{SPOIL ZONE} วิเคราะห์ The Conjuring2 : ความจริงสองบรรทัดสู่หนังสองชั่วโมง

(ปรับปรุงเนื้อหา และแก้ไขเรื่องคำผิดเรียบร้อยแล้ว)




#บทวิเคราะห์TheConjuring2 #ความจริงสองบรรทัดสู่หนังสองชั่วโมง

คำเตือน ::: มี SPOIL ละเอียดยิบ และเปิดเผยทุกเนื้อหาของเรื่อง

โพสนี้เหมาะสำหรับ...
1.คนที่อยากรู้เรื่องราวสำคัญโดยละเอียด และเชื่อมโยงประเด็นในภาพรวม
2.คนที่ดูมาแล้วยังมีข้อสงสัย จดจำบางฉากไม่ได้ หรืออกทบทวนเหตุการณ์
3.คนที่มีคำถามเกี่ยวกับหนังที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์จริง
4.คนที่ชอบเรื่องราวลึกลับเหนือธรรมชาติ



เรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1977...
เดลิมิลเลอร์ รายงานข่าวนี้ ที่ 284 ถนนกรีน เมืองเอ็นฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
มันถูกตั้งชื่อว่า  "บ้านผีสิงแห่งเอ็นฟิลด์  
.
"เจเน็ตเปล่งเสียงคำราม มันเป็นเสียงของชายชรานามว่า บิล เขาพูดว่า
ข้าตาบอด มีเลือดออกในสมอง ข้าหลับไปและตายบนเก้าอี้ที่มุมห้องชั้นล่าง!"
.
และครอบครัวที่ต้องพบกับชะตากรรมอันโหดร้าย คือ ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวของเพ็กกี้ ฮอดจ์สัน กับ ลูกๆของเธอ สามคน คือ มากาเร็ต อายุ 13  เจเน็ต อายุ 11  และ บิลลี่ อายุ 7 ขวบ
.
คำอธิบายเดียวที่เกิดขึ้นในรายงานข่าวเกี่ยวกับบ้านผีสิง คือ "มันไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์"
.
เจมส์ วาน เลือกหยิบยกเอาความจริงบางส่วน มาเติมเต็มเทคนิคการเล่าเรื่องผีตามแบบเฉพาะตัวของเขา แล้วบอกเล่ามันผ่านมุมมองของตัวละครสองฝั่ง นั่นคือ ฝั่งของครอบครัว วอเรน และ ครอบครัว ฮอดจ์สัน
.
เจมส์ วาน ใช้การเล่าเรื่องด้วยวิธีปูพื้นไปสู่ปิศาจตัวหนึ่ง ที่ดูจะไม่มีความเชื่องโยงใดๆ กับแกนเรื่อง
แต่สุดท้ายก็ดึงกันเข้ามาหาได้อย่างแนบสนิท ราวกับว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
.
และต่อไปนี้ คือ เรื่องราวทั้งหมดในหนัง the Conjuring2 ที่ผมจะนำมาเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น
และกล่าวถึงประเด็นปัญหาที่อาจจะคาใจ หรือเป็นที่น่าสงสัยสำหรับคนที่ไปดูมาแล้ว...



