เราขึ้นรถตู้วินอนุสาวรีย์-ม.ธุรกิจระหว่าง20.00น.-20.15น. วันที่7มิถุนา2559นั่งข้างคนขับมีป้าอีกคนนั่งข้างๆ
ขึ้นรถปกติ คนขับแต่งตัวกางเกงลายพรางทหารสีเขียวๆ เสื้อยืดด้านหลังเขียนว่ากองทัพบก
แวบแรกที่เห็นคนขับหัวล้าน ที่ปากมีรอยแผลเปน พอพูดก็พูดไม่ชัด ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีอะไร
สภาพรถ มีไฟแวบๆทั้งรถน่าเวียนหัวมาก ต่อมาคนขับก็ปิด จ่ายทางด่วนเสดขับมาเรื่อยๆ คนขับก็บ่นอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง. แล้วก็หยุดรถเอาดื้อๆ
กำลังผ่านทางโค้งคนขับเกิดเผลอหลับเอาหัวไปพิงพวงมาลัย รถก็ชนรถคันข้างหน้า เป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีขาว
พอชนคนขับก็สะดุดแล้วบอกต้องไปขอโทษเค้า ไม่นานฝนก้อตก คู่กรณีก็ขึ้นรถไปคนขับรถตู้ยืนคุยตากฝน ต่อมาสักพักคนขับเดินมาที่รถแต่ยังไม่ขึ้นรถคนขับทำท่าทางหงุดหงิด เอาแขนพิ่งรถแล้วเหมือนจะร้องไห้ ต่อมาคนขับก็เหวี่ยงใสารถที่ขับมาปกติ แล้วถึงค่อยขึ้นรถมา
พอขึ้นมาตัวเปียกชุ่มน้ำมากก จากนั้นยังมีหน้ามาบอกว่าเมื่อเเอางตีรถมาจากระยอง
แล้วขอโทษเพื่อจะเปลี่ยนเสื้ออันนี้เราก็ไม่ว่าอะไร พอตำรวจทางด่วนมาก็ออกรถทันที แต่คือคนขับ ขับรถไปใส่เสื้อไป รถก็แถซ้ายแถขวา และมีหยุดบ้าง จนมีเสียงแตรรถคันข้างๆ และข้างหลัง บีบ ตลอดทางของการใส่เสื้อของคนขับคนนี้
นี้เปนเพียงการเริ่มต้น !!!
หลังการนั้นคนขับขับรถแต่ หมือนขับรถไม่เป็น ขับๆอย่ปล่อยมือไปจับหัวเฉยเลย และขับๆอยู่จอดเฉย พอเร่งก็เร่งเหยียบมิด พอเบรค ก็จะเบรคอีก5เมตรถึงรถคันหน้า และจะมีวินาทีจะชนจะชน เหมือนกับรถฮอนด้าคันที่ชนไปแล้ว แล้วเวลาคนขับจะมองกระจกก็มองข้างใกล้ๆ ขับมาสักพักอาการของคนขับหนักขึ้นกระตุก เดวหยุด เดวไปแถคันข้าง จะชนบ้าง ตลอดทางบนทางด่วนแล้วฝนตกหนักมาก คือเราทำงานมาเหนื่อยๆกะว่าจะนอนในรถตู้หน่อย นอนไม่ได้เลย นั่งเกร็ง ตาจ้องคนขับในกระจกมองหลังตลอดเวลา ดูว่าจะหลับอีกไหม
แต่คนขับโมโหยังมาพูดว่ารถขับที่ชน เอาปืนมายิง

เลย. ในขณะนั้นคือเราเงียบนั่งตัวเกร็งมาก แล้วชี้รถคันข้างว่าคันนี้ที่ขับไปชนใช่ไหม. คือไม่ใช่เลยแต่ละคันที่คนขับพูดมา พอถึงด่านเก็บค่าทางด่วนประชาชื่น คนขับจะขับแถที่กั้นข้างๆอีก แล้วก็ขับแบบเหยียบมิดในระยะทางไม่เกิน 50เมตร แล้วก้อพูดว่า"ผมเนี่ยอัจฉริยะ" ในใจคิดว่าถ้าอัจฉริยะก็คงไม่ชนก้นชาวบ้านเขาหรอกนะ หลังจากผ่านด่านอาการของคนขับก็เป็นเหมือนเดิม ขับๆอยู่หยุด. ตามที่เล่าไปแล้ว
