สวัสดีค่ะน้าๆ ป้าๆ ห้องมือหมุน ป้ายังเฝ้าห้องนี้เหมือนเดิมแต่บางช่วงก็หลบไปแอบหลับค่ะ อิอิ ไม่ได้หายไปไหนแต่ไม่ได้ตั้งกระทู้ซักทีทั้งๆ ที่ทุกครั้งที่ออกไปถ่ายรูปก็บอกตัวเองว่าจะเอารูปมาลง ป้าชอบดูรูปและชอบอ่านเวลาน้าๆ ป้าๆ เอารูปมาลงเยอะเขียนเล่ายาวๆ สนุกดีค่ะ อ่านเพลิน การได้ตั้งกระทู้เล่าเรื่องพร้อมลงรูปสำหรับป้าเหมือนเป็นบันทึกของชีวิตเลยล่ะค่ะ อยากตั้งกระทู้บ่อยแต่ไม่ขยัน กลับจากทำงานก็นั่งขดบนโซฟาดูยูทูป คลิปโน่นคลิปนี่ ติดค่ะ ขนาดไม่ได้ดูละครนะคะ ป้ายังไม่มีเฟสบุคหรือไลน์หรือสังคมออนไลน์อื่นนอกจากพันทิป เฟสบุคเคยมีกับเค้าประมาณเดือนนึง ไว้ส่งรูปให้แม่ดู ทำไปทำมามีญาติบ้าง เพื่อนบ้างแอดกันเข้ามา เป็นไงค่ะ ติดงอมแงม คลิกดูโน่นนี่จนไม่ยอมทำอะไร เลยลงโทษตัวเองปิดเฟสบุค คือตอนนั้นป้ารู้เรื่องคนอื่นเยอะแต่ไม่ค่อยใส่ใจคนข้างตัว ประเมินตัวเองแล้วไม่เอาดีกว่า
ป้ายังชีวิตเรียบง่ายอยู่กับลุงคนเดิม ที่เดิม เมืองเดิม ทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม(หลายเดิมจัง..อิอิ) แต่ชื่อตำแหน่งใหม่คือเค้าเปลี่ยนให้ดูโก้ขึ้นทำนองที่บอกว่า งานนี้เป็นงานคุมหุ่นยนต์นะ วันไหนหุ่นยนต์ประท้วง หญิงไทยใจหุ่นยนต์ต้องทำงานแทนน้องหุ่นยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะยกของหนักหรือทำทุกอย่างแบบเมนวล สนุกค่ะได้ออกกำลังกายแข่งกับเวลา และบริษัทที่ป้าทำกลัวป้าโทรมน้อยไป ตอนนี้เลยเปลี่ยนเวลาตารางการทำงานครั้งใหญ่คือ ทั้ง 18 สาขาทั่วอเมริกาเปลี่ยนมาทำกะละ 12 ชมแทนที่จะเป็น 8 ชม. ป้าอายุงานเยอะเลยได้เลือกทำกะกลางวันแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน (อิอิ ลืมไป อาจจะเห็นเดือนบ้างแต่ถ้าหน้าหนาว คงไม่เห็นแสงตะวัน ) ป้าเริ่มงาน 6 โมงเช้าและเลิกงาน 6 โมงเย็น ตื่นตีสี่ทุกวันเพื่อจะได้มีเวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้าและนั่งสมาธิ ถ้าไม่มีเวลาก็ทำสมาธิแค่ 10 นาทีก่อนไปทำงาน โชคดีที่ที่ทำงานป้าห่างจากบ้านขับรถลัดท้องทุ่งคาวบอยไปแค่ 15 นาทีก็ถึง ตอนเค้าลือกันเรื่องเปลี่ยนเวลาป้าก็ลุ้นใจจดใจจ่อว่าขอให้เค้าเปลี่ยนแผน แต่ไม่สำเร็จค่ะ แค่เค้ายืดเวลานานกว่าสาขาอื่น ตอนนี้ป้าก็ร้องเพลงอดทนต่อไปล่ะค่ะ ทำตารางงานแบบที่ว่า ทำ 2 วัน หยุด 2 วัน ทำ 2 วันหยุด 3 วันและทำ 3 วันหยุด 2 (มึนมั้ยค่ะ ปรับตัวกันไม่ทันเลยค่ะ วันหยุดป้าก็เดี้ยงซะวันครึ่ง พอหายเดี้ยงก็กลับไปทำงานต่อ อิอิ)