บทวิเคราะห์ที่ 1  : ว่าด้วยเบาะแสแรกจาก อมิตี้วิลล์
เอ็ด และลอเรน ได้ไปทำพิธีติดต่อกับวิญญาณที่บ้านผีสิงอมิตี้วิลล์
เรื่องราวขอบ้านหลังนี้มีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 1974
ตำรวจได้รับายงานทางโทรศัพท์ถึงเหตุการณ์สุดสยองขวัญ
ที่บ้านเลขที่ 112  โอเชี่ยนอเวนิว ในเอมิตี้วิลล์ ลองไอซ์แลนด์
เกิดเหตุอาชญากรรมครอบครัวหนึ่งถูกสังหารหมู่ บนเตียงนอนของพวกเขาเอง
"โรนัลด์ เดเฟโอ จูเนียร์" ได้รับสารภาพว่า ได้ยิงพ่อแม่และพี่น้องของเขาตายด้วยปืนไรเฟิล
ขณะที่พวกเขานอนหลับ และอ้างว่า "เสียง" ในบ้าน ทำให้เขาก่อเหตุฆาตรกรรมสยองดังกล่าว
(ตรงนี้คือส่วนที่ เจมส์ วาน หยิบมาบอกเล่าผ่านญาณสัมผัส ของ ลอเรน) โดยในหนังนั้น ทำให้เธอเป็นเหมือนกับผู้ร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรม
.
ภายในบ้านทางขวาเป็นทางเข้าสู่ห้องนอนขนาดใหญ่
ที่นั่นตำรวจพบศพของนายโดนัลด์ และนางหลุยส์ เดอฟีโอ อายุ 43 ปี และ 42 ปี
ทั้งคู่ถูกยิงในขณะหลับด้วยปืนยาว ยี่ห้อมาร์ลีน ขนาด 35 มม.
(ในหนัง นางหลุยส์ เดอฟิโอ นั่งอยู่ที่เตียงแล้วมองมายังฆาตกร)
.
ฉากบรรยายว่า ลอเรน เดินไปยังฝั่งตรงข้ามของห้องนอนที่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สอง
และชักปืนยิง จอห์น เดฟฟีโอ อายุ 9 ขวบ มาร์ค เดอฟีโอ
อายุ 11 ขวบ ลูกของตัวเอง เข้าที่กลางหลังในระยะประชิด
.
และห้องนอนชั้นล่าง ฆาตกรได้ยิง แอลลิสัน เดอฟีโอ อายุ 13 ปี ดอว์น เดอฟีโอ อายุ 18 ปี ในขณะที่นอนคว่ำหน้า
และถูกยิงกลางหลัง เหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะเกิดในเวลา 3.16 นาฬิกา
(ตรงนี้ เจมส์ วาน เลือกใช้สถานการณ์ที่ตรงกับเหตุการณ์จริงเช่นกัน)
.
ตามเหตุการณ์จริง เหยื่อทั้งหมดถูกวางยาในอาหารมื้อค่ำ
.
4 ธันวาคม ค.ศ. 1975
ศาลพิพากษาจำคุกฆาตกรใจโหดรายนี้ 150 ปี
ผลสุดท้ายเขาเอ่ยคำสารภาพว่า...
.
"ผมได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าในบ้าน
อยู่ๆ ก็มีมือสีดำยืนปืนให้ผม
ผมได้ยินเสียงคนทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
มันบอกให้ผมฆ่า ในหัวมีแต่เสียงดังเต็มไปหมด"
(ตรงนี้เป็นจุดที่ เจมส์ วาน ใช้เชื่อมโยงกับปิศาจในรูปของผีแม่ชี ซึ่งก็ คือ ซาตานวาเล็ค ที่ถูกเฉลยออกมาในภายหลังนั่นเอง)
.
ข้อสรุปบทวิเคราะห์ที่ 1
1.เหตุการณ์ที่อมิตี้วิลล์ถูกหยิบยกมาเล่าต้นเรื่องเพื่อเกริ่นถึงนิมิตของ ลอเรน เกี่ยวกับความตายของ สามีเธอ
ซึ่งหากใครได้ดู คอนจอริ่งภาคแรก จะพบว่ามีเหตุการณ์ตอนหนึ่งเล่าถึง การไล่ผีที่ ลอเรน ถึงกับขังตัวเองไว้ในห้องเป็นเวลา 8 วัน
นั่นก็เพราะเธอเห็นนิมิตความตายของ เอ็ด วอเรน นั่นเอง
2.เจมส์ วาน ได้ใช้เกร็ดตัวละคร "เสียงในหัว" ของ รอนนี่
โดยอนุมานเอาว่า มันคือ ปิศาจที่คอยคบคุมจิตใคนให้หลงผิด และก่อบาปแทนตัวมัน

