ก่อนที่เกมการแข่งขันรายการมองเทรอซ์มาสเตอร์จะเริ่มขึ้นนั้นมีใครคาดคิดเอาไว้ว่าทีมไทยจะจบรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม พร้อมกับเอาชนะทีมอย่าง เซอร์เบีย เนเธอร์แลนด์ ชนิดที่ว่าสู้ได้อย่างสนุก ก่อนจะปิดท้ายด้วยการทุบเจ้าภาพสวิตเซอร์แลนด์
เรื่องผลการแข่งขันต่อจากนี้ทุกอย่างคือโบนัสสำหรับทีมไทยแล้ว การที่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ลงทุนควักกระเป๋าส่งทีมเข้ามาประลองศึกครั้งนี้ต้องเรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
คุ้มแรกคือนักกีฬาดาวรุ่ง(เด็ก)หลายคนได้โอกาสลงสนามแบบเต็มๆ ได้เจอคู่ต่อสู้ที่สูงใหญ่ เจอเกมที่บีบ และ ได้ความสนุกที่เล่นกับรุ่นพี่ ดูแล้วมันทำให้ลดความกดดันที่เคยมีลงไปเรื่อยๆ บ่อยครั้งที่น้องๆยังมีความรู้สึกกังวลว่าจะทำได้ไม่ดี บวกกับอารมณ์ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ลงสนาม จนทำให้ดูเกร็งไปหมด แต่รายการนี้ชัดเจนว่าเด็กๆสนุกไปกับเกมทุกนัดที่ได้รับโอกาสลงไปโชว์ฟอร์ม
คุ้มสองคือการยืนยันความสามารถของเหล่านักกีฬาที่จะเป็นกำลังหลักในอนาคตอันใกล้อย่าง อัจฉราพร คงยศ, ปิยะนุช แป้นน้อย ,พรพรรณ เกิดปราชญ์ , ทัดดาว นึกแจ้ง ที่รักษาระดับการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้ดี จริงแล้วการเล่น 2 รายการต่อเนื่องแบบนี้น่าจะมีแกว่งให้เห็นบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ตรงจุดนี้ไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไปว่าอนาคตต่อจากนี้จะไม่มีใครที่มีระดับความสามารถจะมารับช่วง
คุ้มสามคือรายการนี้เป็นการปลุกให้ หัตถยา บำรุงสุข ผู้เล่นตำแหน่งบอลสั้นที่เพิ่งหลายอาการบาดเจ็บ และ อาการนอยส์ ได้กลับมาเป็นคนเดิมที่กำลังจะ 100 เปอร์เซ็นอีกครั้งหนึ่ง จากนี้คงได้เห็นอะไรดีๆในตัวของเธอที่จะเอาไว้ช่วยทีมได้อีกมากมายเลยทีเดียว
คุ้มสี่คือการปรับอารมณ์ อันนี้อาจจะสื่อสารให้เข้าใจลำบากหน่อย แต่การที่ทีมไทยได้มาเล่นรายการนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมากๆ เพราะผลคัดโอลิมปิกที่ผ่านมาของทีมไทยเจอเรื่องที่กระทบต่อจิตใจ รวมทั้งความรู้สึกมากๆ และ แม้ว่าตอนนี้รุ่นพี่หลายคนจะรับได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่มองเทรอซ์มาสเตอร์คือรายการที่ปรับความสมดุลของทีมไทยอย่างแท้จริง เพราะเป็นการเล่นที่ไม่มีอะไรมาบีบหรือมากดดันต่อผลการแข่งขัน อีกอย่างมันเหมือนการพักฟื้นความรู้สึกด้วยบรรยากาศภูเขา และ ธรรมชาติที่สดชื่นคอยโอบช้อมพวกเธอเอาไว้ ก่อนที่จะปล่อยให้เหล่านักกีฬาไปเจอการแข่งขันรายการที้ต้องเริ่มเน้นผลการแข่งขันอย่าง เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่จะเริ่มขึ้นต่อจากนี้อีกไม่กี่สัปดาห์
อีกอย่างที่สำคัญคือรายการนี้ทำให้เราได้รู้ว่าคนไทยอยู่ทุกที่ของโลกจริงๆ เพราะ 3 เกมที่ผ่านมานั้นภาพที่ปรากฎในสนามนอกจากนักกีฬาที่ลงเล่นแล้ว ยังมีชาวไทยจำนวนมากเข้าไปเชียร์ และ ให้กำลังใจนักกีฬาอย่างเนืองแน่น จนบางครั้งยังถามตัวเองว่ารายการนี้มันจัดที่ไหนกันแน่ ซึ่งมันมีผลต่อความรู้สึกของนักกีฬาไม่น้อยเลย ในยามที่ต้องการกำลังใจมากๆ เสียงที่ดังอยู่ในสนามยังกึกก้องไปด้วยคำว่า "ไทยแลนด์ ไทยแลนด์"
เรื่องของกองเชียร์นี่ก็อยากจะยกย่องเหลือเกิน เพราะหลายคนนี่อดหลับอดนอนเพื่อรอชมการแข่งขันของทีมตบสาวไทย และ ที่เด็ดกว่านั้นคือมีคนจำนวนมากในโซเชี่ยลที่เป็นเพื่อนกับผมในเฟสบุคเขาออกไปทำงานต่อเลย เฮ้ย...ร่างกายทำด้วยอะไร หรือมีสูตรในการกินกาแฟยังไงให้ตาแข็งได้เบอร์นั้น ต้องบอกว่ายอมใจจริงๆ
คัดลอกจาก..
