สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรก ที่ผ่านมาอยากจะเขียนรีวิวที่เที่ยวต่างๆที่เคยไปมา แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เขียนจริงๆจังๆสักที ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^
รีวิวนี้เป็นทริปที่ซีอานและลั่วหยาง 21-24 ก.พ. ที่ผ่านมาค่ะ ครั้งนี้เดินทางไปกับสายการบิน AirAsia เครื่องออกตอน 09:10 ถึงที่ Xian Xianyang International Airport ตอน บ่าย 2 ค่ะ (เวลาที่จีนเร็วกว่าไทย 1 ชม.) หลังจากผ่านตม.และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางเข้าเมืองไปที่ Bell Tower Hotel กันค่ะ ซึ่งตัวสนามบินอยู่ห่างจากตัวเมืองซีอานไกลพอสมควร เราสามารถนั่งรถบัส หรือจะนั่งแท็กซี่ก็ได้ค่ะ พอออกมาจากด่านศุลกากร ให้เดินออกจากตัวอาคาร ข้ามถนนด้านหน้า แล้วตรงเข้าไปในอีกอาคารนึง ซึ่งจะเป็นที่ที่เราจะขึ้นรถกันค่ะ ก่อนจะมาก็ได้อ่านรีวิวจากท่านอื่นๆที่เคยมา บอกว่าเมื่อก่อนจะมีรถบัสสาย 6 ซึ่งไปลงที่ Bell Tower เลย แต่ตอนนี้เลิกให้บริการไปแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถบัสเข้าเมือง เลยไปต่อแถวซื้อตั๋วก่อน จุดซื้อตั๋วคือเค้าเตอร์ที่มีบอร์ดแสดงตารางเวลาเดินรถอันใหญ่ๆอยู่ค่ะ ง่ายๆก็คือพอเดินเข้าตัวอาคารตรงมาเรื่อยๆจะอยู่ด้านซ้ายมือ และจุดรอขึ้นรถก็จะอยู่ด้านขวามือ ระหว่างต่อแถวซื้อตั๋วบังเอิญได้ยินพนักงานข้างๆตะโกนถามว่ามีใครจะไป Bell Tower บ้าง วิ่งปรู๊ดเข้าไปเลยค่าา 555 ก็ถามพนักงานว่าราคาเท่าไหร คนละ 50 หยวน เป็นรถของสนามบินประมาณว่าเหมือนลิมูซีนไปส่งถึงที่เลย 2 คนก็ 100 หยวนพอดี แอบคิดหนักว่าแพงไปไหม เพราะรถบัสที่จะนั่งตอนแรกตกคนละ 26 หยวนเอง เกือบเท่านึงแหนะ แต่รถมันวิ่งไม่ถึงต้องไปนั่งรถไฟใต้ดินต่ออีกที ซึ่งพอนึกถึงสภาพที่ต้องยกกระเป๋าเอง น่าจะลำบากพอสมควร ด้วยความที่ว่ารักสบาย เลยตกลงไปค่ะ 555
รถที่มารับเป็นรถตู้เล็กๆ นั่งได้ 6 คนค่ะ นั่งไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ รถมาติดช่วงที่ใกล้ๆใจกลางเมือง ติดแหงกเลยย... และสุดท้ายรถตู้มาจอดตรง Bell Tower Hotel ค่ะ หลังจากเช็คอินรร.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ประมาน 4 โมงเย็นกว่าๆ เลยออกมาสำรวจรอบๆรร.ค่ะ เดินรอบๆ หอระฆัง (Bell Tower) แต่ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนนะคะ เพราะดูจากรีวิวของท่านอื่นแล้วดูไม่ค่อยมีอะไร (ต้องบอกก่อนนะคะว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพวกประวัติศาสตร์ ของโบราณ พวกพิพิธภัณฑ์นี่บ๊ายบายค่าาา ชอบเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปแค่นั้นพอค่ะ)
