ชวนคุณมาค้นหาคำตอบ พระเจ้ามีจริงหรือ?

ในโลกของเรานี้มีหนังสืออยู่หลายเล่ม แต่มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อมนุษยชาติมากที่สุด และเป็นหนังสือที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลก นั่นก็คือ พระคริสตธรรมคัมภีร์ (BIBLE) ซึ่งพระคัมภีร์เล่มนี้เป็นถ้อยคำของพระเจ้าที่สำแดงให้มนุษย์รู้ว่าพระองค์ทรงมีอยู่จริง แต่ถ้ามีคนๆ หนึ่งบอกว่า.. "พระเจ้าไม่มีหรอก" โดยที่เขายังไม่ได้วิเคราะห์เลย คนนั้นก็คงจะไม่ฉลาดเท่าไหร่ เพราะในพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บันทึกอย่างตรงไปตรงมาว่า "คนโง่พูดกับตัวเองว่าไม่มีพระเจ้า" (พระคัมภีร์สดุดี 14:1) เพราะเหตุไรพระคัมภีร์จึงดูเหมือนบันทึกข้อความที่รุนแรงเช่นนี้ นั่นก็เพราะว่า ก่อนที่คนเราจะสรุปหรือตัดสินอะไรลงไปนั้น มันต้องมีการค้นคว้า ตรวจสอบ หรือผ่านการวินิจฉัยไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนจึงค่อยสรุป เช่นนี้จึงนับว่าเป็นคนฉลาด เหมือนกับถ้าคุณเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองหนาประมาณ 300 หน้า พอผมเจอหนังสือที่คุณเขียน ผมยังไม่ทันอ่านเลยก็สรุปว่า "คุณเป็นคนที่ใช้ไม่ได้" ซึ่งการที่ผมด่วนสรุปชีวิตของคุณเช่นนี้ก็กำลังชี้ให้เห็นว่าผมเป็นคนโง่สิ้นดีเลย เพราะถ้าผมจะสรุปชีวิตคุณว่าเป็นอย่างไรนั้น ผมก็ต้องนั่งอ่านเรื่องราวชีวิตของคุณตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายก่อน   จึงค่อยหาข้อสรุป   เช่นนี้จะนับว่าเป็นการกระทำที่ฉลาด...  เช่นเดียวกัน  จักรวาลของเรานี้กว้างใหญ่ขนาดไหน  ถ้าใครยังไม่เคยไปทั่วทุกมุมของจักรวาลนี้แล้วมาด่วนสรุปว่า  "ไม่มีพระเจ้า"... เขาก็คงจะเป็นคนที่ไม่ฉลาดเท่าไหร่เลย!...
จัดทำโดย :  ศูนย์ส่งเสริมการประกาศในกลุ่มคริสตจักร CCMA 117/117 ซ.ชาตะผดุง 15 ถ.ชาตะผดุง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทร. (043) 228-969 Fax : (043) 225-861
ผู้เขียน : นิกร สิทธิจริยาภรณ์   www.ccmathai.org e-mail: vdo@thaimail.com
ปล.จขกท.นั่งพิมพ์เองค่ะ ตามใบบัวชัวร์ มีต่ออีกเยอะค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
ดิฉันก็ขอเป็นพยานให้พระเจ้าด้วยคนค่ะ เรื่องพระเจ้าไม่ใช่เรื่องงมงายเลย ตั้งแต่ดิฉันมารู้จักพระเจ้าได้ 3 ปีแล้ว พระเจ้าทรงทำการอัศจรรย์ในชีวิตของข้าพเจ้าอย่างมากมาย ดิฉันอธิษฐานขอสิ่งใดพระเจ้าก็ประทานให้ทุกครั้ง และพระวจนะของพระเจ้าในพระคัมภีร์นี่อ่านแล้วต้องอึ้งเลยค่ะ
