ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะครับที่ดองไว้นาน ไม่ได้มาเขียนต่อเป็นอาทิตย์เลย คือ ช่วงก่อนหน้านี้ จขกท.ยุ่งๆน่ะครับ ตอนนี้เรามาต่อกันที่ตอนต่อไปกันเลยนะครับ สำหรับตอนก่อนหน้า คลิกจากลิงก์ในสารบัญได้เลยจ้า
[Ep.0] Intro to Hokkaido:
http://ppantip.com/topic/35189260
[Ep.1] Hakodate:
http://ppantip.com/topic/35191695
[Ep.2] Toya-Noboribetsu:
http://ppantip.com/topic/35199270
[Ep.3] Furano-Biei: (กระทู้นี้)
[Ep.4] Sapporo-Otaru:
[Ep.5] Narita-Sakura:
ช่วงกลางวันของวันที่ 4 เราก็เดินทางออกจาก Toyako Onsen ด้วย Donan Bus ขาประจำของเราเช่นเคยกลับมาที่สถานี Toya ครับ จากนั้นก็เป็นมหกรรมนั่งรถไฟ 55555 นั่งรถไฟกันครึ่งวันเลยทีเดียว
เรานั่งรถไฟ LTD. EXP HOKUTO 5 มุ่งหน้าปลายทางสถานี Sapporo จากสถานี Toya ไปยังสถานี Sapporo (ซึ่งเดี๋ยวเราจะกลับมาเที่ยวใน Ep. ถัดไป ><) เปลี่ยนขบวนที่นั่นแล้วเดินทางด้วยรถไฟ LTD. EXP SUPER KAMUI 21 มุ่งหน้าปลายทางสถานี Asahikawa ไปยังสถานี Takikawa แล้วนั่งรถไฟท้องถิ่นสาย Nemuro Line ไปลงที่สถานี Furano ครับ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ
ถ้ามาในช่วงฤดูลาเวนเดอร์ จะมีรถไฟพิเศษ/Pass พิเศษจาก Sapporo มาเลยครับ ลองดูรายละเอียดกันแล้วกันนะครับ
สถานี Furano
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงเมือง Furano แล้วครับ ก่อนอื่นเราก็ไปช๊อปที่ Furano Marche ครับ เป็นคล้ายๆศูนย์สินค้าเกษตรของเมือง Furano เดินมาจากสถานีไม่นานเองครับ
เดินจากสถานีไปยัง Furano Marche
ที่ Furano Marche นี้เราก็สอยเมลอนฟุระโนะกับผลไม้อีกสองสามอย่างกลับไปเป็นอาหารเย็นครับ อร่อยมาก หวานมาก หอมมากทุกอย่างเลยครับ >< 55555
จากนั้นเราก็จะเดินทางไปยังโรงแรมกันครับ ที่เมือง Furano นี้ ระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองยังมีไม่มาก รถบัสมีน้อยมาก ถ้าไม่ใช่ว่ามาในฤดูดอกลาเวนเดอร์บานแล้ว รถมีเพียง 1-2 สายเท่านั้นเอง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องใช้รถ/Taxi เท่านั้น ลองอ่านรายละเอียดการเดินทางภายใน Furano ได้จากเว็บไซต์นี้เลยครับ
http://www.furanotourism.com/en/static/access.php
โรงแรมของ จขกท. คือ Furano Prince Hotel เป็นสกีรีสอร์ทที่บรรยากาศเงียบสงบและราคาประหยัด มีรถบัสสาย Furano Station-New Furano Prince Hotel จอดถึงหน้าโรงแรมเลยครับ รถมีวิ่งตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็นๆ
Furano Prince Hotel
เดินทางยาวๆมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลากินผลไม้ที่ซื้อมาเป็นอาหารเย็นและนอนพักผ่อนสักทีครับ นอนเอาแรงให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราจะเดิน เดิน เดิน ปั่น ปั่น ปั่นจักรยานกัน
