PART II : http://ppantip.com/topic/35255660
PART III : http://ppantip.com/topic/35260739
PART IV : http://ppantip.com/topic/35262622


หลังจากได้ออกไป backpack ครั้งแรกเมื่อช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา (http://ppantip.com/topic/34805568)
ทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่าง ประสบการณ์ มุมมองใหม่ๆ หรือ การใช้ชีวิตช่วงสั้นๆในต่างแดน
backpack คือวิชาที่สอนเรื่องที่อยู่นอกห้องเรียน มันทำให้โลกของเราค่อยๆกว้างขึ้น


ผมมีความคิดอยากจะไป backpack ที่สิงคโปร์ซักครั้ง เพราะเคยไปมาแล้วครั้งนึงกับโรงเรียน
แต่ไปด้วยความเร่งรีบและโปรแกรมที่อัดแน่นจนไม่มีเวลาได้นั่งนิ่งๆซัก ๓๐ นาที
ทำให้รู้สึกเหมือนว่ายังไม่ได้มาสิงคโปร์จริงๆ เหมือนนั่งรถผ่านเฉยๆ



ต่อมาผมก็หาข้อมูลของสิงคโปร์ในห้องบลูแพลนเน็ต ซึ่งมีอยู่เยอะและเป็นประโยชน์มากๆ
หลังจากได้สถานที่ไว้ในใจแล้ว ก็เขียนแผนการเดินทางคร่าวๆ ได้ระยะเวลาประมาณ ๔ วัน ๓ คืน
ทีนี้ก็ศึกษาวิธีการเดินทาง กระทู้ของพี่ๆส่วนใหญ่ จะนั่งเครื่องบินไปลงสิงคโปร์ แต่ด้วยงบที่ค่อนข้างจำกัด เราจึงเลือกโดยสารรถบัสแทน

ผมได้ลองหาข้อมูลว่าจะขึ้นรถบัสจากหาดใหญ่ไปสิงคโปร์ยังไง ก็ได้คำตอบว่ามี บริษัท หาดใหญ่ วาไรตี้ ทัวร์ คอยให้บริการ
นี่เพจของบริษัทครับ (https://www.facebook.com/varietytour/) มีรายละเอียดอยู่บ้างครับ


บริษัทมีรถไปสิงคโปร์ เวลา ๑๓.๓๐ น. และ ๑๘.๐๐ น. ครับ ราคาเท่ากันคือ ๘๕๐ บาท
ผมเลือกเวลา ๑๘.๐๐ น. เพราะไปถึงสิงคโปร์ประมาณ ๑๑.๐๐ น. (local time)
ผมเอาเบอร์จากเพจโทรไปสอบถามรายละเอียดและจองเลยครับ โดยบริษัทจองขากลับให้ด้วย (๑๐๔๐ บาท)
บริษัทจะให้เลขบัญชีมาครับ เราก็ไปโอนเงิน เสร็จแล้วก็โทรแจ้งบริษัทอีกที
บริษัทก็จะแจ้งรายละเอียดเบื้องต้นและให้เราไป check-in ที่บริษัทก่อนเวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมงครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่อยู่บริษัทครับ(รูปจากเพจ)


ต่อมาคือที่พักครับ ใช้บริการ Agoda ในการจองเหมือนเดิม
ครั้งนี้พวกเราเลือก Coziee Lodge
เต็ม ๑๐ ผมให้ ๙ ครับ ไม่โอเคอยู่ ๒ เรื่องคือ
๑.เวลานอนจะไม่สามารถปิดไฟได้ครับ ถ้าแขกคนอื่นอ่านหนังสือหรือทำธุระอะไรอยู่ (ตอนไปเที่ยวผมนอนเร็วครับ)
๒.ที่นี่มีเวลา เปิด-ปิด แอร์ครับ ผมมักจะกลับเข้ามาที่พักตอนเที่ยงๆบ่ายๆมานอนเอาแรง บรรยากาศในห้องค่อนข้างร้อนเลยไม่สบายตัวซักเท่าไหร่ (แต่ก็ดีแล้วครับประหยัดไฟ ฮ่าๆ)
ค่าเข้าพักต่อคนต่อคืนประมาณ ๔๒๐ บาทครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(https://www.agoda.com/th-th/coziee-lodge/hotel/singapore-sg.html?checkin=2016-12-23&los=4&adults=1&rooms=1&cid=1748658&tag=2eff1a9e-7a33-6f14-24f1-44399e49ac76&searchrequestid=2e779dfc-2d99-4701-872a-849f051719ba)