ัพันธสัญญาเดิมเกือบ 3,500 ปี ก่อนพระเยซูจะมาบังเกิดในโลกพระเจ้าบอก พระเจ้าผู้สูงสุดได้ก็ได้ให้ผู้เผยพระวจนะในยุคนั้นบันทึกถ้อยคำของพระองค์ในพระคัมภีร์ ยกตัวอย่างในปฐมกาล 1ใน​ปฐม‍กาล พระ‍เจ้า​ทรง​เนร‌มิต‍สร้าง​ฟ้า​และ​แผ่น‍ดิน 2แผ่น‍ดิน​ก็​ร้าง​และ​ว่าง‍เปล่า ความ​มืด​อยู่​เหนือ​น้ำ และ​พระ‍วิญ‌ญาณ​ของ​พระ‍เจ้า​ทรง​ปก​อยู่​เหนือ​น้ำ​นั้น
3พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “จง​เกิด​ความ​สว่าง” ความ​สว่าง​ก็​เกิด‍ขึ้น 4พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ความ​สว่าง​นั้น​ดี และ​ทรง​แยก​ความ​สว่าง​ออก​จาก​ความ​มืด 5พระ‍เจ้า​ทรง​เรียก​ความ​สว่าง​นั้น​ว่า วัน และ​ความ​มืด​นั้น​ว่า คืน มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍แรก
6พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “จง​มี​ภาค‍พื้น​ใน​ระหว่าง​น้ำ แยก​น้ำ​ออก​จาก​กัน” 7พระ‍เจ้า​ทรง​สร้าง​ภาค‍พื้น​นั้น​ขึ้น แล้ว​ทรง​แยก​น้ำ​ที่​อยู่​ใต้​ภาค‍พื้น​ออก​จาก​น้ำ​ที่​อยู่​เหนือ​ภาค‍พื้น ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 8พระ‍เจ้า​จึง​ทรง​เรียก​ภาค‍พื้น​นั้น​ว่า ฟ้า มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍ที่​สอง
9พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “น้ำ​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า​จง​รวม​อยู่​ใน​ที่​เดียว‍กัน ที่​แห้ง​จง​ปรา‌กฏ​ขึ้น” ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 10พระ‍เจ้า​จึง​ทรง​เรียก​ที่​แห้ง​นั้น​ว่า แผ่น‍ดิน และ​ที่​ซึ่ง​น้ำ​รวม‍กัน​นั้น​ว่า ทะเล พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ดี 11พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “แผ่น‍ดิน​จง​เกิด​พืช คือ ธัญ‌พืช​ที่​ให้​เมล็ด และ​ต้น‍ไม้‍ผล​ที่​ออก‍ผล​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​มี​เมล็ด​ใน​ผล​บน​แผ่น‍ดิน” และ​ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 12แผ่น‍ดิน​ก็​เกิด​พืช คือ​ธัญ‌พืช​ที่​ให้​เมล็ด​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​ต้น‍ไม้​ที่​ออก‍ผล​มี​เมล็ด​ใน​ผล​ตาม​ชนิด​ของ​มัน พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ดี 13มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍ที่​สาม
14พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “จง​มี​ดวง‍สว่าง​ต่างๆ ของ​ภาค‍พื้น‍ฟ้า เพื่อ​แยก​วัน​ออก​จาก​คืน ให้​เป็น​หมาย‍กำ‌หนด​ฤดู วัน ปี 15และ​ให้​เป็น​ดวง‍สว่าง​ต่างๆ บน​ภาค‍พื้น‍ฟ้า เพื่อ​ส่อง‍สว่าง​เหนือ​แผ่น‍ดิน” ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 16พระ‍เจ้า​ทรง​สร้าง​ดวง‍สว่าง​ขนาด​ใหญ่​ไว้​สอง​ดวง ให้​ดวง​ที่​ใหญ่​กว่า​ครอง​วัน ดวง​ที่​เล็ก​กว่า​ครอง​คืน พระ‍องค์​ทรง​สร้าง​ดวง‍ดาว​ต่างๆ ด้วย 17พระ‍เจ้า​ทรง​ตั้ง​ดวง‍สว่าง​เหล่า‍นี้​ไว้​บน​ภาค‍พื้น‍ฟ้า ให้​ส่อง‍สว่าง​เหนือ​แผ่น‍ดิน 18ให้​ครอง​วัน​และ​คืน และ​แยก​ความ​สว่าง​ออก​จาก​ความ​มืด พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ดี 19มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍ที่​สี่
20พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “น้ำ​จง​อุดม​ด้วย​ฝูง‍สัตว์​ที่​มี​ชีวิต และ​ให้​นก​บิน​ไป​มา​ใน​ภาค‍พื้น‍ฟ้า​เหนือ​แผ่น‍ดิน” 21พระ‍เจ้า​ทรง​สร้าง​สัตว์​ทะเล​ขนาด​ใหญ่ และ​สัตว์​ที่​มี​ชีวิต​ทุก​ชนิด ซึ่ง​แหวก‍ว่าย​อยู่​ใน​น้ำ​เป็น​ฝูงๆ ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​สัตว์‍ปีก​ทุก​ชนิด​ตาม​ชนิด​ของ​มัน พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ดี 22พระ‍เจ้า​จึง​ทรง​อวย‍พร​สัตว์​เหล่า‍นั้น​ว่า “จง​มี​ลูก‍ดก​ทวี​มาก‍ขึ้น​จน​เต็ม​น้ำ​ใน​ทะเล และ​ให้​นก​ทวี​มาก​ขึ้น​บน​แผ่น‍ดิน‍โลก” 23มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍ที่​ห้า
24พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “แผ่น‍ดิน​จง​เกิด​สัตว์​ที่​มี​ชีวิต​ตาม​ชนิด​ของ​มัน คือ​สัตว์‍ใช้‍งาน สัตว์‍เลื้อย‍คลาน และ​สัตว์‍ป่า​ตาม​ชนิด​ของ​มัน” ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 25พระ‍เจ้า​ทรง​สร้าง​สัตว์‍ป่า​ตาม​ชนิด​ของ​มัน สัตว์‍ใช้‍งาน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน และ​สัตว์​ต่างๆ ที่​เลื้อย‍คลาน​ทุก​ชนิด​บน​แผ่น‍ดิน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน แล้ว​พระ‍เจ้า​ทรง​เห็น​ว่า​ดี
26แล้ว​พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “ให้​เรา​สร้าง​มนุษย์​ตาม​ฉายา​ของ​เรา ตาม​อย่าง​ของ​เรา ให้​ครอบ‍ครอง​ฝูง‍ปลา​ใน​ทะเล ฝูง‍นก​ใน​ท้อง‍ฟ้า​และ​ฝูง‍สัตว์‍ใช้‍งาน ให้​ปก‍ครอง​แผ่น‍ดิน‍โลก​ทั้ง‍หมด และ​สัตว์‍เลื้อย‍คลาน​ทุก​ชนิด​บน​แผ่น‍ดิน​ทั้ง‍หมด” 27พระ‍เจ้า​จึง​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น​ตาม​พระ‍ฉายา​ของ​พระ‍องค์ ตาม​พระ‍ฉายา​ของ​พระ‍เจ้า​นั้น พระ‍องค์​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น และ​ทรง​สร้าง​ให้​เป็น​ชาย​และ​หญิง
