สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้จะมารีวิวสายการบิน Etihad แบบตั๋ว Multi-city นะครับเผื่อใครมีแผนเดินทางจะได้เตรียมตัว+เตรียมใจถูก ฮ่าๆ
รีวิวก่อนหน้า
Vietnam Airline ไป ญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/35040167/comment14
ในกระทู้นี้ของแบ่งเป็นหมวดๆนะครับเพราะการไปด้วยตั๋วแบบ Multi-city รายละเอียดจะเยอะมาก
จะได้อ่านง่ายๆ
1.รู้จักกับสายการบิน Etihad
2.ก่อนออกเดินทาง
3.ทำไมต้องซื้อ ตั๋วเครื่องบินแบบ Multi-city
4.ออกเดินทาง เส้นทาง BKK-HKG-AUH-FRA ขาไป
เส้นทาง MXP-AUH-BKK ขากลับ
5.ว่าด้วยเรื่องของการสะสมไมล์
เริ่มต้นพาไปรู้จักกับสายการบิน Etihad
สำหรับสายการบิน Etihad เป็นสายการบินประจำชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสนามบินหลักที่ Abu dhabi ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ มีรูทการเดินทางมากมาย ซึ่งต้องเดินทางมาต่อที่สนามบินนี้ โดยในปัจจุบัน สายการบินส่วนใหญ่ แถวนี้ ทั้ง Etihad Emirate Qatar ได้กลายเป็น HUB ของการบินโลกไปเรียบร้อย สาเหตุหลักๆก็มาจาก คุณภาพการบริการ สภาพเครื่อง และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป(เทียบกับคุณภาพ) ครับ
ก่อนออกเดินทาง
ข้อดี/ข้อเสีย จากคนรีวิว
ก่อนออกเดินทางก็ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลของสายการบินในเพื่อเปรียบเทียบว่าที่เค้ารีวิวกันจริงหรือเปล่าดซึ่งผมพบว่าสายการบินค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของการบริการ กระเป๋าเสียหาย หรือ สูญหาย รวมไปถึงการดีเลย์ อยู่เป็นประจำ ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสียหลักๆของสายการบินนี้ ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมใน facebook ของ Etihad ได้ครับ มีคนมา compliant ทุกวันครับ ฮ่าๆ
https://www.facebook.com/etihad.airways/?fref=ts
ส่วนผมจะเสียหายหรือเปล่าติดตามไปเรื่อยๆครับ ในส่วนข้อดีส่วนใหญ่จะเป็นพวกบริการและสภาพเครื่องครับ
แนะนำการจัดกระเป๋านิดนึงนะครับ
ของใช้จำเป็นอย่าโหลดลงใต้ท้องครับ ถ้าไปถึง อาบูดาบี จะรู้ว่าสนามบินวุ่นวายมาก จุดนี้เองที่ทำให้คนกระเป๋าหายเยอะๆ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเราก็จะได้มีของจำเป็นใช้ที่ปลายทางครับ อย่างกรณีผม ผมเตรียม เสื้อผ้า 1 ชุด + ของใช้ไว้ เผื่อเกิดปัญหาครับ
การ Check-in
สายการบินจะเปิดให้ Check-in ก่อน 30 ชม.ก่อนบินครับ ใครอยากนั่งตรงไหนก็เลือกกันไปครับ โดยสามารถทำได้ทั้งทางหน้าเวบ (แนะนำ) หรือผ่าน app ซึ่งจะมีแค่ IOS นะครับ
ทำไมต้องซื้อ ตั๋วเครื่องบินแบบ Multi-city