https://www.facebook.com/aekprawit/photos/a.308280035951094.66804.308274545951643/886686011443824/?type=3&theater
วอลเลย์บอลไทย กับ 4 อย่างที่คุ้มค่า "Montreux Volley Masters2016"
เรื่องผลการแข่งขันต่อจากนี้ทุกอย่างคือโบนัสสำหรับทีมไทยแล้ว การที่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ลงทุนควักกระเป๋าส่งทีมเข้ามาประลองศึกครั้งนี้ต้องเรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
คุ้มแรกคือนักกีฬาดาวรุ่ง(เด็ก)หลายคนได้โอกาสลงสนามแบบเต็มๆ ได้เจอคู่ต่อสู้ที่สูงใหญ่ เจอเกมที่บีบ และ ได้ความสนุกที่เล่นกับรุ่นพี่ ดูแล้วมันทำให้ลดความกดดันที่เคยมีลงไปเรื่อยๆ บ่อยครั้งที่น้องๆยังมีความรู้สึกกังวลว่าจะทำได้ไม่ดี บวกกับอารมณ์ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ลงสนาม จนทำให้ดูเกร็งไปหมด แต่รายการนี้ชัดเจนว่าเด็กๆสนุกไปกับเกมทุกนัดที่ได้รับโอกาสลงไปโชว์ฟอร์ม
คุ้มสองคือการยืนยันความสามารถของเหล่านักกีฬาที่จะเป็นกำลังหลักในอนาคตอันใกล้อย่าง อัจฉราพร คงยศ, ปิยะนุช แป้นน้อย ,พรพรรณ เกิดปราชญ์ , ทัดดาว นึกแจ้ง ที่รักษาระดับการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้ดี จริงแล้วการเล่น 2 รายการต่อเนื่องแบบนี้น่าจะมีแกว่งให้เห็นบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ตรงจุดนี้ไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไปว่าอนาคตต่อจากนี้จะไม่มีใครที่มีระดับความสามารถจะมารับช่วง
คุ้มสามคือรายการนี้เป็นการปลุกให้ หัตถยา บำรุงสุข ผู้เล่นตำแหน่งบอลสั้นที่เพิ่งหลายอาการบาดเจ็บ และ อาการนอยส์ ได้กลับมาเป็นคนเดิมที่กำลังจะ 100 เปอร์เซ็นอีกครั้งหนึ่ง จากนี้คงได้เห็นอะไรดีๆในตัวของเธอที่จะเอาไว้ช่วยทีมได้อีกมากมายเลยทีเดียว
คุ้มสี่คือการปรับอารมณ์ อันนี้อาจจะสื่อสารให้เข้าใจลำบากหน่อย แต่การที่ทีมไทยได้มาเล่นรายการนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมากๆ เพราะผลคัดโอลิมปิกที่ผ่านมาของทีมไทยเจอเรื่องที่กระทบต่อจิตใจ รวมทั้งความรู้สึกมากๆ และ แม้ว่าตอนนี้รุ่นพี่หลายคนจะรับได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่มองเทรอซ์มาสเตอร์คือรายการที่ปรับความสมดุลของทีมไทยอย่างแท้จริง เพราะเป็นการเล่นที่ไม่มีอะไรมาบีบหรือมากดดันต่อผลการแข่งขัน อีกอย่างมันเหมือนการพักฟื้นความรู้สึกด้วยบรรยากาศภูเขา และ ธรรมชาติที่สดชื่นคอยโอบช้อมพวกเธอเอาไว้ ก่อนที่จะปล่อยให้เหล่านักกีฬาไปเจอการแข่งขันรายการที้ต้องเริ่มเน้นผลการแข่งขันอย่าง เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่จะเริ่มขึ้นต่อจากนี้อีกไม่กี่สัปดาห์
อีกอย่างที่สำคัญคือรายการนี้ทำให้เราได้รู้ว่าคนไทยอยู่ทุกที่ของโลกจริงๆ เพราะ 3 เกมที่ผ่านมานั้นภาพที่ปรากฎในสนามนอกจากนักกีฬาที่ลงเล่นแล้ว ยังมีชาวไทยจำนวนมากเข้าไปเชียร์ และ ให้กำลังใจนักกีฬาอย่างเนืองแน่น จนบางครั้งยังถามตัวเองว่ารายการนี้มันจัดที่ไหนกันแน่ ซึ่งมันมีผลต่อความรู้สึกของนักกีฬาไม่น้อยเลย ในยามที่ต้องการกำลังใจมากๆ เสียงที่ดังอยู่ในสนามยังกึกก้องไปด้วยคำว่า "ไทยแลนด์ ไทยแลนด์"
เรื่องของกองเชียร์นี่ก็อยากจะยกย่องเหลือเกิน เพราะหลายคนนี่อดหลับอดนอนเพื่อรอชมการแข่งขันของทีมตบสาวไทย และ ที่เด็ดกว่านั้นคือมีคนจำนวนมากในโซเชี่ยลที่เป็นเพื่อนกับผมในเฟสบุคเขาออกไปทำงานต่อเลย เฮ้ย...ร่างกายทำด้วยอะไร หรือมีสูตรในการกินกาแฟยังไงให้ตาแข็งได้เบอร์นั้น ต้องบอกว่ายอมใจจริงๆ
คัดลอกจาก.. https://www.facebook.com/aekprawit/photos/a.308280035951094.66804.308274545951643/886686011443824/?type=3&theater