28พระ‍เจ้า​ทรง​อวย‍พร​พวก‍เขา ตรัส​กับ​พวก‍เขา​ว่า “จง​มี​ลูก‍ดก​ทวี​มาก‍ขึ้น​จน​เต็ม​แผ่น‍ดิน จง​มี​อำนาจ​เหนือ​แผ่น‍ดิน จง​ครอบ‍ครอง​ฝูง‍ปลา​ใน​ทะเล และ​ฝูง‍นก​ใน​ท้อง‍ฟ้า กับ​สัตว์​ที่​เคลื่อน‍ไหว​บน​แผ่น‍ดิน​ทั้ง‍หมด” 29พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า “ดู‍นี่ เรา​ให้​ธัญ‌พืช​ที่​มี​เมล็ด​ทุก​ชนิด ซึ่ง​มี​อยู่​ทั่ว‍พื้น‍แผ่น‍ดิน และ​ต้น‍ไม้‍ผล​ทุก​ชนิด​ที่​มี​เมล็ด​ใน​ผล​ของ​มัน​แก่​เจ้า เป็น​อาหาร​ของ​เจ้า 30ฝ่าย​สัตว์​ทั้ง‍หมด​บน​แผ่น‍ดิน นก​ทั้ง‍ปวง​บน​ท้อง‍ฟ้า​และ​สัตว์‍เลื้อย‍คลาน​ทั้ง‍หมด​บน​แผ่น‍ดิน คือ สิ่ง‍มี‍ชีวิต​ที่​มี​ลม‍หาย‍ใจ​นั้น เรา​ให้​พืช​เขียว‍สด​ทั้ง‍ปวง​เป็น​อาหาร” ก็​เป็น​ดัง‍นั้น 31พระ‍เจ้า​ทอด‍พระ‍เนตร​สิ่ง‍ทั้ง‍ปวง​ที่​พระ‍องค์​ทรง​สร้าง​ไว้ ดู‍สิ ทรง​เห็น​ว่า​ดี​ยิ่ง‍นัก มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า เป็น​วัน‍ที่​หก

1ฟ้า‍สวรรค์​และ​แผ่น‍ดิน และ​สรรพ‍สิ่ง​ทั้ง‍สิ้น​ที่​มี​อยู่​ใน​นั้น​ก็​ถูก​สร้าง​เสร็จ 2วัน‍ที่​เจ็ด พระ‍เจ้า​ก็​เสร็จ​งาน​ของ​พระ‍องค์​ที่​ทรง​ทำ​มา​นั้น ใน​วัน‍ที่​เจ็ด​นั้น​ก็​ทรง​หยุด‍พัก​จาก​การ‍งาน​ทั้ง‍สิ้น​ของ​พระ‍องค์​ที่​ได้​ทรง​กระ‌ทำ 3พระ‍เจ้า​จึง​ทรง​อวย‍พร​วัน‍ที่​เจ็ด ทรง​ตั้ง​ไว้​เป็น​วัน‍บริ‌สุทธิ์ เพราะ​ใน​วัน‍นั้น​พระ‍องค์​ทรง​หยุด‍พัก​จาก​การ‍งาน​ทั้ง‍ปวง​ที่​พระ‍เจ้า​ทรง​เนร‌มิต‍สร้าง​และ​ทรง​กระ‌ทำ

อิสยาห์48
12จง​ฟัง​เรา โอ ยา‌โคบ
อิสรา‌เอล ผู้​ซึ่ง​เรา​เรียก
เรา​คือ​ผู้​นั้น เรา​เป็น​เบื้อง‍ต้น
และ​เรา​เป็น​เบื้อง‍ปลาย
13เออ มือ​ของ​เรา​ได้​วาง​ราก‍ฐาน​แผ่น‍ดิน​โลก
และ​มือ​ขวา​ของ​เรา​ได้​กาง​ฟ้า‍สวรรค์​ออก
เมื่อ​เรา​เรียก​มัน มัน​ก็​ยืน​ขึ้น​ด้วย‍กัน


อิสยาห์45
5เรา​คือ​ยาห์‌เวห์ และไม่‍มี​ผู้​อื่น​อีก
นอก‍จาก​เรา ไม่‍มี​พระ‍เจ้า
เรา​คาด​อาวุธ​ให้​เจ้า แม้​เจ้า​ไม่​รู้‍จัก​เรา
6เพื่อ‍ว่า​คน​จะ​รู้​ตั้ง‍แต่​ที่​ตะ‌วัน​ขึ้น
และ​จาก​ที่​ตะ‌วัน​ตก​ว่า​ไม่‍มี​ใคร​นอก‍จาก​เรา
เรา​คือ​ยาห์‌เวห์ และ​ไม่‍มี​ผู้​อื่น​อีก
7เรา​ปั้น​ความ​สว่าง​และ​สร้าง​ความ​มืด
เรา​ทำ​ให้​เกิด​สวัสดิ‌ภาพ​และ​สร้าง​ความ​วิบัติ
เรา​คือ​ยาห์‌เวห์ ผู้​ทำ​สิ่ง​ทั้ง‍หมด​นี้
8“โอ ฟ้า‍สวรรค์​เอ๋ย จง​โปรย​ฝน​มา​จาก​เบื้อง‍บน
และ​ให้​ท้อง‍ฟ้า​หลั่ง​ความ​ชอบ‍ธรรม​ลง‍มา
ให้​แผ่น‍ดิน​โลก​เปิด​ออก และ​ความ​รอด​งอก‍เงย​ขึ้น
และ​ให้​ความ​ชอบ‍ธรรม​งอก‍ขึ้น​มา​ด้วย
เรา คือ​ยาห์‌เวห์​ผู้​ได้​สร้าง​มัน

อิสยาห์45
21จง​แจ้ง​เรื่อง​และ​นำ​เข้า‍มา​ใกล้
เออ ให้​เขา‍ทั้ง‍หลาย​ปรึก‌ษา‍หารือ​กัน
ใคร​เล่า​สิ่ง‍นี้​ให้​ฟัง​ล่วง‍หน้า​นาน​แล้ว?
ใคร​แจ้ง​ให้​ทราบ​ตั้ง‍แต่​อดีต‍กาล?
คือ​เรา​เอง ยาห์‌เวห์​ไม่‍ใช่​หรือ?