รายละเอียดเบื้องต้นน่าจะหมดแล้ว มาเข้าสู่การเดินทางกันครับ

---

วันที่ ๒๔/๐๕/๕๙ และ วันที่ ๒๕/๐๕/๕๙

หาดใหญ่ - มาเลเซีย - สิงคโปร์ - คลาร์กคีย์ - Cavenagh Bridge - เมอร์ไลออน (Wonder Full – Light & Water Spectacular)

พวกเรานั่งรถตู้จากสงขลาไปอำเภอหาดใหญ่ก่อน เพื่อ check-in ที่บริษัท เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น.
หลังจากนั้นก็เดินไปแลกเงินแถวๆนั้น ได้ rate SGD 25.5 , rate RM 8.5 แลกเงินเสร็จก็เดินไปเดินมา รอเวลาครับ
ปล.ไม่ใช่คันในรูปนะครับ ห้าห้า


หลังจากรถบัสมาถึง ก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งตามตั๋วที่บริษัทให้มาครับ


รถบัสก็จะออกจากหาดใหญ่มุ่งสู่ด่านสะเดาก่อนครับ
หลังจากผ่านด่านสะเดา ก็จะเป็นด่านขาเข้ามาเลเซีย
พอผ่านด่านมาเลเซีย รถก็จะขับไปซักพักครับ แล้วแวะให้ทานข้าวเย็น (๒๑.๓๐ น.)
ปล.หลังจากนี้คือเวลา มาเลเซีย-สิงคโปร์

ผมไม่ได้ทานร้านในรูปนะครับ พอดีคนเยอะ ทานอีกร้านนึง


มื้อเย็นฝากท้องไว้ร้านนี้เลยครับ ออกแนว KFC ไม่มีผิด


เป็น Chicken Burger Set (มี pepsi กับ french fries ด้วย) ราคา 9.35RM
ปล.ควรแลกเงินริงกิตไปด้วย เพราะต้องทานข้าวบางมื้อที่มาเลเซีย


รถจอดอยู่ประมาณ ๔๕ นาทีครับ หลังจากทานเสร็จแล้วก็ขึ้นรถออกเดินทางต่อ
ไม่ทราบว่าจอดพักที่ไหนอีกบ้าง เพราะหลับยาวเลย ตื่นมาอีกทีที่ KL เวลา ๐๔.๒๐ น. เพื่อส่งผู้โดยสารบางส่วนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บนรถมี wifi ให้ใช้ตลอดทาง แต่ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่
บนรถมีผ้าห่มแจกด้วยครับ แต่ก็ยังหนาวอยู่ พาเสื้อกันหนาวไปเพิ่มก็ดีครับ

ผมนั่งเล่นโทรศัพท์เรื่อยๆ จนจอดพักอีกครั้งนึงก่อนถึง Johor Bahru (๐๗.๔๐ น.) ซึ่งน่าจะจอดให้ทานมื้อเช้า
แต่ผมแค่ทานรองท้องไว้ครับ กะว่าจะไปทานที่สิงคโปร์ มื้อเล็กๆนี้ 8RM


ช่วงนี้เลยมีเวลาได้ถ่ายพาหนะของเราครับ



รถจอดอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง ก็ออกเดินทางสู่ Woodlands Checkpoint เพื่อเข้าสู่สิงคโปร์
เพื่อนผมที่ไปด้วย ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับ ตม. สิงคโปร์ เพราะฟังมาว่า ตม. ที่นี่ถามละเอียด มีความโหด อะไรประมาณนี้
ผมบอกเพื่อนไปว่า 'มากับผมไม่ต้องห่วง ระดับนี้แล้ว ชิลๆ'

