เรื่องมีอยู่ว่า
ตอนปี 1 เราลงเรียนช่วงซัมเมอร์ วิชานั้นทำให้เราได้พบกับ ผช คนหนึ่ง เขาเรียนวิชาเดียวกับ ตอนแรกเราก็ไม่ได้รู้จักเขาหรอก
มีวันหนึ่ง ผช คนนั้นเขามานั่งเรียนข้างหน้าเรา แล้วเขาก็บิดขี้เกียจเอาหัวมาชนเข่าเราหลายรอบมาก โคตรน่ารำคาญเลย
ตอนแรกกะว่าช่วงอาจารย์พักเบรกจะเตือนเขา พออาจารย์บอกเบรกปุ๊ป เรากำลังจะบอกเขา แต่วินาทีนั้นที่เขาหันมา ความรู้สึกเหมือนโลกหยุดทั้งใบ
ใจเราเต้นแรงมาก จากที่จะเตือนเขา กลายเป็นว่า เราพูดไม่ออก ได้แต่ปล่อยผ่าน ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนมีอะไรมาทุบตรงหัวใจ รู้สึกอึดอัดเหมือนอกจะแตก หลังจากพักเบรก ผช คนนั้นก็กลับมา ตลอดเวลาเรียนครึ่งหลัง เราไม่ได้เรียนเลย เอาแต่มองเขา แล้วเขินอยู่ในใจ ในหัวคิดแต่ว่าเขาคือใคร เขาชื่ออะไร เรียนคณะอะไร ปีไหน ตอนนั้นมีคำถามมากมายที่อยากถาม แต่ก็ถามได้เพียงในใจ
............
หลังจากเรียนเสร็จเรารีบกลับหอ ตลอดทางก็เอาแต่คิดเรื่องผู้ชายคนนั้น โชคดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียน เอาล่ะ เป็นเวลาในการสืบละว่าเขาคือใคร >โคนันไปอีก<
เราเริ่มจากการสืบหาในเฟสบุ๊ค แต่ลืมไปว่าเราไม่รู้จักชื่อเขานี่หว่า ตอนนั้นคิดไม่ออกเลยว่าจะหาตัวตนเขาได้ยังไง เครียดมาก >เรื่องเรียนทุ่มเทแบบนี้มั้ย<
คิดไปคิดมา เห้ย เราเป็นเด็กปี 1 แล้ววิชาที่เรียนซัมเมอร์ ที่เราเรียนด้วยกันก็มีแต่เด็กปี 1 เท่านั้น เอาละเริ่มจากการหาในกรุ๊ปเฟสต่างๆที่พี่ลากเข้าละกัน
กรุ๊ปแรกที่เราคิดว่าจะหา คือกรุ๊ปเด็กหอ เราเข้าดูสมาชิก ไล่ดูหน้าทีละคน รูปโปรไหนไม่ชัด หรือไม่ใช่รูปคน เราก็กดเข้าไปดู เราเวลาในการหาสักพัก รู้สึกปวดตามาก และคิดว่าจะเลิกหาแล้ว แต่ก็นั้นเพราะความอยากรู้มาก จึงฮึดหาต่อ จนในที่สุดเราก็เจอ เราเจอเฟสของผู้ชายคนนั้นแล้ว วินาทีนั้น รออะไรละค่ะ กดเข้าไปดู และขอเป็นเพื่อนเลยสิ ฮี่ๆๆ หลังจากที่เพิ่มเพื่อนไปไม่กี่นาที เขาก็รับแอด ดีใจมาก กรี๊ดลั่นห้อง โคตรตื่นเต้นเลย เอาล่ะตั้งสติ เข้าดูไทม์ไลน์เขาอย่างละเอียด แต่ไล่ไทม์ไลน์ไม่นาน ไทม์ไลน์ก็สิ้นสุดลง เพราะเขาไม่อัพเดตชีวิตอะไรเลย ตอนนั้นคิดแค่ว่า เออ ดีว่ะ ต้องเป็นคนไม่ค่อยเล่นโซเชียลแน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ เราเริ่มเซฟรูปเขาซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 10 รูป เข้าดูประวัติส่วนการ การเรียนต่างๆ ก็พอทราบได้ว่า เขาชื่ออะไร ทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล โรงเรียนเก่า วันเกิด แต่ด้วยความที่อยากรู้มากกว่านี้เลยเอาชื่อเขาไปเสิร์ชดู ก็ได้ข้อมูลมาเพิ่ม เห้ย เขาเป็นรุ่นพี่ซิ่วมา เช้ดโด่ว เขาดูเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆเลย และที่สำคัญ เสิร์ชไปเสิร์ชมา อ้าวเป็นเดือนสาขานิ เช้ดโด่ว ณ จุดๆนั้น อย่าคิดว่าจะบอกชอบเขาเลย แค่คิดที่จะชอบก็ผิดแล้วนังปลวก ตอนนั้นชีวิตของคนแอบชอบโคตรเศร้า เขาเป็นเดือนเลยนะ ส่วนเราเป็นสัตว์ประหลาด TT แต่ถามว่าเราจะเลิกชอบมั้ย ไม่เลย ชอบหนักมาก ชอบมากๆ
........................................