นอก‍จาก​เรา ไม่‍มี​พระ‍เจ้า​อื่น​อีก
พระ‍เจ้า​ผู้​ชอบ‍ธรรม​และ​ช่วย​ให้​รอด
นอก‍จาก​เรา​ไม่‍มี​ผู้​อื่น
22“ที่​สุด‍ปลาย​แผ่น‍ดิน​โลก​ทุก​แห่ง
จง​หัน​มา‍หา​เรา​และ​รับ​ความ​รอด
เพราะ​เรา​เป็น​พระ‍เจ้า และ​ไม่‍มี​ผู้​อื่น
23เรา​ปฏิ‌ญาณ​โดย​ตัว​เรา​เอง
จาก​ปาก​ชอบ‍ธรรม​ของ​เรา
ถ้อย‍คำ​ได้​ออก​ไป และ​จะ​ไม่​หวน‍กลับ‍มา
ว่า ‘ทุก​เข่า​จะ​กราบ‍ลง​ต่อ​เรา
และ​ทุก​ลิ้น​จะ​ปฏิ‌ญาณ​ต่อ​เรา’

โยบ38
1แล้ว​พระ‍ยาห์‌เวห์​ทรง​ตอบ​โยบ​จาก​พายุ​ว่า
2“นี่​ผู้‍ใด​หนอ​ที่​ให้​คำ‍ปรึก‌ษา​มืด‍มน​ไป​ด้วย​ถ้อย‍คำ​อัน​ปราศ‌จาก​ความ​รู้?
3จง​คาด​เอว​อย่าง​ลูก‍ผู้‍ชาย
เรา​จะ​ถาม​เจ้า ขอ​เจ้า​ตอบ​เรา
4“เจ้า​อยู่​ที่‍ไหน เมื่อ​เรา​วาง​ราก‍ฐาน​ของ​แผ่น‍ดิน​โลก?
บอก​มา​เลย ถ้า​เจ้า​มี​ความ​เข้า‍ใจ
5ผู้‍ใด​ได้​กำ‌หนด​ขนาด​ให้​โลก? แน่‍นอน​ละ เจ้า​ต้อง​รู้​ซี
หรือ​ผู้‍ใด​ขึง​เชือก​วัด​บน​นั้น?
6ราก‍ฐาน​ของ​โลก​จม​ไป​อยู่​บน​อะไร?
ผู้‍ใด​วาง​ศิลา‍มุม‍เอก​ของ​มัน
7เมื่อ​เหล่า​ดาว‍รุ่ง​แซ่‍ซ้อง​สรร‌เสริญ
และ​บรร‌ดา​บุตร​พระ‍เจ้า​โห่‍ร้อง​ด้วย​ความ​ชื่น‍บาน?
8“ผู้‍ใด​เอา​ประตู​ปิด​ทะเล
เมื่อ​มัน​ระเบิด​ออก​มา​เหมือน​ออก​มา​จาก​ครรภ์
9เมื่อ​เรา​สร้าง​เมฆ​ให้​เป็น​เสื้อ
และ​ความ​มืด‍ทึบ​เป็น​ผ้า‍อ้อม​ของ​มัน
10แล้ว​กำ‌หนด​เขต​ให้​มัน
และ​วาง​ดาล​และ​ประตู
11และ​กล่าว​ว่า ‘เจ้า​ไป​ได้​ไกล​แค่​นี้​แหละ
อย่า​เลย​ไป​อีก
และ​คลื่น​คะ‌นอง​ของ​เจ้า​หยุด​เพียง​แค่​นี้​แหละ’?
12“เจ้า​ได้​บัง‍คับ‍บัญชา​อรุณ​ตั้ง‍แต่​เจ้า​เกิด​มา
และ​เป็น​เหตุ​ให้​อรุ‌โณ‌ทัย​รู้‍จัก​ที่​ของ​มัน
13เพื่อ​มัน​จะ​จับ​ปลาย​แผ่น‍ดิน​โลก
และ​สลัด​คน​ชั่ว​ออก​ไป​เสีย​จาก​โลก​หรือ?
14โลก​ก็​เปลี่ยน​ไป​เหมือน​ดิน‍เหนียว​ถูก​ตรา‍ประ‌ทับ
และ​ลักษณะ​ต่างๆ เด่น​ออก​มา​เหมือน​เสื้อ‍ผ้า
15แสง‍สว่าง​ของ​คน​อธรรม​ถูก​ยึด​ไว้​จาก​พวก‍เขา​เอง
และ​แขน​ของ​เขา​ที่​เงื้อ​ขึ้น​ก็​ถูก​หัก​เสีย
16“เจ้า​เข้า​ไป​ใน​ตา‍น้ำ​แห่ง​ทะเล​แล้ว​หรือ?
เจ้า​เดิน​ลง‍ไป​ใน​ที่​ลึก​ที่​สุด​แล้ว​หรือ?
17ประตู​แห่ง​ความ​ตาย​ได้​เผย​แก่​เจ้า​แล้ว​หรือ?
เจ้า​ได้​เห็น​ประตู​เงา​มัจ‌จุ‌ราช​แล้ว​หรือ?
18เจ้า​หยั่ง‍รู้​ความ​กว้าง​ใหญ่​ของ​แผ่น‍ดิน​โลก​หรือ?
บอก​มา​เลย ถ้า​เจ้า​รู้​ทั้ง‍หมด​นี้
19“ทาง​ไป​สู่​ที่‍พำ‌นัก​ของ​ความ​สว่าง​อยู่​ที่‍ไหน?
และ​สถาน‍ที่​แห่ง​ความ​มืด​นั้น​อยู่​ที่‍ไหน?
20เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​พา​มัน​ไป​ยัง​แดน​ของ​มัน
และ​เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​เห็น​ทาง​ไป​บ้าน​ของ​มัน
21เจ้า​คง​รู้​เพราะ​เจ้า​เกิด​มา​แล้ว
อายุ​ของ​เจ้า​ก็​มาก​เหลือ​หลาย
22“เจ้า​เข้า​ไป​ใน​คลัง‍หิมะ​แล้ว​หรือ?
เจ้า​เห็น​คลัง‍ลูก‍เห็บ
23ซึ่ง​เรา​สงวน​ไว้​เพื่อ​เวลา​ยาก‍ลำ‌บาก
เพื่อ​วัน​แห่ง​ศึก​และ​สง‌คราม​แล้ว​หรือ?
24ทาง​ที่​จะ​ไป​สู่​ที่​ซึ่ง​ความ​สว่าง​แจก‍จ่าย​ออก​ไป​นั้น​อยู่​ที่‍ไหน?
ที่​ซึ่ง​ลม​ตะ‌วัน‍ออก​กระ‌จาย​ไป​บน​แผ่น‍ดิน​โลก​อยู่​ที่‍ไหน?
25“ผู้‍ใด​เซาะ​ช่อง​ให้​กระ‌แส​ฝน
และ​ทำ​ทาง​ให้​ฟ้า‍ผ่า
26ให้​นำ​ฝน​มา​บน​แผ่น‍ดิน​ที่​ไม่‍มี​คน​อยู่
และ​บน​ถิ่น‍ทุร‌กัน‌ดาร​ซึ่ง​ไม่‍มี​มนุษย์​ที่‍นั่น
27เพื่อ​ให้​แผ่น‍ดิน​ที่​ร้าง‍เปล่า​ได้​อิ่ม‍หนำ
และ​ทำ​ให้​มี​พืช‍ผัก​งอก?


อพยพ33
20พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ว่า “เจ้า​จะ​เห็น​หน้า​ของ​เรา​ไม่‍ได้ เพราะ​มนุษย์​เห็น​หน้า​เรา​แล้ว​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ไม่‍ได้” 21พระ‍ยาห์‌เวห์​ตรัส​อีก​ว่า “ดู‍สิ มี​ที่​แห่ง​หนึ่ง​อยู่​ใกล้​เรา เจ้า​จง​ไป​ยืน​อยู่​บน​ศิลา​นั้น 22แล้ว​ขณะ​เมื่อ​พระ‍สิริ​ของ​เรา​กำลัง​ผ่าน​ไป เรา​จะ​ซ่อน​เจ้า​ไว้​ใน​ซอก‍หิน และ​จะ​บัง​เจ้า​ไว้​ด้วย​มือ​เรา​จน‍กว่า​เรา​จะ​ผ่าน​ไป 23เมื่อ​เรา​เอา​มือ​ของ​เรา​ออก​แล้ว เจ้า​จะ​เห็น​หลัง​ของ​เรา แต่​หน้า​ของ​เรา​เจ้า​จะ​ไม่‍ได้​เห็น”

พระเจ้าพระองค์ได้ทรงสำแดงแก่มนุษย์แล้วจากผู้เผยพระวจนแต่ละยุคสมัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่