ผมวิเคราะห์ตามมุมมองจากที่ผมก็เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์ด้วยกัน
นุส เหมือนศูนย์กลางการบัญชาการในการวางแผนการบุกซึ่งต้องมองรูปเกมส์จากการสกัดกั้นและการตั้งรับของคู่ต่อสู้ อันนี้นอกจากประสพการณ์แล้วนุสยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์และต้องใช้ skill การเซ็ทและความแม่นยำในการเซ็ทเพื่อแหวกบล้อคคู่ต่อสู้ที่ตัวสูงกว่าทีมไทยมากๆ... ชื่นชมเธอจริงๆ
จังหวะการเซ็ทแบบการกระโดดเซ็ท เป็นการดึงจังหวะหลอกหลายเสตปมากๆๆ
จังหวะหลอกที่ 1 การกระโดด: การกระโดดสามารถเพิ่ม/ลดเวลาในการจ่ายบอลได้ มีเวลาตัดสินใจกลางอากาศด้วยโดยอาจเปลี่ยนแผนที่วางไว้ในใจตั้งแต่แรก
เช่น ทีแรกตั้งใจว่าจะจ่ายสั้น แต่ดูแล้วตัวบล้อคสไลด์ตัวมาทันก็เลยเปลี่ยนไปจ่ายโค้งหรือบีหลัง
จังหวะหลอกที่ 2 การดึงแขน: สังเกตุที่การยกแขนของนุสก่อนเซทจะต่างจากตัวเซททีมอื่นที่จ่ายบอลไปตามหน้างาน แต่นุสจะตั้งแขนเหมือนตั้งฉากประมาณ 120องศาแล้วสามารถเลือกที่จะยืดแขนขึ้น(ถ้าตั้งการเพิ่มความเร็วในการจ่ายบอล) หรือลดฉากของแขนลง(ถ้าจะดึงการจ่ายบอลให้ช้าลง)
จังหวะหลอกที่ 3 ข้อมือ: สังเกตุที่ข้อมือนุสว่าสามารถพลิกข้อมือจากบอลที่อยู่ตรงหน้ามามาจ่ายเป็นหลังได้
เช่น การให้ปลื้มวิ่งสั้นหน้าหลอกแล้วดึงตัวบล้อคหนึ่งเสตป แล้วปลื้มก็เปลี่ยนมาตบสั้นหลังหรือไหลสั้นหลังแทน อันนี้นุสอาจใช้ skill อื่นพร้อมๆกันจากกระกระโดดแล้วดึงแขนหลอก สุดท้ายมาพลิกข้อมือเพื่อจ่ายบอลไปด้านหลัง
จังหวะหลอกที่ 4 ความอ่อนของลำตัวท่อนกลาง: ลำตัวอ่อนแต่เป็นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อระดับสูงมาก อันนี้ต้องฝึกหลายอย่างซึ่งสามารถทำให้โยกการจ่ายบอลจากด้านหน้าเป็นด้านหลังได้ ผลคือคู่แข่งหลงทางในการจับบล้อค
จังหวะหลอกที่ 5 การย่อของขา: การกระโดดแล้วดึงแขนต่อมาด้วยการแอ่นหลังก็ยังไม่พอ ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นนุสย่อส่วนขาอีก 1 เสตปเพื่อดึงบอลในการจ่ายบอลทับหลายเสตปมากๆ
เช่น ตัวสั้นเข้าไปหลอกคู่แข่งคิดว่ามีบอลทับจากการบุกตัวหน้า แต่โดดหลอกอีก 1 เสตปว่าจะจ่ายทับจากสามเมตรตรงกลาง แต่สุดท้ายจริงนุสแอ่นตัวย่อเข่าอีก 1 เสตปจ่ายทับไปที่สามเมตรด้านหลัง พูดเลยตัวบล้อคตามยากมาก
จังหวะหลอกที่ 6 สายตา: การอ่านเกมส์การรับเสิรฟรวมถึงการใช้สายตาเหลือบมองคู่แข่งการการตัดสินใจจ่ายบอล ทั้งนี้ต้องเกิดจากการมีเวลามากพอจากการดึงบอลโดยการกระโดด+ดึงมือ+ย่อตัว ทำให้เกิดตัวสินใจสุดท้ายก่อนการจ่ายบอลจริงๆ
จังหวะหลอกที่ 7 สมาธิและการมีสติ: คุณจะไม่เคยเห็นอาการหน้าเสียหรือจิตหลุดในเกมส์ของนุสเลย อันนี้สำคัญมาก เพราะทีมที่มีตัวเซ็ทอ่อนประสพการณ์และคุมเกมส์สำคัญไม่อยู่ ผลคือคู่แข่งเดาทางออกได้เลยว่าถ้าแต้มบี้มากๆ มีแนวโน้มที่ตัวเซ็ทจ่ายแต่บอลหลักของทีมคือโค้งหรือบีหลังเท่านั้น
จังหวะหลอกที่ 8 มันสมอง: อันนี้เป็นหัวใจสำคัญที่สุดเพราะนักกีฬามีเวลาสั้นมากในช่วงจะรับเสิรฟเพื่อเกมส์รุกหรือสวนกลับเมื่อได้โอกาสรุก นุสต้องมองเกมส์ให้ออกและบัญชาทีมตบให้ได้เปรียบให้ได้ เธอจึงเหมือนหัวใจสำคัญของทีม
สุดท้ายแล้ว วอลเล่ย์บอลคือกีฬาทีมโดยนักกีฬาต้องมี skill ตามตำแหน่งตัวเองอย่างดีมากก่อนแล้วจึงมาซ้อมเพื่อให้เกิดมีความเป็นระบบของทีม และจะต้องเล่นการอย่างรู้ใจ (แค่มองตาก็รู้ว่าควรบุกหรือรับยังงัย เช่น นุสกะปลื้ม) พอเกิดระบบทีมทีมมีความแม่นยำก็สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาเกมส์ให้คู่แข่งเดาทางเราไม่ถูกเหมือนที่ทีมไทยแสดงให้ทัาวโลกเห็นแล้ว.
สุดท้ายและสุดท้ายจริงๆ ขอให้น้องๆทีมชาติไทยจงเล่นวอลเล่ย์ด้วยความสุขแบบนี้และพัฒนาร่างกายและฝีมือเพื่อไปสู่เป้าหมายทุกการแข่งขันของคุณ...
เสียงติ คือ มุมมองของคนที่มีความเห็นหลากหลาย จงเลือกหยิบเฉพาะประเด็นที่ valid สำหรับคุณมาพัฒนาตัวเอง ส่วนคำด่าทอก็ลืมๆมันไป
เสียงชม คือพลังใจที่พวกเราส่งไปให้คุณด้วยความจริงใจ จงรับและภาคภูมิใจต่อคำชมเหล่านั้นเพราะมันออกมาจากใจพวกเราจริงๆ
นุสรา เธอคือสุดยอดตัวเซ็ท
นุส เหมือนศูนย์กลางการบัญชาการในการวางแผนการบุกซึ่งต้องมองรูปเกมส์จากการสกัดกั้นและการตั้งรับของคู่ต่อสู้ อันนี้นอกจากประสพการณ์แล้วนุสยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์และต้องใช้ skill การเซ็ทและความแม่นยำในการเซ็ทเพื่อแหวกบล้อคคู่ต่อสู้ที่ตัวสูงกว่าทีมไทยมากๆ... ชื่นชมเธอจริงๆ
จังหวะการเซ็ทแบบการกระโดดเซ็ท เป็นการดึงจังหวะหลอกหลายเสตปมากๆๆ
จังหวะหลอกที่ 1 การกระโดด: การกระโดดสามารถเพิ่ม/ลดเวลาในการจ่ายบอลได้ มีเวลาตัดสินใจกลางอากาศด้วยโดยอาจเปลี่ยนแผนที่วางไว้ในใจตั้งแต่แรก
เช่น ทีแรกตั้งใจว่าจะจ่ายสั้น แต่ดูแล้วตัวบล้อคสไลด์ตัวมาทันก็เลยเปลี่ยนไปจ่ายโค้งหรือบีหลัง
จังหวะหลอกที่ 2 การดึงแขน: สังเกตุที่การยกแขนของนุสก่อนเซทจะต่างจากตัวเซททีมอื่นที่จ่ายบอลไปตามหน้างาน แต่นุสจะตั้งแขนเหมือนตั้งฉากประมาณ 120องศาแล้วสามารถเลือกที่จะยืดแขนขึ้น(ถ้าตั้งการเพิ่มความเร็วในการจ่ายบอล) หรือลดฉากของแขนลง(ถ้าจะดึงการจ่ายบอลให้ช้าลง)
จังหวะหลอกที่ 3 ข้อมือ: สังเกตุที่ข้อมือนุสว่าสามารถพลิกข้อมือจากบอลที่อยู่ตรงหน้ามามาจ่ายเป็นหลังได้
เช่น การให้ปลื้มวิ่งสั้นหน้าหลอกแล้วดึงตัวบล้อคหนึ่งเสตป แล้วปลื้มก็เปลี่ยนมาตบสั้นหลังหรือไหลสั้นหลังแทน อันนี้นุสอาจใช้ skill อื่นพร้อมๆกันจากกระกระโดดแล้วดึงแขนหลอก สุดท้ายมาพลิกข้อมือเพื่อจ่ายบอลไปด้านหลัง
จังหวะหลอกที่ 4 ความอ่อนของลำตัวท่อนกลาง: ลำตัวอ่อนแต่เป็นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อระดับสูงมาก อันนี้ต้องฝึกหลายอย่างซึ่งสามารถทำให้โยกการจ่ายบอลจากด้านหน้าเป็นด้านหลังได้ ผลคือคู่แข่งหลงทางในการจับบล้อค
จังหวะหลอกที่ 5 การย่อของขา: การกระโดดแล้วดึงแขนต่อมาด้วยการแอ่นหลังก็ยังไม่พอ ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นนุสย่อส่วนขาอีก 1 เสตปเพื่อดึงบอลในการจ่ายบอลทับหลายเสตปมากๆ
เช่น ตัวสั้นเข้าไปหลอกคู่แข่งคิดว่ามีบอลทับจากการบุกตัวหน้า แต่โดดหลอกอีก 1 เสตปว่าจะจ่ายทับจากสามเมตรตรงกลาง แต่สุดท้ายจริงนุสแอ่นตัวย่อเข่าอีก 1 เสตปจ่ายทับไปที่สามเมตรด้านหลัง พูดเลยตัวบล้อคตามยากมาก
จังหวะหลอกที่ 6 สายตา: การอ่านเกมส์การรับเสิรฟรวมถึงการใช้สายตาเหลือบมองคู่แข่งการการตัดสินใจจ่ายบอล ทั้งนี้ต้องเกิดจากการมีเวลามากพอจากการดึงบอลโดยการกระโดด+ดึงมือ+ย่อตัว ทำให้เกิดตัวสินใจสุดท้ายก่อนการจ่ายบอลจริงๆ
จังหวะหลอกที่ 7 สมาธิและการมีสติ: คุณจะไม่เคยเห็นอาการหน้าเสียหรือจิตหลุดในเกมส์ของนุสเลย อันนี้สำคัญมาก เพราะทีมที่มีตัวเซ็ทอ่อนประสพการณ์และคุมเกมส์สำคัญไม่อยู่ ผลคือคู่แข่งเดาทางออกได้เลยว่าถ้าแต้มบี้มากๆ มีแนวโน้มที่ตัวเซ็ทจ่ายแต่บอลหลักของทีมคือโค้งหรือบีหลังเท่านั้น
จังหวะหลอกที่ 8 มันสมอง: อันนี้เป็นหัวใจสำคัญที่สุดเพราะนักกีฬามีเวลาสั้นมากในช่วงจะรับเสิรฟเพื่อเกมส์รุกหรือสวนกลับเมื่อได้โอกาสรุก นุสต้องมองเกมส์ให้ออกและบัญชาทีมตบให้ได้เปรียบให้ได้ เธอจึงเหมือนหัวใจสำคัญของทีม
สุดท้ายแล้ว วอลเล่ย์บอลคือกีฬาทีมโดยนักกีฬาต้องมี skill ตามตำแหน่งตัวเองอย่างดีมากก่อนแล้วจึงมาซ้อมเพื่อให้เกิดมีความเป็นระบบของทีม และจะต้องเล่นการอย่างรู้ใจ (แค่มองตาก็รู้ว่าควรบุกหรือรับยังงัย เช่น นุสกะปลื้ม) พอเกิดระบบทีมทีมมีความแม่นยำก็สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาเกมส์ให้คู่แข่งเดาทางเราไม่ถูกเหมือนที่ทีมไทยแสดงให้ทัาวโลกเห็นแล้ว.
สุดท้ายและสุดท้ายจริงๆ ขอให้น้องๆทีมชาติไทยจงเล่นวอลเล่ย์ด้วยความสุขแบบนี้และพัฒนาร่างกายและฝีมือเพื่อไปสู่เป้าหมายทุกการแข่งขันของคุณ...
เสียงติ คือ มุมมองของคนที่มีความเห็นหลากหลาย จงเลือกหยิบเฉพาะประเด็นที่ valid สำหรับคุณมาพัฒนาตัวเอง ส่วนคำด่าทอก็ลืมๆมันไป
เสียงชม คือพลังใจที่พวกเราส่งไปให้คุณด้วยความจริงใจ จงรับและภาคภูมิใจต่อคำชมเหล่านั้นเพราะมันออกมาจากใจพวกเราจริงๆ