หลายคนอาจจะสงสัยว่าตั๋วแบบ Multi-city คืออะไร ตั๋วแบบ Multi-city คือตั๋วที่เราไปกลับคนละสนามบินกันครับ ซึ่งปลายทางจะเป็นสนามบินเดียวกันหรือคนละสนามบินก็ได้ เช่น ที่ผมไปมาคือ ขาไป ฮ่องกง-แฟรงค์เฟริต ขากลับ มิลาน-กรุงเทพ ซึ่งหลายคนคงมีคำถามว่า จองแบบนี้ไปทำไม ดูเส้นทางแล้วก็ประหลาดแบบสุดๆ สาเหตุสำคัญ คือราคาครับ เพราะในบางครั้งสายการบินจะนำเส้นทางที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อย มาผสมเพื่อให้ออกมาเป็นตั๋วราคาถูกครับ แต่ก็ต้องแลกด้วยการไปขึ้น หรือ กลับ ในประเทศอื่น หรือเมืองอื่นที่เราไม่ได้ตั้งใจจะไปครับ
ข้อดี
1.ได้ตั๋วราคาถูก ถึงถูกมาก
2.ได้ไปเที่ยวเพิ่มอีกเมือง เหมือนไป 2 ทริปในการเดินทางครั้งเดียว
ข้อเสีย
1. เมืองที่ต้องไปขึ้นเราอาจจะไม่อยากไป
2.ต้องทำวีซ่า เพื่อเข้าเมืองก่อน (มาเอากระเป๋าที่โหลด) หรือ ถ้าฟรีวีซ่า ก็ต้องเข้าเมืองเพื่อมาเอากระเป๋า
3.ถ้าวางแผนจะต่อเครื่องเลยต้องรอนาน เพราะเวลาต่อเครื่องสวยๆแบบ 2-3 ชม.เป็นไปได้ยาก เพราะตั๋วแบบนี้ บินคนละสายการบิน ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
4.เสี่ยงต่อการตกเครื่อง ถ้าไฟล์ทที่ไปเมืองแรก ดีเลย์เยอะๆ
หลังจากอ่านข้อดี-ข้อเสีย อาจจะเห็นว่า ข้อเสียเยอะ ยาวเป็นหางว่าว แต่จริงๆแล้ว ข้อเสียส่วนใหญ่ เป็นข้อเสียที่ ถ้าเราวางแผนดีๆ จะไม่เป็นข้อเสียสักเท่าไหร่ครับ ดังนี้ คือ พยายามดูประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าครับ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และวางแผนต่อเครื่องให้นานหน่อย ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายตอนเดินทางครับว่าควรเผื่อสักเท่าไหร่ ซึ่งต้องอย่าลืมครับว่า เป้าหมายหลักคือ ตั๋วถูก นั่นเอง
เริ่มต้นเดินทาง
ไฟลท์ 1 DMK-HKG
ไฟลท์แรกไปยัง ฮ่องกงเพื่อต่อเครื่องเข้าโปรแบบ Multi-city ครับ เพื่อให้เข้าแนวคิด ตั๋วถูกสุดๆ แบบ multi-city เราก็ต้องเดินทางด้วยตั๋วไม่แพง ซึ่งก็หนีไม่พ้น หางแดงเจ้าเดิมครับ ขอไม่รีวิวเยอะนะครับ เพราะน่าจะหาอ่านได้เพียบอยู่แล้ว ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดผมจะสรุปไว้ตอนท้ายนะครับ
ออกเดินทางครับผมไฟลท์เช้าตรู่เลย
บินไปกับหางแดง
ถึงแล้วครับฮ่องกง เวลาประมาณ สิบโมงนิดๆครับ
ข้อแนะนำสำหรับการจองไฟลท์นี้คือ
1.เวลาเดินทางออกของตั๋ว multi-city ซึ่งในกรณีนี้ผมเดินทางออกไฟลท์ ของ Etihad ของผมออกตอน 18.55 ซึ่งหมายถึงผมต้องมาถึงตอนเช้า หรือ ถ้าจะเที่ยวฮ่องกงด้วยอาจจะต้อง มาก่อน 1-2 คืน
2.เผื่อเวลาต่อเครื่องเยอะๆ เพื่อกันการดีเลย์ ในกรณีนี้ผมมาไฟลท์เช้าสุดของ หางแดงเลยครับ มาถึงประมาณ 10.00
สรุปแผนการเดินทางของผมนะครับ