แต่พีคหนักที่สุดคือ ทางลงทางด่วนงามวงศ์วาน-พันธ์ทิพย์ คนขับดันอยู่เลนขวาสุด แล้วเร่งมาซ้ายสุดแบบมิด พอลงก้อไม่เบรคอีก ถนนก้อลื่นเพราะฝนพึ่งหยุดตก. ถนนยังเปียก ลงปุ๊ปเปนทางโค้งไม่การเบรคเลยแถมผู้คำเดิม"ผมเป็นอัจฉริยะ". แล้วตอนขับ คนขับจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวหน้าก็เอาไปใกล้กระจกจนจะชิดอยุแล้วขับโค้งมา ยิ่งกว่ารถไฟเหาะ มาถึงทางลงใกล้กับซ.วัดบัวขวัญ ก็ยังจะแถไปหารถกระบะ. ที่จะขอเข้าเลยซ้าย พอถึงพันธ์ทิพย์. คู่กรณีมาค๊อกกระจกบอกว่าประกันมาแล้ว เราเลยลงมาจากรถตู้สยองคันนั้น
ตลอดทางเรารู้สึกว่าสติของคนขับเหลืออยุ10%. ความไม่ปลอดภัย80% เหมือนเอาชีวิตมาแขวนไว้กับเส้นด้ายบางๆไว้ เรารู้สึกว่าคนขับกำลังเอาชีวิตผู้โดยสาร15ชีวิต มาเสี่ยงอันตราย ป้าคนข้างๆก็บอกว่าเหมือนคนเมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ใครรับผิดชอบ คือเราไม่โอเค เราก็เคยขึ้นวินนี้หลายครั้งไม่เห็นจะเป็นอย่างงี้เลย มันอันตรายมากกกว่าที่คิด เราเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่ถึงบ้าน. พอถึงบ้านเรายังสั่นๆใจก้อสั่นไม่หายเป็นชม. เราคงไม่ขึ้นรถตู้วินอีก
คุณจะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนขับแบบนี้ไหม
ขึ้นรถปกติ คนขับแต่งตัวกางเกงลายพรางทหารสีเขียวๆ เสื้อยืดด้านหลังเขียนว่ากองทัพบก
แวบแรกที่เห็นคนขับหัวล้าน ที่ปากมีรอยแผลเปน พอพูดก็พูดไม่ชัด ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีอะไร
สภาพรถ มีไฟแวบๆทั้งรถน่าเวียนหัวมาก ต่อมาคนขับก็ปิด จ่ายทางด่วนเสดขับมาเรื่อยๆ คนขับก็บ่นอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง. แล้วก็หยุดรถเอาดื้อๆ
กำลังผ่านทางโค้งคนขับเกิดเผลอหลับเอาหัวไปพิงพวงมาลัย รถก็ชนรถคันข้างหน้า เป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีขาว
พอชนคนขับก็สะดุดแล้วบอกต้องไปขอโทษเค้า ไม่นานฝนก้อตก คู่กรณีก็ขึ้นรถไปคนขับรถตู้ยืนคุยตากฝน ต่อมาสักพักคนขับเดินมาที่รถแต่ยังไม่ขึ้นรถคนขับทำท่าทางหงุดหงิด เอาแขนพิ่งรถแล้วเหมือนจะร้องไห้ ต่อมาคนขับก็เหวี่ยงใสารถที่ขับมาปกติ แล้วถึงค่อยขึ้นรถมา
พอขึ้นมาตัวเปียกชุ่มน้ำมากก จากนั้นยังมีหน้ามาบอกว่าเมื่อเเอางตีรถมาจากระยอง
แล้วขอโทษเพื่อจะเปลี่ยนเสื้ออันนี้เราก็ไม่ว่าอะไร พอตำรวจทางด่วนมาก็ออกรถทันที แต่คือคนขับ ขับรถไปใส่เสื้อไป รถก็แถซ้ายแถขวา และมีหยุดบ้าง จนมีเสียงแตรรถคันข้างๆ และข้างหลัง บีบ ตลอดทางของการใส่เสื้อของคนขับคนนี้
นี้เปนเพียงการเริ่มต้น !!!
หลังการนั้นคนขับขับรถแต่ หมือนขับรถไม่เป็น ขับๆอย่ปล่อยมือไปจับหัวเฉยเลย และขับๆอยู่จอดเฉย พอเร่งก็เร่งเหยียบมิด พอเบรค ก็จะเบรคอีก5เมตรถึงรถคันหน้า และจะมีวินาทีจะชนจะชน เหมือนกับรถฮอนด้าคันที่ชนไปแล้ว แล้วเวลาคนขับจะมองกระจกก็มองข้างใกล้ๆ ขับมาสักพักอาการของคนขับหนักขึ้นกระตุก เดวหยุด เดวไปแถคันข้าง จะชนบ้าง ตลอดทางบนทางด่วนแล้วฝนตกหนักมาก คือเราทำงานมาเหนื่อยๆกะว่าจะนอนในรถตู้หน่อย นอนไม่ได้เลย นั่งเกร็ง ตาจ้องคนขับในกระจกมองหลังตลอดเวลา ดูว่าจะหลับอีกไหม
แต่คนขับโมโหยังมาพูดว่ารถขับที่ชน เอาปืนมายิง
แต่พีคหนักที่สุดคือ ทางลงทางด่วนงามวงศ์วาน-พันธ์ทิพย์ คนขับดันอยู่เลนขวาสุด แล้วเร่งมาซ้ายสุดแบบมิด พอลงก้อไม่เบรคอีก ถนนก้อลื่นเพราะฝนพึ่งหยุดตก. ถนนยังเปียก ลงปุ๊ปเปนทางโค้งไม่การเบรคเลยแถมผู้คำเดิม"ผมเป็นอัจฉริยะ". แล้วตอนขับ คนขับจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวหน้าก็เอาไปใกล้กระจกจนจะชิดอยุแล้วขับโค้งมา ยิ่งกว่ารถไฟเหาะ มาถึงทางลงใกล้กับซ.วัดบัวขวัญ ก็ยังจะแถไปหารถกระบะ. ที่จะขอเข้าเลยซ้าย พอถึงพันธ์ทิพย์. คู่กรณีมาค๊อกกระจกบอกว่าประกันมาแล้ว เราเลยลงมาจากรถตู้สยองคันนั้น
ตลอดทางเรารู้สึกว่าสติของคนขับเหลืออยุ10%. ความไม่ปลอดภัย80% เหมือนเอาชีวิตมาแขวนไว้กับเส้นด้ายบางๆไว้ เรารู้สึกว่าคนขับกำลังเอาชีวิตผู้โดยสาร15ชีวิต มาเสี่ยงอันตราย ป้าคนข้างๆก็บอกว่าเหมือนคนเมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ใครรับผิดชอบ คือเราไม่โอเค เราก็เคยขึ้นวินนี้หลายครั้งไม่เห็นจะเป็นอย่างงี้เลย มันอันตรายมากกกว่าที่คิด เราเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่ถึงบ้าน. พอถึงบ้านเรายังสั่นๆใจก้อสั่นไม่หายเป็นชม. เราคงไม่ขึ้นรถตู้วินอีก