ป้าไม่ได้งอกเลนส์นานมากกกกกกก แล้วค่ะ (ยาหมดฤทธิ์ ก๊ากสสสสสสส์) ไม่ค่อยมีใครมาวางยาแถวนี้และไม่ค่อยได้อ่าน อ่านบ้างกิเลสพุ่งปริ๊ด ดับได้ในบัดดล ตัวที่อยากได้ราคาก็ติดปีก เอื้อมไม่ถึง เลนส์ทุกตัวที่แอบซื้อมายังอยู่ครบ ถึงจะเป็นคนใฝ่ธรรมะแต่ยังยึดติดกับเลนส์มือหมุนอยู่ ก๊ากสสสสส์
กล้องป้าเดี้ยงเซ็นเซอร์มีรอยขูดนิดนึง ป้าส่งเข้าศูนย์ใหญ่ของยูเอสเพื่อทำความสะอาดฝุ่น เค้าไม่ทำให้บอกว่าเซ็นเซอร์มีรอย เลยส่งกลับ ป้าเลยมีรูปทีฝุ่นเกาะเซ็นเซอร์คลั่ก ทำให้ความอยากลงรูปลดลงไป อิอิ ป้ายังใช้กล้องตัวเดิม อยากได้ตัวใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะชอบเท่าตัวนี้หรือเปล่า ตอนนี้ที่เล็งก็นิค ดี750 แต่ประเมินดูแล้วการใช้งานของป้าไม่คุ้มกับราคากล้อง แค่จับมาถ่ายรูปดอกไม้ ใบไม้ กล้องเก่าก็ยังใช้ดีเลยรอกว่าเมื่อกิเลสจะเเกิดแบบยั้งไม่อยู่
นางแบบส่วนตัวป้าย้ายไปทำงานที่เมืองใหญ่ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน มีแฟนแล้วค่ะ (หนุ่มๆ แถวนี้อกหักกันหรือเปล่าค่ะ อิอิ) ก็เป็นฝั่งเป็นฝาซะทีอายุปาเข้าเลข 3 แล้ว ตัวเองนิสัยฝรั่งแต่ไม่ชอบมีแฟนฝรั่ง เลยมีแฟนเป็นคนไทย ตอนนี้ยังลุ้นว่าจะไหวมั้ยเนี่ย หนุ่มเรียบร้อย สาวกระโดกกระเดกมาก ปลายปีนี้ป้าจะเป็นคุณยาย ถือว่ายกระดับตัวเองขึ้นมาอีกระดับ ก๊ากสสสสส์ งานนี้จะได้มีนายแบบหรือนางแบบตัวน้อยกับเค้าบ้างล่ะ
รู้สึกแปลกๆ แต่ดีใจมากค่ะ ต้องมีห่วงชีวิต ห่วงรักเพิ่มอีกหนึ่งห่วง ตอนแรกกะว่าจะทะยอยขายเลนส์ออโต้ ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจเก็บไว้รอแบบตัวน้อยก่อน อิอิ
ป้ายังรักห้องมือหมุนเหมือนเดิมและมีความสุขกับการหมุนถ่ายรูปชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เน้นดอกไม้ใบหญ้าและเล่าเรื่อง ปีนี้อากาศแถวบ้านป้าเปลี่ยนแบบหนาวนานและฝนตกเยอะ ทำให้กว่าจะได้เริ่มปลูกผัก ปลูกดอกไม้ก็ปาเข้าไปเดือนพฤษภาคม
หมดเรื่องอัพเดทชีวิตป้าแล้วค่ะ จบแบบดื้อๆ แบบนี้ก็แล้วกัน ไปดูตัวแอลค์กันดีกว่า (ป้าไม่อยากพิมพ์ภาษาอังกฤษค่ะเลยมั่วตามที่ออกเสียงนะคะ) รูปชุดนี้หมุนไว้ตั้งแต่เดือนมีนาถ้าป้าจำไม่ผิดค่ะ กล้องนิคดี 700 เลนส์นางฟ้า 70-210/3.5 ค่ะ
*******************************************************************************
ปีนี้อากาศหนาวอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมจากไปซักที พายุหิมะเข้าเป็นว่าเล่น ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ดีหน่อยตรงที่แถวยูท่าห์หิมะตกปนฝน ทำให้การไปทำงานไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าออกจากตึกที่ทำงานเจอรถฝังอยู่ใต้หิมะบ่อยมาก ทุกๆ ปีหน้าหนาวตัวแอลค์จะลงมาจากภูเขาและเข้ามาทำความเดือดร้อนในเมือง เลยมีการสร้างรั้วกักไว้ก่อนจะลงมาไกลๆ ได้อยู่รวมกันและมีอาหารให้กินตลอดฤดูหนาว ตอนป้าไปอากาศเริ่มอุ่น แอลค์บางส่วนกลับไปบนภูเขาแล้ว ปกติจะมีจำนวนมากกว่านี้