Day 5
ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่น อากาศอุณหภูมิเพียงเลขตัวเดียว ม้องฟ้าสดใสเหมาะแก่การท่องเที่ยวสุดๆ วันนี้เราจะไปเที่ยว Biei กันครับ เป็นคล้ายๆตำบลทางเหนือของ Furano ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์ของไร่นาที่เรียกว่า Patchwork และสวนดอกไม้ที่ปลูกเป็นแนวยาว (ซึ่งตอนเราไปยังไม่ค่อยบาน TT 5555) เรียกว่า Panorama ครับ
ทานอาหารเช้าแล้วก็เริ่มออกลุยกันเลย! นั่งรถบัสสายเดิมจากหน้าโรงแรมไปยังสถานี Furano ครับ จากนั้นนั่งรถไฟสาย Furano Line มุ่งหน้าปลายทางสถานี Asahikawa ไปยังสถานี Biei ใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม.ครับ
รถไฟ Furano Line
รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว จขกท.ชอบนั่งรถไฟแบบนี้นะ มันทำให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนดีครับ ยิ่ง จขกท.นั่งรถไฟในช่วงเช้าแบบนี้ จะได้เห็นนักเรียนเดินทางไปโรงเรียนด้วย
รถไฟท้องถิ่นที่นี่หน้าตาดีมากครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทางสวยงามมากครับ พื้นที่แถบนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ฉะนั้นเราจะได้เห็นเรือกสวนไร่นาตลอดทางเลยครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
ถ้ามาในช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานเต็มที่แล้ว ต้นข้าวคงจะโตเต็มที่และวิวน่าจะสวยมาก แต่วิวในช่วงเดือนมิถุนายนก็สวยไม่แพ้กันเลยนะครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
เหมือนจะเริ่มเห็นลางไม่ดี เมฆมาพรึ่บเลยครับ...
นั่งรถไฟมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงสถานี Biei แล้วครับ เห็นจากในรูปก็จะรู้เลยว่า ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฮืออออ ...ขอให้ฝนไม่ตกเถอะนะ
สถานี Biei
จากนั้นก็ออกมาหน้าสถานีครับ หยิบแผนที่อะไรให้เรียบร้อย เช้านี้เราจะปั่นจักรยานชม Patchwork กันครับ ร้านเช่าจักรยานจะมีอยู่รอบๆจัตุรัสหน้าสถานีเลยครับ ดาวน์โหลดแผนที่และเส้นทางการเดินทางได้ที่นี่นะครับ
https://www.biei-hokkaido.jp/en/pamph/
พื้นที่ Patchwork คือ พื้นที่สีเหลืองครับ
แนะนำก่อนว่า การปั่นจักรยานที่นี่ไม่ง่ายเท่าไหร่นะครับ เพราะพื้นที่เป็นทางลาดชัน ขึ้นเขาลงเขาอยู่ตลอด อีกอย่างคือ เราต้องปั่นบนถนนใหญ่ด้วย ซึ่งก็จะมีรถยนต์วิ่งไปมาด้วยความเร็วตลอด ฉะนั้นก็อันตรายอยู่บ้าง ควรจะปั่นแข็งพอสมควรถึงจะมาปั่นที่นี่นะครับ
จักรยานมีหลายแบบให้เช่านะครับ ถ้าเช่าแบบมีเกียร์อะไรแบบนี้น่าจะช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น หรืออาจจะลองคิดเรื่องเช่ารถขับก็ได้ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมีรถยนต์ให้เช่าหน้าสถานีด้วย แต่ต้องมีใบขับขี่สากลนะ