หลังจากวันนั้นที่สืบค้นข้อมูลก็พอจะรู้อะไรมาบ้าง ที่สำคัญเราเจอข้อความหนึ่งจากเพื่อนเขาในไทม์ไลน์ของเขาว่า "ไม่เจอนานเลย ลูกเป็นไงบ้าง" เขาไม่ได้ตอบอะไร ณ ตอนนั้นเราคิดวนไปวนมาว่า มีลูกแล้วหรอ ที่ซิ่วมาเพราะมีลูกหรอ หรือเพราะมีลูกเลยทำให้เรียนช้าไป 1 ปี ตอนนั้นคิดมากๆๆๆๆๆ คิดมากจนร้องไห้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เราก็พยายามจะไม่คิดอะไร เพราะเพื่อนเขาอาจจะหมายถึงอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คน เช่น หมา แมว หมู
........................................
เลิกคิด เลิกคิด
ทุกครั้งที่ไปเรียน เราเฝ้ามองหาแต่เขาว่าเขามาเรียนมั้ย เขาจะนั่งตรงไหน วันนี้เขาใส่เสื้อผ้าสีอะไร แต่งตัวเป็นยังไง เราเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาแล้วก็ไดอารี่เอาไว้ ทำแบบนี้ทุกวันที่เจอเขา วันไหนที่ไม่ได้เจอก็จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไป
เราชอบแบบนี้ คิดแบบนี้มาเรื่อยๆ จนรู้สึกไม่ไหวแล้ว อยากระบายให้ใครสักคนฟัง เราเลยปรึกษาเพื่อน แต่ก็นั้นแหละ เพื่อนมีแฟนแล้ว อาจจะไม่ได้เข้าใจคนแอบชอบมาก แต่อย่างน้อยเพื่อนก็ให้กำลังใจ และรับฟังเราเป็นอย่างดี
ช่วงเวลานั้น เราพยายามตัดเรื่องอื่นออกไป เราคิดแค่ว่าเราชอบเขา ชอบเขามาก ชอบเขามากๆ ชอบเขามากๆๆๆๆๆๆ จนกลายเป็นรัก
เรารู้สึกแบบนี้เรื่อยมาจนจบปีสอง เรารู้สึกว่าเราควรหยุด เราจะมาแอบชอบแอบรักคนที่เขาไม่รู้จักเรา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเราอยู่บนโลก ทำไม
เราพยายามตัดใจหลายครั้งมากๆ แต่ก็ตัดใจไม่ได้ มันทรมานและมีความสุขไปพร้อมๆกัน แต่หลังเราเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ ทุกครั้งที่เราเจอเขาเราจะทุรนทุราย กระวนกระวายใจ เขิน ใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา อาการแบบนี้มันทำให้เราต้องออกจากตรงนั้นเพราะเรากลัวว่าเขาจะรู้ว่าเราชอบ
ตอนนั้นคิดแค่ว่าเราแอบรักเขาอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว คอยมองจากมุมนี้ก็ดีแล้ว ตอนนั้นเราคิดแบบ
ปิดเทอมช่วงซัมเมอร์ปี 2 เราก็เรียนซัมเมอร์ มันเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเราปิด 6 เดือน เกี่ยวกับ AEC สักอย่างอ่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก เราไม่เจอเขาเลย รู้สึกคิดถึงมากๆ ร้องไห้บ่อยมาก ชอบทำเอ็มวีเศร้าๆเวลาอยู่คนเดียว ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เลย เราคิดถึงเขา เราอยากเจอเขา เราโทรคุยกับเพื่อน เพื่อนก็ปลอบใจและรับฟังเราอย่างดีเช่นเคย รู้สึกขอบคุณเพื่อนคนนี้มากๆ ที่คอยให้กำลังใจกัน
และแล้วก็มาถึงวันเกิดของเขา เราอยากทำเซอร์ไพร์สมาก แต่ก็นะ ถ้าจู่ๆไปทำ ก็คงจะแปลกๆ เขาคงคิดว่าเราบ้า เราได้แต่ซื้อเค้กมา จุดเทียนแล้วเป่า ฉลองวันเกิดให้เขา โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็มีความสุขนะ แต่จะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเขาอยู่ด้วย
......................................