---------------------------------



บทวิเคราะห์ที่ 2 : ว่าด้วยสาเหตุที่ต้องใช้คดีบ้านผีสิงแอนฟีลด์

ในปริศนาชิ้นนี้ จะพูดถึงสิ่งทีเกิดขึ้นกับครอบครัว ฮอดจ์สัน ใน the Conjuring2  
ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น ครอบครัว ฮอดจ์สัน ประกอบไวย แม่ คือ เพ็กกี้ และลูกสาวสองคน
มีมาร์กาเร็ด และ เจเน็ต ลูกชายคนเล็กอีก 2 คน คือ บิลลี่ และจอห์นนี่
เรื่องราวถูกปูพื้นมาให้ว่า สามืของ เพ็กกี้ ได้ซื้อบ้านไว้ แล้วย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขา
ซึ่งในหนังไม่ได้กล่าวถึงหรือเปิดเผยตัวตนของเขาแต่อย่างใด
แต่ เจมส์ วาน ก็ได้เลือกใช้เหตุการณ์จริงบางส่วน มาเป็นเบี้ยเดินเกมสยองของเขาอีกครั้ง
.
จากข้อเท้จจริง บ้านผีสิงที่แอนฟีลด์นั้น เขาได้เลือกหยิบเอาข้อเท็จจริง ซึ่ง เจเน็ต ฮอดจ์สัน วัย 11 ปี
ถูกวิญญาณตนหนึ่งใช้ป็นสื่อกลางในการสื่อสารและหลอกหลอนคนในบ้านวิญญาณนั้น
คือ ชายชรา นมว่า บิล วิคคินส์ (ตรงนี้ในข้อเท็จจริงกล่าวเพียงว่า ชายชราคนนั้น ชื่อ บิล
และตายในปี 1961 และหากนับจนถึงปี 1977 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเรื่อง ก็เกือบยี่สิบปีมาแล้ว
เขาจึงหยิบยกให้ชายแก่คนนี้ ให้เป็นวิญญาณที่หวงแหนบ้านของตัวเอง
และหลอกหลอนคุกคามเด็กๆในบ้านอย่างหนักจนไม่สามารถหลับนอนในบ้านได้)
.
ในหนังได้สร้างเหตุการณ์หลอกหลอนของวิญญาณชายชราขึ้น
โดยเอาการเล่นกระดานผีของเด็กฝรั่งมาเป็นชะนวนสาเหตุหนึ่งในการเรียก
หรือเชิญวิญญาณคนตายให้ออกมาติดต่อสื่อสารกับผู้ที่เล่น
.
โดยที่ในหนังนั้นได้แบ่ง Section การหลอกหลอนของวิญญาณชายชราออกเป็น 8 ระลอก ด้วยกัน
.
ระลอกที่ 1  
มากาเร็ต ตกใจตื่นชึ้นเพราะเสียงเคาะประตู
แต่เมื่อเปิดประตูดูกลับพบว่า มีเพียง เจเน็ต ที่กำลังเดินงัวเงียมาเข้าห้องนอน
เมื่อถามว่าจะเคาะประตูแรงๆทำไม เจเน็ต กลับตอบว่า "ฉันไม่ได้เคาะ"
.
ระลอกที่ 2
เจเน็ตคุยกับตัวเอง แล้วเปลี่ยนเสียงพูดสลับไปมา จนมากาเร็ตต้องมาปลุก และขณะที่เธอกลับไปที่นอน
เจเน็ตก้มาตะโกนอยู่ข้างตัวเธออีก แต่เหมือนเธอพุดกับคนอื่น จากนั้น เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาว่า "ที่นี่บ้านของข้า"
ตรงนี้เจมส์ วาน เล่มกับอารมณ์ของกลุ่มคนดูจำพวกที่ไม่กล้าปิดไฟนอนตอนกลางคืน เพราะกลัวจะมีบางอย่างซ่อนตัวนเงามืด
.
ระลอกที่ 3 บิลลี ตื่นมาดื่มน้ำกลางดึก เขาเดินเตะรถของเล่น แล้วผลักมันกลับเข้าไปในเต้นท์ของเขา
แต่รถขอเล่นกับเคลื่อนที่มาเองถึงหน้าห้องนอน เมื่อเขาพยายามเข้าไปใกล้และทดสอบ ก็มีเสียงดัออกมาจากภายใน
เขาปลุกแม่ให้มาดู เพ็กกี้ ไปเจอ เจเน็ต นอนละเมอไม่รู้ตัวอยู่บนเก้าอี้โยก ตรงมุมห้อง
จังหวะตรงนี้เอง เป็นจังหวะที่เล่นกับความรู้สึกของคนดู ในเรื่องมุมอับ มุมมืด ภายในบ้าน
ซึ่งตามหลักแล้ว จะเป็นที่ซึ่งสิ่งชั่วร้ายมักซุ่มซ่อนตัวเสมอ และของใช้เก่าแก่ที่ตกติดมากับบ้าน มักมีประวัติบางอย่างตามติดมา