ตัดภาพมาตอนกำลังต่อแถวเพื่อเข้า ตม. ครับ
ผมกับเพื่อนกำลังตกลงกันว่า ใครจะไปก่อน จะได้ช่วยกันถูกเผื่อฟังอะไรไม่ออก และสุดท้ายผมก็ไปก่อนครับ
ส่วนตัวผมไม่กังวลอะไร เพราะผ่าน ตม. ที่นี่บ่อยแล้ว ไม่มีปัญหาซักครั้ง . . . ยกเว้นครั้งนี้แหละครับ

ผมยืนอยู่หน้า ตม. อย่างคนมีประสบการณ์ ยืนชิลๆ แต่ความซวยแรกก็มาครับ 'เขียนบัตรขาเข้าไม่ครบ'
พี่ ตม. ยื่นคืนมาให้ สีหน้าพี่ ตม. ดูแบบไม่ค่อยพอใจมากๆ ผมก็เขียนๆ แล้วยื่นคืนไป คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
พี่ ตม. ก็รับมา แล้วนั่งก้มหน้า ขีดๆเขียนๆ แล้วพูดอะไรไปด้วย ผมก็ยืนรอครับ ชิลๆ หารู้ไม่ว่าจะซวยอีกแล้ว

พี่ ตม. เงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับพูด ผมนึกว่าพี่เขาบ่นเลยไม่ได้สนใจ จนพี่เขาพูดอีกครั้ง ผมได้แต่ "sorry , again please"
เพราะฟังไม่เข้าใจจริงๆ จนพี่ ตม. พูดช้าๆ "มาทำอะไร" ผมตอบ "เที่ยว(for travel)" ตอบซ้ำๆไป ๓-๔ ครั้ง
พี่ ตม. ถามต่ออีกครั้ง และก็เข้าลูปเดิม ผมไม่เข้าใจคำถาม . . . "sorry , again please" คือคำที่ใช้เปลืองที่สุดในตอนนั้น

"มากับใคร" /ผมชี้ไปที่เพื่อน "เรียกเข้ามา"/ผมกวักมือเรียกเพื่อน
เพื่อนผมทำหน้าตางงๆ เดินเข้ามาถามว่ามีอะไร "kuก็ไม่รู้หวะ" หลังจากนั้นพี่ ตม. หยิบวิทยุขึ้นมา พร้อมกรอกคำพูดลงไป
ตอนนั้นในหัวผมคิดอยู่แค่ว่า . . .
ไม่รอดแล้วgu

พวกผมถูกพาตัวขึ้นไปชั้นบนพร้อมๆกับคนที่มีชะตากรรมเดียวกัน
จนท. พาเข้าห้องรวม ทำให้ภาพสถานีตำรวจในหนังที่เคยดูผุดมาเลย แบบนั้นเลยครับ
บรรยากาศเย็นๆ เงียบๆ แต่ดูมีความวุ่นวายเล็กๆอยู่ตลอดภายในห้อง . . . รู้สึกดีจังครับ

พวกผมรออยู่ประมาน ๒ ชั่วโมงครึ่ง จนมี จนท.หน้าจีนๆคนหนึ่งเดินเข้ามาถามอย่างละเอียด
ขอค้นกระเป๋า กระเป๋าตังค์ ขอดูรูปในมือถือ จนแน่ใจว่าพวกผมไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายแน่นอน จึงปั๊ม passport และพามาชั้นล่าง
ก่อนจะออกจากประตู พี่เจ้าหน้าที่ได้ตบไหล่เบาๆ แล้วพูดว่า . . .
"Welcome to Singapore"


เดินออกจาก Woodlands Checkpoint ด้วยคำถามที่อาจคล้ายๆกัน 'ไปไงต่อวะ'
ด้วยเวลาที่ถูกกัก ๒ ชั่วโมงครึ่ง ทำให้ตกรถ ผิดแผน แทบจะเป็นลม เน็ตก็ไม่มีครับ๕๕
แต่ยังพอมีโชคอยู่บ้างที่โหลดแอพฯนำทางแบบ offline เอาไว้ เลยรู้ว่ามีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล

แอพฯนี้เลยครับ ที่ช่วยชีวิตไว้


้พวกเราถามวิธีไปสถานี Kranji จากพี่เจ้าหน้าที่แถวๆนั้นครับ ต้องนั่ง SBS Transit (รถเมล์สิงคโปร์)
อารมณ์ตอนนั้นเซ็งมากๆ ทำไมต้องมาเจอแบบนี้ด้วย บอกไม่ถูกเลยครับ๕๕

