52 "บทเรียน"ที่ได้จากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับ"ผู้สูงอายุ"ครั้งล่าสุด (May 2016)

เมื่อเดือนที่ผ่านมามีโอกาสพาแม่และเพื่อนของเค้าอีก7ชีวิตไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน เบ็ดเสร็จแล้วก็9วันเต็มกับ9สมาชิก สถานที่ๆเราไปกันก็คือโตเกียว

คือทีแรกเนี่ยแม่จะเป็นคนนำเพื่อนตะลุยเที่ยวกัน แต่จากมาเที่ยวกับครอบครัวที่โตเกียวเมื่อปีก่อนเลยค่อนข้างเชื่อมั่นว่า แม่ไม่น่านำเที่ยวโตเกียวได้อย่างแน่แท้เพราะมันวุ่นวายสับสนมากทั้งการขึ้นรถการเดินทางต่างๆ ยากเกินไปสำหรับกลุ่มหญิงสาวอายุ70จำนวน8คน

ผมจึงตัดสินใจเสนอตัวเป็นผู้จัดการ ดูแลและนำเที่ยวสาวๆทั้ง8เอง โดยที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง แต่ก็นะเป็นใครๆก็เป็นห่วงแม่แหละน่า และนี่คือบทเรียนและความรู้ต่างๆจากประสบการณ์การท่องเที่ยวครั้งนี้

1. ที่สนามบินสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการหรือบาดเจ็บ เดินไม่ไหวเจ็บโน่นนี่ เราสามารถแจ้งสายการบินล่วงหน้าได้เพื่อขอรถเข็น เข็นมันตั้งแต่เช็คอินนั่งยาวๆไปส่งถึงบนเครื่อง ตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ควรให้ทิปน้องๆที่มาข็นให้บริการด้วยก็ดีนะครับ (แก๊งค์ผมใช้บริการกัน4จาก8คน เพราะเกทค่อนข้างไกลและบางท่านเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บกันมา)

2. ถ้าเดินทางด้วยสายการบินDelta (ไฟล์ทผมคือไปนาริตะแล้วต่อยาวไปจนถึงอเมริกา) เตรียมตัวเผชิญกับการตรวจที่ค่อนข้างเข้มงวดหลายด่านได้เลยครับ ตรวจก่อนเช็คอินแล้วยังมีตรวจหน้าเกทอีก และอีกอย่างนึงคือห้ามพกหรือซื้อของเหลวทุกชนิดขึ้นเครื่องครับ คือเข้าไปซื้อในduty freeก้ไม่ได้จ้าทั้งเหล้าน้ำหอมอะไรก็ตามที่เหลว เมื่อเจอด่านตรวจก่อนเข้าเกทนี่ต้องทิ้งเลยจ้า

3. ผู้สูงอายุรุ่นใหม่รักการถ่ายรูปมาก สกิลเรื่องเซลฟี่บางคนนี่ไม่ต้องพูดถึง ไปจนถึงระดับเซลฟี่แล้วทำเป็นไม่มองกล้องด้วย

4. ยืนรอนั่งรอกันที่ไหน สุดท้ายต้องจบด้วยการถ่ายรูปกันไม่ต่ำกว่า15นาที

5. มากับรุ่นใหญ่ระดับนี้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือเวลากิน เปรมมากพูดเลย สบายกระเป๋า แหะแหะแหะ

6. ระหว่างการเดินทางต่างเช่นกาารขึ้นรถ รถไฟควรเช็คกระเป๋าหรือสิ่งของดีๆว่าครบไหม คนครบไหม บางทีคนครบกระเป๋าไม่ครบก็มี หรือบางทีของครบแต่มองออกไปนอกรถยังยืนถ่ายรูปอยู่เลยก็มี 555

7. ควรบอกพวกแกทุกครั้งเวลาขึ้นรถบัส รถไฟ รถไฟใต้ดินเรื่องเสียงคุย ปิดเสียงโทรศัพท์ตามที่สาธารณะต่างๆ และควรบอกเหตุผลดีๆกับพวกแก สิ่งที่ยากที่สุดกับการไปเที่ยวกับผู้สูงอายุคือการพูดเตือนในเรื่องต่างๆ ทั้งมารยาทหรือข้อห้ามต่างๆ ถ้าพูดไม่ดีก็มีงอนนะ