ระลอกที่ 4
ระลอกนี้พุ่งเป้าโจมตีมาที่ เจเน็ต โดเฉพาะ สาหตุหนึ่งที่ เจเน็ต ตกเป็นเป้าหมายของดวงวิญญาณ
ก็เพราะเธอมีความเปราะบางด้านสภาพจิตใจมากที่สุด และหากใครได้ดูแล้ คุณคงจำได้ว่า เจเน็ตนั้น
พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนเสมอๆ แม้แต่ยอมถือบุหรี่ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้สูบจริงๆ
ซึ่งตรงนั้น เป็นจุดอ่อนหนึ่งของการไม่มีเพื่อน ที่ทำให้ เจเน็ตถูกพุ่งเป้าโจมตี เป็นตอนที่เธอหยุดเรียน
เพราะรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย เจมส์ วาน เลือกใช้บรรยากาศฝนตกฟ้าร้องคำรามมาบิ้วอารมณ์ของเราให้กระเจิดกระเจิง
และยิ่งเต้นแรงหนัก เมื่ออยู่ดีๆ ทีวีที่ เจเน็ตดูอยู่ ก็เปลี่ยนช่องไปเองโดยอัตโนมัติ
เกิดปรากฏการณ์รีโมททีวีเคลื่อนย้ายตัวเองได้ และเธอเริ่มรู้ึกถึงบางอย่างแล้ว บางอย่างที่สิงสถิตย์อยู่ตรงมุมหองนั้น
.
ระลอกที่ 5
เจเน็ต ผูกข้อมือตัวเองด้วยเชือก เธอถูกกระชกตกลงมาจากเตียงด้วยพลังงานบางอย่าง
เธอแกะเชือกแล้วเดินลงไปดูข้างล่าง เก้าอี้ตรงมุมห้อง เริ่มโยกคลอนด้วยตัวของมันเอง
เธอถอยหลังเข้าห้องพร้อมกับใจเต้นระทึก เอาเก้าอี้ขัดประตูไว้ แต่แล้ว เก้าอี้ก็พลันเลื่อนมาตรงขางเตียงของเธอ
ประตูเปิดอ้า พร้อมกับเสียงไม้ในบ้านลั่นเอี๊ยดอ๊าดเหมือนคนกำลังเดินอย่างช้าๆเข้ามาในห้องนอน
ภาพตัดสลับไปมาระหว่างความกลัวของ เจเน็ต และ การเดินมาของพลังงานบางอย่าง
ตรงนี้เองที่ เจมส์ วาน ใช้กลวิธีที่เรียกว่า  จังหวะที่น่าจะตกใจ มาจับความรู้สึกผู้ชมเอาไว้
เริ่มตั้งแต่ฉากจ่อไฟฉาย ที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และฉาเปิดผ้าห่มของเจเน็ต จนมาถึงการแสดงรอยแผลที่เธอถูกกัดให้แม่ดู
เรื่องราวมันดูเหมือนจะจบลงรงที่ เพ็กกี้ตื่นขึ้นมา แล้วเจอกระดานผีใต้เตียงนอนของเจเน็ต
(ตรงนี้ก็น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เื่อมโยงว่าทำไมเจเน็ต ถึงเป็นคนที่ถูกพุ่งเป้าโจมตี)
แล้วต่อจากนั้น ข้าวข้องก็เลื่อนที่เอง ส่งผลให้ เพ็กกี้ ต้องพาลูกๆของเธอทั้งหมดวิ่งหนีออกมาากบ้านอันแสนน่ากลัวหลังนี้