และแล้วก็เปิดเทอมปี 3 ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอเขาเลย เรารู้สึกโคตรคิดถึงเลย ฮือออออ เราคิดถึงมากจนถึงขั้นอยากรู้ว่าเขาอยู่หอไหน ยังอยู่หอในหรือเปล่า เราแกล้งทำเป็นไปถามป้ายามหอพักชายว่ามีห้องไหนว่างบ้าง น้องชายจะย้ายมาอยู่หอไหน ป้ายามก็ใจดีเอารายชื่อมาให้ดู ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆ กลัวถูกจับได้ กลัวโดนดุ แต่เราก็พยายามดึงสติกลับมา จนเราหาชื่อเขาเจอ เราขอป้ายามถ่ายรูปไว้ ด้วยความที่ตื่นเต้นมือสั่นมาก ถือกล้องมือก็สั่น ปรากฎภาพไม่ชัด TT แต่เราจำได้ ฮี่ๆๆ ตอนนั้นถึงไม่ได้เจอ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้นะว่าเขายังอยู่หอในเหมือนกัน
.........................................
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราตามส่องเฟสบุ๊คเขาทุกวัน วันๆหนึ่งหลายรอบมาก ทุกอย่างในเฟสบุ๊คของเขาเหมือนเดิมเลย คือไม่มีอะไรอัพเดตเลย >แป่ว<
แต่ก็มีความสุขดีนะ แฮ่ เราเข้าส่องแชทว่าออนอยู่มั้ย แล้ววันหนึ่งมือก็ลั่นไปกดโดนถูกใจส่งไปในแชทเขา ตอนนั้นตกใจมาก โคตรกลัวเลย เรารีบปิดเฟสบุ๊คชั่วคราวทันที ไม่รู้ว่าปิดทำไมเหมือนกัน พอผ่านไปสักพักเราก็เปิดเฟสบุ๊คกลับมาเล่นเหมือนเดิม ตอนนั้นก็คิดนะว่าเขาจะกกดเข้ามาอ่านมั้ย ถ้าเข้ามาอ่าน เขาจะ งง มั้ยว่าใครส่งมา เขาจะอยากรู้มั้ยว่าส่งมาทำไม เราคิดว่าเขาจะสงสัยมากจนทักแชทมาถาม แต่ไม่เลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น TT เศร้าจัง
.........................................
ในที่สุดก็ขึ้นปี 4 แล้ว เวลาในรั้วมหาวิทยาลัยใกล้จะหมดแล้ว เราจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ตอนนั้นเรามีแค่เฟสบุ๊ค ไอจี และทวิตเตอร์ของเขาที่ไม่ได้อัพเดตอะไรเลย แต่เราอยากมีมากกว่านั้น เราเลยหาข้อมูลอีกครั้ง (ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีกับวิธีการหา เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ ^^) เราหาข้อมูลด้วยวิธีสุ่มสี่สุ่มห้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเราก็เจอเบอร์โทร เช้ดโด่ว ปรบมือให้ความบ้าของเรา กรี๊ดหนักมาก ฮี่ๆๆ เราเมมเบอร์เขาไว้ จากนั้นก็เอาเบอร์ไปเสิร์ชไลน์ แต่ไม่กล้าใช้เบอร์จริงตัวเอง เลยไปเซเว่นซิมใหม่มาโทรหาเขาเพื่อเช็คดูว่าเขายังใช้เบอร์นี้ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ทำเนียนว่าโทรมาหาคนนี้ คณะนั้น เขาก็บอกว่าไม่ใช่ นี่....ม......ตอนนั้นแบบเห้ยแกกกกกกกกก เสียงเขาไพเราะเสนาะหูมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงเขา นี่4ปีแล้วนะเพิ่งได้ยินเสียงเขาครั้งแรก โธ่ชีวิต! ><
เอาล่ะรู้แล้วว่าเบอร์เขา ก็เอาไปแอดไลน์เลยจ้า (โรคจิตไปอีก กลัวตัวเอง) เราเอาแอคเค้าปลอมแอดไป เขาไม่รับแอดเรา จนปี 4 เทอม 2 เราตัดสินใจเราแอคเค้าจริงแอดไป ตอนนั้นใช้รูปโปรเป็นโคนัน เขาก็ไม่ได้รับแอด เราส่องไทม์ไลน์เขาไม่ได้เลย TT จนกระทั่งวันหนึ่ง เราก็ส่องไทม์ไลน์เขาได้ เห้ย เขารับแอดเรา เขารับแอดเราในไลน์อ่ะแก ซึ่งในไทม์ไลน์ไลน์มีความอัพเดตมากกว่าเฟสบุ๊คซะอีก ฮ่าๆๆ ตอนนั้นดีใจมากกกกกกกกก ตื่นเต้นมากกกก รีบบอกเพื่อนทันที อยากให้เพื่อนตื่นเต้นด้วย แต่ก็นะช่วงสอบเพื่อนเครียดค่ะ โอเคไม่เป็นไร ตื่นเต้นคนเดียวก็ได้ แฮ่ๆๆๆ
...............................................
