[หนังโรงเรื่องที่ 141] The Conjuring 2-โรแมนติกจนผีอายม้วนต้วน ; (James Wan, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : เป็นเหตุการณ์ภาคต่อจากภาคแรก(The Conjuring)หลังจากที่เอ็ด (Patrick Wilson) และ ลอร์เรน (Vera Farmiga)ได้เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวจากบ้านผีสิงมาแล้วนั้น ก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือคนอื่นเรื่อยมา พร้อมกับเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากจากการถูกจับตามองโดยสื่อที่เพ่งเป้าว่าการช่วยเหลือคนของพวกเขานั้นเป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ ในขณะเดียวกันลอร์เรนก็เริ่มมีนิมิตร้ายๆที่ถูกผูกติดกับวิญญานร้ายในภาคก่อนอีก ซึ่งนำพาไปสู่หนึ่งในคดีเหนือธรรมชาติที่อันตรายที่สุดในแฟ้มของตระกูลวอร์เรน
จากที่ติดตามผลงานหนังผี-สยองขวัญของ James Wan มาตลอดก็ยังคงมีความรู้สึกเดิมว่าผู้กำกับคนนี้ก็ยังคง 'รู้งาน' ของตัวเองเช่นเคย คือเค้ายังเข้าใจวิธีการใช้จังหวะจะโคนของภาพและเสียงทำให้บรรยากาศที่เหมาะสมชวนให้เราหวาดกลัวได้จนมันอยู่ในจุดที่สามารถเอาใช้ซ้ำเรื่อยๆแต่ก็ยังได้ผลดีอยู่ (ติดอยู่นิดนึงที่ว่าตัวผู้กำกับเองมักจะเคลมว่าตัวเองเป็นสายปั้นบรรยากาศหลอน แต่เอาที่จริงแล้วเอ็งมันก็สายตุ้งแช่ดีๆนี่เองแหละว้าา) ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าชื่อและสไตล์ผกก.คนนี้จะขายได้อีกนาน นานมากๆเลยเชียว
ด้วยธรรมเนียมของ Conjuring หนังก็จะใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมงแรกในการนำเสนอชีวิตประจำวันของครอบครัวเหยื่อก่อน แล้วก็ค่อยๆพาตัวละครไปเจอกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเริ่มจากของขยับได้ ตุ๊กตาร้องดังเป็นต้น แล้วกราฟการรังควานก็จะค่อยๆพุ่งขึ้นสูงในลักษณะเอ็กซ์โพเนนเชียลจนสุดท้ายก็ต้องอ้อนวอนขอให้คริสตจักรช่วยตามสูตร ซึ่งในช่วยปั้นความหลอนนั้นก็ถือว่าหนังขัดเกลาออกมาได้ดีโดยสามารถสร้างความไม่ไว้วางใจให้กับคนดูได้เป็นระยะๆ ซึ่งสิ่งที่ดีคือตัวละครที่ไม่มีการกระทำอะไรที่โง่ๆเท่าไหร่ ดูเหมือนทุกคนจะมี resolution ที่จะแก้ปัญหาเหนือธรรมชาติได้แบบสมเหตุสมผลดี
(ขอกราบขอบคุณน้องคนนั้นที่ไม่ปิดไฟหัวเตียงมากๆ)
สิ่งที่แปลกใหม่ของหนังเรื่องนี้คือสเกลที่ใหญ่โตมโหฬารมาก คือถ้าเป็นสูตรหนังผีฝรั่งทั่วไปที่โคตรคลิเช่ก็มักจะมีเหตุการณ์ที่ใครซักคนในครอบครัวโดนผีหลอกหนักมากคนเดียวในขณะที่ผีจะกั๊กไม่หลอกคนอื่น ไอ้ครั้นจะเรียกตำรวจเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยผีก็ดันสงบเสงี่ยมจนอีคนคนนั้นกลายเป็นพวกแหกตาไปอีก สุดท้ายก็ไม่มีใครเชื่อเลยซักคนจนได้เจอผีจริงๆ ... ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับ The Conjuring 2 เลย!!