8. การเช่าPocket WIFIไปถือว่าเป็นสวรรค์สำหรับพวกนาง บางคนติดโซเชียลหนักมากแบบต้องลงรูป เช็คอินและเช็คคอมเม้นท์ตลอดเวลา นี่ถ้าliveเป็นคงทำไปแล้ว วันไหนสัญญาณWIFIไม่เสถียรล่ะก็หึหึหึ

9. การเดินทางด้วยรถไฟหรือรถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่นมักจะมีลิฟท์ให้บริการในเกือบๆทุกสถานี จงมองหาสิ่งเหล่านี้ให้กับพวกเค้า และจงจำให้ดีว่าลิฟท์มันพาไปโผล่ตรงไหน ไม่งั้นหลงแน่ๆ

10. เนื่องจากการไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้ๆกันก็คือมันต้องเดินค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นจงวางโปรแกรมไว้หลวมๆไปวันละที่2ที่ก็พอ พยายามหาที่นั่งพักให้พวกแกเรื่อยๆ และแน่นอนพักปุ๊บต้องถ่ายรูปให้ปั๊บ อย่าลืมเป็นอันขาด

11. ส่วนตัวแล้วการนั่งรถบัสจากโตเกียวไปKawaguchikoนั้น ขึ้นจากที่Shibuya (Mark City)นี่ผมว่าสะดวกกว่าที่Shinjukuนะ คนไม่พลุกพล่านวุ่นวายมากด้วย

12. ย่านYanaka (สถานีNippori) นี่น่ารักมุ้งมิ้งมาก เป็นย่านชุมชนเก่าขายของกระจุ๊กกระจิ๊ก ขนมนมเนย และที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์รูปแมวเต็มเบย เป็นย่านslow lifeอีกย่านนึงที่ชอบมาก

13. ย่านKichijojiเป็นอีกย่านนึงน่าเก๋ไก๋น่าเดินมาก เดินหลงไปเรื่อยๆยังสนุกเลย นี่ยังไม่รวมกับร้านอร่อยอย่างSatou Steak Houseนะ

14. การสูบบุหรี่ในโตเกียวตามที่สาธารณะนี่เริ่มรู้สึกว่าหาที่สูบยากขึ้นเรื่อยๆทุกที แต่เข้าร้านอาหารร้านกาแฟสูบกันเป็นธูปเลยจ้า

15. บุหรี่ไฟฟ้าIQOSของMalboroที่สมัยก่อนเห็นขายกันเกลื่อนตามเซเว่น เดี๋ยวนี้หาซื้อยากยังกะทอง ตรงสาขใหญ่Harajukuเปิดขายแค่วันเดียวคือวันอาทิตย์08.00-18.00 และต้องต่อคิวอย่างน้อยประมาณ3ชั่วโมง

16. ABC Martทำให้คนหมดตัว

17. ขนมตามมินิมาร์ททำให้คนหมดตัว

18. ไอติมก็ทำให้คนหมดตัว

19. ชอปOnisuka Tigerมีแต่คนไทย จนมีรายการญี่ปุ่่นไปถ่ายทำเป็นสกู๊ปเลยว่าเพราะอะไร

20. ควรเช็คกับเว็บที่จองโรงแรมดีๆเลยการคอนเฟิร์ม เพราะทริปนี้โดนยกเลิกการจองโรงแรมในช่วงแรกของการเดินทางโดยไม่ให้เหตุผลอะไร และมารู้แล้วก็ต่อเมื่อต่อWIFIหลังจากลงจากเครื่องบิน อีเมล์ไปก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร โทรกลับไปcall centerเมืองไทยก็ไม่มีใครรับ สุดท้ายแล้วก็ดุ่มๆไปโรงแรมที่จองไว้แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง เค้าก็บอกว่าได้รับการคอนเฟิร์มยกเลิกมาเหมือนกัน (โดยที่ผมไม่ได้ไปทำอะไรเลย) แล้วก็มีคนจองเข้ามาแทนที่แล้ว สรุปโรงแรมดีมากช่วยพยายามวิ่งวุ่นและหาห้องพักให้พวกเราจนได้ ถึงแม้ไม่ใช่แบบที่จองมาแต่แรก แต่ก็ดีกว่าอีกและได้ในราคาที่ถูกลงด้วย กราบขอบคุณมาด้วยนะครับกับโรงแรมKinuya

