ผมเชื่อว่าสมาชิกหลายท่านเป็นเหมือนผม ถอย iPad Pro 9.7" มาแต่หา Case ดีๆใส่ไม่ได้ ต้องพึ่งเคสง่อยๆทั่วๆไป ซึ่งรูไม่ตรงบ้าง คมบ้าง คุณภาพไม่ได้บ้าง มีเคสแต่ไม่มีที่เก็บ Apple Pencil บ้าง จะซื้อของ Apple เองก็ลมแทบจับ เจ็บจี๊ด เลือดซิบ แพงมากๆ จนในที่สุดฟ้าก็ประทาน Case ของ iPad Pro 9.7" มาจนได้....วันนี้เลยจัดไปอย่าให้เสีย



ก่อนจะสั่ง Case ของเจ้านี้ไปก็เฟ้นหามานักต่อนัก ทั้งบนห้าง เสือป่า มาบุญครองก็ได้บ้าง ห่วยบ้าง หมดไปกับค่าเคสไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ในที่สุดก็ไปเจอของแบรนด์ SwitchEasy รุ่น  CoverBuddy ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ผมเคยใช้มาตั้งแต่สมัย iPhone3G แต่เจ้ากรรม ดันไม่มีขายในประเทศไทย ต้องสั่งจากนอกเท่านั้น...ไหนๆก็ไหนๆแล้วเลยจัดมา รออยู่เกือบ 2 อาทิตย์พึ่งได้มาครับ เลยจัดแกะกล่องกันให้ดูสดๆเลย ก่อนไปแกะกล่องมาเกริ่นคุณสมบัติ ประโยชน์ใช้สอยของมันกันเล็กน้อย...

SwitchEasy รุ่น CoverBuddy ทำออกมาด้วยกัน 4 สี คือ สีเทาดำ/สีใส/สีดำทึบ และสีพิเศษ Magic Pink ซึ่งเข้ากับ iPad Pro สี Rose Gold อย่างที่สุด และรุ่น  CoverBuddy ทำออกมาทั้ง iPad Pro 12.9" และ iPad Pro 9.7" วัสดุเป็นพลาสติกอย่างดี ขอบต่างๆไม่มีคมบาดนิ้ว บางมาก บางเพียง 1.5 มิลเท่านั้น ตัวเคสจะเกาะแค่ขอบๆ ไม่กินทั้งฟิล์มธรรมดาและฟิล์มกระจกแน่นอน ตัวเคสขุ่นๆหน่อยมี Textured finishing ในตัว ทำให้ไม่เป็นรอยง่ายแต่เวลาใส่แล้วยังคงเห็นโลโก้ Apple และรายละเอียดชัดเจน (สำหรับพวกชอบโชว์โลโก้แบบผม) จุดเด่นๆเลยที่ SwitchEasy  CoverBuddy ทำออกมาคือ Apple Pencil holder ช่องสำหรับเสียบ Apple Pencil ซึ่งเก็บไว้ด้านหลังเครื่อง โดย Apple Pencil holder นี้สามารถถอดได้แล้วปิดให้เป็นแผ่นหลังเรียบๆ ในกล่องจะให้แผ่นปิดมา 2 แบบ และด้วยความนูนของ Apple Pencil holder นี่เองทำให้เป็นอีก 1 ฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Sketch board mode คือเวลาวาง iPad Pro กับพื้นจะทำมุมยกขึ้นมา 3 องศา ซึ่งเวลาใช้งานกับ Apple Pencil แล้วถนัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ (ลองแล้ว) นอกจากนี้  CoverBuddy ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Smart Cover ได้อย่างดี หรือแม้แต่กระทั่งใช้งานกับ Apple Smart Keyboard Case ของ Apple เองก็ไม่จำเป็นต้องถอด SwitchEasy  CoverBuddy ออกแต่อย่างใด Port Smart Connector ยังใช้งานได้ปกติ ช่องต่างๆเว้นได้อย่างพอดิบพอดี รวมไปถึง Lighting Port ก็สามารถชาร์ต Apple Pencil ได้ เรื่องกล้องที่นูนออกมาของ iPad Pro ก็ไม่ต้องกลัวขูดโต๊ะเวลาวางอีกต่อไปเพราะเคสหนาพอที่จะกันกล้องได้ในระดับนึงเลย...