ปี 4 เทอม 2เราเรียนแค่ 3 วิชา แล้วสอบไฟนอล 2 วิชา เราสอบเสร็จเร็ว ช่วงสอบเรามักจะเจอเขาที่ห้องสมุด แต่อย่างที่เคยบอกไว้ข้างบนว่าเราเจอเขาทีไร เราต้องหลบหน้า หรือหนีเขาทุกที เพราะว่าเขิน เก็บอาการไม่อยู่ เพื่อนก็บอกเราว่า "บ้าป่าว อยากเจอเขา แต่พอได้เจอกลับวิ่งหนี เขาไม่ใช่ผีนะ" ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ผีไง เพราะว่าเป็นเขาไง เพราะเป็นเขาที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวจะแตก ไม่ใช่กินเยอะนะ ฮ่าๆๆ
ช่วงสอบนี้เราเครียดมากเราอยากสารภาพรักแต่เราไม่กล้า เพราะเราไม่ใช่คนน่ารัก ไม่ใช่คนสวย เรียนก็ไม่เก่ง แถมเพ้อเจ้อไร้สาระอีก เราก็คิดวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนวันนึงก็เพื่อนที่รู้จักไปสารภาพรักรุ่นพี่ที่เขาซิ่วเพราะว่าจะจบแล้วเดี๋ยวก็ไม่เจอแล้ว ถึงคำตอบจะใช่เซย์เยส แต่เพื่อนก็แฮปปี้ เพราะพี่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่เพื่อนเราชอบ
เราอยากทำแบบนั้นบ้าง แต่เรากลัวคำตอบ กลัวสีหน้าของเขา เรากลัวว่าเขาไม่ชอบเรา เรากลัวว่าเขาจะเกลียดเรา เรากลัวไปหมด จนในที่สุดวันสอบวันสุดท้ายของมหาวิทยาลัยก็มาถึง เราไม่เจอเขาอีกแล้ว ตอนนี้เราไม่รู้แล้วว่าเขาอยู่ไหน ทำงานอะไร เรียนต่อหรือป่าว ไปเที่ยวที่ไหน
ตอนนี้เราโคตรคิดถึงเขาเลย เรามีเฟสบีค ไอจี ทวิตเตอร์ เบอร์โทร ไลน์ แต่เราทำอะไรไม่ได้เลย เราไม่มีความกล้าเลย
ตอนแรกเราคิดว่าเดี๋ยวสักพักก็หายแหละ แต่นี่ก็ผ่านมาจะเป็นเดือนแล้ว เรายังไม่เลิกคิดถึงเขาเลย เรายังส่องไทม์ไลน์ ฟังเพลงเศร้า เหงา คิดถึงเขาอยู่อย่างนี้ มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เราเริ่มรู้สึกว่าใจจะขาดอ่ะ เรารู้สึกว่าเรารู้จักเขาเพรยงฝ่ายเดียว เขาไม่ได้รับรู้ เขาไม่ได้รู้จักเราเลย แต่เราก็อยากบอกความรู้สึกของเราไปนะว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เรารู้สึกมากขนาดนี้ เราไม่รู้ว่าเราควรทำยังไง เราไม่อยากชอบเขาแล้ว เราไม่อยากรักเขาแล้วอ่ะ บางทีก็รู้สึกเหนื่อยกับตัวเองนะที่เป็นคนแบบนี้อ่ะ ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าอยากถ่ายรูปกับเขาสักครั้งแต่ก็ไม่ทันแล้ว ที่เหลืออยู่ก็วันรับปริญญา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะหาเขาเจอมั้ย เราจะรวบรวมความกล้าทั้งหมด แล้วใช้ในวันนั้น แต่ระหว่างนี้เราจะทนได้มั้ย ร้องไห้คิดถึงเขาบ่อยมาก เราจะทนกับความรู้สึกแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน แต่ก็สัญญากับตัวเองว่าเราจะรอว้นนั้น รอวันที่เรากล้าจะได้พบกับเขาอีกครั้ง และเราจะบอกความรู้สึกที่เรามีตลอดระยะเวลา 4 ปี กับเขา >เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ<
...........................................
เราอยากได้รับความเห็นจากเพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงดี ด่าก็ได้นะ เรารับได้
แชร์ประสบการณ์ได้
เรื่องนี้อาจไม่ใหญ่สำหรับใครบางคน แต่สำหรับเราแล้วมันใหญ่พอสมควรเลยล่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ><
แอบชอบเพื่อนต่างคณะ 4 ปีแล้ว เราควรบอกเขาดีมั้ย?