21. ไม่ใช่คนสูงอายุทุกคนที่ชอบเที่ยววัด

22. ไม่ว่าผู้หญิงอายุเท่าไหนก็ตามมักพ่ายแพ้อย่างย่อยยับกับคำว่าSALE

23. ทำไมรู้สึกว่าดองกี้ในโตเกียวมันไม่สะใจเท่าที่โอซาก้าก็ไม่รู้ (ไปมาทั้งShijuku, Asakusa, Yokohama)

24. อย่าปล่อยผู้สูงอายุไว้ลำพังในดองกี้

25. เพราะจะเกิดการหลงทาง

26. และหมดตัว

27. การเดินทางพวกรถไฟ รถใต้ติน ควรเก็บตั๋วให้พวกแกนะ เพราะเวลาจะหาตั๋วเพื่อเวลาออกเนี่ยจะหาไม่เจอเป็นประจำ แล้วจะบอกว่าหาย แล้วต่อด้วยหาไปๆก็จะเจอ 555 เสียกันไปเท่าไรแล้วกับว่าตั๋วหาย

28. จะกินบุฟเฟ่เนื้อเทพอย่างRokkasenควรจองไว้เนิ่นๆหลายๆวันนะ จะมาห้าวจองก่อนล่วงหน้าวันสองวันนี่อย่าเลย

29. แต่ถ้าไปแล้วมันเต็ม ลองไปกินอีกร้านก็ได้นะอยู่ตึกเดียวกับRokkasen ขึ้นลิฟท์ไปชั้น4 ออกมาก็เจอเลย อาจไม่ได้เทพแบบRokkasenแต่เชื่อเถอะว่าอร่อยสบายกระเป๋ากว่าเยอะ นี่ไปกิน9คนเช็คบิลมา25,000เยน

30. การพาผู้สูงอายุเพศหญิงไปเที่ยวสวนดอกไม้เปรียบได้กับการพาเด็กไปดิสนี่ย์แลนด์ อยู่กันได้ทั้งวันจริงๆ ถ่ายรูปกันยับ จากจำนวนรูปที่ถ่ายกันน่าจะเอาไปลงไอจีวันละรูปได้สองชั่วอายุคน

31. เวลาจะนัดหมายอะไรควรบอกเวลาและสถานที่กับทุกคนแบบตัวต่อตัวทั้งคำพูดและตัวอักษร เนื่องจากคนวัย70นี่ความจำก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก

32. หลงไปเดินชิลคนเดียวย่านDaikanyamaและเพิ่งจะค้นพบว่ามันดีมาก......ก เก๋มากและชิลมากๆ ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า คาเฟ่ ร้านกาแฟหรือแกลอรี่ เสียดายที่มีเวลาแป๊บเดียว

33. เรื่องการเตือนอะไรกับผู้ใหญ่เป็นเรื่องยาก แต่ขนาดบอกแล้วก็ไม่รอด มนุษย์ป้าอยู่ใกล้ตัวเรานี่เองโดยที่เราทำอะไรไม่ได้เลย สะเทือนใจมาก จะพูดอะไรไปก็กลัวเค้าจะว่าหรือมาว่าแม่เราได้ ต้องหาวิธีดีๆบอกกับพวกแกด้วยความใจเย็นและยิ้มแย้ม

34. ในทริปนี้สองทุ่มคือต้องกลับโรงแรมแล้ว ส่งเด็กๆเข้านอนและยามค่ำคืนนี่คือช่วงเวลาที่ชิลที่สุด

35. ลองไปเที่ยวที่ยอดนิยมเวลาดึกๆดูก็ได้บรรยากาศอีกแบบนึงนะ

36. ไปวัดAsakusaตอนห้าทุ่มเที่ยงคืนนี่ชิลมาก ถ่ายรูปสนุกเลย

37. ABC MartสาขาGinzaนี่ใหญ่มาก ดูหรูหราสมที่อยู่Ginzaจริงๆ

38. ชอปไนกี้ที่Harajukuก็เช่นกัน หารุ่นไหนไม่เจอขอให้มาที่นี่มีทุกสิ่ง

39. คนชอบบอกว่าร้านอาหารที่ญี่ปุ่นเข้าร้านไหนก็อร่อยหมดนี่ ขอเถียงหัวชนฝา ร้านตามโพยหรือร้านตามหนังสือก็เช่นกัน

40. เมื่อทุนทรัพย์เริ่มร่อยหรอYoshinoya, Tenya, Matsuyaเป็นตัวช่วยที่ประเสริฐมากจริงๆ

41. ราเมงข้อสอบหรือIchiran Ramenที่Ueno เปิด24ชั่วโมง ไม่รู้ว่าสาขาอื่นเปิดแบบนี้รึเปล่า

42. ร้านกาแฟชื่อดังStreamer Coffeeย่านShibuyaนี่อร่อยดีนะ แต่ที่อร่อยกว่าคือน้องบาริสต้าผู้หญิงนี่น่ารักมาก เหมือนน้องเหนิงฮอร์โมนเลย

43. การที่จะไปเดินถ่ายรูปที่ห้าแยกShibuyaตอนคืนวันศุกร์อาจต้องคิดเยอะๆกับการที่ต้องไปต่อสู้กับหมู่มวลมนุษย์นับล้าน

44. โรงแรมKinuyaที่เป็นที่ยอดฮิตในหมู่คนไทย คือสะดวกมากถึงมากที่สุด พนักงานประทับใจมาก แต่ห้องเล็ก เก่าและเก่ามาก ห้องมีสองประเภทคือเหม็นบุหรี่กับเหม็นบุหรี่มาก

45. แอร์ห้องมีสามระดับคือหนาว หนาวมากและหนาวสุดๆ

46. ถ้ารับได้ถือว่าเป็นโรงแรมที่โอเคเลย

47. โรงแรมNew Centuryที่ Kawaguchikoนี่ ประทับใจมากทุกๆอย่างโดยเฉพาะอาหารมื้อเย็นของทางโรงแรม

48. Retro Busที่Kawaguchiko ช่วงเวลาเย็นๆควรเช็คเวลากันดีๆว่ายังมีรถอยู่หรือไม่ หรือถ้ายังมีรถอยู่ช่วงเย็ฯทุกๆคนก็จะกลับกันหมด อาจต้องยืนรอรถนานมากเพราะรถเต็มเกือบหมด

49. บางทีผู้สูงอายุก็เหมือนเด็กนะ งอแงพูดโน่นนี่ไปเรื่อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ยิ้มรับไปเดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปแม้ว่าอาจมีเสียดแทงหัวใจบ้าง

50. เพื่อนก็คือเพื่อนไม่ว่าจะแก่แค่ไหนก็คงเหมือนเดิม การต้องนั่งฟังคนอายุ70นั่งคุยเล่นคุยเรื่องลากมกกันนี่ทำตัวไม่ถูกจริงๆ ยิ่งเรื่องเวลาพูดเรื่องไปอาบออนเซนแล้วด้วย เอ่อ.....อขอตัวก่อนนะครับ

51. เห็นคนไทยแห่ซื้อกระเป๋าAnelloกันแบบ้าคลั่งจริงๆ ยืนดูอยู่นานสองนานอ้าวนั่นชาวคณะเราก็ไปขนกันด้วยซะแล้ว

52. จับปูใส่กระด้งเป็นยังไงวันนี้เพิ่งจะได้รู้ ตอนเด็กเราซนเฮี้ยวแค่ไหนเข้าใจหัวอกครูแล้ว ขอบโทษคร้าบบบบบ อ่อ อีกอันนึง ต่อไปนี้ผมจะไม่ว่าอาชีพไกด์แล้วครับ เป็นอาชีพที่ทรหดดีจริงๆ

แต่สุดท้ายแล้วไปญี่ปุ่นก็ยังสนุกเหมือนเดิมนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่