สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เราเคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่ที่เรานับถือมาอยู่ครั้งนึง แต่ว่า เรากลับไม่เคยคิดจะเล่าลงใน Pantip เลย จนวันนึง พี่เค้าได้บอกกับเราว่า ลองเล่าเถอะ ถึงแม้ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ แต่อย่างน้อย ก็อาจจะทำให้ใครหลายๆคนคิดได้ หรือ ไม่ก็เป็นวิทยาทานแทน เราก็เลยคิดว่าจะเล่า จริงๆแล้ว เราพิมพ์ไปหลายรอบนะ และเราก็ลบทิ้งไปหลายรอบเช่นกัน วันนี้เลยดึงความกล้าของตัวเอง เพื่อที่จะมาเล่าให้ใครหลายๆคน ได้คิดว่า บุญ และ บาป มีจริง
ขอบอกก่อนนะคะ เรื่องนี้ก็อยู่ที่ดุลยพินิจ และ วิจารณญาณ สำหรับ บุคคล เราจะไม่ว่า ไม่ก้าวก่ายนะคะ ขอความกรุณา งดดราม่านะคะ เราพิมพ์ในมือถือ อาจจะมีผิดตกหล่น หรือ ไม่กระชับ ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
PART 1
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 เราคนนึงที่มีโรคประจำตัวรุมเร้ามาตลอด และ ยากต่อการที่จะรักษาให้หายได้ โรคที่เราเป็น เกือบคร่าชีวิตเรามาถึง 2 ครั้งแล้วค่ะ
โรคหัวใจ ใช่ค่ะ เราเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด เป็นทั้งตีบ รั่ว โต ล้มเหลว รวมทั้งไต ผ่าตัด ทำบอลลูน ฉีดสี ใสเสต๊นท์ มารวมๆ9รอบแล้ว
วันนึงขนะที่เรานั่งเรีนนอยู่นั้น เพื่อนเราคนนึง เดินมาถามเราว่า แก...กลางวันจะกินอะไรอ่ะ เราก็หันตัวไปทางด้านข้างของเก้าอี้ และบอกว่า เอาเหมือนเดิมนะ มันก็ อ่อๆ เคๆ.... สักพัก เราเจ็บหัวใจมาก เจ็บเหมือนโดนเข็มแทง แล้วปักเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเราตั้งตัวไม่ทัน เราเจ็บปั๊ป เราจับแขนเพื่อนเรา สักพัก เราก็ค่อยๆ ปล่อยมือที่เราจับแขนมันมา เพื่อนถามเราว่า โอป่ะเนี่ย เราก็อืมๆ หายแล้ว แต่ยังไม่สิ้นสุดเสียงค่ะ
ตัวเราล้มไปด้านหลัง เพื่อนที่นั่งข้างๆเรา ด้วยความตกใจ มันเอาเท้าหลบค่ะ ช่างแสนดีจริงๆ เราพยามๆ คว้าโต๊ะเรียน แต่ตัวเราหนักมาก 70โลแหนะในเวลานั้นนะคะ อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02
หลังจากนั้น โต๊ะเรียนแบบโต๊ะไม้อ่ะค่ะ ที่เปิดลิ้นชักสูงๆขึ้นมาได้ มือเราพยามคว้า แต่ไม่ได้ช่วยเลย กลับเป็นว่า เราเอาโต๊ะ มากองอยู่กับตัวเราทั้ง 2 ข้าง และนั้นเอง ทำให้เราเกิดอาการกำเริบ ช๊อค ค่ะ เพื่อนๆ และ อาจารย์ พาเราส่งรพ. แต่แค่กลัวไปไม่ทัน เลยเอากระบะ โรงเรียนไปส่งรพ. แทน ระหว่างเพื่อนๆตัวผ๊อมผอมกันมาก กำลังแบกอีโอ่งอยู่ คนที่ไม่เคยอุ้มก็ไม่รู้จะทำไงเนอะๆ ก็ทำได้แค่ว่า แบกหาม คนนึงแขน คนนึงขา เถียงกันไม่จบ ยัดๆเราเข้าไปในรถกระบะ เจ้ากรรมแต่ใดมา หัวฟาดกับประตูกระบะอีกรอบค่ะ ทำให้เราแน่นิ่งไปในบัดดล