เฉพาะในประเด็นนี้อยากจะปรบมือดังๆให้กับความอาจหาญของหนังมาก ผีแม่มโรมรันประดุจบุเรงนองหลอกตั้งแต่เพื่อนบ้านยันตำรวจยันนักวิชาการ ชนิดที่ว่าไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงของ ใครเดินผ่านบ้านมันแทบจะหลอกหมดนั่นแหละ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกันก็ได้ คือหนังมีความทะเยอทะยานที่จะสร้าง 'สูตร' ใหม่ๆให้กับความสยองขวัญ แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่เรื่องมันสเกลใหญ่ไปมันก็เลยคุมโทนไม่ค่อยอยู่ ยิ่งในบางฉากกลับให้ผลเป็นฉากเรียกเสียงฮาจากคนดูด้วยซ้ำ (ฉากวิ่งออกจากบ้าน) อีกประเด็นหนึ่งคือหนังเลือกที่จะยกเรื่องความสัมพันธ์ของสองสามี-ภรรยาให้เป็นแกนหลักของเรื่องมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของการดีลกับวิญญานร้าย ทำให้เกิดช่องว่างให้คนดูอย่างเราพักหายใจได้นานไปหน่อยจนอารมณ์ขาดช่วงได้ในบางตอน เรียกได้ว่าความพยายามที่จะ 'เล่นใหญ่' ก็ไม่ได้ซัพพอร์ทหนังในแง่ความสยองขวัญเท่าไหร่
แต่สิ่งหนึ่งที่ดีเกินคาดคือการนำเสนอมุมมองกุ๊กกิ๊กๆและสายสัมพันธ์ที่สุดจะแข็งแกร่งที่เรียกว่า 'ความรัก' ของเอ็ดและลอร์เรนได้น่าสนใจมาก คือในขณะที่ตามล่าผีไปพี่แกก็ยังหาโมเม้นมาflirtกันได้ตลอด หยอดนิด หยิกหน่อย ส่งสายตากันหวานซึ้งเหลือเกิน คือนาทีนี้ถ้าตรูเป็นผีตรูก็ลาออกว่ะถ้าพวกเอ็งจะจีบกันชวนม้วนต้วนขนาดนี้ก็นะ! ซึ่งถือว่ามันเป็นมิติใหม่นะ กับมิกซ์หนังรักกับหนังผีเข้าด้วยกันได้ลงตัว (ผิดจากหนังส่วนใหญ่มักจะเป็นการฟูมฟายโง่ๆของพระ-นางแทน) ถือได้ว่าเป็นลีลาการเล่าเรื่องที่น่าสนใจเหมือนกัน
ในแง่ความหลอน คือต้องออกตัวว่าผู้เขียนเป็นคนกลัวหนังผีแล้วอินได้ง่ายมาก ดังนั้นอะไรที่มันเป็นฉากหลอนธรรมดา-สะดุ้งหน่อยๆนี่ก็จะกลัวหมด เลยไม่แน่ใจว่าสเกลตาชั่งตัวเองจะถูกหรือไม่ แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าด้วยความที่สเกลหนังมันกว้างไป ความรู้สึกอึดอัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างบ้านร้างในภาคแรกมันเลยหายไป เหลือเพียงแต่ผีตุ้งแช่กับฉากน่ากลัวประดิษฐ์ๆนิดหน่อยที่ดู 'ไม่แพง' เท่าที่เราคาดหวังไว้ และความซับซ้อนของวิญญานร้ายที่อิมพอร์ตมาจากภาคแรกก็ทำให้ความซับซ้อนมันลดลงด้วย แต่ก็อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนกลัวหนังผี ก็ต้องยอมรับแหละว่าว่ากันตามจริงแล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งแม่มทุกฉากนั่นแหละ.
บรรยากาศในโรงหนังสุดยอดมาก เสียง ภาพ และอารมณ์ที่ไปในทิศทางเดียวกัน เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะซื้อตั๋วนะ!
