เมื่อฝนมาพาน้ำมันหมด..
สวัสดีค่ะ นี้เป็นการเดินทางในช่วงหน้าฝน ช่วงที่ไม่ค่อยมีคนท่องเที่ยวกันเท่าไหร่
การเดินทางโดยรถส่วนตัว
ออกจากเส้นวิภาวดี ตรงไปตามทางสระบุรี จากนั้นให้ไปทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ซึ่งสามารถตัดไปยังลพบุรีได้นั้นเอง
ถึงทางเลี่ยงเมืองลพบุรี-เพชรบูรณ์ ก็เลาะเข้าเมืองเพชรบูรณ์เลยคร้าบบบบ จากนั้นก็ไปตามทางหลักพิษณุโลก เพื่อจะไปเขาค้อ
ระหว่างนี้ก็แวะหาร้านอาหารและแวะร้านกาแฟตามข้างทางตามประสาจ้า~~~
ทางไปเขาค้อ ขับสบายมากกกกก มีถนน6เลน วิวทิวทัศน์ภูเขารอบ และไอหมอกจางๆ ในตอนเย็น เป็นอันเข้าใจตรงกันว่า ยังไม่มืดนะจาาาาา 5555555
สิ้นสุดทางเลื่อน....แป่ววว สิ้นสุดการเดินทาง
หล่มสัก-พิษณุโลก ระหว่างทางจะมีร้านค้าเล็กๆ ปั้มน้ำมัน และที่พักรีสอร์ทตลอดทาง
ที่พักคืนแรกที่เขาค้อ ชื่อรีสอร์ท the glass box สไตล์โมเดิร์น ชิคๆ
พอตกกลางคืนอากาศหนาว เย็นๆ เสียงจิ้งหรีดดังมาก ธรรมชาติสุดๆ ชอบมากกกกกๆๆ
ภายในมีความคับแคบมาก สังเกตได้จากในรูป แต่ก็ได้ฟิลลิ่งแบบโรแมนติกไปอีกแบบค่ะ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ชั้นแรก ทุกอย่างที่นี้เล็กๆน่ารักไปหมด แนะนำถ้าใครต้องการพื้นที่สบายๆ ไม่เน้นความเก๋ไก๋และความประหยัดแบบเรา ให้พักแบบอื่นค่ะ น่าจะราคาตกที่ประมาณ 2500-3000 บาท
มีห้องทั้งหมด 3 ราคา ของเราพักแบบถูกสุด คืนละ 1,500 บาท
รวมอาหารเช้า เป็นปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ โจ้ก สำหรับ 2 ท่าน ปล.พี่คนงานขับมอไซต์ไปซื้อให้แขวนหน้าบ้านตอนเช้า น่ารักเป็นกันเองสุดๆ^_^)
สามารถจุดไป ปิ๊งย่าง กันตามสบายเลยนะคะ อากาศหนาวๆ เหมาะมาก ปล. ภาพถ่ายจากในห้อง แต่เราหมายถึงจุดข้างนอกนะตะเองงง
ต่อๆ มาถึงจุดชมวิวเขาค้อ
เส้นทางให้ขึ้นเขาเลี้ยวซ้าย ตรงแยกแคมป์สน ไปตามป้ายที่เขียนว่าอำเภอเขาค้อ เจอสามแยกและเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอไปรษณีย์ แนะนำให้ตื่นตั้งแต่ ตีห้า เพราะควรถึงที่จุดชมวิวก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจ้า
งือออ วิวสวยไม่สวยอยู่ที่ดวงนะจ้ะ ของเราตื่นสาย เลยมาไม่ทันหมอกลง T^T
พอกลับจากจุดชมวิว ก็กลับมาเก็บของ พร้อมเดินทางต่อ~~~
ร้านพิโนลาเต้ คนเยอะมว๊ากกกกกกกกก เป็นทั้งรีสอร์ทและร้านกาแฟ ซึ่งเราเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว รสชาติให้ไป 9.5
ต่อไปมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก เส้นทางโค้งสุดอะไรเบอร์นั้น ถ้าใครนอนพักผ่อนมาไม่เพียงพอ ระวังจะมึนหัวนะจาาาา
พอขึ้นมาถึงก็จะเจอรีสอร์ท แบบเล็กๆง่ายๆ เต็มไปหมด ของเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ราคาแค่ 500บาท พักได้สองคนจ้า ไม่มีแอร์ แต่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งทำจากแก๊ส งงมะ?เราก็งง 5555555
จุดสูงสุดภูทับเบิก
ไร่กระหล่ำปลี ๆ ๆ ๆ ๆ เต็มไปหม๊ดดด ถ่ายรูปสวยดีค่ะ เรายืมตะกร้าของแม่บ้านที่รีสอร์ทมาถ่ายรูปด้วยยย
ต่อมาเราขอแวะกินกาแฟ ที่เขาค้อ (อีกแล้วว) ชื่อร้านว่าข้าวหม้อดิน และ The Pug Coffee เป็นร้านๆเดียวกัน แต่มีสองฟังก์ชั่นไรงี้ค่ะ
นี้คือ "ไอจุด" ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี้เลย เพราะเจ้าของร้านรักหมามากๆ ๆ สังเกตจากรูปและของแต่งร้านค่ะ
บรรยากาศร้านจ้าาาา
กาแฟรสชาติใช้ได้ แต่อิชั้นดูดเร็ว ปื๊ดๆๆ 5555+
แม้แต่ในห้องน้ำค่ะ สวยชั่ยมิ๊??
***เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ ว่าทำไมเราถึงต้องกลับมาที่เขาค้อ...
[CR] รีวิว : : ภูทับเบิก & เขาค้อ : : ทะเลหมอก จ.เพชรบูรณ์ หน้าฝนก็เที่ยวได้
สวัสดีค่ะ นี้เป็นการเดินทางในช่วงหน้าฝน ช่วงที่ไม่ค่อยมีคนท่องเที่ยวกันเท่าไหร่
การเดินทางโดยรถส่วนตัว
ออกจากเส้นวิภาวดี ตรงไปตามทางสระบุรี จากนั้นให้ไปทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ซึ่งสามารถตัดไปยังลพบุรีได้นั้นเอง
ถึงทางเลี่ยงเมืองลพบุรี-เพชรบูรณ์ ก็เลาะเข้าเมืองเพชรบูรณ์เลยคร้าบบบบ จากนั้นก็ไปตามทางหลักพิษณุโลก เพื่อจะไปเขาค้อ
ระหว่างนี้ก็แวะหาร้านอาหารและแวะร้านกาแฟตามข้างทางตามประสาจ้า~~~
ทางไปเขาค้อ ขับสบายมากกกกก มีถนน6เลน วิวทิวทัศน์ภูเขารอบ และไอหมอกจางๆ ในตอนเย็น เป็นอันเข้าใจตรงกันว่า ยังไม่มืดนะจาาาาา 5555555
สิ้นสุดทางเลื่อน....แป่ววว สิ้นสุดการเดินทาง
หล่มสัก-พิษณุโลก ระหว่างทางจะมีร้านค้าเล็กๆ ปั้มน้ำมัน และที่พักรีสอร์ทตลอดทาง
ที่พักคืนแรกที่เขาค้อ ชื่อรีสอร์ท the glass box สไตล์โมเดิร์น ชิคๆ
พอตกกลางคืนอากาศหนาว เย็นๆ เสียงจิ้งหรีดดังมาก ธรรมชาติสุดๆ ชอบมากกกกกๆๆ
ภายในมีความคับแคบมาก สังเกตได้จากในรูป แต่ก็ได้ฟิลลิ่งแบบโรแมนติกไปอีกแบบค่ะ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ชั้นแรก ทุกอย่างที่นี้เล็กๆน่ารักไปหมด แนะนำถ้าใครต้องการพื้นที่สบายๆ ไม่เน้นความเก๋ไก๋และความประหยัดแบบเรา ให้พักแบบอื่นค่ะ น่าจะราคาตกที่ประมาณ 2500-3000 บาท
มีห้องทั้งหมด 3 ราคา ของเราพักแบบถูกสุด คืนละ 1,500 บาท
รวมอาหารเช้า เป็นปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ โจ้ก สำหรับ 2 ท่าน ปล.พี่คนงานขับมอไซต์ไปซื้อให้แขวนหน้าบ้านตอนเช้า น่ารักเป็นกันเองสุดๆ^_^)
สามารถจุดไป ปิ๊งย่าง กันตามสบายเลยนะคะ อากาศหนาวๆ เหมาะมาก ปล. ภาพถ่ายจากในห้อง แต่เราหมายถึงจุดข้างนอกนะตะเองงง
ต่อๆ มาถึงจุดชมวิวเขาค้อ
เส้นทางให้ขึ้นเขาเลี้ยวซ้าย ตรงแยกแคมป์สน ไปตามป้ายที่เขียนว่าอำเภอเขาค้อ เจอสามแยกและเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอไปรษณีย์ แนะนำให้ตื่นตั้งแต่ ตีห้า เพราะควรถึงที่จุดชมวิวก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจ้า
งือออ วิวสวยไม่สวยอยู่ที่ดวงนะจ้ะ ของเราตื่นสาย เลยมาไม่ทันหมอกลง T^T
พอกลับจากจุดชมวิว ก็กลับมาเก็บของ พร้อมเดินทางต่อ~~~
ร้านพิโนลาเต้ คนเยอะมว๊ากกกกกกกกก เป็นทั้งรีสอร์ทและร้านกาแฟ ซึ่งเราเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว รสชาติให้ไป 9.5
ต่อไปมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก เส้นทางโค้งสุดอะไรเบอร์นั้น ถ้าใครนอนพักผ่อนมาไม่เพียงพอ ระวังจะมึนหัวนะจาาาา
พอขึ้นมาถึงก็จะเจอรีสอร์ท แบบเล็กๆง่ายๆ เต็มไปหมด ของเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ราคาแค่ 500บาท พักได้สองคนจ้า ไม่มีแอร์ แต่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งทำจากแก๊ส งงมะ?เราก็งง 5555555
จุดสูงสุดภูทับเบิก
ไร่กระหล่ำปลี ๆ ๆ ๆ ๆ เต็มไปหม๊ดดด ถ่ายรูปสวยดีค่ะ เรายืมตะกร้าของแม่บ้านที่รีสอร์ทมาถ่ายรูปด้วยยย
ต่อมาเราขอแวะกินกาแฟ ที่เขาค้อ (อีกแล้วว) ชื่อร้านว่าข้าวหม้อดิน และ The Pug Coffee เป็นร้านๆเดียวกัน แต่มีสองฟังก์ชั่นไรงี้ค่ะ
นี้คือ "ไอจุด" ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี้เลย เพราะเจ้าของร้านรักหมามากๆ ๆ สังเกตจากรูปและของแต่งร้านค่ะ
บรรยากาศร้านจ้าาาา
กาแฟรสชาติใช้ได้ แต่อิชั้นดูดเร็ว ปื๊ดๆๆ 5555+
แม้แต่ในห้องน้ำค่ะ สวยชั่ยมิ๊??
***เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ ว่าทำไมเราถึงต้องกลับมาที่เขาค้อ...