หางแดงไฟลท์ เช้า ถึง 10.00 เอากระเป๋า เดินทางเข้าเมืองด้วย AE แบบ one-day return ticket (ราคาเท่าตั๋ว one way แต่ต้องเดินทางกลับในวันเดียวกัน) ไปถึง 11.30 สถานีเกาลูน เช็คอิน+โหลดกระเป๋า (ทำให้เราไม่ต้องไปฝากกระเป๋าใบใหญ่ๆ) สถานีเกาลูน ทานข้าวเที่ยว เที่ยวเมืองแบบสบายๆ เดินทางไปสนามบินด้วย AE ตอนประมาณ 17.00
นั่ง Airport Express เข้าเมือง ไปและกลับ ครับ มีปลั๊กชาร์จเติมพลังให้มือถือได้ครับ
ไฟลท์ 2 HKG-AUH-FRA
เมื่อมาถึงสนามบินแล้ว ก็ผ่าน ตม. ขาออกเลยครับ เพราะกระเป๋า+ตั๋ว เราได้มาจากที่ เกาลูนแล้ว สนามบินที่ฮ่องกงจะค่อนข้างใหญ่ก็ต้องนั่งรถไฟต่อไปตาม terminal ที่ระบุในตั๋ว แต่แนะนำให้เช็คที่หน้าจอก่อนอีกทีนะครับเพราะบางทีก็เปลี่ยน
สำหรับผู้ถือบัตร Priority pass ก็สามารถไปนั่งรอใน Lounge ได้ครับ โดยเลือกเข้าตำแหน่งที่ใกล้ๆ เกตนะครับจะได้มีเวลาเยอะๆ ซึ่งผมเลือกไปเข้าทาง Terminal 1 West Hall ครับ
ส่วนต้อนรับด้านหน้าครับ
อาหารค่อยข้างหลากหลายครับ มีทั้งก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงพวกข้าวด้วย
ทาร์ตไข่ครับ อร่อยดี ใครเข้าแนะนำครับ มีอีกรส เป็นแอปเปิ้ลครับ ไม่ได้ถ่ายมา
ที่นั่งภายในครับ
บริเวณที่นั่งสามารถมองไปเห็นเครื่องบินได้ครับ
ออกจากเลาจ์แล้วครับ ไปขึ้นเครื่องกันเลย
เที่ยวแรกจาก HKG-AUH เป็น A330-300 ครับ เครื่องไม่เก่ามากครับ
เบาะที่นั่งจัดแบบ 2-4-2 ครับ
ผ้าห่ม หูฟัง หมอน ส่วนผ้าปิดตา ถุงเท้า ขอเพิ่มได้ครับ
ที่นั่งกว้างครับ มาตรฐาน สายการบิน full-service เดินทางระยะไกล
เครื่องขึ้นแล้วก็เสริฟน้ำก่อนครับ
อาหารมื้อแรกครับ ผมสั่ง Seafood ไปแต่ลืมถ่านทานหมดครับ อันนี้ของคนข้างๆ
นอนไปยาวๆครับ ไฟลท์ 8 ชม. ก่อนลงซัก 2 ชม. ก็จะแจกของว่างครับ เป็นพายทูน่าครับ
เครื่องลงแล้วครับ ถึง อาบูดาบี โดยสวัสดิภาพ เป็นบัสเกตครับ
มีเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชม. ลงเสร็จก็มองหา Lounge เลยครับ ใช้บัตร Priority pass เช่นเดิม
สภาพ lounge ครับ คนเยอะมาก แน่นไม่มีที่นั่งครับ ขนาด lounge ค่อนข้างเล็กครับแต่แต่งสวยครับ
ไลน์อาหาร จะหลากหลายครับ ทั้งขนมปัง ข้าว แกง รสชาติพอใช้ได้ครับ
อิ่มแล้วก็บินต่อครับ AUH-FRA
บัสเกตเช่นเคย สาเหตุหนึ่ง ที่กระเป๋าหายกันเยอะเพราะสนามบินที่นี่อึดอัดมากครับ เพราะขยายจนไม่รู้จะขยายยังไงแล้ว เที่ยวบินก็มีจำนวนมาก ซึ่งทางสนามบินก็กำลังสร้าง Terminal ใหม่อยู่ครับใหญ่โตมาก คาดว่ามื่อเสร็จปัญหาเรื่องกระเป๋าน่าจะหมดไปครับ
ขึ้นแล้ว เครื่องเป็นแบบเดิมครับ A330-300 แบ่งที่นั่งแบบเดิมเช่นกัน 2-4-2
เริ่มต้นด้วยของว่างครับ ไฟลท์นี้จะเสริฟ์อาหารเช้าครับ
ในถุงครับ แก้ท้องว่างไปก่อน
เมนูอาหารครับ
ผมสั่ง Seafood ไว้ล่วงหน้าครับ เป็นอาหารเช้ามี Hash brown ปลาทอด กับไข่ครับ
ถึงแล้วครับ แฟรงก์เฟริต์ จบการเดินทางขามาครับ