ไปแกะกล่องกันครับ
รอมาเกือบ 2 อาทิตย์ส่งมาเป็นซอง


ผมสั่งสี Magic Pink ซึ่งมันเข้สากั๊นเข้ากันอย่างบอกไม่ถูกกับ iPad Pro 9.7" สี Rose Gold ของผม



ถ้าปกติทั่วไปเราสามารถลองใช้งานความถนัดมือและองศาของ Sketch board mode ได้โดยไม่ต้องไปแกะห่อ


CoverBuddy หลากหลายฟังก์ชั่น


สีที่เข้ากั๊นเข้ากันกับ Rose Gold


อุปกรณ์ที่ให้มาก็มีแค่ตัวเคส แผ่นปิด 2 แบบทั้งใส่ปากกาได้ และใส่ไม่ได้ กับผ้าเช็ด microfiber อย่างดีอีกผืน แค่เนี่ยะ


นี่ครับหน้าตาตัว SwitchEasy CoverBuddy จับๆงอๆดู วัสดุดีมาก สมการรอคอย สมราคา สมคุณภาพของแบรนด์เลย





สังเกตุตัวเคสจะเกาะแค่ขอบๆ ฉะนั้นไม่ว่าจะติดฟิล์มธรรมดาหรือฟิล์มกระจกก็ไม่มีผลกับการใส่เคส

ด้านนอกจะปั๊มโลโก้ CoverBuddy


ด้านในจะสลับกลับหัวกันเป็นคำว่า SwitchEasy


แถบเป็นร่อง มีรูไว้สำหรับปรับเปลี่ยนที่เก็บ Aple Pencil หรือปรับเป็นแบบเคสเรียบๆ


มีคำอธิบายเล็กๆ


มีแถบมาให้ 2 แบบ ใส่ง่ายแต่ถอดยากหน่อย


แบบเรียบๆปิดรูใส่มาแล้วก็เรียบๆ


แบบใส่ Apple Pencil holder


ลองเอาตัวเครื่องใส่ดู (เครื่องผมติดฟิล์มหุ้มทั้งตัวไว้ด้วยนะครับ) เรียบ สวย สีเข้ากันเลย



ช่อง Lighting Port และช่องสำโพง Stereo


ด้านบน Port 3.5mm. และลำโพง


ปุ่มเปิด-ปิดและลำโพง


ไมค์ตัวที่ 1 และ Volume


เว้นช่องกล้อง แฟรต และไมค์ตัวที่ 2


ถ่ายแบบระนาบจะเห็นว่าไม่มีเลนส์กล้องยื่นออกมา


สันด้านข้างเว้าเป็นแนวยาวววววว เว้าไว้ทำไมกันนะ ?


ที่แท้มันเอาไว้ใส่กับ Smart Keyboard หรือ Smart Cover นั่นเอง



ใส่ Apple Pencil สามารถใส่ด้านไหนก็ได้ ฟิตแน่นแน่นอน ไม่หลุด ไม่โยกเยก



Apple Pencil ไม่หลุดหรือไหลลื่นออกมาเพราะมีตัวล๊อคหรือหนีบอยู่เป็นกลไกเล็กๆที่เคสครับ


ใส่แล้วสวยฟินมาก


Sketch board mode เป็นการยกสูงจากพื้น 3 องศา เพื่อใช้งานเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เมื่อยมือ




เคสเว้นช่องไว้สำหรับชาร์ต Apple Pencil ได้ด้วย


จบแล้วจ้า....

ทิ้งท้ายไว้ด้วย VDO แล้วกัน

สีมีตามนี้


สนนราคาก็ US$ 29.99 สำหรับ iPad Pro 9.7" และ US$ 39.99 สำหรับ iPad Pro 12.9"
อีก 1 ท่างเลือกครับ สนใจก็คลิ๊กสั่งได้ตามลิงค์ข้างล่างโลดดดดด....
https://www.switcheasy.com/coverbuddy-97.php