ขออนุญาติกลับมาสายๆนะคะ
คุณเคยเชื่อเรื่องคนตายแล้วฟื้นไม๊คะ
ขอบอกก่อนนะคะ เรื่องนี้ก็อยู่ที่ดุลยพินิจ และ วิจารณญาณ สำหรับ บุคคล เราจะไม่ว่า ไม่ก้าวก่ายนะคะ ขอความกรุณา งดดราม่านะคะ เราพิมพ์ในมือถือ อาจจะมีผิดตกหล่น หรือ ไม่กระชับ ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
PART 1
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 เราคนนึงที่มีโรคประจำตัวรุมเร้ามาตลอด และ ยากต่อการที่จะรักษาให้หายได้ โรคที่เราเป็น เกือบคร่าชีวิตเรามาถึง 2 ครั้งแล้วค่ะ
โรคหัวใจ ใช่ค่ะ เราเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด เป็นทั้งตีบ รั่ว โต ล้มเหลว รวมทั้งไต ผ่าตัด ทำบอลลูน ฉีดสี ใสเสต๊นท์ มารวมๆ9รอบแล้ว
วันนึงขนะที่เรานั่งเรีนนอยู่นั้น เพื่อนเราคนนึง เดินมาถามเราว่า แก...กลางวันจะกินอะไรอ่ะ เราก็หันตัวไปทางด้านข้างของเก้าอี้ และบอกว่า เอาเหมือนเดิมนะ มันก็ อ่อๆ เคๆ.... สักพัก เราเจ็บหัวใจมาก เจ็บเหมือนโดนเข็มแทง แล้วปักเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเราตั้งตัวไม่ทัน เราเจ็บปั๊ป เราจับแขนเพื่อนเรา สักพัก เราก็ค่อยๆ ปล่อยมือที่เราจับแขนมันมา เพื่อนถามเราว่า โอป่ะเนี่ย เราก็อืมๆ หายแล้ว แต่ยังไม่สิ้นสุดเสียงค่ะ
ตัวเราล้มไปด้านหลัง เพื่อนที่นั่งข้างๆเรา ด้วยความตกใจ มันเอาเท้าหลบค่ะ ช่างแสนดีจริงๆ เราพยามๆ คว้าโต๊ะเรียน แต่ตัวเราหนักมาก 70โลแหนะในเวลานั้นนะคะ อมยิ้ม02อมยิ้ม02อมยิ้ม02
หลังจากนั้น โต๊ะเรียนแบบโต๊ะไม้อ่ะค่ะ ที่เปิดลิ้นชักสูงๆขึ้นมาได้ มือเราพยามคว้า แต่ไม่ได้ช่วยเลย กลับเป็นว่า เราเอาโต๊ะ มากองอยู่กับตัวเราทั้ง 2 ข้าง และนั้นเอง ทำให้เราเกิดอาการกำเริบ ช๊อค ค่ะ เพื่อนๆ และ อาจารย์ พาเราส่งรพ. แต่แค่กลัวไปไม่ทัน เลยเอากระบะ โรงเรียนไปส่งรพ. แทน ระหว่างเพื่อนๆตัวผ๊อมผอมกันมาก กำลังแบกอีโอ่งอยู่ คนที่ไม่เคยอุ้มก็ไม่รู้จะทำไงเนอะๆ ก็ทำได้แค่ว่า แบกหาม คนนึงแขน คนนึงขา เถียงกันไม่จบ ยัดๆเราเข้าไปในรถกระบะ เจ้ากรรมแต่ใดมา หัวฟาดกับประตูกระบะอีกรอบค่ะ ทำให้เราแน่นิ่งไปในบัดดล
ขออนุญาติกลับมาสายๆนะคะ