ขอต่ออีก อันนะครับยาวเกินแล้ว ฮ่าๆ
[CR] ** R E V I E W ตั๋วถูกสุดๆแบบ multi-city [ Etihad Airways BKK-HKG-AUH-FRA และ MXP-AUH-BKK ] แถมรีวิว Lounge **
รีวิวก่อนหน้า
Vietnam Airline ไป ญี่ปุ่น http://ppantip.com/topic/35040167/comment14
ในกระทู้นี้ของแบ่งเป็นหมวดๆนะครับเพราะการไปด้วยตั๋วแบบ Multi-city รายละเอียดจะเยอะมาก
จะได้อ่านง่ายๆ
1.รู้จักกับสายการบิน Etihad
2.ก่อนออกเดินทาง
3.ทำไมต้องซื้อ ตั๋วเครื่องบินแบบ Multi-city
4.ออกเดินทาง เส้นทาง BKK-HKG-AUH-FRA ขาไป
เส้นทาง MXP-AUH-BKK ขากลับ
5.ว่าด้วยเรื่องของการสะสมไมล์
เริ่มต้นพาไปรู้จักกับสายการบิน Etihad
สำหรับสายการบิน Etihad เป็นสายการบินประจำชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสนามบินหลักที่ Abu dhabi ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ มีรูทการเดินทางมากมาย ซึ่งต้องเดินทางมาต่อที่สนามบินนี้ โดยในปัจจุบัน สายการบินส่วนใหญ่ แถวนี้ ทั้ง Etihad Emirate Qatar ได้กลายเป็น HUB ของการบินโลกไปเรียบร้อย สาเหตุหลักๆก็มาจาก คุณภาพการบริการ สภาพเครื่อง และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป(เทียบกับคุณภาพ) ครับ
ก่อนออกเดินทาง
ข้อดี/ข้อเสีย จากคนรีวิว
ก่อนออกเดินทางก็ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลของสายการบินในเพื่อเปรียบเทียบว่าที่เค้ารีวิวกันจริงหรือเปล่าดซึ่งผมพบว่าสายการบินค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของการบริการ กระเป๋าเสียหาย หรือ สูญหาย รวมไปถึงการดีเลย์ อยู่เป็นประจำ ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสียหลักๆของสายการบินนี้ ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมใน facebook ของ Etihad ได้ครับ มีคนมา compliant ทุกวันครับ ฮ่าๆ https://www.facebook.com/etihad.airways/?fref=ts
ส่วนผมจะเสียหายหรือเปล่าติดตามไปเรื่อยๆครับ ในส่วนข้อดีส่วนใหญ่จะเป็นพวกบริการและสภาพเครื่องครับ
แนะนำการจัดกระเป๋านิดนึงนะครับ
ของใช้จำเป็นอย่าโหลดลงใต้ท้องครับ ถ้าไปถึง อาบูดาบี จะรู้ว่าสนามบินวุ่นวายมาก จุดนี้เองที่ทำให้คนกระเป๋าหายเยอะๆ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเราก็จะได้มีของจำเป็นใช้ที่ปลายทางครับ อย่างกรณีผม ผมเตรียม เสื้อผ้า 1 ชุด + ของใช้ไว้ เผื่อเกิดปัญหาครับ
การ Check-in
สายการบินจะเปิดให้ Check-in ก่อน 30 ชม.ก่อนบินครับ ใครอยากนั่งตรงไหนก็เลือกกันไปครับ โดยสามารถทำได้ทั้งทางหน้าเวบ (แนะนำ) หรือผ่าน app ซึ่งจะมีแค่ IOS นะครับ
ทำไมต้องซื้อ ตั๋วเครื่องบินแบบ Multi-city