ป.ล.ขอซื้อจอนผมของเอ็ดหน่อยเถอะให้ตายสิ
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่
https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
[Movie Review] The Conjuring 2-โรแมนติกจนผีอายม้วนต้วน by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 141] The Conjuring 2-โรแมนติกจนผีอายม้วนต้วน ; (James Wan, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : เป็นเหตุการณ์ภาคต่อจากภาคแรก(The Conjuring)หลังจากที่เอ็ด (Patrick Wilson) และ ลอร์เรน (Vera Farmiga)ได้เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวจากบ้านผีสิงมาแล้วนั้น ก็ได้ดำเนินการช่วยเหลือคนอื่นเรื่อยมา พร้อมกับเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากจากการถูกจับตามองโดยสื่อที่เพ่งเป้าว่าการช่วยเหลือคนของพวกเขานั้นเป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ ในขณะเดียวกันลอร์เรนก็เริ่มมีนิมิตร้ายๆที่ถูกผูกติดกับวิญญานร้ายในภาคก่อนอีก ซึ่งนำพาไปสู่หนึ่งในคดีเหนือธรรมชาติที่อันตรายที่สุดในแฟ้มของตระกูลวอร์เรน
จากที่ติดตามผลงานหนังผี-สยองขวัญของ James Wan มาตลอดก็ยังคงมีความรู้สึกเดิมว่าผู้กำกับคนนี้ก็ยังคง 'รู้งาน' ของตัวเองเช่นเคย คือเค้ายังเข้าใจวิธีการใช้จังหวะจะโคนของภาพและเสียงทำให้บรรยากาศที่เหมาะสมชวนให้เราหวาดกลัวได้จนมันอยู่ในจุดที่สามารถเอาใช้ซ้ำเรื่อยๆแต่ก็ยังได้ผลดีอยู่ (ติดอยู่นิดนึงที่ว่าตัวผู้กำกับเองมักจะเคลมว่าตัวเองเป็นสายปั้นบรรยากาศหลอน แต่เอาที่จริงแล้วเอ็งมันก็สายตุ้งแช่ดีๆนี่เองแหละว้าา) ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าชื่อและสไตล์ผกก.คนนี้จะขายได้อีกนาน นานมากๆเลยเชียว
ด้วยธรรมเนียมของ Conjuring หนังก็จะใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมงแรกในการนำเสนอชีวิตประจำวันของครอบครัวเหยื่อก่อน แล้วก็ค่อยๆพาตัวละครไปเจอกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเริ่มจากของขยับได้ ตุ๊กตาร้องดังเป็นต้น แล้วกราฟการรังควานก็จะค่อยๆพุ่งขึ้นสูงในลักษณะเอ็กซ์โพเนนเชียลจนสุดท้ายก็ต้องอ้อนวอนขอให้คริสตจักรช่วยตามสูตร ซึ่งในช่วยปั้นความหลอนนั้นก็ถือว่าหนังขัดเกลาออกมาได้ดีโดยสามารถสร้างความไม่ไว้วางใจให้กับคนดูได้เป็นระยะๆ ซึ่งสิ่งที่ดีคือตัวละครที่ไม่มีการกระทำอะไรที่โง่ๆเท่าไหร่ ดูเหมือนทุกคนจะมี resolution ที่จะแก้ปัญหาเหนือธรรมชาติได้แบบสมเหตุสมผลดี
(ขอกราบขอบคุณน้องคนนั้นที่ไม่ปิดไฟหัวเตียงมากๆ)
สิ่งที่แปลกใหม่ของหนังเรื่องนี้คือสเกลที่ใหญ่โตมโหฬารมาก คือถ้าเป็นสูตรหนังผีฝรั่งทั่วไปที่โคตรคลิเช่ก็มักจะมีเหตุการณ์ที่ใครซักคนในครอบครัวโดนผีหลอกหนักมากคนเดียวในขณะที่ผีจะกั๊กไม่หลอกคนอื่น ไอ้ครั้นจะเรียกตำรวจเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยผีก็ดันสงบเสงี่ยมจนอีคนคนนั้นกลายเป็นพวกแหกตาไปอีก สุดท้ายก็ไม่มีใครเชื่อเลยซักคนจนได้เจอผีจริงๆ ... ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับ The Conjuring 2 เลย!!