ตอนปี 1 เราลงเรียนช่วงซัมเมอร์ วิชานั้นทำให้เราได้พบกับ ผช คนหนึ่ง เขาเรียนวิชาเดียวกับ ตอนแรกเราก็ไม่ได้รู้จักเขาหรอก
มีวันหนึ่ง ผช คนนั้นเขามานั่งเรียนข้างหน้าเรา แล้วเขาก็บิดขี้เกียจเอาหัวมาชนเข่าเราหลายรอบมาก โคตรน่ารำคาญเลย
ตอนแรกกะว่าช่วงอาจารย์พักเบรกจะเตือนเขา พออาจารย์บอกเบรกปุ๊ป เรากำลังจะบอกเขา แต่วินาทีนั้นที่เขาหันมา ความรู้สึกเหมือนโลกหยุดทั้งใบ
ใจเราเต้นแรงมาก จากที่จะเตือนเขา กลายเป็นว่า เราพูดไม่ออก ได้แต่ปล่อยผ่าน ความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนมีอะไรมาทุบตรงหัวใจ รู้สึกอึดอัดเหมือนอกจะแตก หลังจากพักเบรก ผช คนนั้นก็กลับมา ตลอดเวลาเรียนครึ่งหลัง เราไม่ได้เรียนเลย เอาแต่มองเขา แล้วเขินอยู่ในใจ ในหัวคิดแต่ว่าเขาคือใคร เขาชื่ออะไร เรียนคณะอะไร ปีไหน ตอนนั้นมีคำถามมากมายที่อยากถาม แต่ก็ถามได้เพียงในใจ
............
หลังจากเรียนเสร็จเรารีบกลับหอ ตลอดทางก็เอาแต่คิดเรื่องผู้ชายคนนั้น โชคดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียน เอาล่ะ เป็นเวลาในการสืบละว่าเขาคือใคร >โคนันไปอีก<
เราเริ่มจากการสืบหาในเฟสบุ๊ค แต่ลืมไปว่าเราไม่รู้จักชื่อเขานี่หว่า ตอนนั้นคิดไม่ออกเลยว่าจะหาตัวตนเขาได้ยังไง เครียดมาก >เรื่องเรียนทุ่มเทแบบนี้มั้ย<
คิดไปคิดมา เห้ย เราเป็นเด็กปี 1 แล้ววิชาที่เรียนซัมเมอร์ ที่เราเรียนด้วยกันก็มีแต่เด็กปี 1 เท่านั้น เอาละเริ่มจากการหาในกรุ๊ปเฟสต่างๆที่พี่ลากเข้าละกัน
กรุ๊ปแรกที่เราคิดว่าจะหา คือกรุ๊ปเด็กหอ เราเข้าดูสมาชิก ไล่ดูหน้าทีละคน รูปโปรไหนไม่ชัด หรือไม่ใช่รูปคน เราก็กดเข้าไปดู เราเวลาในการหาสักพัก รู้สึกปวดตามาก และคิดว่าจะเลิกหาแล้ว แต่ก็นั้นเพราะความอยากรู้มาก จึงฮึดหาต่อ จนในที่สุดเราก็เจอ เราเจอเฟสของผู้ชายคนนั้นแล้ว วินาทีนั้น รออะไรละค่ะ กดเข้าไปดู และขอเป็นเพื่อนเลยสิ ฮี่ๆๆ หลังจากที่เพิ่มเพื่อนไปไม่กี่นาที เขาก็รับแอด ดีใจมาก กรี๊ดลั่นห้อง โคตรตื่นเต้นเลย เอาล่ะตั้งสติ เข้าดูไทม์ไลน์เขาอย่างละเอียด แต่ไล่ไทม์ไลน์ไม่นาน ไทม์ไลน์ก็สิ้นสุดลง เพราะเขาไม่อัพเดตชีวิตอะไรเลย ตอนนั้นคิดแค่ว่า เออ ดีว่ะ ต้องเป็นคนไม่ค่อยเล่นโซเชียลแน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ เราเริ่มเซฟรูปเขาซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 10 รูป เข้าดูประวัติส่วนการ การเรียนต่างๆ ก็พอทราบได้ว่า เขาชื่ออะไร ทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล โรงเรียนเก่า วันเกิด แต่ด้วยความที่อยากรู้มากกว่านี้เลยเอาชื่อเขาไปเสิร์ชดู ก็ได้ข้อมูลมาเพิ่ม เห้ย เขาเป็นรุ่นพี่ซิ่วมา เช้ดโด่ว เขาดูเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆเลย และที่สำคัญ เสิร์ชไปเสิร์ชมา อ้าวเป็นเดือนสาขานิ เช้ดโด่ว ณ จุดๆนั้น อย่าคิดว่าจะบอกชอบเขาเลย แค่คิดที่จะชอบก็ผิดแล้วนังปลวก ตอนนั้นชีวิตของคนแอบชอบโคตรเศร้า เขาเป็นเดือนเลยนะ ส่วนเราเป็นสัตว์ประหลาด TT แต่ถามว่าเราจะเลิกชอบมั้ย ไม่เลย ชอบหนักมาก ชอบมากๆ
........................................