หลายคนอาจจะสงสัยว่าตั๋วแบบ Multi-city คืออะไร ตั๋วแบบ Multi-city คือตั๋วที่เราไปกลับคนละสนามบินกันครับ ซึ่งปลายทางจะเป็นสนามบินเดียวกันหรือคนละสนามบินก็ได้ เช่น ที่ผมไปมาคือ ขาไป ฮ่องกง-แฟรงค์เฟริต ขากลับ มิลาน-กรุงเทพ ซึ่งหลายคนคงมีคำถามว่า จองแบบนี้ไปทำไม ดูเส้นทางแล้วก็ประหลาดแบบสุดๆ สาเหตุสำคัญ คือราคาครับ เพราะในบางครั้งสายการบินจะนำเส้นทางที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อย มาผสมเพื่อให้ออกมาเป็นตั๋วราคาถูกครับ แต่ก็ต้องแลกด้วยการไปขึ้น หรือ กลับ ในประเทศอื่น หรือเมืองอื่นที่เราไม่ได้ตั้งใจจะไปครับ
ข้อดี
1.ได้ตั๋วราคาถูก ถึงถูกมาก
2.ได้ไปเที่ยวเพิ่มอีกเมือง เหมือนไป 2 ทริปในการเดินทางครั้งเดียว
ข้อเสีย
1. เมืองที่ต้องไปขึ้นเราอาจจะไม่อยากไป
2.ต้องทำวีซ่า เพื่อเข้าเมืองก่อน (มาเอากระเป๋าที่โหลด) หรือ ถ้าฟรีวีซ่า ก็ต้องเข้าเมืองเพื่อมาเอากระเป๋า
3.ถ้าวางแผนจะต่อเครื่องเลยต้องรอนาน เพราะเวลาต่อเครื่องสวยๆแบบ 2-3 ชม.เป็นไปได้ยาก เพราะตั๋วแบบนี้ บินคนละสายการบิน ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
4.เสี่ยงต่อการตกเครื่อง ถ้าไฟล์ทที่ไปเมืองแรก ดีเลย์เยอะๆ
หลังจากอ่านข้อดี-ข้อเสีย อาจจะเห็นว่า ข้อเสียเยอะ ยาวเป็นหางว่าว แต่จริงๆแล้ว ข้อเสียส่วนใหญ่ เป็นข้อเสียที่ ถ้าเราวางแผนดีๆ จะไม่เป็นข้อเสียสักเท่าไหร่ครับ ดังนี้ คือ พยายามดูประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าครับ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และวางแผนต่อเครื่องให้นานหน่อย ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายตอนเดินทางครับว่าควรเผื่อสักเท่าไหร่ ซึ่งต้องอย่าลืมครับว่า เป้าหมายหลักคือ ตั๋วถูก นั่นเอง
เริ่มต้นเดินทาง
ไฟลท์ 1 DMK-HKG
ไฟลท์แรกไปยัง ฮ่องกงเพื่อต่อเครื่องเข้าโปรแบบ Multi-city ครับ เพื่อให้เข้าแนวคิด ตั๋วถูกสุดๆ แบบ multi-city เราก็ต้องเดินทางด้วยตั๋วไม่แพง ซึ่งก็หนีไม่พ้น หางแดงเจ้าเดิมครับ ขอไม่รีวิวเยอะนะครับ เพราะน่าจะหาอ่านได้เพียบอยู่แล้ว ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดผมจะสรุปไว้ตอนท้ายนะครับ
ออกเดินทางครับผมไฟลท์เช้าตรู่เลย
บินไปกับหางแดง
ถึงแล้วครับฮ่องกง เวลาประมาณ สิบโมงนิดๆครับ
ข้อแนะนำสำหรับการจองไฟลท์นี้คือ
1.เวลาเดินทางออกของตั๋ว multi-city ซึ่งในกรณีนี้ผมเดินทางออกไฟลท์ ของ Etihad ของผมออกตอน 18.55 ซึ่งหมายถึงผมต้องมาถึงตอนเช้า หรือ ถ้าจะเที่ยวฮ่องกงด้วยอาจจะต้อง มาก่อน 1-2 คืน
2.เผื่อเวลาต่อเครื่องเยอะๆ เพื่อกันการดีเลย์ ในกรณีนี้ผมมาไฟลท์เช้าสุดของ หางแดงเลยครับ มาถึงประมาณ 10.00
สรุปแผนการเดินทางของผมนะครับ