รูปรร.ถ่ายจากฝั่งห้าง Kai Yuan ที่เห็นไกลๆ ก็คือหอกลอง (Drum Tower) วันนั้นฟ้าหม่นหมอกควันลงเต็มๆค่ะ
ตอนเย็นเราก็เดินไปเที่ยวที่ถนนคนเดินมุสลิม (Moslem Street / Huimin Jie) กันค่ะ ซึ่งเป็นถนนอยู่หลังหอกลอง ตอนแรกแอบรู้สึกแปลกนิดๆ เพราะเจอพ่อค้าแม่ค้าแต่งตัวแบบมุสลิม โพกหัว หน้าตาออกแนวแขกขาวมากกว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าที่นี่คือชุมชนชาวหุย เป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมชนชาติหุยที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษชาวมุสลิมต่างชาติทั้งนักการทูตและพ่อค้า ซึ่งมาพำนักอยู่ในซีอานเมื่อครั้งอดีต ตลอดแนวถนนทั้ง 2 ฝั่ง มีทั้งของกินและของฝากให้เลือกซื้อค่ะ
นวดตังเม ย๊าวยาวววว~~
ปู ปลาหมึกฉุบแป้งทอด โรยด้วยเครื่องเทศ อร่อยมากค่ะ กรอบๆ ราคาไม้ละ 20 หยวน ถ้าเป็นปู 25 หยวน ส่วนตัวชอบปลาหมึกมากกว่าปู ปูแอบแข็งนิดหน่อย ถ้าใครชอบกรอบๆคงชอบ
ขนมคล้ายขนมตุ๊บตับของไทย ทำกันให้เห็นกันสดๆเลย ฆ้อนเบอเลิ่มเลยย ใหญ่กว่าหัวอีกกก ●0●
กล้วยชุบแป้งทอดแล้วคลุกกับอะไรสักอย่างค่ะ
คั่วกันให้เห็นชัดๆ เลยค่ะ
ขนมอะไรไม่รู้
เท้าหมูแอบน่ากลัวเบาๆ ><
ขนมสายไหม...
ใครอยากซื้อลูกอม มาร้านนี้ด้านในร้านมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ
เดินเล่นไปจนสุดถนนก็เดินย้อยกลับค่ะ ได้ตุ๊กตาทหารจิ๋นซีมา 4 ตัว ตัวละ 10 หยวน ขอแนะนำถ้าจะซื้อของลองถามราคาหลายๆร้านก่อน ร้านที่นี่ก็ขายของเหมือนๆ กันค่ะ บางร้านบอกราคามา 15 บ้าง 20 บ้าง 25 บ้าง ซึ่งหน้าตาเหมือนกันเดะๆ พอมาเจอร้านนี้บอก 10 หยวนห้ามต่อ! เลยจัดมา 4 ตัวเลยค่ะ ^^
ก่อนกลับขอถ่ายรูปหอกลองตอนกลางคืนเป็นที่ระลึกก่อนนะคะ
ระหว่างเดินกลับรร.ผ่านร้านของญี่ปุ่นชื่อ miniso เหมือนร้าน Daiso เลย แต่ร้านนี้ขาย 10 หยวนเองค่ะ บ้างอย่างก็ราคามากกว่า แต่ส่วนใหญ่ก็ 10 หยวนค่ะ จบแล้วสำหรับวันแรกที่ซีอาน ส่วนพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวสุสานจิ๋นซีกันนะคะ
----------------------------------
วันที่ 2 โปรแกรมวันนี้เราจะไปเที่ยวสุสานจิ๋นซี (Museum of Qin Terra Cotta Warriors and Horses) ค่ะ
หอระฆังยามเช้าค่ะ
รูปรร.ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามค่ะ ด้านขวาล่างของรูปจะเห็นทางเดินใต้ดิน ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟและรร. เป็นทางเดินใต้ดินรอบหอระฆังค่ะ
โดยเราจะไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถไฟเพื่อไปสุสานจิ๋นซี จากรร.ไปสถานีรถไฟสามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปได้ค่ะ นั่งสายสีแดงจากสถานี Bell Tower ซึ่งทางเข้าสถานีรถไฟอยู่ด้านหน้ารร.เลยค่ะ นี่คือสาเหตุหลักในการเลือกรร.นี้ ถึงแม้จะเก่าไปหน่อย แต่เดินทางสะดวกสบาย และที่สำคัญอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวด้วยค่ะ นั่งไปป้ายเดียวลงที่สถานี North Street เปลี่ยนเป็นสายสีฟ้า นั่งต่ออีกหนึ่งสถานีลงที่ Wulukou แล้วเดินต่อไปยังสถานีรถไฟค่ะ แต่เราลองนั่งรถเมล์ไปเพราะขี้เกียจเปลี่ยนสาย 55 ข้ามถนนเดินไปขึ้นรถเมล์ ซึ่งรู้สึกว่าพลาดมากที่นั่งรถเมล์เพราะรถติดแหง่ก นี่ถ้านั่งรถไฟใต้ดินไปป่านนี้คงถึงไปนานแล้ว
ส่วนรถบัสที่จะไปสุสานจิ๋นซีจะอยู่ทางขวามือ เป็นรถบัสท่องเที่ยวสาย 5 (หันหน้าเข้าหาสถานีรถไฟ) เดินเข้าไปเลยค่ะ ระหว่างทางก็จะมีคนมารุมชวนให้ไปนั่งแท็กซี่บ้าง หรือไม่ก็ไปขึ้นรถเมล์สายอื่นบ้างที่ไปสุสานจิ๋นซีเหมือนกัน แต่ราคาตั๋วคนละ 8 หยวน ถ้าเป็นรถบัสท่องเที่ยวราคา 7 หยวน พอขึ้นรถไปแปปเดียวก็เต็มพร้อมออกเดินทางแล้วค่ะ ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่คนจีนเองก็ไปเที่ยวที่นี่เยอะเหมือนกันค่ะ
นั่งรถไปประมาณ 1 ชม. (ถ้าไปตอนเช้า แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายนะคะเพราะแดดจะไม่ส่องไม่ร้อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนย่างนะคะ) รถบัสจะมาจอดส่งเราด้านหน้า ซึ่งพอลงจากรถบัสก็เดินไปทางขวาจะเจอลานจอดรถขนาดใหญ่ ให้เดินตามป้ายขายตั๋ว ค่าตั๋วคนละ 120 หยวน ซึ่งเราต้องเดินต่อเข้าไปข้างในอีกระยะทางประมาณ 1 กิโลจากจุดขายตั๋ว ถ้าไม่อยากเดินสามารถนั่งรถกอล์ฟเข้าไปได้ค่ะ ข้างๆที่ขายตั๋วจะมีซุ้มขายตั๋วรถกอล์ฟราคาคนละ 5 หยวน แต่เราเลือกเดินออกกำลังกาย เดินเล่นชมวิวดีกว่า
ตัวสุสานจิ๋นซีจะมีทั้งหมด 3 หลุม หลุม 1 จะเป็นหลุดที่ใหญ่ที่สุด หลุม 2 จะมีรูปปั้นดินเผาทหารที่สมบูรณ์แบบจัดแสดงอยู่ในตู้กระจก ส่วนหลุม 3 ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ
หลุม 1
จะมีป้ายทางเดินบอกไปยังหลุม 2 และ 3 ด้านหลังสุดของหลุด 1 ไม่หลงแน่นอนค่ะ
ขากลับเราเลือกที่จะขึ้นรถเมล์สายอื่น เพราะรอรถบัสสาย 5 ไม่มาสักที กระเป๋ารถเมล์บอกขึ้นมาเลยไม่ต้องรอหรอก ของเราเร็วกว่า ที่ไหนได้แวะจอดรอรับคนขึ้นรถตลอดทาง กว่าจะกลับมาถึงสถานีรถไฟก็ชม.ครึ่ง พอกลับมาถึงเราก็ไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปลัวหยางสำหรับวันพรุ่งนี้ไว้ก่อน กลัวไม่มีตั๋วแถมตอนเช้าจะได้ไม่ต้องรีบไปต่อแถวซื้อตั๋วด้วย สามารถซื้อตั๋วได้ทั้งที่สถานีรถไฟ (Railway Station) หรือสถานีรถไฟความเร็วสูง (North Railway Station / เป่ยเคอจ้าน) อันนี้ซื้อแต่ขาไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะกลับเที่ยวไหนดี เดี๋ยวค่อยไปซื้อที่โน้นก็ได้ค่ะ