เฉพาะในประเด็นนี้อยากจะปรบมือดังๆให้กับความอาจหาญของหนังมาก ผีแม่มโรมรันประดุจบุเรงนองหลอกตั้งแต่เพื่อนบ้านยันตำรวจยันนักวิชาการ ชนิดที่ว่าไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงของ ใครเดินผ่านบ้านมันแทบจะหลอกหมดนั่นแหละ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกันก็ได้ คือหนังมีความทะเยอทะยานที่จะสร้าง 'สูตร' ใหม่ๆให้กับความสยองขวัญ แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่เรื่องมันสเกลใหญ่ไปมันก็เลยคุมโทนไม่ค่อยอยู่ ยิ่งในบางฉากกลับให้ผลเป็นฉากเรียกเสียงฮาจากคนดูด้วยซ้ำ (ฉากวิ่งออกจากบ้าน) อีกประเด็นหนึ่งคือหนังเลือกที่จะยกเรื่องความสัมพันธ์ของสองสามี-ภรรยาให้เป็นแกนหลักของเรื่องมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของการดีลกับวิญญานร้าย ทำให้เกิดช่องว่างให้คนดูอย่างเราพักหายใจได้นานไปหน่อยจนอารมณ์ขาดช่วงได้ในบางตอน เรียกได้ว่าความพยายามที่จะ 'เล่นใหญ่' ก็ไม่ได้ซัพพอร์ทหนังในแง่ความสยองขวัญเท่าไหร่
แต่สิ่งหนึ่งที่ดีเกินคาดคือการนำเสนอมุมมองกุ๊กกิ๊กๆและสายสัมพันธ์ที่สุดจะแข็งแกร่งที่เรียกว่า 'ความรัก' ของเอ็ดและลอร์เรนได้น่าสนใจมาก คือในขณะที่ตามล่าผีไปพี่แกก็ยังหาโมเม้นมาflirtกันได้ตลอด หยอดนิด หยิกหน่อย ส่งสายตากันหวานซึ้งเหลือเกิน คือนาทีนี้ถ้าตรูเป็นผีตรูก็ลาออกว่ะถ้าพวกเอ็งจะจีบกันชวนม้วนต้วนขนาดนี้ก็นะ! ซึ่งถือว่ามันเป็นมิติใหม่นะ กับมิกซ์หนังรักกับหนังผีเข้าด้วยกันได้ลงตัว (ผิดจากหนังส่วนใหญ่มักจะเป็นการฟูมฟายโง่ๆของพระ-นางแทน) ถือได้ว่าเป็นลีลาการเล่าเรื่องที่น่าสนใจเหมือนกัน
ในแง่ความหลอน คือต้องออกตัวว่าผู้เขียนเป็นคนกลัวหนังผีแล้วอินได้ง่ายมาก ดังนั้นอะไรที่มันเป็นฉากหลอนธรรมดา-สะดุ้งหน่อยๆนี่ก็จะกลัวหมด เลยไม่แน่ใจว่าสเกลตาชั่งตัวเองจะถูกหรือไม่ แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าด้วยความที่สเกลหนังมันกว้างไป ความรู้สึกอึดอัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างบ้านร้างในภาคแรกมันเลยหายไป เหลือเพียงแต่ผีตุ้งแช่กับฉากน่ากลัวประดิษฐ์ๆนิดหน่อยที่ดู 'ไม่แพง' เท่าที่เราคาดหวังไว้ และความซับซ้อนของวิญญานร้ายที่อิมพอร์ตมาจากภาคแรกก็ทำให้ความซับซ้อนมันลดลงด้วย แต่ก็อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนกลัวหนังผี ก็ต้องยอมรับแหละว่าว่ากันตามจริงแล้วข้าพเจ้าก็สะดุ้งแม่มทุกฉากนั่นแหละ.
บรรยากาศในโรงหนังสุดยอดมาก เสียง ภาพ และอารมณ์ที่ไปในทิศทางเดียวกัน เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะซื้อตั๋วนะ!
ป.ล.ขอซื้อจอนผมของเอ็ดหน่อยเถอะให้ตายสิ
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..