หางแดงไฟลท์ เช้า ถึง 10.00 เอากระเป๋า เดินทางเข้าเมืองด้วย AE แบบ one-day return ticket (ราคาเท่าตั๋ว one way แต่ต้องเดินทางกลับในวันเดียวกัน) ไปถึง 11.30 สถานีเกาลูน เช็คอิน+โหลดกระเป๋า (ทำให้เราไม่ต้องไปฝากกระเป๋าใบใหญ่ๆ) สถานีเกาลูน ทานข้าวเที่ยว เที่ยวเมืองแบบสบายๆ เดินทางไปสนามบินด้วย AE ตอนประมาณ 17.00
นั่ง Airport Express เข้าเมือง ไปและกลับ ครับ มีปลั๊กชาร์จเติมพลังให้มือถือได้ครับ
ไฟลท์ 2 HKG-AUH-FRA
เมื่อมาถึงสนามบินแล้ว ก็ผ่าน ตม. ขาออกเลยครับ เพราะกระเป๋า+ตั๋ว เราได้มาจากที่ เกาลูนแล้ว สนามบินที่ฮ่องกงจะค่อนข้างใหญ่ก็ต้องนั่งรถไฟต่อไปตาม terminal ที่ระบุในตั๋ว แต่แนะนำให้เช็คที่หน้าจอก่อนอีกทีนะครับเพราะบางทีก็เปลี่ยน
สำหรับผู้ถือบัตร Priority pass ก็สามารถไปนั่งรอใน Lounge ได้ครับ โดยเลือกเข้าตำแหน่งที่ใกล้ๆ เกตนะครับจะได้มีเวลาเยอะๆ ซึ่งผมเลือกไปเข้าทาง Terminal 1 West Hall ครับ
ส่วนต้อนรับด้านหน้าครับ
อาหารค่อยข้างหลากหลายครับ มีทั้งก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงพวกข้าวด้วย
ทาร์ตไข่ครับ อร่อยดี ใครเข้าแนะนำครับ มีอีกรส เป็นแอปเปิ้ลครับ ไม่ได้ถ่ายมา
ที่นั่งภายในครับ
บริเวณที่นั่งสามารถมองไปเห็นเครื่องบินได้ครับ
ออกจากเลาจ์แล้วครับ ไปขึ้นเครื่องกันเลย
เที่ยวแรกจาก HKG-AUH เป็น A330-300 ครับ เครื่องไม่เก่ามากครับ
เบาะที่นั่งจัดแบบ 2-4-2 ครับ
ผ้าห่ม หูฟัง หมอน ส่วนผ้าปิดตา ถุงเท้า ขอเพิ่มได้ครับ
ที่นั่งกว้างครับ มาตรฐาน สายการบิน full-service เดินทางระยะไกล
เครื่องขึ้นแล้วก็เสริฟน้ำก่อนครับ
อาหารมื้อแรกครับ ผมสั่ง Seafood ไปแต่ลืมถ่านทานหมดครับ อันนี้ของคนข้างๆ
นอนไปยาวๆครับ ไฟลท์ 8 ชม. ก่อนลงซัก 2 ชม. ก็จะแจกของว่างครับ เป็นพายทูน่าครับ
เครื่องลงแล้วครับ ถึง อาบูดาบี โดยสวัสดิภาพ เป็นบัสเกตครับ
มีเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชม. ลงเสร็จก็มองหา Lounge เลยครับ ใช้บัตร Priority pass เช่นเดิม
สภาพ lounge ครับ คนเยอะมาก แน่นไม่มีที่นั่งครับ ขนาด lounge ค่อนข้างเล็กครับแต่แต่งสวยครับ
ไลน์อาหาร จะหลากหลายครับ ทั้งขนมปัง ข้าว แกง รสชาติพอใช้ได้ครับ
อิ่มแล้วก็บินต่อครับ AUH-FRA
บัสเกตเช่นเคย สาเหตุหนึ่ง ที่กระเป๋าหายกันเยอะเพราะสนามบินที่นี่อึดอัดมากครับ เพราะขยายจนไม่รู้จะขยายยังไงแล้ว เที่ยวบินก็มีจำนวนมาก ซึ่งทางสนามบินก็กำลังสร้าง Terminal ใหม่อยู่ครับใหญ่โตมาก คาดว่ามื่อเสร็จปัญหาเรื่องกระเป๋าน่าจะหมดไปครับ
ขึ้นแล้ว เครื่องเป็นแบบเดิมครับ A330-300 แบ่งที่นั่งแบบเดิมเช่นกัน 2-4-2
เริ่มต้นด้วยของว่างครับ ไฟลท์นี้จะเสริฟ์อาหารเช้าครับ
ในถุงครับ แก้ท้องว่างไปก่อน
เมนูอาหารครับ
ผมสั่ง Seafood ไว้ล่วงหน้าครับ เป็นอาหารเช้ามี Hash brown ปลาทอด กับไข่ครับ
ถึงแล้วครับ แฟรงก์เฟริต์ จบการเดินทางขามาครับ
ขอต่ออีก อันนะครับยาวเกินแล้ว ฮ่าๆ