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็ประมาณบ่าย 3 กว่าๆ เราจะไปต่อที่วัดห่านป่าใหญ่ค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Xiaozhai Station (ทางออก C) หลังจากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือจะนั่งรถเมล์สาย 4, 6, 8(610), 9(320) ลงที่ป้าย Dayan Pagoda (Da Yan Ta) ก็ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งกว่าเราจะมาถึงวัดก็ปิดให้เข้าแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะถ่ายรูปจากข้างนอกก็ได้ (ขอแค่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ว่าเคยมาแล้วนะเป็นพอค่ะ แถมไม่ต้องเสียค่าตั๋วเข้า 25 หยวนอีกตังหาก 555)
ด้านหลังของวัดจะเป็นลานน้ำพุ ซึ่งจะมีการแสดงทุกวัน ตามเวลานี้ค่ะ
จ. พ. – ศ. 12:00, 20:30
อ. 20:30
ส. – อา. 12:00, 14:00, 16:00, 18:00, 20:30
หลังจากนั้นเราก็เดินไปทางด้านหน้าวัดซึ่งจะมีรูปปั้นพระถังซัมจั๋งอยู่ ระหว่างทางจะมีของขายตลอด สังเกตได้ว่าคนเยอะมาก แถมมีการประดับตกแต่งโคมจีนสีแดงเต็มไปหมด เพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงวันตรุษจีนค่ะ เลยได้สัมผัสถึงความคึกครื้นของตรุษจีนเมืองจีนของแท้เลยค่ะ
พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ ถึงเวลากลับแล้วว
รถที่ซีอานติดไม่แพ้กรุงเทพเลยค่ะ
มื้อเย็นวันนี้เรามาทานที่ร้านเกี๊ยวชื่อดังชั้น 2 บนร้าน Häagen-Dazs ฝั่งตรงข้ามโรงแรม (ฝั่งถนนมุสลิม) ค่ะ
[CR] กาลครั้งหนึ่งในความฝัน...ณ ซีอาน ลั่วหยาง
รีวิวนี้เป็นทริปที่ซีอานและลั่วหยาง 21-24 ก.พ. ที่ผ่านมาค่ะ ครั้งนี้เดินทางไปกับสายการบิน AirAsia เครื่องออกตอน 09:10 ถึงที่ Xian Xianyang International Airport ตอน บ่าย 2 ค่ะ (เวลาที่จีนเร็วกว่าไทย 1 ชม.) หลังจากผ่านตม.และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางเข้าเมืองไปที่ Bell Tower Hotel กันค่ะ ซึ่งตัวสนามบินอยู่ห่างจากตัวเมืองซีอานไกลพอสมควร เราสามารถนั่งรถบัส หรือจะนั่งแท็กซี่ก็ได้ค่ะ พอออกมาจากด่านศุลกากร ให้เดินออกจากตัวอาคาร ข้ามถนนด้านหน้า แล้วตรงเข้าไปในอีกอาคารนึง ซึ่งจะเป็นที่ที่เราจะขึ้นรถกันค่ะ ก่อนจะมาก็ได้อ่านรีวิวจากท่านอื่นๆที่เคยมา บอกว่าเมื่อก่อนจะมีรถบัสสาย 6 ซึ่งไปลงที่ Bell Tower เลย แต่ตอนนี้เลิกให้บริการไปแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถบัสเข้าเมือง เลยไปต่อแถวซื้อตั๋วก่อน