ขับรถจากบ้านป้าน่าจะประมาณครึ่ง ชม. วันได้หยุดงานป้าเลยชวนลุงไป ปกติจะไปเกือบทุกปี บางปีไปช้าก็ไม่เหลือให้ดูซักตัว
(126)*****เย้.......ป้าไหมมาแล้ว มาพร้อมรูปเล่าเรื่องตอนไปดู Elks*********
ป้ายังชีวิตเรียบง่ายอยู่กับลุงคนเดิม ที่เดิม เมืองเดิม ทำงานที่เดิม ตำแหน่งเดิม(หลายเดิมจัง..อิอิ) แต่ชื่อตำแหน่งใหม่คือเค้าเปลี่ยนให้ดูโก้ขึ้นทำนองที่บอกว่า งานนี้เป็นงานคุมหุ่นยนต์นะ วันไหนหุ่นยนต์ประท้วง หญิงไทยใจหุ่นยนต์ต้องทำงานแทนน้องหุ่นยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะยกของหนักหรือทำทุกอย่างแบบเมนวล สนุกค่ะได้ออกกำลังกายแข่งกับเวลา และบริษัทที่ป้าทำกลัวป้าโทรมน้อยไป ตอนนี้เลยเปลี่ยนเวลาตารางการทำงานครั้งใหญ่คือ ทั้ง 18 สาขาทั่วอเมริกาเปลี่ยนมาทำกะละ 12 ชมแทนที่จะเป็น 8 ชม. ป้าอายุงานเยอะเลยได้เลือกทำกะกลางวันแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน (อิอิ ลืมไป อาจจะเห็นเดือนบ้างแต่ถ้าหน้าหนาว คงไม่เห็นแสงตะวัน ) ป้าเริ่มงาน 6 โมงเช้าและเลิกงาน 6 โมงเย็น ตื่นตีสี่ทุกวันเพื่อจะได้มีเวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้าและนั่งสมาธิ ถ้าไม่มีเวลาก็ทำสมาธิแค่ 10 นาทีก่อนไปทำงาน โชคดีที่ที่ทำงานป้าห่างจากบ้านขับรถลัดท้องทุ่งคาวบอยไปแค่ 15 นาทีก็ถึง ตอนเค้าลือกันเรื่องเปลี่ยนเวลาป้าก็ลุ้นใจจดใจจ่อว่าขอให้เค้าเปลี่ยนแผน แต่ไม่สำเร็จค่ะ แค่เค้ายืดเวลานานกว่าสาขาอื่น ตอนนี้ป้าก็ร้องเพลงอดทนต่อไปล่ะค่ะ ทำตารางงานแบบที่ว่า ทำ 2 วัน หยุด 2 วัน ทำ 2 วันหยุด 3 วันและทำ 3 วันหยุด 2 (มึนมั้ยค่ะ ปรับตัวกันไม่ทันเลยค่ะ วันหยุดป้าก็เดี้ยงซะวันครึ่ง พอหายเดี้ยงก็กลับไปทำงานต่อ อิอิ)
ป้าไม่ได้งอกเลนส์นานมากกกกกกก แล้วค่ะ (ยาหมดฤทธิ์ ก๊ากสสสสสสส์) ไม่ค่อยมีใครมาวางยาแถวนี้และไม่ค่อยได้อ่าน อ่านบ้างกิเลสพุ่งปริ๊ด ดับได้ในบัดดล ตัวที่อยากได้ราคาก็ติดปีก เอื้อมไม่ถึง เลนส์ทุกตัวที่แอบซื้อมายังอยู่ครบ ถึงจะเป็นคนใฝ่ธรรมะแต่ยังยึดติดกับเลนส์มือหมุนอยู่ ก๊ากสสสสส์
