นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า iPhone 7 ที่กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ อาจมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากถึง 256GB ซึ่งจะไปสอดคล้องกับ iPad Pro ที่เพิ่งจะมีการปล่อยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นออกมา
ปัจจุบัน iPhone 6s และ 6s Plus มีความจุมากที่สุดคือ 128GB แต่ด้วยต้นทุนที่ถูกลง จึงทำให้แอปเปิลอาจให้พื้นที่จัดเก็บมากถึง 256GB นอกจากนี้ TrendForce ยังได้คาดการณ์ไว้อีกด้วยว่า แอปเปิล อาจจะยังคงนำเสนอหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้วควบคู่กันไป
การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาก็คือ การเพิ่ม RAM ให้เป็น 3GB ในรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2GB ในรุ่น iPhone 6S และ iPhone 6S Plus และ 1GB ในรุ่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ซึ่งการพัฒนานี้จะทำให้ง่ายต่อการใช้งานหลาย ๆ แอปพลิเคชันที่ทำงานพร้อมกันในเวลาเดียว และเพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่จะซับซ้อนมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย โดยตัวท็อปสุดของตระกูลแอปเปิล ยังคงเป็น iPad Pro 12.0 นิ้ว ซึ่งปัจจุบันมี RAM มากถึง 4GB
อย่างไรก็ตาม แอปเปิล อาจต้องใช้แรงมหาศาลในการขับเคลื่อน iPhone 7 ให้รอดถึงฝั่ง เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ยอดขาย iPhone หดตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 ซึ่งมียอดอยู่ที่ 51.2 ล้านเครื่อง เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับแอปเปิลเอง ที่ต้องเผชิญการแข่งขันสูงในตลาดมือถือกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
TrendForce ยังกล่าวอีกว่า การเปิดตัว iPhone 7 ครั้งนี้ ยังไม่มีเทคโนโลยีสำหรับหน้าจอที่น่าตื่นเต้นเพียงพอ และคาดว่าแฟน ๆ น่าจะผิดหวัง ซึ่งต่างหวังที่จะได้พบกับหน้าจอ AMOLED ที่มีเทคโนโลยีสีที่ก้าวหน้าขึ้น
ที่มา
CNET
นักวิเคราะห์ คาด iPhone 7 อาจมีตัวเลือกขนาด 256GB
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า iPhone 7 ที่กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ อาจมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากถึง 256GB ซึ่งจะไปสอดคล้องกับ iPad Pro ที่เพิ่งจะมีการปล่อยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นออกมา
ปัจจุบัน iPhone 6s และ 6s Plus มีความจุมากที่สุดคือ 128GB แต่ด้วยต้นทุนที่ถูกลง จึงทำให้แอปเปิลอาจให้พื้นที่จัดเก็บมากถึง 256GB นอกจากนี้ TrendForce ยังได้คาดการณ์ไว้อีกด้วยว่า แอปเปิล อาจจะยังคงนำเสนอหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้วควบคู่กันไป
การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาก็คือ การเพิ่ม RAM ให้เป็น 3GB ในรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2GB ในรุ่น iPhone 6S และ iPhone 6S Plus และ 1GB ในรุ่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ซึ่งการพัฒนานี้จะทำให้ง่ายต่อการใช้งานหลาย ๆ แอปพลิเคชันที่ทำงานพร้อมกันในเวลาเดียว และเพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่จะซับซ้อนมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย โดยตัวท็อปสุดของตระกูลแอปเปิล ยังคงเป็น iPad Pro 12.0 นิ้ว ซึ่งปัจจุบันมี RAM มากถึง 4GB
อย่างไรก็ตาม แอปเปิล อาจต้องใช้แรงมหาศาลในการขับเคลื่อน iPhone 7 ให้รอดถึงฝั่ง เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ยอดขาย iPhone หดตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 ซึ่งมียอดอยู่ที่ 51.2 ล้านเครื่อง เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับแอปเปิลเอง ที่ต้องเผชิญการแข่งขันสูงในตลาดมือถือกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
TrendForce ยังกล่าวอีกว่า การเปิดตัว iPhone 7 ครั้งนี้ ยังไม่มีเทคโนโลยีสำหรับหน้าจอที่น่าตื่นเต้นเพียงพอ และคาดว่าแฟน ๆ น่าจะผิดหวัง ซึ่งต่างหวังที่จะได้พบกับหน้าจอ AMOLED ที่มีเทคโนโลยีสีที่ก้าวหน้าขึ้น
ที่มา CNET