จุดซื้อตั๋วคือเค้าเตอร์ที่มีบอร์ดแสดงตารางเวลาเดินรถอันใหญ่ๆอยู่ค่ะ ง่ายๆก็คือพอเดินเข้าตัวอาคารตรงมาเรื่อยๆจะอยู่ด้านซ้ายมือ และจุดรอขึ้นรถก็จะอยู่ด้านขวามือ ระหว่างต่อแถวซื้อตั๋วบังเอิญได้ยินพนักงานข้างๆตะโกนถามว่ามีใครจะไป Bell Tower บ้าง วิ่งปรู๊ดเข้าไปเลยค่าา 555 ก็ถามพนักงานว่าราคาเท่าไหร คนละ 50 หยวน เป็นรถของสนามบินประมาณว่าเหมือนลิมูซีนไปส่งถึงที่เลย 2 คนก็ 100 หยวนพอดี แอบคิดหนักว่าแพงไปไหม เพราะรถบัสที่จะนั่งตอนแรกตกคนละ 26 หยวนเอง เกือบเท่านึงแหนะ แต่รถมันวิ่งไม่ถึงต้องไปนั่งรถไฟใต้ดินต่ออีกที ซึ่งพอนึกถึงสภาพที่ต้องยกกระเป๋าเอง น่าจะลำบากพอสมควร ด้วยความที่ว่ารักสบาย เลยตกลงไปค่ะ 555
รถที่มารับเป็นรถตู้เล็กๆ นั่งได้ 6 คนค่ะ นั่งไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ รถมาติดช่วงที่ใกล้ๆใจกลางเมือง ติดแหงกเลยย... และสุดท้ายรถตู้มาจอดตรง Bell Tower Hotel ค่ะ หลังจากเช็คอินรร.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ประมาน 4 โมงเย็นกว่าๆ เลยออกมาสำรวจรอบๆรร.ค่ะ เดินรอบๆ หอระฆัง (Bell Tower) แต่ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนนะคะ เพราะดูจากรีวิวของท่านอื่นแล้วดูไม่ค่อยมีอะไร (ต้องบอกก่อนนะคะว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพวกประวัติศาสตร์ ของโบราณ พวกพิพิธภัณฑ์นี่บ๊ายบายค่าาา ชอบเดินเที่ยวเล่น ถ่ายรูปแค่นั้นพอค่ะ)
รูปรร.ถ่ายจากฝั่งห้าง Kai Yuan ที่เห็นไกลๆ ก็คือหอกลอง (Drum Tower) วันนั้นฟ้าหม่นหมอกควันลงเต็มๆค่ะ
ตอนเย็นเราก็เดินไปเที่ยวที่ถนนคนเดินมุสลิม (Moslem Street / Huimin Jie) กันค่ะ ซึ่งเป็นถนนอยู่หลังหอกลอง ตอนแรกแอบรู้สึกแปลกนิดๆ เพราะเจอพ่อค้าแม่ค้าแต่งตัวแบบมุสลิม โพกหัว หน้าตาออกแนวแขกขาวมากกว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าที่นี่คือชุมชนชาวหุย เป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมชนชาติหุยที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษชาวมุสลิมต่างชาติทั้งนักการทูตและพ่อค้า ซึ่งมาพำนักอยู่ในซีอานเมื่อครั้งอดีต ตลอดแนวถนนทั้ง 2 ฝั่ง มีทั้งของกินและของฝากให้เลือกซื้อค่ะ
นวดตังเม ย๊าวยาวววว~~
ปู ปลาหมึกฉุบแป้งทอด โรยด้วยเครื่องเทศ อร่อยมากค่ะ กรอบๆ ราคาไม้ละ 20 หยวน ถ้าเป็นปู 25 หยวน ส่วนตัวชอบปลาหมึกมากกว่าปู ปูแอบแข็งนิดหน่อย ถ้าใครชอบกรอบๆคงชอบ
ขนมคล้ายขนมตุ๊บตับของไทย ทำกันให้เห็นกันสดๆเลย ฆ้อนเบอเลิ่มเลยย ใหญ่กว่าหัวอีกกก ●0●
กล้วยชุบแป้งทอดแล้วคลุกกับอะไรสักอย่างค่ะ
คั่วกันให้เห็นชัดๆ เลยค่ะ
ขนมอะไรไม่รู้
เท้าหมูแอบน่ากลัวเบาๆ ><
ขนมสายไหม...