กล้องป้าเดี้ยงเซ็นเซอร์มีรอยขูดนิดนึง ป้าส่งเข้าศูนย์ใหญ่ของยูเอสเพื่อทำความสะอาดฝุ่น เค้าไม่ทำให้บอกว่าเซ็นเซอร์มีรอย เลยส่งกลับ ป้าเลยมีรูปทีฝุ่นเกาะเซ็นเซอร์คลั่ก ทำให้ความอยากลงรูปลดลงไป อิอิ ป้ายังใช้กล้องตัวเดิม อยากได้ตัวใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะชอบเท่าตัวนี้หรือเปล่า ตอนนี้ที่เล็งก็นิค ดี750 แต่ประเมินดูแล้วการใช้งานของป้าไม่คุ้มกับราคากล้อง แค่จับมาถ่ายรูปดอกไม้ ใบไม้ กล้องเก่าก็ยังใช้ดีเลยรอกว่าเมื่อกิเลสจะเเกิดแบบยั้งไม่อยู่
นางแบบส่วนตัวป้าย้ายไปทำงานที่เมืองใหญ่ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน มีแฟนแล้วค่ะ (หนุ่มๆ แถวนี้อกหักกันหรือเปล่าค่ะ อิอิ) ก็เป็นฝั่งเป็นฝาซะทีอายุปาเข้าเลข 3 แล้ว ตัวเองนิสัยฝรั่งแต่ไม่ชอบมีแฟนฝรั่ง เลยมีแฟนเป็นคนไทย ตอนนี้ยังลุ้นว่าจะไหวมั้ยเนี่ย หนุ่มเรียบร้อย สาวกระโดกกระเดกมาก ปลายปีนี้ป้าจะเป็นคุณยาย ถือว่ายกระดับตัวเองขึ้นมาอีกระดับ ก๊ากสสสสส์ งานนี้จะได้มีนายแบบหรือนางแบบตัวน้อยกับเค้าบ้างล่ะ
รู้สึกแปลกๆ แต่ดีใจมากค่ะ ต้องมีห่วงชีวิต ห่วงรักเพิ่มอีกหนึ่งห่วง ตอนแรกกะว่าจะทะยอยขายเลนส์ออโต้ ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจเก็บไว้รอแบบตัวน้อยก่อน อิอิ
ป้ายังรักห้องมือหมุนเหมือนเดิมและมีความสุขกับการหมุนถ่ายรูปชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เน้นดอกไม้ใบหญ้าและเล่าเรื่อง ปีนี้อากาศแถวบ้านป้าเปลี่ยนแบบหนาวนานและฝนตกเยอะ ทำให้กว่าจะได้เริ่มปลูกผัก ปลูกดอกไม้ก็ปาเข้าไปเดือนพฤษภาคม
หมดเรื่องอัพเดทชีวิตป้าแล้วค่ะ จบแบบดื้อๆ แบบนี้ก็แล้วกัน ไปดูตัวแอลค์กันดีกว่า (ป้าไม่อยากพิมพ์ภาษาอังกฤษค่ะเลยมั่วตามที่ออกเสียงนะคะ) รูปชุดนี้หมุนไว้ตั้งแต่เดือนมีนาถ้าป้าจำไม่ผิดค่ะ กล้องนิคดี 700 เลนส์นางฟ้า 70-210/3.5 ค่ะ
*******************************************************************************
ปีนี้อากาศหนาวอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมจากไปซักที พายุหิมะเข้าเป็นว่าเล่น ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ดีหน่อยตรงที่แถวยูท่าห์หิมะตกปนฝน ทำให้การไปทำงานไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ แต่จำได้ว่าออกจากตึกที่ทำงานเจอรถฝังอยู่ใต้หิมะบ่อยมาก ทุกๆ ปีหน้าหนาวตัวแอลค์จะลงมาจากภูเขาและเข้ามาทำความเดือดร้อนในเมือง เลยมีการสร้างรั้วกักไว้ก่อนจะลงมาไกลๆ ได้อยู่รวมกันและมีอาหารให้กินตลอดฤดูหนาว ตอนป้าไปอากาศเริ่มอุ่น แอลค์บางส่วนกลับไปบนภูเขาแล้ว ปกติจะมีจำนวนมากกว่านี้
ขับรถจากบ้านป้าน่าจะประมาณครึ่ง ชม. วันได้หยุดงานป้าเลยชวนลุงไป ปกติจะไปเกือบทุกปี บางปีไปช้าก็ไม่เหลือให้ดูซักตัว