หลังจากที่อ่านรีวิวจากสองกระทู้นี้ เลยอยากเขียนเองบ้าง
Ref
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://ppantip.com/topic/35253587
http://ppantip.com/topic/35236496
โหมดความรู้สึกส่วนตัว
ไม่ถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย แต่น้ำตาปริ่ม อัดอั้นตันใจ เหมือนอยากร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ออก อยากด่าพระเอกก็ด่าไม่ได้
โดยเฉพาะซีนสุดท้ายในห้องที่จ้องตาตรงๆ (แสดงดีมากอ่ะ) รู้สึกอึดอัดไปหมด ความต้องการมีชีวิต มีความหวัง มีความรู้สึกรักต่อกัน
กับความต้องการจากลา ความรู้สึกที่ไม่อยากให้อีกคนมาลำบากเพราะตัวเอง มันตีกันให้ยุ่งเหยิงอลวนปนเปไปหมด (อิน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเป็นคนที่เคยประสบกับอุบัติเหตุที่เฉียดๆตาย-อัมพาตมาก่อน แต่โชคดีขนาดที่ว่าไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
แต่มันทำให้เราคิดตลอด คิดมาโดยตลอดว่าสักวันเราก็ต้องตายลง อารมณ์แกว่งๆของเราที่มีต่อความรัก
ทำให้เราไม่อยากให้ใครมารักเรา และเราไม่อยากรักใคร ถึงแม้ว่ามันจะเข้ามาแบบบังเอิญเกิดขึ้นเองภายในใจก็ตาม
หลังจากที่เราอกหักรอบที่สอง(อีก) ความคิดของวิลในเรื่องนี้ย้ำเราหนักขึ้นว่า
ยังจะทำตัวไม่รู้ไม่ชี้อยู่ก็คงไม่ได้อีกต่อไป แต่ขอให้เราได้รัก ได้แอบมองห่างๆ อยู่เป็นเพื่อนข้างกาย เหมือนเงา
และแอบปลื้มเค้าแบบนี้ตลอดไปเงียบๆ อาจจะเป็นตัวเลือกที่เห็นแก่ตัวแบบที่วิลทำ
พอดูเรื่องนี้ เราเข้าใจความรู้สึกพระเอกเต็มๆ แต่เรากลับนิสัยเหมือนนางเอกเรากลับถูกเปลี่ยนโดยผู้ชายหนึ่งคน
มันเลยเหมือนมีสองร่างในตัวเอง ต้องการที่จะรัก อยากที่จะรัก อยากจะให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ มีตัวตน แต่อีกใจนึงก็ตัดสินใจ "ตัด"
ทุกความรู้สึกออกไปจากใจ แน่วแน่ และมั่นคงที่จะไม่เริ่มสานความสัมพันธ์ใดๆ ถ้าเค้าไม่เป็นฝ่ายก้าวเข้ามา เลือกใช้การรอคอย
หลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเอง "รัก" ปิดประตูหัวใจตัวเองจากอดีตเหมือนที่พระเอกทำนั่นแหละค่ะ โหดร้ายและเห็นแก่ตัวเนาะ
จบ การรีวิวความรู้สึกตัวเอง
อ่ะ มาที่หนัง
1. พระเอกหล่อมากกกกกกกก เคมี พระนางเข้ากันสุดๆ เรา.. แค่รู้สึกว่าถ้าเราเป็นนางเอก เราคงเขียนจดหมายตอบพระเอก
ไปเป็นกองๆ หวังว่านางจะได้อ่าน อย่าทิ้งจดหมายที่ไม่มีวันได้ตอบไว้แล้วหนีไปแบบนี้สิ T T
2. เพลง เพลงโดนใจมาก ทุกฉาก ทุกขณะ ทุกจังหวะ ขนาดงานแต่งงานแฟนพระเอกคือเพลง Canon เราชอบเพลงนี้มากๆ
จนเป็น Calling melody ของเราเลยล่ะค่ะ และโดยเฉพาะจังหวะที่นางเอกเต้นรำ (บนรถเข็นกับพระเอก)
เรากลับรู้สึกว่า ทำไมกันนะ ทำไมพระเอกไม่เลือกมีชีวิตต่อไปกัน ถ้าคุณไม่พิการ คุณก็ไม่ได้เจอนางเอกนะ
ทำไมถึงเลือกที่จะจบชีวิตลง หรือเลือกทางออกแบบนั้น มันมีทางออกอีกมากมายเยอะแยะนี่ ทำไมล่ะะะะะะะะะะะะะะะะะ T T
แต่ก็นะ พระเอกคิดว่าตัวเองเป็นภาระ และ ความรักของพระเอกมันมากกว่าการที่จะผูกมัดนางเอกมาไว้กับตัวเองทั้งชีวิต นี่นะ.....