นั่งรถเมล์ไปประมาณ ๑๐ นาทีก็ถึงที่สถานี Kranji
ต่อมาก็เดินเข้าไปซื้อซิมโทรศัพท์ เลือกของ StarHub ครับ เพราะดูว่าอินเตอร์เน็ตเยอะดี(100 GB) ราคา 20SGD

ซื้อเสร็จเรียบร้อย ก็ทานมื้อแรกที่สิงคโปร์กันครับ
Roasted Chicken Rice 2SGD ดูในรูปนี่ยิ่งใหญ่มากครับ แต่ของจริงก็เหมาะกับราคาดี


ทานเสร็จก็ต้องเดินทางไปที่พักแล้ว แต่ต้องซื้อ EZ-link [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เกี่ยวกับ Ez-link ครับ
http://www.singaporefanclub.com/index.php?topic=593.0 ก่อนครับ ถึงจะใช้บริการรถไฟฟ้าได้
บัตร EZ-link ซื้อที่ passenger service ตามภาพครับ ราคา 12SGD(ใช้จริง 7SGD ค่าบัตร 5SGD)



เพื่อความปลอดภัย เติมเงินเข้าไปซัก 10SGD
และ Steven Gerrard ก็มาเที่ยวสิงคโปร์ครับ


เติมเงินเสร็จก็พร้อมเดินทางไปที่พักแล้วครับ
ออกตัวก่อนว่าไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้าสิงคโปร์ ผมเลยปรึกษาพี่ชายว่าเป็นยังไง
รถไฟฟ้าสิงคโปร์จะบอกสถานีปลายทางทั้งสองข้าง เราก็ต้องดูเอาครับ ว่าจะลงสถานีอะไร แล้วสุดส้ายนั้นคือสถานีไหน
แรกๆอาจมั่ว แต่เดี๋ยวก็จะชำนาญครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอพฯที่ช่วยได้ครับ


ที่พักของผมอยู่ห่างจากสถานี Kallang ประมาณ ๒๐๐ เมตร ต้องนั่งจากสถานี Kranji ไปสถานี Kallang
แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยได้ใช้แอพฯครับ google maps ช่วยไว้ตลอดทั้งการเดินทาง

เริ่มการเดินทางสู่ Kallang ครับ จะได้ check-in แล้วนอนพักซักที๕๕


ออกจากสถานีแล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งเลยครับ(google maps ล้วนๆ)




เห็นป้ายสีส้มๆนั่นแหละครับ 'Coziee Lodge'


หลังจาก check-in เรียบร้อย พนง. ก็จะพาเดินดูครับ ว่าห้องน้ำอยู่นี่ , breakfast ตรงนี้ , เครื่องซักผ้าอยู่ตรงนี้ , นั่งเล่นตรงนี้ , คอมใช้ได้นะ , กลับดึกเข้าทางไหน อะไรประมาณนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผ้าขนหนูต้องเสียค่าเช่า 2SGD
เก็บค่าประกันเตียงละ 20SGD

หลังจากนอนนิ่งๆเพื่อปรับอารมณ์จากการถูกกักเสร็จแล้ว รู้สึกพร้อมจะออกเดินทางต่อแล้วครับ
แผนหลักๆของวันนี้คือโชว์ Wonder Full – Light & Water Spectacular เวลา ๒๐.๐๐ น.
เลยตัดสินใจว่าจะเดินจาก Clarke Quay ไปเรื่อนๆจนถึง Merlion

หลังจากปรึกษาทาง google maps แล้วเห็นควรว่าต้องนั่ง smrt จาก Kallng ไป City Hall ครับ



ถึง City Hall แล้วครับ และ 'หลง' อีกแล้ว เพราะออกประตูผิดครับ
ทางออกจากสถานี smrt บางที่มีหลายประตู ดังนั้นควรดูให้ดีก่อนครับ
ว่าเราจะไปถนนไหน แล้ว exit นี่ไปถนนไหน

ต่อใน comment นะครับ