หลังจากวันนั้นที่สืบค้นข้อมูลก็พอจะรู้อะไรมาบ้าง ที่สำคัญเราเจอข้อความหนึ่งจากเพื่อนเขาในไทม์ไลน์ของเขาว่า "ไม่เจอนานเลย ลูกเป็นไงบ้าง" เขาไม่ได้ตอบอะไร ณ ตอนนั้นเราคิดวนไปวนมาว่า มีลูกแล้วหรอ ที่ซิ่วมาเพราะมีลูกหรอ หรือเพราะมีลูกเลยทำให้เรียนช้าไป 1 ปี ตอนนั้นคิดมากๆๆๆๆๆ คิดมากจนร้องไห้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เราก็พยายามจะไม่คิดอะไร เพราะเพื่อนเขาอาจจะหมายถึงอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คน เช่น หมา แมว หมู
........................................
เลิกคิด เลิกคิด
ทุกครั้งที่ไปเรียน เราเฝ้ามองหาแต่เขาว่าเขามาเรียนมั้ย เขาจะนั่งตรงไหน วันนี้เขาใส่เสื้อผ้าสีอะไร แต่งตัวเป็นยังไง เราเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาแล้วก็ไดอารี่เอาไว้ ทำแบบนี้ทุกวันที่เจอเขา วันไหนที่ไม่ได้เจอก็จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไป
เราชอบแบบนี้ คิดแบบนี้มาเรื่อยๆ จนรู้สึกไม่ไหวแล้ว อยากระบายให้ใครสักคนฟัง เราเลยปรึกษาเพื่อน แต่ก็นั้นแหละ เพื่อนมีแฟนแล้ว อาจจะไม่ได้เข้าใจคนแอบชอบมาก แต่อย่างน้อยเพื่อนก็ให้กำลังใจ และรับฟังเราเป็นอย่างดี
ช่วงเวลานั้น เราพยายามตัดเรื่องอื่นออกไป เราคิดแค่ว่าเราชอบเขา ชอบเขามาก ชอบเขามากๆ ชอบเขามากๆๆๆๆๆๆ จนกลายเป็นรัก
เรารู้สึกแบบนี้เรื่อยมาจนจบปีสอง เรารู้สึกว่าเราควรหยุด เราจะมาแอบชอบแอบรักคนที่เขาไม่รู้จักเรา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเราอยู่บนโลก ทำไม
เราพยายามตัดใจหลายครั้งมากๆ แต่ก็ตัดใจไม่ได้ มันทรมานและมีความสุขไปพร้อมๆกัน แต่หลังเราเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ ทุกครั้งที่เราเจอเขาเราจะทุรนทุราย กระวนกระวายใจ เขิน ใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา อาการแบบนี้มันทำให้เราต้องออกจากตรงนั้นเพราะเรากลัวว่าเขาจะรู้ว่าเราชอบ
ตอนนั้นคิดแค่ว่าเราแอบรักเขาอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว คอยมองจากมุมนี้ก็ดีแล้ว ตอนนั้นเราคิดแบบ
ปิดเทอมช่วงซัมเมอร์ปี 2 เราก็เรียนซัมเมอร์ มันเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเราปิด 6 เดือน เกี่ยวกับ AEC สักอย่างอ่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก เราไม่เจอเขาเลย รู้สึกคิดถึงมากๆ ร้องไห้บ่อยมาก ชอบทำเอ็มวีเศร้าๆเวลาอยู่คนเดียว ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เลย เราคิดถึงเขา เราอยากเจอเขา เราโทรคุยกับเพื่อน เพื่อนก็ปลอบใจและรับฟังเราอย่างดีเช่นเคย รู้สึกขอบคุณเพื่อนคนนี้มากๆ ที่คอยให้กำลังใจกัน
และแล้วก็มาถึงวันเกิดของเขา เราอยากทำเซอร์ไพร์สมาก แต่ก็นะ ถ้าจู่ๆไปทำ ก็คงจะแปลกๆ เขาคงคิดว่าเราบ้า เราได้แต่ซื้อเค้กมา จุดเทียนแล้วเป่า ฉลองวันเกิดให้เขา โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็มีความสุขนะ แต่จะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเขาอยู่ด้วย
......................................
