รีวิวหนัง : Demolition รื้อถอนชีวิตคู่



จนถึงวันนี้ เจค จิลเลนฮาล คือดาราชายแถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ดอย่างแท้จริง ฝีมือการแสดงของเขาไม่เป็นรองใคร พิสูจน์จากหนังที่เขารับเล่นในช่วง 5 ปีซึ่งล้วนได้รับเสียงชื่นชม ไม่ว่าจะเป็น Source Code , End of Watch , Prisoners , Enemy , Nightcrawler , Southpaw , Everest จนมาถึงเรื่องล่าสุด Demolition (มีแป็กเรื่องเดียวคือ Accidental Love 2015) แถมยิ่งดูท่าทางว่า นานวันเขาก็ยิ่งห่างไกลจากหนังแนวบล็อกบัสเตอร์มากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับนักแสดงชายรุ่นเดียวกัน

Demolition กำกับโดย ฌอง มาร์ค วัลลี จาก Dallas Buyers Club ภาพยนตร์รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชาย ครั้งนี้เขากลับมากับโปรเจกต์หนังดราม่าตลกร้ายเรื่องราวการเสียศูนย์ของ เดวิส นักธนาคารหนุ่มที่เพิ่งสูญเสีย จูเลีย ภรรยาสาวไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เดวิส ใช้ชีวิตล่องลอยจนเสียการเสียงาน(งานผู้บริหารที่ได้ตำแหน่งเพราะเป็นลูกเขยเจ้าของบริษัท) เขาทำอะไรแปลกๆด้วยการส่งจดหมายไปร้องเรียนบริษัทตู้หยอดเหรียญช็อคโกแลตหลายฉบับ จนมีสายโทรศัพท์จากพนักงานฝ่ายดูแลลูกค้าตอบกลับมา เธอบอกว่าชื่อ คาเรน โมเรโน

เดวิส กับ โมเรโน เริ่มสนิทกันมากขึ้น พวกเขาแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันโดยที่สถานะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ท่ามกลางการจับตาของ ฟิล พ่อของจูเลีย และ คาร์ล แฟนของ โมเรโน ที่เป็นเจ้าของบริษัทตู้หยอดเหรียญ ต่อมา เดวิส พบว่าตัวเขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น หลังจมจ่อมอยู่กับความทรงจำของชีวิตคู่มานาน ด้วยการรื้อถอนบางสิ่งบางอย่าง ตามคำแนะนำของพ่อตาที่ว่า หากอยากซ่อมแซมแก้ไขอะไรบางอย่าง คุณต้องแยกสิ่งต่างๆ ออกเป็นชิ้นๆ เพื่อดูภาพรวมทั้งหมดของมัน

บทหนังค่อนข้างหนักพอสมควร ว่าด้วยความสัมพันธ์อันไม่หวานชื่นของ เดวิส กับ จูเลีย เธอตายแต่เขาไม่มีนํ้าตาเลยสักหยด พวกเขาทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆแทบจะตลอด ทว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เดวิส จึงคิดได้ว่าความรักของเขากับเธอพังทลายลงส่วนหนึ่งเกิดจากตัวเขาเองที่ไม่เคยเอาใจใส่มันเลย(ที่จริงเขาก็แทบไม่ใส่ใจอะไรสักอย่าง ขนาดนํ้าหยดเบ้อเร่อลงกลางตู้เย็นยังไม่รู้) ความรู้สึกผิดจึงตามหลอกหลอนเขาจนสติเตลิด

Demolition พูดถึงประเด็นการรับมือกับความเจ็บปวดที่ถ้าโถมเข้ามาในชีวิต มีซีนให้ขำประปราย เดวิส ได้โอกาสค่อยๆทบทวน สำรวจ ความสัมพันธ์ของเขากับ จูเลีย ขณะเดียวกันเขาก็ได้เรียนรู้ รวมถึงเยียวยาตัวเองผ่านมุมมองชีวิตของสองแม่ลูก โมเรโน กับ คริส ซึ่งทำให้ปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ดูเล็กน้อยไร้สาระไปเลยทีเดียว

เจค จิลเลนฮาล ยังคงปล่อยพลังทางการแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย โดยเฉพาะฉากที่เขาใส่หูฟังแล้วเดินไปบนท้องถนนเมืองนิวยอร์ค มันดูบ้าบอแต่ก็น่าจดจำมาก นาโอมิ วัตส์ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันในบท โมเรโน สาวเพี้ยนแม่ลูกหนึ่ง เช่นเดียวกับ คริส คูเปอร์ ที่เล่นเป็น ฟิล เขาเข้าถึงตัวละคร ดูเป็นพ่อตาตัวร้ายที่ชายหนุ่มทุกคนขยาดไม่อยากเจอ ส่วนอีกคนที่น่าสนใจคือ จูดาห์ ลูวิส กับบท คริส เด็กชายวัยว้าวุ้นผู้สับสนกับเพศสภาพของตัวเอง คอสตูมเขาเด็ดดวงสุดๆ ชอบซีนที่ จูดาห์ จับปากให้ เจค ยิ้ม

หนังไม่ถึงกับสะเทือนอารณ์ผู้ชมเท่าไหร่นัก แต่ก็มีหลายจุดที่สร้างความประทับใจได้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การจัดการกับความเศร้าด้วยวิธีประหลาดๆ แง่งามของชีวิตคู่อันขมขื่น และคุณค่าของคนแต่ละคน บางช่วงของหนังออกแนว Coming of age เล็กๆ กับการก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวด เพื่อค้นหาหนทางในการกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ไม่ว่ามันจะสมบูรณ์หรือแหว่งวิ่นก็ตาม

คะแนน 7.5/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/252281/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่