3.สำหรับเรา หนังเรื่องนี้ คือความหมายของชีวิตที่แต่ละคนตีความมันออกมาแตกต่างกัน เหมือนที่เราถามตัวเองตลอด "ความสุขของเราอยู่ตรงไหน"
ถ้าความสุขนั้นคือการผูกมัด ก็จงทำมันซะ ถ้าความสุขคือการจ้องมองก็ทำมัน แต่ถ้าความสุขคือการรอคอยคำตอบจากใครซักคน ก็ให้ทำมันอย่างอดทน ความสุขของใครนั้น แตกต่างกันไปในแบบของใครของมัน เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินว่า คนนั้นเยอะ คนนี้งี่เง่าที่ฆ่าตัวตาย เพราะเรายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้น คุณที่เดินด้วยขาสองขา จะไม่มีทางเข้าใจคนเป็นอัมพาตครึ่งท่อน คุณที่ยังหัวเราะร่ากับคนรัก จะไม่มีวันเข้าใจคนที่เข็ดหลาบและเจ็บปวดกับความรัก ดังนั้นอย่าตัดสินคนอื่นว่า ทำไมถึงทำแบบนั้น หรือเพราะอะไรถึงทำแบบนั้น สิ่งที่ควรทำคือ เราทำอะไรเพื่อเค้าได้บ้างหลังจากที่เค้าตัดสินใจทำแบบนั้น เรายอมรับให้เค้าทำแบบนั้นได้หรือไม่ เพราะอะไร หรือ "เราสามารถรักเขาในแบบที่เขาเป็นได้หรือไม่" ถ้ามีแต่คนถามตัวเองแบบนี้ โลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย
4. โดยรวมหนังเรื่องนี้ได้คะแนนจากเราไป 9/10 ขอหักตอนจบที่รู้สึกว่าพระเอกเห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจความรู้สึกนางเอกภายหลังจากที่นางก้าวเข้ามาในชีวิตแล้วเปลี่ยนนั่นนี่ในชีวิตนางเอกตามใจชอบ แต่โดยรวมแล้วประทับใจมาก-มากที่สุด ถือเป็นหนังรักดีๆอีกเรื่องที่เรียกน้ำตาได้ค่ะ รายละเอียดของหนังดีมากๆ และเป็นธรรมชาติมากๆ ในแง่ของความแสดงความรู้สึกดีต่อกันที่ไม่ได้มีแต่เรื่อง LOVE / SEX / RELATIONSHIP มันคือการให้กำลังใจชีวิตอีกฝ่ายนึง ที่ถึงแม้นางเอกจะทำไม่สำเร็จก็ตามที เป็นหนังที่มีรายละเอียดดีมาก
5. ซีนที่ชอบที่สุด คือห่อของขวัญวันเกิดนางเอกค่ะ ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องพิเศษ แค่รู้ว่าชอบอะไร อยากได้อะไร ต้องการอะไร
และรู้ว่าตัวเองสำคัญและมีอิทธิพลต่อกันและกันแค่ไหน สำหรับเรา เท่านั้นก็พอแล้ว....................