.
แล้วความจริงอีกส่วนหนึ่ง เรื่องตำรวจชายและหญิง ที่เห็นเก้าอี้ เคลื่อนย้ายตัวเองได้ภายในบ้านของ เพ็กกี้ ฮอดจ์สัน ก็ถูกหยิบมาเล่าด้วย
ตรงจุดนี้ เป็นความตั้งใจที่จะสร้างเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ผสมไปกับความชบชันที่ตำรวจเจอเหตุการณ์ประหลาด่อน้าต่อตา
แล้ววิ่งหนีออกมาเพราะทำอะไรไม่ได้เลย
.
แต่หากการหนีไปบ้านอื่น ทำให้ผีตามไปหลอกไม่ได้ นั่นคงจะไม่สนุกสำหรับ เจมส์ วาน เขาเลือกใช้ ของเล่นอย่างหนึ่งของ บิลลี่ ซึ่งเป็นหีบเพลง (คาดว่าหีบเพลนี้ก็เป็นตัวหนึ่งที่มีสิ่งอาถรรพ์ผูกติดอยู่ ดังเช่นที่ภาคแรกก็มีหีบเพลง ตัวตลก เป็นสิ่งของอาถรรพ์เช่นกัน) โดยหีบเพลงนี้  เป็นหีบเพลงชาบแก่หลังงอ มันเลือกใช้รูปลักษณ์ของ ชายชราหลังงอ เป็นเครื่องบังตา และตามไปหลอกหลอน บิลลี่ โดยเข้าสิงเจเน็ต ตรงตัวละครชายหลังงอ ถือเป็นวิญญาณระดับแฟนตาซี คือ ดูเป็นการ์ตูน มากกว่าดวงวิญญาณ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือน สครูจ ชายแก่ในเรื่อง ริสต์มาส แคร์โรว ที่มีคาแรคเตอร์เดิมดูลืกลับและน่ากลัวสำหรับเด็กๆ
.
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เราได้ข้อสรุปของบทวิเคราะห์ที่ 2 ว่า
1.เหตุการณ์บ้านผีสิงที่เอ็นฟิลด์ ถูกหยิบยกมาเล่าเพราะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และครอบครัว ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกจับยึดโยงมาตั้งแต่ภาคแรก และเจมส์ วาน ดูจะชอบหลักแนวคิดที่ว่า ครอบครัว พลังของคำว่าครอบครัวนั่นแหละที่จะปกป้องเราจากสิ่งชั่วร้ายได้ดีที่สุด
เช่นที่ ในภาคที่แล้ว พลังของครอบครัวได้ปกป้องครอบครัวหนึ่งจากการถูกคุกคมของผีที่สาปที่ดินตัวเองอย่าง เบธชีบา
2.เรื่องจริงที่ถูกหยิบยกมาเล่านั้น คือ มีวิญญาณชายแก่ มีเหตุการณ์ตำรวจเจอข้าวของในบ้านเคลื่อนย้าย และมีการสัมภาษณ์ของเหล่านักจิตวิทยา และนักข่าว กับ เจเน็ต ฮอดจ์สัน เกิดขึ้นจริง

ตรงนี้เองที่ผมจะพูดถึงในบทวิเคราะห์ต่อไป....



(มีต่อในคอมเม้นด้านล่าง)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่