และแล้วก็เปิดเทอมปี 3 ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอเขาเลย เรารู้สึกโคตรคิดถึงเลย ฮือออออ เราคิดถึงมากจนถึงขั้นอยากรู้ว่าเขาอยู่หอไหน ยังอยู่หอในหรือเปล่า เราแกล้งทำเป็นไปถามป้ายามหอพักชายว่ามีห้องไหนว่างบ้าง น้องชายจะย้ายมาอยู่หอไหน ป้ายามก็ใจดีเอารายชื่อมาให้ดู ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆ กลัวถูกจับได้ กลัวโดนดุ แต่เราก็พยายามดึงสติกลับมา จนเราหาชื่อเขาเจอ เราขอป้ายามถ่ายรูปไว้ ด้วยความที่ตื่นเต้นมือสั่นมาก ถือกล้องมือก็สั่น ปรากฎภาพไม่ชัด TT แต่เราจำได้ ฮี่ๆๆ ตอนนั้นถึงไม่ได้เจอ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้นะว่าเขายังอยู่หอในเหมือนกัน
.........................................
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราตามส่องเฟสบุ๊คเขาทุกวัน วันๆหนึ่งหลายรอบมาก ทุกอย่างในเฟสบุ๊คของเขาเหมือนเดิมเลย คือไม่มีอะไรอัพเดตเลย >แป่ว<
แต่ก็มีความสุขดีนะ แฮ่ เราเข้าส่องแชทว่าออนอยู่มั้ย แล้ววันหนึ่งมือก็ลั่นไปกดโดนถูกใจส่งไปในแชทเขา ตอนนั้นตกใจมาก โคตรกลัวเลย เรารีบปิดเฟสบุ๊คชั่วคราวทันที ไม่รู้ว่าปิดทำไมเหมือนกัน พอผ่านไปสักพักเราก็เปิดเฟสบุ๊คกลับมาเล่นเหมือนเดิม ตอนนั้นก็คิดนะว่าเขาจะกกดเข้ามาอ่านมั้ย ถ้าเข้ามาอ่าน เขาจะ งง มั้ยว่าใครส่งมา เขาจะอยากรู้มั้ยว่าส่งมาทำไม เราคิดว่าเขาจะสงสัยมากจนทักแชทมาถาม แต่ไม่เลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น TT เศร้าจัง
.........................................
ในที่สุดก็ขึ้นปี 4 แล้ว เวลาในรั้วมหาวิทยาลัยใกล้จะหมดแล้ว เราจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ตอนนั้นเรามีแค่เฟสบุ๊ค ไอจี และทวิตเตอร์ของเขาที่ไม่ได้อัพเดตอะไรเลย แต่เราอยากมีมากกว่านั้น เราเลยหาข้อมูลอีกครั้ง (ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีกับวิธีการหา เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ ^^) เราหาข้อมูลด้วยวิธีสุ่มสี่สุ่มห้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเราก็เจอเบอร์โทร เช้ดโด่ว ปรบมือให้ความบ้าของเรา กรี๊ดหนักมาก ฮี่ๆๆ เราเมมเบอร์เขาไว้ จากนั้นก็เอาเบอร์ไปเสิร์ชไลน์ แต่ไม่กล้าใช้เบอร์จริงตัวเอง เลยไปเซเว่นซิมใหม่มาโทรหาเขาเพื่อเช็คดูว่าเขายังใช้เบอร์นี้ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ทำเนียนว่าโทรมาหาคนนี้ คณะนั้น เขาก็บอกว่าไม่ใช่ นี่....ม......ตอนนั้นแบบเห้ยแกกกกกกกกก เสียงเขาไพเราะเสนาะหูมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงเขา นี่4ปีแล้วนะเพิ่งได้ยินเสียงเขาครั้งแรก โธ่ชีวิต! ><
เอาล่ะรู้แล้วว่าเบอร์เขา ก็เอาไปแอดไลน์เลยจ้า (โรคจิตไปอีก กลัวตัวเอง) เราเอาแอคเค้าปลอมแอดไป เขาไม่รับแอดเรา จนปี 4 เทอม 2 เราตัดสินใจเราแอคเค้าจริงแอดไป ตอนนั้นใช้รูปโปรเป็นโคนัน เขาก็ไม่ได้รับแอด เราส่องไทม์ไลน์เขาไม่ได้เลย TT จนกระทั่งวันหนึ่ง เราก็ส่องไทม์ไลน์เขาได้ เห้ย เขารับแอดเรา เขารับแอดเราในไลน์อ่ะแก ซึ่งในไทม์ไลน์ไลน์มีความอัพเดตมากกว่าเฟสบุ๊คซะอีก ฮ่าๆๆ ตอนนั้นดีใจมากกกกกกกกก ตื่นเต้นมากกกก รีบบอกเพื่อนทันที อยากให้เพื่อนตื่นเต้นด้วย แต่ก็นะช่วงสอบเพื่อนเครียดค่ะ โอเคไม่เป็นไร ตื่นเต้นคนเดียวก็ได้ แฮ่ๆๆๆ
...............................................
