สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ....

เราเชื่อพลอยนะคะ ก่อนอื่นของเล่าเรื่องส่วนตัวนิดนึงนะ ถ้าใครไม่อยากอ่านข้ามไปได้เลย
>>  เราเป็นลูกสาวเจ้าของทัวร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เอาจริงๆไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยอ่ะ >.<
       เพื่อนเราส่วนใหญ่คิดว่า เราเป็นคนรวยเป็นลูกเจ้าของกิจการ โอ๊ย อีนี่...บ้านรวย ได้ไปเที่ยวหลายที่ เยอะๆ ฟรีๆ แน่นอน .... แต่เราอยากบอกมากเลยค่ะ ว่าเปล่าเลย การไปเที่ยวของเราแต่ละครั้งนั้น ~ My Money ล้วนๆ

>>  เข้าเรื่องเลยดีกว่า เราไปต่างประเทศแบบจริงจังคือเมื่อปีที่แล้วเอง การกดจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ (แบบไม่ใช่ประเทศเพื่อนบ้าน) มัน  
       ยากนิดนึง กังวลใจหน่อย ว่าเอ๊ะ !! บ้านเมืองเค้าเป็นยังไงนะ เราจะคุยกับเค้ารู้เรื่องมั๊ย? จะหลงป่าว? ... สุดท้าย ลองกดแล้วไปดูด้วยตาตัวเองเถอะ
       ว่าโลกภายนอกมันเป็นยังไงบ้าง อย่ามองแค่ในรูปภาพ เพราะเราจะจินตนาการกันไม่ออกเลยจริงๆ




   ตอนกดจองตั๋วแนะนำเพื่อนๆว่า อย่าคิดอะไรมาก กดๆจองไปเลย การไปงวดนี้ เราไปกับสายการบิน ฮ่องกงแอร์ไลน์


วันแรก
เราเลือกไปวันศุกร์กลับวันอาทิตย์ ไฟล์ที่เลือกเป็น อันนี้ เวลาออก : 04:15 เวลาถึง : 08:20 คือแบบว่าไปเที่ยวทั้งที มันต้องเอาให้คุ้ม ... ไปนอนบนเครื่องเถอะ!!

อ่ะๆๆๆ เมื่อถึงแล้วเราไปไหน ยังไงน๊อ เรามีรถจากโรงแรมมารับที่สนามบินเลย คือจองไว้ไม่อยากลากกระเป๋าขึ้น MTR ไปรอบเมือง ลืมบอกไปว่าโรงแรมเราขอแนะนำให้จองย่าน นาธานหรือจิมซาจุ่ยก็ดีนะ เพราะว่าเรานั้น…จะช็อปปิ้งได้ 24 ชั่วโมงเลย

หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว ที่แรกที่เราวางแผนไป คือ Ngong Phing 360 คือตอนไป ไม่รู้ไงว่ามันเปิดกี่โมง ไปนั่งรอตั้งแต่ไก่โห่ ขึ้นสถานีถูกๆ ผิดๆอีก อยากจะบอกเพื่อนๆว่า นองปิงมันเปิดประมาณ 10 โมงเช้า แต่ถ้าจะให้ดีก็ไปนั่งต่อแถวซะหน่อย รู้ใช้มั๊ย…ว่าแก๊งคนจีน จะมาแซงได้ และแล้วก็เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ พอถึงเวลาเตรียมเปิดจะมีเจ้าหน้าที่มีเปิดที่กั้น เพื่อให้เราได้ขึ้นบันไดเลื่อนไปรอด้านบน แก๊งจีนก็มากันเลยค่ะพี่น้อง!! โช้งๆเช้งๆ มาตีเนียนทำไม่รู้เรื่องมาแซงคิวค่ะ แต่พี่ๆที่เฝ้าทางขึ้นเค้าก็ดี ไล่ๆไปให้ หลังจากตบตีกันตอนทางขึ้นมาแล้วยังค่ะยัง…ยังไม่ได้ขึ้นกระเช้านะ รออีกแปป เพราะว่าเราต้องรอให้เค้าเปิดห้องตั๋วก่อน ถึงจะเข้าไปเปลี่ยนตั๋วที่ซื้อมาจากเมืองไทยได้


วินาทีแรกที่ขึ้นไปบนกระเช้านั้น แม้ว่าจะเป็นแบบธรรมดา แต่เอาจริงมันยังเสียวมากๆๆๆๆเลย คือแบบสูงอ้ะ ภายในกระเช้านั้นเป้นที่นั่งแบบประจันหน้ากัน ใต้ที่นั่งเป็นรูระบายอากาศ คุณเอ๋ย..ลมฉิวๆเลย



เมื่อถึงแล้วสิ่งแรกที่เดินผ่านคือร้านของฝากค่า จากนั้นเป็นมุมถ่ายรูป แล้วก็เป็นร้านค้าที่เป็นลักษณะของการตกแต่งให้เป็นบ้านที่มีลักษณะศิลปะวัฒนธรรมแบบจีน มีหลายร้านให้เลือกรับประทาน แต่สำหรับเราแล้วลองเลยค่ะ ร้าน Honeymoon Dessert ที่ขายขนมหวาน ถามความรู้สึกนะ อะไรอร่อยที่สุด ขอบอกว่าเป็นสาคูมะม่วงเลย อร่อยมาก แปลกด้วยอ๊ะ!! หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราก็ได้ไปสักการะพระใหญ่ลันเตา แล้วเราก็กลับลงมาข้างล่าง เพราะมันร้อนมากค่ะ… เที่ยงๆบ่ายๆแล้ว



เมื่อลงมาแล้วหิวจัง ต้องหาอะไรกินซะหน่อย เราก็ตรงต่อไปยัง City gate outlet เพื่อหาของกิน พอไปถึงโอ๊ย!! ฉันอยากจะนั่ง ทำไมร้านอาหารเค้าไม่ค่อยมีที่นั่งแบบนี้ คือแบบลักษณะของร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นแต่ร้าน…แล้วที่นั่งไปไหน? เค้าไปหาที่นั่งทางกันตรงไหน ยังสงสัยจนถึงตอนนี้





หลังจากอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว…ความจริงยังไม่อยากลุกเลย เพราะว่ามันเมื่อยมากกกกก หลังจากตัดสินใจได้ละ เราก็ไปเดินช็อปปิ้งดันในห้างอย่างขาลาก ดังนั้นนี่คือข้อแนะนำสำหรับคนไปครั้งแรก ฮ่องกงไม่ค่อยมีที่นั่งนะคะ หารองเท้าใส่ไปให้สบายๆ และวันทั้งวัน เดินๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ต่อๆๆเรื่องห้าง ในห้างนี้นั้นมีร้านแบรนด์ต่างๆมากมาย Niki, Adidas, Puma และอีกหลายแบรนด์เลย




กลางคืนเราก็หาร้านทานอาหารกันแบบมั่วๆ แต่ที่พลาดไม่ได้เลย คือร้านเครปฮ่องกงและชานมไข่มุก หรือชามะนาว