Patchwork
พืชที่ปลูกอยู่ตอนนี้ยังไม่โตเต็มที่เลยครับ เขียวขจีสุดลูกหูลูกตาไปหมด แต่ถ้าคนที่มาในช่วงฤดูร้อนเต็มที่และใบไม้ร่วง จะเห็นทิวทัศน์ที่มีสีสันสวยงาม จากพืชหลากหลายชนิดซึ่งโตเต็มที่แล้วที่ปลูกสลับกันไปเป็นแปลงๆ
Patchwork
ด้วยความที่มันยังไม่ใช่ฤดูกาลยอดนิยม จขกท.มองว่านี่เป็นจุดดีนะ ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่าง ซึ่ง จขกท.ก็คิดว่ามันสวยงามมากเหมือนกัน แถมยังสงบเงียบ ไม่มีคนเยอะเท่าไหร่
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
และแล้วในที่สุดฝนก็ตกลงมาแล้ว เรารีบปั่นฝ่าไปจนถึงร้านใกล้ๆครับ เป็นร้านใน Zerubu Farm/Hill หนึ่งใน Destination ที่เราจะมากันวันนี้
Zerubu Hill
จากนั้นก็นั่งแช่ กิน กิน กิน กิน รอฝนหยุดตกกันที่ Zerubu Hill นี่ล่ะครับ แต่เท่าที่ส่องพยากรณ์อากาศมาคือมันน่าจะตกอีก พอฝนหยุดตกเราก็เดินเที่ยวในบริเวณ Zerubu Hill ครับ
ชอบต้นไม้สีแดงนี่จังเลย
ฝนตกลงมาทำให้อากาศยิ่งหนาวครับ อุณหภูมิรู้สึกจริงเหลือประมาณแค่ 4-5 องศาเท่านั้นเอง แต่ก็ฟินดีครับ อากาศหนาว-ชมวิวสวยงาม ><
จุดชมวิวใน Zerubu Hill
Zerubu Hill ไม่เสียค่าชมครับ สถานที่ส่วนใหญ่ในพื้นที่ Patchwork ก็เหมือนกัน เดินเข้ามาภายในจะเป็นจุดชมวิวครับ สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์โดยรอบได้
Zerubu Hill
เก็บภาพทิวทัศน์มาฝากกันนะครับ
วิวจากหอชมวิว Zerubu Hill
เนื่องจากเรารอฝนหยุดนานมากๆ ทำให้เรามีเวลาที่ Patchwork ไม่เยอะ เพราะตามแผนเราจะต้องเดินทางต่อไปที่ฟาร์ม Shikisai ในช่วงบ่าย พอเราออกจาก Zerubu Hill เราจึงต้องเดินทางกลับไปที่สถานี Biei เลย แต่จริงๆ Biei Patchwork แห่งนี้สามารถอยู่เที่ยวได้ทั้งวันเลยครับ
สถานี Biei
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟขบวนเดิมที่เรานั่งมาตอนเช้า มุ่งหน้าปลายทางสถานี Furano ไปยังสถานี Bibaushi ครับ
Furano Line
นั่งรถไฟประมาณสิบนาทีเราก็มาถึงสถานี Bibaushi ครับ ช่วงบ่ายนี้เราจะไปเที่ยวที่ฟาร์ม Shikisai กัน เป็นฟาร์มดอกไม้ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของพื้นที่ Panorama ครับ
สถานี Bibaushi
จากสถานี Bibaushi ไปยังฟาร์ม Shikisai มีวิธีเดินทางหลายวิธีครับ หน้าสถานีก็มีจักรยานให้เช่าครับ ใครไม่อยากเหนื่อยก็อาจจะเรียก Taxi ก็ได้ แต่ จขกท.เลือกที่จะเดินไปครับ
แผนที่เส้นทางจากสถานีรถไฟไปยังฟาร์ม Shikisai
พวกเราเลือกที่จะเดินไปก็เพราะว่าระยะทางแค่ 2 ก.ม.เอง พวก จขกท.ชอบเดินชมวิวระหว่างทางอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเช้าไม่ค่อยเห็นอะไรเพราะมัวแต่หลบฝนก็ยิ่งน่าออกมาเดินชมวิวกันเนอะ
Bibaushi
อากาศที่นี่ก็ดีมาก น่าเดินมาก
Bibaushi
แต่หลังจากที่เราเดินมาใกล้จะถึง ฝนก็ตกลงมาอีก รีบวิ่งกันมาถึงฟาร์ม Shikisai แล้วก็กินหลบฝนอีกแล้ว 55555
Shikisai Farm
ฟาร์มนี้ไม่มีค่าเข้าชมนะครับ ยกเว้นแต่ว่าจะซื้อบัตรนั่งรถชมรอบฟาร์ม แต่เอาจริงๆคือฟาร์มไม่ได้กว้างขนาดนั้นครับ เดินไปรอบๆก็เที่ยวได้ ถ่ายรูปสะดวกกว่าด้วย
รถชม
ที่นี่ก็ปลูกดอกไม้หลายชนิดนะครับ แต่ละดอกก็จะมีช่วงเวลาในการออกดอกแตกต่างกันไป ส่วนที่เป็น Panorama ถ้าใครมาในช่วงเดือนมิถุนายนยังไม่ออกดอกนะครับ
อนาคต Panorama
แต่ก็มีดอกไม้อื่นอีกหลายชนิดที่บานครับ เอาภาพมาฝากกันนะ
มองจาก Shikisai Farm ไป เราก็จะมองเห็น Patchwork ด้วยครับ
ทิวทัศน์จาก Farm
เที่ยวชม Shikisai Farm กันจนอื่มแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับโรงแรมสักที ก่อนจะกลับฝนตกอีกครั้ง เราจึงต้องนั่ง Taxi กลับกัน จากนั้นก็ขึ้นรถไฟเส้นเดิมกลับไป Furano
(อ่านต่อในเมนท์นะครับ...)
ปล. ฝากเพจไว้นะครับ เผื่อใครไปดูทริปอื่น-รีวิวอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/venividivici.review
Snowpoleon
[CR] “HOKKAIDO”: Fell in love with her... [Ep.3] Furano-Biei (Day 4-6)
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะครับที่ดองไว้นาน ไม่ได้มาเขียนต่อเป็นอาทิตย์เลย คือ ช่วงก่อนหน้านี้ จขกท.ยุ่งๆน่ะครับ ตอนนี้เรามาต่อกันที่ตอนต่อไปกันเลยนะครับ สำหรับตอนก่อนหน้า คลิกจากลิงก์ในสารบัญได้เลยจ้า
[Ep.0] Intro to Hokkaido: http://ppantip.com/topic/35189260
[Ep.1] Hakodate: http://ppantip.com/topic/35191695
[Ep.2] Toya-Noboribetsu: http://ppantip.com/topic/35199270
[Ep.3] Furano-Biei: (กระทู้นี้)
[Ep.4] Sapporo-Otaru:
[Ep.5] Narita-Sakura:
ช่วงกลางวันของวันที่ 4 เราก็เดินทางออกจาก Toyako Onsen ด้วย Donan Bus ขาประจำของเราเช่นเคยกลับมาที่สถานี Toya ครับ จากนั้นก็เป็นมหกรรมนั่งรถไฟ 55555 นั่งรถไฟกันครึ่งวันเลยทีเดียว
แผนที่เส้นทางรถไฟ JR Hokkaido (จาก: https://nihone.files.wordpress.com/2013/06/jr_hokkaido.png)
เรานั่งรถไฟ LTD. EXP HOKUTO 5 มุ่งหน้าปลายทางสถานี Sapporo จากสถานี Toya ไปยังสถานี Sapporo (ซึ่งเดี๋ยวเราจะกลับมาเที่ยวใน Ep. ถัดไป ><) เปลี่ยนขบวนที่นั่นแล้วเดินทางด้วยรถไฟ LTD. EXP SUPER KAMUI 21 มุ่งหน้าปลายทางสถานี Asahikawa ไปยังสถานี Takikawa แล้วนั่งรถไฟท้องถิ่นสาย Nemuro Line ไปลงที่สถานี Furano ครับ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ
ถ้ามาในช่วงฤดูลาเวนเดอร์ จะมีรถไฟพิเศษ/Pass พิเศษจาก Sapporo มาเลยครับ ลองดูรายละเอียดกันแล้วกันนะครับ
สถานี Furano
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงเมือง Furano แล้วครับ ก่อนอื่นเราก็ไปช๊อปที่ Furano Marche ครับ เป็นคล้ายๆศูนย์สินค้าเกษตรของเมือง Furano เดินมาจากสถานีไม่นานเองครับ