ปี 4 เทอม 2เราเรียนแค่ 3 วิชา แล้วสอบไฟนอล 2 วิชา เราสอบเสร็จเร็ว ช่วงสอบเรามักจะเจอเขาที่ห้องสมุด แต่อย่างที่เคยบอกไว้ข้างบนว่าเราเจอเขาทีไร เราต้องหลบหน้า หรือหนีเขาทุกที เพราะว่าเขิน เก็บอาการไม่อยู่ เพื่อนก็บอกเราว่า "บ้าป่าว อยากเจอเขา แต่พอได้เจอกลับวิ่งหนี เขาไม่ใช่ผีนะ" ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ผีไง เพราะว่าเป็นเขาไง เพราะเป็นเขาที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวจะแตก ไม่ใช่กินเยอะนะ ฮ่าๆๆ
ช่วงสอบนี้เราเครียดมากเราอยากสารภาพรักแต่เราไม่กล้า เพราะเราไม่ใช่คนน่ารัก ไม่ใช่คนสวย เรียนก็ไม่เก่ง แถมเพ้อเจ้อไร้สาระอีก เราก็คิดวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนวันนึงก็เพื่อนที่รู้จักไปสารภาพรักรุ่นพี่ที่เขาซิ่วเพราะว่าจะจบแล้วเดี๋ยวก็ไม่เจอแล้ว ถึงคำตอบจะใช่เซย์เยส แต่เพื่อนก็แฮปปี้ เพราะพี่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่เพื่อนเราชอบ
เราอยากทำแบบนั้นบ้าง แต่เรากลัวคำตอบ กลัวสีหน้าของเขา เรากลัวว่าเขาไม่ชอบเรา เรากลัวว่าเขาจะเกลียดเรา เรากลัวไปหมด จนในที่สุดวันสอบวันสุดท้ายของมหาวิทยาลัยก็มาถึง เราไม่เจอเขาอีกแล้ว ตอนนี้เราไม่รู้แล้วว่าเขาอยู่ไหน ทำงานอะไร เรียนต่อหรือป่าว ไปเที่ยวที่ไหน
ตอนนี้เราโคตรคิดถึงเขาเลย เรามีเฟสบีค ไอจี ทวิตเตอร์ เบอร์โทร ไลน์ แต่เราทำอะไรไม่ได้เลย เราไม่มีความกล้าเลย
ตอนแรกเราคิดว่าเดี๋ยวสักพักก็หายแหละ แต่นี่ก็ผ่านมาจะเป็นเดือนแล้ว เรายังไม่เลิกคิดถึงเขาเลย เรายังส่องไทม์ไลน์ ฟังเพลงเศร้า เหงา คิดถึงเขาอยู่อย่างนี้ มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เราเริ่มรู้สึกว่าใจจะขาดอ่ะ เรารู้สึกว่าเรารู้จักเขาเพรยงฝ่ายเดียว เขาไม่ได้รับรู้ เขาไม่ได้รู้จักเราเลย แต่เราก็อยากบอกความรู้สึกของเราไปนะว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เรารู้สึกมากขนาดนี้ เราไม่รู้ว่าเราควรทำยังไง เราไม่อยากชอบเขาแล้ว เราไม่อยากรักเขาแล้วอ่ะ บางทีก็รู้สึกเหนื่อยกับตัวเองนะที่เป็นคนแบบนี้อ่ะ ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าอยากถ่ายรูปกับเขาสักครั้งแต่ก็ไม่ทันแล้ว ที่เหลืออยู่ก็วันรับปริญญา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะหาเขาเจอมั้ย เราจะรวบรวมความกล้าทั้งหมด แล้วใช้ในวันนั้น แต่ระหว่างนี้เราจะทนได้มั้ย ร้องไห้คิดถึงเขาบ่อยมาก เราจะทนกับความรู้สึกแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน แต่ก็สัญญากับตัวเองว่าเราจะรอว้นนั้น รอวันที่เรากล้าจะได้พบกับเขาอีกครั้ง และเราจะบอกความรู้สึกที่เรามีตลอดระยะเวลา 4 ปี กับเขา >เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ<
...........................................
เราอยากได้รับความเห็นจากเพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงดี ด่าก็ได้นะ เรารับได้
แชร์ประสบการณ์ได้
เรื่องนี้อาจไม่ใหญ่สำหรับใครบางคน แต่สำหรับเราแล้วมันใหญ่พอสมควรเลยล่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ><