เราชอบเที่ยวนะ ไปเที่ยวกันมั้ย วันนี้เราจะพาไป..เดินเล่นสะพานมอญ สังขละบุรี แล้วไปนอนเคล้าหมอกกันที่เนินช้างศึก ป่ะ ไปเที่ยวกัน

ทริปนี้เราขับรถไปกันเอง ไปกันแบบชิล ๆ ไม่รีบไม่ร้อน ไปเรื่อย ๆ แต่ครบ จบสวยนะ แต่....ระยะทางค่อนข้างไกล คนขับต้องถึกนิดนึง ^^

เราออกเดินทางคืนวันศุกร์ที่ 3 มิ.ย. ออกจากบางเสาธงประมาณ 2 ทุ่ม มุ่งหน้าสู่สังขละบุรี จุดหมายปลายทางเราอยู่ที่ "Coffee Berry"

ที่พักสำหรับคืนนี้ เดินทางกันต่อยาว ๆ ถึงที่หมายประมาณ 02:30AM เข้าห้องได้ก็สลบไสล เตรียมตื่นเช้าเก็บบรรยากาศสะพานมอญจ้ะ

สำหรับที่พักที่นี่ราคา 800 บาท การตกแต่งห้องน่ารัก ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดแต่ละจุด เล็ก ๆ น้อย ๆ มีตุ๊กตาวางไว้ตรงหมอนด้วยนะ

ข้อเสียคือ ห้องน้ำที่ติดประตูห้องเป็นแบบหลังคาเปิดโล่ง ทำให้ภายในห้องมียุงค่อนข้างเยอะ แต่โอเคนะห่างจากสะพานแค่ 400 เมตร

มาดูภาพห้องพักกันก่อนเนาะ ^^

อันนี้เป็นมุมน่ารัก ๆ ก่อนเข้าห้องพัก


ตามมาดูในห้องกันดีกว่า








ตื่นเช้าวันใหม่ ออกเดินทางไปสะพานมอญกันดีกว่า เราออกจากที่พัก 6:30AM เดินออกจากที่พักเลี้ยวซ้ายตรงมาเรื่อย ๆ จนเจอสามประสบรีสอร์ท


ให้เดินแยกขวาออกไปตามทางเรื่อย ๆ ระหว่างทางจะเจอพระบิณฑบาตรและคนเรียกใส่บาตรตลอดทาง จนมาถึงสะพาน ตลอดสะพาน

จะเห็นนักท่องเที่ยวแต่งกายเป็นหนุ่มสาวชาวมอญ และมีเด็กน้อยชาวมอญมานั่งปั๊มแก้มให้นักท่องเที่ยว เรานั่งมองคนเดินผ่านไปผ่านมา

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ละคนยิ้มแย้มแจ่มใสได้แต่งตัวสวยหล่อกัน ลมพัดอ่อน ๆ อากาศครึ้มนิด ๆ ทำให้อยากหยุดเวลาไว้แบบนั้นนาน ๆ












ออกจากสะพานมอญเราแวะไปไหว้หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม และแวะไปเจดีย์พุทธคยากันก่อนเดินทางไปทองผาภูมิ






มาถึงที่นี่อย่าลืมซื้อขนมตุ๊บตั๊บของพม่านะ อร่อยมาก 7 ถุง 200 บาท เคี้ยวเพลิน ๆ ระหว่างเดินทางไปเนินช้างศึกประมาณ 150KM

ก่อนขึ้นเนินช้างศึก อดไม่ได้ที่จะแวะถ่ายรูปกับแง๊ะแหง่ ที่อยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจีริมเขื่อน ที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม)

เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นวิวแบบนั้น ก็ต้องแวะเหมือนเราแน่นอน




เอาล่ะ บ่ายมาแล้วเราต้องเดินทางไปเนินช้างศึกเพื่อกางเต๊นท์ก่อนมืดนะ เดินทางกันต่อเถอะ ระหว่างทางขึ้นทำใจกันหน่อย

เพราะทางโค้งท่านช่างเยอะเหลือเกิน คือแบบถ้าโค้งเยอะกว่านี้ไม่ไหวละนะ ขอแวะจุดพักรถก่อนละกัน

เข้าห้องน้ำ ห้องท่า ถ่ายวิวรอบ ๆ สะบัดเนื้อสะบัดตัวเสร็จแล้ว ก็ลุยกันต่อเหอะ ป่ะ!!! เดินทางต่อเลย ..... แ ล ะ แ ล้ ว....

ก็ถึงจนได้ เราเดินทางมาถึงเนินช้างศึกประมาณ 5 โมงเย็น  ตอนถึงอยากจะกรี๊ดดดดด มาก ๆ ไม่ใช่ว่าเหนื่อยจากการเดินทาง

แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอหมอกรอบตัว พร้อมอากาศเย็นเข้าทุกรูขุมขนเช่นนี้  จะบอกว่าไงดีล่ะ มันฟินส์มาก ฟินส์สุด ๆ เลยนะ ไม่เชื่อดูรูปสิ






เอาล่ะ เรากางเต๊นท์เรียบร้อย คืนนี้มีที่นอนแล้ว ไปหาข้าวเย็นกันดีกว่า ที่ตลาดอีต่องนะ เค้าว่ามาถึงนี่ 399 โค้ง แต่เราน่าจะเกินนะ 555+

ก่อนเข้าตลาดจะมีเหมืองปิล็อกอยู่ฝั่งตรงข้าม พูดถึงที่นี่ เราเคยเดินทางมาเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อขึ้นเขาช้างเผือก วันนี้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป

จะเห็นว่าโฮมสเตย์ขึ้นเยอะมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกนะ หมู่บ้านที่อากาศเย็นสบาย มีหมอกวิ่งผ่านตัวแบบนี้ ใคร ๆ ก็อยากหนีเมืองที่วุ่นวาย

มาใช้ชีวิตที่นี่กันทั้งนั้น






มาหาข้าวทานกันดีกว่า เราเลือกครัวสุดแดน ร้านนี้เป็นร้านใต้รสชาดจัดจ้านมาก




วันนี้เราอาบน้ำที่หมู่บ้านอีต่อง เนื่องจากที่เนินช้างศึกมีห้องน้ำห้องเดียว อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็เดินทางกลับไปฟินส์ต่อที่พักทันที

ระหว่างทางกลับหมอกหนามากแทบไม่เห็นทาง พอมาถึงเนินช้างศึก หมอกปกคลุมไปรอบ ๆ ตัวเราหนามากกว่าตอนมามากเลย

เราซื้อเห็ดเผาะมาระหว่างทาง ต้มกินกันอุ่น ๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปนะ) ภายใต้อากาศเย็น ๆ ประมาณ 20 องศา ฟินส์ไปอีกแบบนะ

และทุกครั้งระหว่างการเดินทางจะได้เพื่อนกลับไปเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน หนุ่มวัย 27 ปีขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นเขามาถึงช่วง 2 ทุ่ม พร้อม

เต๊นท์หลังใหม่เอี่ยมอ่อง ช่วยกันกางเต๊นท์เก้ ๆ กัง ๆ กันพักนึง ก็มานั่งกินเห็ดเผาะกันคุยกันไป อรรถรสมะ

เรานอนกันประมาณ 4 ทุ่ม เนื่องจากอากาศมันน่านอนสุด ๆ และตื่นมาพบกับอากาศเย็นสบายเช่นเคย แอบหวังว่าคุณอาทิตย์จะมาแต่เช้า

และแล้วก็โผล่มาแวบนึง ประมาณ 5 นาที แล้วก็ไปยาว จนท้องฟ้าเริ่มเปิดอีกครั้งประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่เราต้องรีบเก็บภาพกัน

พร้อมพร๊อพน่ารัก ๆ เต็มเนินช้างศึก นั่นก็คือน้องหมาที่น่ารักทั้งหลาย ที่มารยาทดีมาก ๆ ไม่ตะกละเลย แต่กินจุนะ ^^

ลืมบอกไปห้องน้ำที่นี่สะอาดเลย น้ำเย็นสดชื่นสุด ๆ เสียค่าเข้าครั้งละ 5 บาท แต่เราเหมารวมให้ไปเลยนะ เพราะห้องน้ำและสถานที่รอบ ๆ สะอาดมาก

















สูดอากาศบริสุทธิ์กันจนเต็มที่แล้ว ตอนแรกมีแพลนจะไปชิมเค้กบ้านป้าเกล็น ที่เหมืองสมศักดิ์ แต่ต้องใช้ 4วีล เท่าน้น ซึ่งราาค่อนข้างสูง

โทรถามราคา 1,200 บาท เนื่องจากเป็นหน้าฝน เราเลยเลือกขับรถเที่ยวกันเอง โดยสถานีต่อไปก็คือหมู่บ้านอีต่อง แวะหาอะไรรองท้องกัน

อีกรอบ แล้วก็เก็บตกในเหมืองปิล๊อก และแวะเนินเขาเสาธงกันหน่อย




สถานีต่อไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่น น้ำตกอันขึ้นชื่อ ครั้งที่แล้วพลาดไป แต่ครั้งนี้ไม่พลาดนะ ฝนลงเม็ดเล็ก ๆ แต่ถนนเค้าดี แต่จะชันหน่อยเท่านั้น

ไปถึงเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท และค่ารถ 30 บาท แต่ยังสามารถเอาบัตรไปผ่านเข้า อช. ทองผาภูมิได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะฮ้าาาาาา

ขอบอกน้ำน่าเล่นมากนะตัวเองงงงง ><

หลายคนกังวลเรื่องทาง รวมทั้งเราด้วย ประกอบกับฝนตกแบบนี้ทางจะเละมั้ย จะลงได้มั้ย พอไปแล้วผิดคาดนะ ทางไปน้ำตกเทปูนดี

แต่ทางค่อนข้างแคบและชัน รถเก๋งลงได้ มีรูปทางให้ดูด้วยนะจ๊ะ







ระหว่างทางฝนเริ่มลงเม็ด แต่ก็ยังมีหมอกให้เห็น ให้ฟินส์ และเย็นกายเย็นใจกันไป แวะ อช. ทองผาภูมิ อีกซักหน่อย แต่ฝนเริ่มตกพอดี



จบทริปกันด้วยเขื่อนเขาแหลมวิวร้านแพริมเขื่อนอีกครั้ง กับบรรยากาศสวย ๆ พร้อมเดินทางกลับ เค้ากลับแล้วน๊าาา ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวใหม่

บ๊ายยยยยยย บายยยยย