เดินจากสถานีไปยัง Furano Marche
ที่ Furano Marche นี้เราก็สอยเมลอนฟุระโนะกับผลไม้อีกสองสามอย่างกลับไปเป็นอาหารเย็นครับ อร่อยมาก หวานมาก หอมมากทุกอย่างเลยครับ >< 55555
จากนั้นเราก็จะเดินทางไปยังโรงแรมกันครับ ที่เมือง Furano นี้ ระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองยังมีไม่มาก รถบัสมีน้อยมาก ถ้าไม่ใช่ว่ามาในฤดูดอกลาเวนเดอร์บานแล้ว รถมีเพียง 1-2 สายเท่านั้นเอง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องใช้รถ/Taxi เท่านั้น ลองอ่านรายละเอียดการเดินทางภายใน Furano ได้จากเว็บไซต์นี้เลยครับ http://www.furanotourism.com/en/static/access.php
โรงแรมของ จขกท. คือ Furano Prince Hotel เป็นสกีรีสอร์ทที่บรรยากาศเงียบสงบและราคาประหยัด มีรถบัสสาย Furano Station-New Furano Prince Hotel จอดถึงหน้าโรงแรมเลยครับ รถมีวิ่งตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็นๆ
Furano Prince Hotel
เดินทางยาวๆมาทั้งวันแล้ว ก็ได้เวลากินผลไม้ที่ซื้อมาเป็นอาหารเย็นและนอนพักผ่อนสักทีครับ นอนเอาแรงให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราจะเดิน เดิน เดิน ปั่น ปั่น ปั่นจักรยานกัน
ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่น อากาศอุณหภูมิเพียงเลขตัวเดียว ม้องฟ้าสดใสเหมาะแก่การท่องเที่ยวสุดๆ วันนี้เราจะไปเที่ยว Biei กันครับ เป็นคล้ายๆตำบลทางเหนือของ Furano ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์ของไร่นาที่เรียกว่า Patchwork และสวนดอกไม้ที่ปลูกเป็นแนวยาว (ซึ่งตอนเราไปยังไม่ค่อยบาน TT 5555) เรียกว่า Panorama ครับ
ทานอาหารเช้าแล้วก็เริ่มออกลุยกันเลย! นั่งรถบัสสายเดิมจากหน้าโรงแรมไปยังสถานี Furano ครับ จากนั้นนั่งรถไฟสาย Furano Line มุ่งหน้าปลายทางสถานี Asahikawa ไปยังสถานี Biei ใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม.ครับ
รถไฟ Furano Line
รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว จขกท.ชอบนั่งรถไฟแบบนี้นะ มันทำให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนดีครับ ยิ่ง จขกท.นั่งรถไฟในช่วงเช้าแบบนี้ จะได้เห็นนักเรียนเดินทางไปโรงเรียนด้วย
รถไฟท้องถิ่นที่นี่หน้าตาดีมากครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทางสวยงามมากครับ พื้นที่แถบนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ฉะนั้นเราจะได้เห็นเรือกสวนไร่นาตลอดทางเลยครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
ถ้ามาในช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานเต็มที่แล้ว ต้นข้าวคงจะโตเต็มที่และวิวน่าจะสวยมาก แต่วิวในช่วงเดือนมิถุนายนก็สวยไม่แพ้กันเลยนะครับ
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
เหมือนจะเริ่มเห็นลางไม่ดี เมฆมาพรึ่บเลยครับ...
นั่งรถไฟมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงสถานี Biei แล้วครับ เห็นจากในรูปก็จะรู้เลยว่า ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฮืออออ ...ขอให้ฝนไม่ตกเถอะนะ
สถานี Biei
จากนั้นก็ออกมาหน้าสถานีครับ หยิบแผนที่อะไรให้เรียบร้อย เช้านี้เราจะปั่นจักรยานชม Patchwork กันครับ ร้านเช่าจักรยานจะมีอยู่รอบๆจัตุรัสหน้าสถานีเลยครับ ดาวน์โหลดแผนที่และเส้นทางการเดินทางได้ที่นี่นะครับ https://www.biei-hokkaido.jp/en/pamph/
พื้นที่ Patchwork คือ พื้นที่สีเหลืองครับ
แนะนำก่อนว่า การปั่นจักรยานที่นี่ไม่ง่ายเท่าไหร่นะครับ เพราะพื้นที่เป็นทางลาดชัน ขึ้นเขาลงเขาอยู่ตลอด อีกอย่างคือ เราต้องปั่นบนถนนใหญ่ด้วย ซึ่งก็จะมีรถยนต์วิ่งไปมาด้วยความเร็วตลอด ฉะนั้นก็อันตรายอยู่บ้าง ควรจะปั่นแข็งพอสมควรถึงจะมาปั่นที่นี่นะครับ
จักรยานมีหลายแบบให้เช่านะครับ ถ้าเช่าแบบมีเกียร์อะไรแบบนี้น่าจะช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น หรืออาจจะลองคิดเรื่องเช่ารถขับก็ได้ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมีรถยนต์ให้เช่าหน้าสถานีด้วย แต่ต้องมีใบขับขี่สากลนะ
Patchwork
พืชที่ปลูกอยู่ตอนนี้ยังไม่โตเต็มที่เลยครับ เขียวขจีสุดลูกหูลูกตาไปหมด แต่ถ้าคนที่มาในช่วงฤดูร้อนเต็มที่และใบไม้ร่วง จะเห็นทิวทัศน์ที่มีสีสันสวยงาม จากพืชหลากหลายชนิดซึ่งโตเต็มที่แล้วที่ปลูกสลับกันไปเป็นแปลงๆ
Patchwork
ด้วยความที่มันยังไม่ใช่ฤดูกาลยอดนิยม จขกท.มองว่านี่เป็นจุดดีนะ ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่าง ซึ่ง จขกท.ก็คิดว่ามันสวยงามมากเหมือนกัน แถมยังสงบเงียบ ไม่มีคนเยอะเท่าไหร่
ทิวทัศน์ระหว่างทาง
และแล้วในที่สุดฝนก็ตกลงมาแล้ว เรารีบปั่นฝ่าไปจนถึงร้านใกล้ๆครับ เป็นร้านใน Zerubu Farm/Hill หนึ่งใน Destination ที่เราจะมากันวันนี้
Zerubu Hill
จากนั้นก็นั่งแช่ กิน กิน กิน กิน รอฝนหยุดตกกันที่ Zerubu Hill นี่ล่ะครับ แต่เท่าที่ส่องพยากรณ์อากาศมาคือมันน่าจะตกอีก พอฝนหยุดตกเราก็เดินเที่ยวในบริเวณ Zerubu Hill ครับ
ชอบต้นไม้สีแดงนี่จังเลย
ฝนตกลงมาทำให้อากาศยิ่งหนาวครับ อุณหภูมิรู้สึกจริงเหลือประมาณแค่ 4-5 องศาเท่านั้นเอง แต่ก็ฟินดีครับ อากาศหนาว-ชมวิวสวยงาม ><
จุดชมวิวใน Zerubu Hill
Zerubu Hill ไม่เสียค่าชมครับ สถานที่ส่วนใหญ่ในพื้นที่ Patchwork ก็เหมือนกัน เดินเข้ามาภายในจะเป็นจุดชมวิวครับ สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์โดยรอบได้
Zerubu Hill
เก็บภาพทิวทัศน์มาฝากกันนะครับ
วิวจากหอชมวิว Zerubu Hill
เนื่องจากเรารอฝนหยุดนานมากๆ ทำให้เรามีเวลาที่ Patchwork ไม่เยอะ เพราะตามแผนเราจะต้องเดินทางต่อไปที่ฟาร์ม Shikisai ในช่วงบ่าย พอเราออกจาก Zerubu Hill เราจึงต้องเดินทางกลับไปที่สถานี Biei เลย แต่จริงๆ Biei Patchwork แห่งนี้สามารถอยู่เที่ยวได้ทั้งวันเลยครับ
สถานี Biei
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟขบวนเดิมที่เรานั่งมาตอนเช้า มุ่งหน้าปลายทางสถานี Furano ไปยังสถานี Bibaushi ครับ
Furano Line
นั่งรถไฟประมาณสิบนาทีเราก็มาถึงสถานี Bibaushi ครับ ช่วงบ่ายนี้เราจะไปเที่ยวที่ฟาร์ม Shikisai กัน เป็นฟาร์มดอกไม้ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของพื้นที่ Panorama ครับ
สถานี Bibaushi
จากสถานี Bibaushi ไปยังฟาร์ม Shikisai มีวิธีเดินทางหลายวิธีครับ หน้าสถานีก็มีจักรยานให้เช่าครับ ใครไม่อยากเหนื่อยก็อาจจะเรียก Taxi ก็ได้ แต่ จขกท.เลือกที่จะเดินไปครับ
แผนที่เส้นทางจากสถานีรถไฟไปยังฟาร์ม Shikisai
พวกเราเลือกที่จะเดินไปก็เพราะว่าระยะทางแค่ 2 ก.ม.เอง พวก จขกท.ชอบเดินชมวิวระหว่างทางอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเช้าไม่ค่อยเห็นอะไรเพราะมัวแต่หลบฝนก็ยิ่งน่าออกมาเดินชมวิวกันเนอะ
Bibaushi
อากาศที่นี่ก็ดีมาก น่าเดินมาก
Bibaushi
แต่หลังจากที่เราเดินมาใกล้จะถึง ฝนก็ตกลงมาอีก รีบวิ่งกันมาถึงฟาร์ม Shikisai แล้วก็กินหลบฝนอีกแล้ว 55555
Shikisai Farm
ฟาร์มนี้ไม่มีค่าเข้าชมนะครับ ยกเว้นแต่ว่าจะซื้อบัตรนั่งรถชมรอบฟาร์ม แต่เอาจริงๆคือฟาร์มไม่ได้กว้างขนาดนั้นครับ เดินไปรอบๆก็เที่ยวได้ ถ่ายรูปสะดวกกว่าด้วย
รถชม
ที่นี่ก็ปลูกดอกไม้หลายชนิดนะครับ แต่ละดอกก็จะมีช่วงเวลาในการออกดอกแตกต่างกันไป ส่วนที่เป็น Panorama ถ้าใครมาในช่วงเดือนมิถุนายนยังไม่ออกดอกนะครับ
อนาคต Panorama
แต่ก็มีดอกไม้อื่นอีกหลายชนิดที่บานครับ เอาภาพมาฝากกันนะ
Shikisai Farm
มองจาก Shikisai Farm ไป เราก็จะมองเห็น Patchwork ด้วยครับ
ทิวทัศน์จาก Farm
เที่ยวชม Shikisai Farm กันจนอื่มแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับโรงแรมสักที ก่อนจะกลับฝนตกอีกครั้ง เราจึงต้องนั่ง Taxi กลับกัน จากนั้นก็ขึ้นรถไฟเส้นเดิมกลับไป Furano
(อ่านต่อในเมนท์นะครับ...)
ปล. ฝากเพจไว้นะครับ เผื่อใครไปดูทริปอื่น-รีวิวอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Snowpoleon
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น