ความรู้สึกหลังจากดู Me Before You จบ [Spoil]
Ref
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โหมดความรู้สึกส่วนตัว
ไม่ถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย แต่น้ำตาปริ่ม อัดอั้นตันใจ เหมือนอยากร้องไห้ก็ร้องไห้ไม่ออก อยากด่าพระเอกก็ด่าไม่ได้
โดยเฉพาะซีนสุดท้ายในห้องที่จ้องตาตรงๆ (แสดงดีมากอ่ะ) รู้สึกอึดอัดไปหมด ความต้องการมีชีวิต มีความหวัง มีความรู้สึกรักต่อกัน
กับความต้องการจากลา ความรู้สึกที่ไม่อยากให้อีกคนมาลำบากเพราะตัวเอง มันตีกันให้ยุ่งเหยิงอลวนปนเปไปหมด (อิน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่ะ มาที่หนัง
1. พระเอกหล่อมากกกกกกกก เคมี พระนางเข้ากันสุดๆ เรา.. แค่รู้สึกว่าถ้าเราเป็นนางเอก เราคงเขียนจดหมายตอบพระเอก
ไปเป็นกองๆ หวังว่านางจะได้อ่าน อย่าทิ้งจดหมายที่ไม่มีวันได้ตอบไว้แล้วหนีไปแบบนี้สิ T T
2. เพลง เพลงโดนใจมาก ทุกฉาก ทุกขณะ ทุกจังหวะ ขนาดงานแต่งงานแฟนพระเอกคือเพลง Canon เราชอบเพลงนี้มากๆ
จนเป็น Calling melody ของเราเลยล่ะค่ะ และโดยเฉพาะจังหวะที่นางเอกเต้นรำ (บนรถเข็นกับพระเอก)
เรากลับรู้สึกว่า ทำไมกันนะ ทำไมพระเอกไม่เลือกมีชีวิตต่อไปกัน ถ้าคุณไม่พิการ คุณก็ไม่ได้เจอนางเอกนะ
ทำไมถึงเลือกที่จะจบชีวิตลง หรือเลือกทางออกแบบนั้น มันมีทางออกอีกมากมายเยอะแยะนี่ ทำไมล่ะะะะะะะะะะะะะะะะะ T T
แต่ก็นะ พระเอกคิดว่าตัวเองเป็นภาระ และ ความรักของพระเอกมันมากกว่าการที่จะผูกมัดนางเอกมาไว้กับตัวเองทั้งชีวิต นี่นะ.....
3.สำหรับเรา หนังเรื่องนี้ คือความหมายของชีวิตที่แต่ละคนตีความมันออกมาแตกต่างกัน เหมือนที่เราถามตัวเองตลอด "ความสุขของเราอยู่ตรงไหน"
ถ้าความสุขนั้นคือการผูกมัด ก็จงทำมันซะ ถ้าความสุขคือการจ้องมองก็ทำมัน แต่ถ้าความสุขคือการรอคอยคำตอบจากใครซักคน ก็ให้ทำมันอย่างอดทน ความสุขของใครนั้น แตกต่างกันไปในแบบของใครของมัน เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินว่า คนนั้นเยอะ คนนี้งี่เง่าที่ฆ่าตัวตาย เพราะเรายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้น คุณที่เดินด้วยขาสองขา จะไม่มีทางเข้าใจคนเป็นอัมพาตครึ่งท่อน คุณที่ยังหัวเราะร่ากับคนรัก จะไม่มีวันเข้าใจคนที่เข็ดหลาบและเจ็บปวดกับความรัก ดังนั้นอย่าตัดสินคนอื่นว่า ทำไมถึงทำแบบนั้น หรือเพราะอะไรถึงทำแบบนั้น สิ่งที่ควรทำคือ เราทำอะไรเพื่อเค้าได้บ้างหลังจากที่เค้าตัดสินใจทำแบบนั้น เรายอมรับให้เค้าทำแบบนั้นได้หรือไม่ เพราะอะไร หรือ "เราสามารถรักเขาในแบบที่เขาเป็นได้หรือไม่" ถ้ามีแต่คนถามตัวเองแบบนี้ โลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย
4. โดยรวมหนังเรื่องนี้ได้คะแนนจากเราไป 9/10 ขอหักตอนจบที่รู้สึกว่าพระเอกเห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจความรู้สึกนางเอกภายหลังจากที่นางก้าวเข้ามาในชีวิตแล้วเปลี่ยนนั่นนี่ในชีวิตนางเอกตามใจชอบ แต่โดยรวมแล้วประทับใจมาก-มากที่สุด ถือเป็นหนังรักดีๆอีกเรื่องที่เรียกน้ำตาได้ค่ะ รายละเอียดของหนังดีมากๆ และเป็นธรรมชาติมากๆ ในแง่ของความแสดงความรู้สึกดีต่อกันที่ไม่ได้มีแต่เรื่อง LOVE / SEX / RELATIONSHIP มันคือการให้กำลังใจชีวิตอีกฝ่ายนึง ที่ถึงแม้นางเอกจะทำไม่สำเร็จก็ตามที เป็นหนังที่มีรายละเอียดดีมาก
5. ซีนที่ชอบที่สุด คือห่อของขวัญวันเกิดนางเอกค่ะ ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องพิเศษ แค่รู้ว่าชอบอะไร อยากได้อะไร ต้องการอะไร
และรู้ว่าตัวเองสำคัญและมีอิทธิพลต่อกันและกันแค่ไหน สำหรับเรา เท่านั้นก็พอแล้ว....................