เนื่องจาก เมื่อวานเรากับเพือนชาวต่างชาติ (เนเธอแลนด์) เดินทางมาถึงที่เกาะสีชังเมื่อวานช่วงบ่าย เข้ามาเช็คอิน(ขอสงวนชื่อที่พัก)แต่เป็นที่ดาราเคยมาถ่ายละคร ซึ่งเข้ามาเช็คอินตามปกติ ได้ที่พักเรียบร้อยและ เช่ามอเตอร์ไซต์ออกไปเที่ยว จนถึงตอนช่วงค่ำ ประมาณ หนึ่งทุ่มครึ่งทางเราก็เดินไปห้องอาหารเพื่อรับประมาณหาอาหารเย็นที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้

เรากับเพื่อนกำลังตักอาหาร ทางเจ้าหน้าที่รีสอร์ท(ซึ่งไม่ได้ดูแล้วบ่งบอกว่าเป็นเพราะที่นี่ไม่มีใครแต่งตัวชุดยูนิฟอร์มโรงแรมสักคน) มาขอถ่ายรูปพาสปอร์ตเพือนเราผ่านทางเรา เขาบอกว่าที่นี่ ต้องถ่ายเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีฝรั่งเข้ามาพักที่รีสอร์ทมีใครบ้าง เพื่อรายงานตำรวจ เราเลยบอกเพื่อน เพื่อนบอกไม่ให้ได้ไหม เราบอกตำรวจขอ เขาเลยให้ และทางรีสอร์ทเอาไปถ่ายรูป โดยใช้มือถือสมาร์ทโฟน

จากนั้นช่วงดินเนอร์ เพือนเราไม่พูดไม่จา โกรธเราที่ทำไมเขาต้องมาขอถ่ายพาสปอร์ต เนื่องจากประเทศเขา เนเธอแลนด์ หากตำรวจหรือใครก็ตามสามารถขอดูพาสปอร์ตได้แต่ไม่สามารถถ่ายรูปหรือถ่ายเอกสาร เพราะมันเสี่ยงต่อการนำเอาข้อมูลไปทำสิ่งที่อันตรายได้ เพราะในนั้นมีข้อมูลครบหมด เขากังวลและบอกจะขอออกจากเกาะนี้ให้เร็วที่สุด เขาบอกว่าสิ่งที่ผิดปกติเป็นดังนี้

1. ทางรีสอร์ทไม่ได้ขอพาสปอร์ตตั้งแต่check in และที่สำคัญ ไม่ได้ขอดูบัตรประชาชนของเราด้วย ฉะนั้นเขาถึงสงสัยว่าทำไมขอแต่ของเขา และ วันนั้นไม่เห็นคนต่างชาติคนอื่นๆเข้าพัก
2. ปกติหากขอเอกสารยืนยันความเป็นตัวเอง ตามที่ต่างๆจะขอถ่ายเอกสารและให้เราเซ็นต์ทับ แต่การถ่ายรูปหน้าพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน ถือว่าอันตรายหากมีการนำไปปลอมแปลงเพือทำโจรกรรม อีกทั้งคนที่ขอไม่ใช่ตำรวจแต่เป็นทางรีสอร์ท สามารถเชื่อถือได้ไหม
3.หากตำรวจต้องการข้อมูลเพื่อตรวจสอบคนเข้าพักของแต่ละรีสอร์ท นี่คืองานของตำรวจ ควรต้องมีด่านตอนขาเข้าเกาะ เพื่อตรวจดูพาสปอร์ตและสอบถามที่พัก ไม่ใช่เอางานของตนเองมาให้รีสอร์ทแต่ละที่ทำ ทำให้ดูไม่เป็นทางการและขาดความน่าเชื่อถือ

ดังนั้นเมื่อวานเราจึงโทรไปสอบถามทางรีสอร์ทเพื่อขอยืนยันว่า จริงหรือไม่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือมากับทางรีสอร์ท เขาบอกว่าจริง เพือต้องการความปลอดภัยให้กับฝรั่งที่เข้ามาพัก เผื่อตามตัวได้หากเกิดอะไรขึ้นในเกาะ ซึ่งเราเข้าใจรีสอร์ทไม่ได้ติดใจอะไรแต่ตำหนิไปเรื่องเวลาการขอพาสปอร์ตที่ไม่เหมาะสม ว่าควรจะขอตั้งแต่เช็คอิน ไม่ใช่ตอนดินเนอร์  

ทางรีสอร์ทก็ขอโทษมา บอกว่าจะให้ผู้จัดการมาอธิบายด้วยตัวเองอีกที(แต่จนป่านนี้ไม่มา)

แต่สิ่งที่เราสังเกตคือ ขอถ่ายรูปพาสปอร์ตเพือความปลอดภัยในเกาะ แต่ เกิดความเสี่ยงที่มีคนทำเอาข้อมูลในพาสปอร์ตไปทำอย่างอื่นอีกหรือไม่ นี่เป็นมาตรการสร้างความปลอดภัยจริงหรือ หรือแค่ตำรวจไม่ต้องการทำหน้าที่ สร้างด่านตรวจที่เกาะ เลยบังคับให้แต่ละรีสอร์ททำงานแทนอย่างนั้นหรือ แล้วมีกฏหรือไม่เพราะเสิร์ทในอินเตอร์เนตไม่เจอ จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้อย่างไร

ตอนนี้เพื่อนเรา บอกว่าเขาจะไปโพสลงในเวปไซต์ว่าไม่ต้องมาเที่ยวที่เกาะสีชัง เพราะการจัดการแย่ไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว และจะออกจากเกาะนี้ให้เร็วที่สุด ยอมทิ้งคูปองอาหารเช้าและเที่ยงของทางรีสอร์ท  

เราได้พยายามติดต่อเบอร์สถานีตำรวจของทางเกาะสีชังตามโบร์ชัวร์แต่ไม่มีคนรับสาย เลยไม่รู้ว่าหากมีเหตุด่วนเหตุร้ายจริง ตำรวจที่นี่สามารถพึ่งได้หรือไม่ หรือ ปกติทำงานแค่ จันทร์ถึงศุกร์ เวลาทำการ

เราเข้าใจที่นี่ประเทศไทย กฏเราสร้างเอง อยากทำอะไรก็ทำไม่ได้คำนึงถึงว่ากระทบอะไรบ้าง แต่ถ้าอยากให้ประเทศเป็นเมืองท่องเที่ยวดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ควรศึกษากฏหมายประเทศอื่นๆบ้าง เพื่อปรับให้เป็นสากล ไม่ใช่ใครเข้ามาก็ต้องมาใช้กฏของไทย ซึ่งบางกฏที่ตั้งขึ้นมามันไม่สมเหตุสมผล และไม่ได้มีประโยชน์อาจจะบานปลายทำให้เกิดอันตรายอย่างอื่นขึ้นอีก การคิดสั้นๆ เอาความสะดวกสบายอาจจะส่งผลกระทบกับเรื่องที่เราคาดไม่ถึงได้