คืนแรกที่ไปถึงนั้นนอนที่สนามบินคันไซครับ ตรงตึก Aero Plaza
สะดวกดีมากๆ มีร้าน Mc เปิด 24 ชม. มีร้าน Lawson แล้วก็มีผ้าห่มแจกด้วย
มีโซนอาบน้ำหยอดเหรียญ ตู้กดน้ำ ที่ชาร์จแบต ครบ! ไม่ต้องไปนอนโรงแรม เชื่อเหอะ
..................................................
ตื่นเช้ามา...ค่อยไปเช็คอิน และฝากของ
จากนั้นก็ออกเดินทางสู่ปราสาทฮิเมจิ
...........................................
อ้อ! ลืมบอกไป ทริปนี้ทั้งทริปเราใช้ Pass ตัวเดียวคือ Kansai Wide Area Pass
ราคา 8,500 เยน ใช้ได้ 5 วัน ใช้วันแรกตั้งแต่นั่งรถด่วนจากสนามบินเข้าในเมือง
ยันวันสุดท้ายที่ใช้นั่งไปสนามบิน นั่งชินคันเซ็นโนโซมิอีก สำหรับเราว่า...บัตรนี้บัตรเดียว คุ้ม! ครบ! เหลือๆ ไปได้ทุกที่
......................
ออกจากฮิเมจิ เราเดินทางย้อนกลับไปที่สถานีเท็นโนจิ เพื่อจะจับรถด่วนไปวากายาม่า
เพราะตั้งใจว่าอยากไปขึ้นรถไฟแมวทามะ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงไปถึงวากายาม่า
แต่เมื่อนั่งรถไฟไปถึงสถานีวากายาม่านายสถานีก็บอกว่า "ปิดแล้วไอ้หนู...มันปิด 4 โมงเย็น"
เป็นอันว่าเรานั่งรถไฟมาเสียเที่ยว แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่เสียใจ ถือว่ามานั่งรถไฟเล่นแล้วกัน
เราออกจากวากายาม่า กะว่าจะไปหาอะไรทานแถวนัมบะ
........................................................................
ปกติเคยได้ยินแต่ชื่อ วันนี้ได้มาเห็นจริงๆ เอาจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยมีรความพิเศษอะไร
เพราะเราว่านี่มันย่านของสายแหลกกับสายช็อปชัดๆ ร้านทุกร้านคนเต็มแน่นไปหมด
เลยขอตัวไปทานข้าวหน้าเนื้อในโยชิโนย่าดีกว่า ราคา 400 กว่าเยน อิ่มมาก แล้วออกมา
ตบท้ายด้วยเกี๊ยวกับเบียร์ละกัน
......................................................................
วันที่สอง แผนคือโอคายาม่า...ทั้งวันเลย เราทานข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ
และต่อด้วยการซื้อข้าวปั้นสองก้อนใส่กระเป๋า จับรถไปสถานีชิน-โอซาก้า
วันนี้เราจะได้ขึ้นชินคันเซ็นแล้ว
................................................................
มาถึงแล้วสถานีโอคายาม่า ที่นี่คือเมืองแห่งโมโมทาโร่
.......................................................
เดินออกจากสถานีมานิดหน่อย เราจะนั่งแทรมไปปราสาทโอคายาม่ากัน
รถแทรมลวดลายน่ารัก อย่าลืมนะต้องนั่งสายที่เขียนว่า ฮิกาชิยาม่า
แล้วลงป้ายที่ 4 (มั้งนะ...^^ คนลงเยอะก็ลงเหอะ ป้ายนั้นแหละ)
.........................................................
เดินมาจากป้ายก็ไกลพอสมควรนะ เกือบกิโลได้มั้ง หอบแฮกๆเลย ส่วนอาม่าที่มาด้วยกัน
เดินแซงหน้าไม่เกรงใจวัยรุ่นเลย ทำไมคนที่นี่ถึงฟิตจังนะ ในที่สุดก็ถึงซะที...U-jo Castle
"ปราสาทอีกา"
.............................................................
เดินข้ามมาอีกฝั่ง เราซื้อบัตรเข้าปราสาทแบบ 560 เยน คือจะได้เข้าทั้งปราสาทและพื้นที่ของสวน
"โคราคุเอ็น" ซึ่งว่ากันว่าสวยติดอันดับอะไรซักอย่างนี่แหละ แต่เราไปหลับที่สวนนี้กว่า 1 ชม.
ก็แหม่...พอกินข้าวปั้นเสร็จตามันก็จะปิด เลยกะว่างีบซักงีบนึงละกัน ตื่นมาอีกที เกือบบ่ายสอง ^^
........................................................................
เมื่อหลับเต็มอิ่มแล้ว เรากลับมาที่สถานี JR โอคายาม่า เพื่อจะไปต่อที่คุราชิกิ
ซึ่งเป็นย่านเก่าที่เรียกว่า Bikan Historical Quarter ที่นี่มีร้าน ตึกเก่าๆ แล้วก็คลอง
พวกคนแต่งงานชอบมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะมากๆ วันที่เราไปเจอ 3 คู่ทีเดียว
.......................................................................
เดินเข้าออกซอกซอยแถวๆนั้น มีร้านค้าขายของกินอร่อยๆเยอะดี เราไปแวะกินไอศกรีมร้านนี้แหละ
ด้านล่างจะเป็นมูส พุดดิ้งคล้ายๆวุ้น รสน้ำผึ้ง อร่อยมากหวานหอม ถ้วยนี้ราคา 450 เยน
...............................................................
วันที่สาม...เกียวโตทั้งวัน
เริ่มจากตอนเช้าที่วัดน้ำใส วัดแห่งมวลมหาประชาชน
ทั้งญี่ปุ่น เจ๊ก ไทย ฝรั่ง เรียกว่าเดินไปทางไหนก็เจอแต่หัวคนกันเลยทีเดียว
.............................................................
ตอนบ่าย ้ราเดินเข้าไปในตรอกตั้งแต่เส้นวัดน้ำใส ซึ่งมันจะไปโผล่ออกตรงศาลเจ้ายาซากะ
ไม่แน่ใจว่าเขาเรียกฮิกาชิยาม่ารึป่าว เพราะเรากะว่าตะไปโผล่ออกตรงย่านกิออน
เพื่อไปรอดูไมโกะและเกอิชาตรงนั้น
....................................................................
เราเดินออกมา จนทะลุมาที่ศาลเจ้ายาซากะ จากนั้นข้ามฝั่งมาเดินต่ออีกนิด
ก็จะถึงย่านกิออน ที่มีคนไปเฝ้ารอเกอิชาและไมโกะกันเยอะมาก เรามีโอกาสเจอไมโกะแค่คนเดียว
เธอกำลังจะเดินข้ามถนน แต่เราไม่กล้ายกกล้องมาถ่ายหุน้าเธอเต็มๆ เพราะกลัวจะเสียมารยาท
เลยแอบถ่ายข้างหลังมา นอกนั้นที่เจอก็จะเป็นผู้หญิงใส่ชุดกิโมโนมาเดินกันซะเป็นส่วนใหญ่
...........................................................
[CR] เจแปนเฟิร์สไทม์ 5 วัน 4 คืน [โอซาก้า-เกียวโต-โอคายาม่า-กัมบะ โอซาก้า]
สะดวกดีมากๆ มีร้าน Mc เปิด 24 ชม. มีร้าน Lawson แล้วก็มีผ้าห่มแจกด้วย
มีโซนอาบน้ำหยอดเหรียญ ตู้กดน้ำ ที่ชาร์จแบต ครบ! ไม่ต้องไปนอนโรงแรม เชื่อเหอะ
..................................................
ตื่นเช้ามา...ค่อยไปเช็คอิน และฝากของ
จากนั้นก็ออกเดินทางสู่ปราสาทฮิเมจิ
...........................................
อ้อ! ลืมบอกไป ทริปนี้ทั้งทริปเราใช้ Pass ตัวเดียวคือ Kansai Wide Area Pass
ราคา 8,500 เยน ใช้ได้ 5 วัน ใช้วันแรกตั้งแต่นั่งรถด่วนจากสนามบินเข้าในเมือง
ยันวันสุดท้ายที่ใช้นั่งไปสนามบิน นั่งชินคันเซ็นโนโซมิอีก สำหรับเราว่า...บัตรนี้บัตรเดียว คุ้ม! ครบ! เหลือๆ ไปได้ทุกที่
......................
ออกจากฮิเมจิ เราเดินทางย้อนกลับไปที่สถานีเท็นโนจิ เพื่อจะจับรถด่วนไปวากายาม่า
เพราะตั้งใจว่าอยากไปขึ้นรถไฟแมวทามะ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงไปถึงวากายาม่า
แต่เมื่อนั่งรถไฟไปถึงสถานีวากายาม่านายสถานีก็บอกว่า "ปิดแล้วไอ้หนู...มันปิด 4 โมงเย็น"
เป็นอันว่าเรานั่งรถไฟมาเสียเที่ยว แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่เสียใจ ถือว่ามานั่งรถไฟเล่นแล้วกัน
เราออกจากวากายาม่า กะว่าจะไปหาอะไรทานแถวนัมบะ
........................................................................
ปกติเคยได้ยินแต่ชื่อ วันนี้ได้มาเห็นจริงๆ เอาจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยมีรความพิเศษอะไร
เพราะเราว่านี่มันย่านของสายแหลกกับสายช็อปชัดๆ ร้านทุกร้านคนเต็มแน่นไปหมด
เลยขอตัวไปทานข้าวหน้าเนื้อในโยชิโนย่าดีกว่า ราคา 400 กว่าเยน อิ่มมาก แล้วออกมา
ตบท้ายด้วยเกี๊ยวกับเบียร์ละกัน
......................................................................
วันที่สอง แผนคือโอคายาม่า...ทั้งวันเลย เราทานข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ
และต่อด้วยการซื้อข้าวปั้นสองก้อนใส่กระเป๋า จับรถไปสถานีชิน-โอซาก้า
วันนี้เราจะได้ขึ้นชินคันเซ็นแล้ว
................................................................
มาถึงแล้วสถานีโอคายาม่า ที่นี่คือเมืองแห่งโมโมทาโร่
.......................................................
เดินออกจากสถานีมานิดหน่อย เราจะนั่งแทรมไปปราสาทโอคายาม่ากัน
รถแทรมลวดลายน่ารัก อย่าลืมนะต้องนั่งสายที่เขียนว่า ฮิกาชิยาม่า
แล้วลงป้ายที่ 4 (มั้งนะ...^^ คนลงเยอะก็ลงเหอะ ป้ายนั้นแหละ)
.........................................................
เดินมาจากป้ายก็ไกลพอสมควรนะ เกือบกิโลได้มั้ง หอบแฮกๆเลย ส่วนอาม่าที่มาด้วยกัน
เดินแซงหน้าไม่เกรงใจวัยรุ่นเลย ทำไมคนที่นี่ถึงฟิตจังนะ ในที่สุดก็ถึงซะที...U-jo Castle
"ปราสาทอีกา"
.............................................................
เดินข้ามมาอีกฝั่ง เราซื้อบัตรเข้าปราสาทแบบ 560 เยน คือจะได้เข้าทั้งปราสาทและพื้นที่ของสวน
"โคราคุเอ็น" ซึ่งว่ากันว่าสวยติดอันดับอะไรซักอย่างนี่แหละ แต่เราไปหลับที่สวนนี้กว่า 1 ชม.
ก็แหม่...พอกินข้าวปั้นเสร็จตามันก็จะปิด เลยกะว่างีบซักงีบนึงละกัน ตื่นมาอีกที เกือบบ่ายสอง ^^
........................................................................
เมื่อหลับเต็มอิ่มแล้ว เรากลับมาที่สถานี JR โอคายาม่า เพื่อจะไปต่อที่คุราชิกิ
ซึ่งเป็นย่านเก่าที่เรียกว่า Bikan Historical Quarter ที่นี่มีร้าน ตึกเก่าๆ แล้วก็คลอง
พวกคนแต่งงานชอบมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะมากๆ วันที่เราไปเจอ 3 คู่ทีเดียว
.......................................................................
เดินเข้าออกซอกซอยแถวๆนั้น มีร้านค้าขายของกินอร่อยๆเยอะดี เราไปแวะกินไอศกรีมร้านนี้แหละ
ด้านล่างจะเป็นมูส พุดดิ้งคล้ายๆวุ้น รสน้ำผึ้ง อร่อยมากหวานหอม ถ้วยนี้ราคา 450 เยน
...............................................................
วันที่สาม...เกียวโตทั้งวัน
เริ่มจากตอนเช้าที่วัดน้ำใส วัดแห่งมวลมหาประชาชน
ทั้งญี่ปุ่น เจ๊ก ไทย ฝรั่ง เรียกว่าเดินไปทางไหนก็เจอแต่หัวคนกันเลยทีเดียว
.............................................................
ตอนบ่าย ้ราเดินเข้าไปในตรอกตั้งแต่เส้นวัดน้ำใส ซึ่งมันจะไปโผล่ออกตรงศาลเจ้ายาซากะ
ไม่แน่ใจว่าเขาเรียกฮิกาชิยาม่ารึป่าว เพราะเรากะว่าตะไปโผล่ออกตรงย่านกิออน
เพื่อไปรอดูไมโกะและเกอิชาตรงนั้น
....................................................................
เราเดินออกมา จนทะลุมาที่ศาลเจ้ายาซากะ จากนั้นข้ามฝั่งมาเดินต่ออีกนิด
ก็จะถึงย่านกิออน ที่มีคนไปเฝ้ารอเกอิชาและไมโกะกันเยอะมาก เรามีโอกาสเจอไมโกะแค่คนเดียว
เธอกำลังจะเดินข้ามถนน แต่เราไม่กล้ายกกล้องมาถ่ายหุน้าเธอเต็มๆ เพราะกลัวจะเสียมารยาท
เลยแอบถ่ายข้างหลังมา นอกนั้นที่เจอก็จะเป็นผู้หญิงใส่ชุดกิโมโนมาเดินกันซะเป็นส่วนใหญ่
...........................................................