลองหาดูดิ๊ ว่าเห็นหรือยัง บางเครื่องที่เลือก mode ได้ ลองเลือกเป็น mode A (คืออะไรช่างมันก่อน) ถ้าเจอ mode A แล้ว ก็จะเลือก ค่า f ตามเลขด้านบนได้เลย ให้เลื่อนไปในค่าที่เลขน้อยที่สุด เท่าที่กล้องมี เท่านั้นแหละ จบ
• ส่วนกล้องที่ไม่มี หรือหาไม่เจอ อาจจะเพราะเลือกเป็น mode Auto หรือ กล้องจัดการให้ ให้หา mode portrait หรือ beauty อะไรก็ตาม ก็จะได้ผลใกล้เคียงกัน เท่านี้ ถ้าเราให้ผู้ช่วยเล็งกล้องที่คู่เรา ต้นไม้ก็จะเบลอแล้วแน่นอนนนน
• ทีนี้เลื่อนมาดูด้านขวานะ ด้านนี้จะเป็นมุมที่มองลงมาจากบนฟ้า ให้ดูว่าสะพานอ่ะ มันมีทางเดินงอเข้ามาทางซ้าย พยายามเลือกมุมกล้องอย่าให้ทางเดินทางซ้ายเข้ามาในรูปนะ(ดูขอบภาพที่เส้นประสีชมพู) เพราะว่าถ้าติดเข้ามาด้วย จะดูรก แทนที่จะทิ้งพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสีเขียวของใบไม้ แล้วมีเราไปยืนเด่นบนสะพานอย่างเดียว ลองดู
• ทีนี้หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมไม่จัดให้คู่เราอยู่กลางภาพ เว้นพื้นที่เขียวๆทางซ้ายโล่งๆไว้เตะตะกร้อหรือเปล่า หรือเพราะเหตุผลอะไร ขอตอบแบบนี้เลยว่า ที่เว้นไว้เนี่ย เราเผื่อไว้ว่า จะเอารูปนี้ไปเป็น wallpaper ใน notebook ด้วย เวลาที่ icon ของ program ลอยอยู่ในหน้า desktop ทางด้านซ้ายๆ จะได้ไม่บังรูปเราไง ดังเช่นสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า ถึงเส้นผมจะบังเขา แต่รักเราไม่บังเอิญ (เกี่ยวมั๊ย) นั่นแหละ หรือใครจะเอาไปเว้นที่ว่าง ไว้ใส่คำคม แบบแนว hipster ก็ทำแบบนี้ได้
• แต่ใครจะจัดคู่คุณไว้กลางภาพเป๊ะเลยก็ได้นะ ลองดู ว่าชอบแบบไหน ศิลปะมัน ไม่ผิด อยู่แล้ว
รออะไรล่ะ ไปถ่ายรูปกัน…
ได้รูปที่โดนใจ แล้วเอามาอวดกันด้วยล่ะ รอดูอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท้ายสุดอยากทิ้งท้ายว่า อยากแข็งแรงให้ไปวิ่ง อยาก pre-wedding ให้มานี่ นะจ๊ะ