..เอามาให้ฮากันอีกรอบ!!!!! เห็นมันเข้ากับกระทู้ดีครับ..  ถามว่า ปวดอึที่ไหน ตอนไหน ทรมานที่สุดในชีวิตคุณ?  ผมว่าที่ถนนมิตรภาพ ตอนช่วงเทศกาลครับ ตามนี้เลยครับกับความขมขื่นของผม...ผมเคยอยู่ครั้งนึงครับ แบบต้องจำไปตนวันตายเรยครับ วันหยุดสงกรานต์ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ ร้อยเอ็ดแบบนั่งท้ายรถกระบะไป มีมอไซค์ยกใส่ท้ายรถไปด้วย เพื่อนๆผู้ชายนั่งกระบะหลังกัน 4-5 คน ทีนี้พอเรยสระบุรีไปแถวโรงปูน รถติดมากๆ ขาออกนี่รถติดยาวเหยียดนิ่งสนิทงานเข้าแล้วตรูข้าศึกมาโจมตีอะไรตอนนี้ มันปวดแบบท้องเสียอะครับพี่น้องริมข้างทางก็ไม่มีป่า หรือต้นไม้ให้แอบเลย เป็นข้างทางโล่งๆแบบสุดลูกหูลูกตา ผมก็อั้นไว้กัดฟันไว้ เหงื่อกาฬแตกซิก ขนลุกซู่ๆ เพื่อนถามเมิงเป็นไรฟระ บอกตรูปวดขรี้อ่ะ คืออาการมันคล้ายๆท้องจะเสียอ่ะครับ อั้นไม่อยู่จริงๆ ข้าศึกมันทะเล็ดออกมาหน่อยแล้วครับ ทำไงดี มันแว๊บมาสมองในบัดดล มองไปทีพื้นรถเห็นหมวกกันน๊อคแบบคลุมคางวางอยู่ได้การหละ ผมใส่หมวกกันน๊อดได้วิ่งไปข้างทางประมาณ 40 เมตรแล้วก็หันตูดให้ถนนซึ่งมีรถจำนวนมากมายจอดติดอยู่ ผมรูกกางเกงนั่งลงได้เบ่งแบบเต็มพิกัดเลยครับราวกับจรวดอพอลโล่ จะไปดวงจัน ยังไงยังงั้น มันเป็นการขรี้ที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ถ้าไม่นับว่ามานั่งขรี้ริมถนนมิตรภาพที่มีรถติดกันยาวสุดลูกหูลูกตา ทีนี้ขรี้เสร็จแล้วหลุดจากพวังค์ เช็ดตรูดเสร็จ ลูกขึ้นยืนใส่กางเกงโดยหันหลังให้ผู้คนและรถราจำนวนมาก หันหน้าเข้าภูเขาลูกใหญ่ ในใจคิดว่าตรูจะกลับไปสู้หน้าประชาชนพี่น้องที่ร่วมชะตากรรมรถติดอยู่บนถนนได้เยี่ยงไร ผมรวบรวมความกล้ากลับหลังหันมาเผชิญความจริง โอ้พระเจ้า รถคันที่ผมนั่งมามันได้เลยไปไกลลิบๆแล้วแต่ทำใจดีสู้เสือคิดว่ายังไงก็ไม่มีใครเห็นหน้าที่หล่อเหลาของเรา เพราะเราใส่หมวกกันน๊อคเต็มหน้ากระจกดำ ผมรวบรวมความกล้าอีกครั้งหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามถนนเพื่อตามรถคันที่ผมมาด้วย พอขึ้นรถที่ผมนั่งมาได้ผมไม่กล้าถอดหมวกกันน๊อคออกเลยครับ ร้อนก็ร้อนเหงื่อกาฬแตกซิกอีกแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะปวดขรี้นะครับ แต่เป็นเพราะอากาศมันร้อนมากๆ ใส่มาตั้งแต่สระบุรี ผมมาถอดหมวกเอาโคราช รวมเวลาที่ใส่หมวกกันน๊อค ประมาณ 5-6 ชั่วโมงครับ มันเป็นประสบการณ์การขรี้ที่สุดขมขื่นเลยครับ ผมจำไปจนวันตายเลยครับ