ใครอยากซื้อลูกอม มาร้านนี้ด้านในร้านมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ
เดินเล่นไปจนสุดถนนก็เดินย้อยกลับค่ะ ได้ตุ๊กตาทหารจิ๋นซีมา 4 ตัว ตัวละ 10 หยวน ขอแนะนำถ้าจะซื้อของลองถามราคาหลายๆร้านก่อน ร้านที่นี่ก็ขายของเหมือนๆ กันค่ะ บางร้านบอกราคามา 15 บ้าง 20 บ้าง 25 บ้าง ซึ่งหน้าตาเหมือนกันเดะๆ พอมาเจอร้านนี้บอก 10 หยวนห้ามต่อ! เลยจัดมา 4 ตัวเลยค่ะ ^^
ก่อนกลับขอถ่ายรูปหอกลองตอนกลางคืนเป็นที่ระลึกก่อนนะคะ
ระหว่างเดินกลับรร.ผ่านร้านของญี่ปุ่นชื่อ miniso เหมือนร้าน Daiso เลย แต่ร้านนี้ขาย 10 หยวนเองค่ะ บ้างอย่างก็ราคามากกว่า แต่ส่วนใหญ่ก็ 10 หยวนค่ะ จบแล้วสำหรับวันแรกที่ซีอาน ส่วนพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวสุสานจิ๋นซีกันนะคะ
----------------------------------
วันที่ 2 โปรแกรมวันนี้เราจะไปเที่ยวสุสานจิ๋นซี (Museum of Qin Terra Cotta Warriors and Horses) ค่ะ
หอระฆังยามเช้าค่ะ
รูปรร.ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามค่ะ ด้านขวาล่างของรูปจะเห็นทางเดินใต้ดิน ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟและรร. เป็นทางเดินใต้ดินรอบหอระฆังค่ะ
โดยเราจะไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถไฟเพื่อไปสุสานจิ๋นซี จากรร.ไปสถานีรถไฟสามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปได้ค่ะ นั่งสายสีแดงจากสถานี Bell Tower ซึ่งทางเข้าสถานีรถไฟอยู่ด้านหน้ารร.เลยค่ะ นี่คือสาเหตุหลักในการเลือกรร.นี้ ถึงแม้จะเก่าไปหน่อย แต่เดินทางสะดวกสบาย และที่สำคัญอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวด้วยค่ะ นั่งไปป้ายเดียวลงที่สถานี North Street เปลี่ยนเป็นสายสีฟ้า นั่งต่ออีกหนึ่งสถานีลงที่ Wulukou แล้วเดินต่อไปยังสถานีรถไฟค่ะ แต่เราลองนั่งรถเมล์ไปเพราะขี้เกียจเปลี่ยนสาย 55 ข้ามถนนเดินไปขึ้นรถเมล์ ซึ่งรู้สึกว่าพลาดมากที่นั่งรถเมล์เพราะรถติดแหง่ก นี่ถ้านั่งรถไฟใต้ดินไปป่านนี้คงถึงไปนานแล้ว
ส่วนรถบัสที่จะไปสุสานจิ๋นซีจะอยู่ทางขวามือ เป็นรถบัสท่องเที่ยวสาย 5 (หันหน้าเข้าหาสถานีรถไฟ) เดินเข้าไปเลยค่ะ ระหว่างทางก็จะมีคนมารุมชวนให้ไปนั่งแท็กซี่บ้าง หรือไม่ก็ไปขึ้นรถเมล์สายอื่นบ้างที่ไปสุสานจิ๋นซีเหมือนกัน แต่ราคาตั๋วคนละ 8 หยวน ถ้าเป็นรถบัสท่องเที่ยวราคา 7 หยวน พอขึ้นรถไปแปปเดียวก็เต็มพร้อมออกเดินทางแล้วค่ะ ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่คนจีนเองก็ไปเที่ยวที่นี่เยอะเหมือนกันค่ะ
นั่งรถไปประมาณ 1 ชม. (ถ้าไปตอนเช้า แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายนะคะเพราะแดดจะไม่ส่องไม่ร้อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนย่างนะคะ) รถบัสจะมาจอดส่งเราด้านหน้า ซึ่งพอลงจากรถบัสก็เดินไปทางขวาจะเจอลานจอดรถขนาดใหญ่ ให้เดินตามป้ายขายตั๋ว ค่าตั๋วคนละ 120 หยวน ซึ่งเราต้องเดินต่อเข้าไปข้างในอีกระยะทางประมาณ 1 กิโลจากจุดขายตั๋ว ถ้าไม่อยากเดินสามารถนั่งรถกอล์ฟเข้าไปได้ค่ะ ข้างๆที่ขายตั๋วจะมีซุ้มขายตั๋วรถกอล์ฟราคาคนละ 5 หยวน แต่เราเลือกเดินออกกำลังกาย เดินเล่นชมวิวดีกว่า
ตัวสุสานจิ๋นซีจะมีทั้งหมด 3 หลุม หลุม 1 จะเป็นหลุดที่ใหญ่ที่สุด หลุม 2 จะมีรูปปั้นดินเผาทหารที่สมบูรณ์แบบจัดแสดงอยู่ในตู้กระจก ส่วนหลุม 3 ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ
หลุม 1
จะมีป้ายทางเดินบอกไปยังหลุม 2 และ 3 ด้านหลังสุดของหลุด 1 ไม่หลงแน่นอนค่ะ
ขากลับเราเลือกที่จะขึ้นรถเมล์สายอื่น เพราะรอรถบัสสาย 5 ไม่มาสักที กระเป๋ารถเมล์บอกขึ้นมาเลยไม่ต้องรอหรอก ของเราเร็วกว่า ที่ไหนได้แวะจอดรอรับคนขึ้นรถตลอดทาง กว่าจะกลับมาถึงสถานีรถไฟก็ชม.ครึ่ง พอกลับมาถึงเราก็ไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปลัวหยางสำหรับวันพรุ่งนี้ไว้ก่อน กลัวไม่มีตั๋วแถมตอนเช้าจะได้ไม่ต้องรีบไปต่อแถวซื้อตั๋วด้วย สามารถซื้อตั๋วได้ทั้งที่สถานีรถไฟ (Railway Station) หรือสถานีรถไฟความเร็วสูง (North Railway Station / เป่ยเคอจ้าน) อันนี้ซื้อแต่ขาไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะกลับเที่ยวไหนดี เดี๋ยวค่อยไปซื้อที่โน้นก็ได้ค่ะ
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็ประมาณบ่าย 3 กว่าๆ เราจะไปต่อที่วัดห่านป่าใหญ่ค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Xiaozhai Station (ทางออก C) หลังจากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือจะนั่งรถเมล์สาย 4, 6, 8(610), 9(320) ลงที่ป้าย Dayan Pagoda (Da Yan Ta) ก็ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งกว่าเราจะมาถึงวัดก็ปิดให้เข้าแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะถ่ายรูปจากข้างนอกก็ได้ (ขอแค่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ว่าเคยมาแล้วนะเป็นพอค่ะ แถมไม่ต้องเสียค่าตั๋วเข้า 25 หยวนอีกตังหาก 555)
ด้านหลังของวัดจะเป็นลานน้ำพุ ซึ่งจะมีการแสดงทุกวัน ตามเวลานี้ค่ะ
จ. พ. – ศ. 12:00, 20:30
อ. 20:30
ส. – อา. 12:00, 14:00, 16:00, 18:00, 20:30
หลังจากนั้นเราก็เดินไปทางด้านหน้าวัดซึ่งจะมีรูปปั้นพระถังซัมจั๋งอยู่ ระหว่างทางจะมีของขายตลอด สังเกตได้ว่าคนเยอะมาก แถมมีการประดับตกแต่งโคมจีนสีแดงเต็มไปหมด เพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงวันตรุษจีนค่ะ เลยได้สัมผัสถึงความคึกครื้นของตรุษจีนเมืองจีนของแท้เลยค่ะ
พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ ถึงเวลากลับแล้วว
รถที่ซีอานติดไม่แพ้กรุงเทพเลยค่ะ
มื้อเย็นวันนี้เรามาทานที่ร้านเกี๊ยวชื่อดังชั้น 2 บนร้าน Häagen-Dazs ฝั่งตรงข้ามโรงแรม (ฝั่งถนนมุสลิม) ค่ะ