.
.
.
สวัสดี นี่เป็นกระทู้แรก ของเรา... นี่เป็นธรรมเนียมการเกริ่นคำนำของการตั้งกระทู้ในพันทิปรึเปล่าแหะ
อ๋อ ไม่ใช่ 55 แซววววว นี่เป็นกระทู้ที่สองของเรา ที่มาตั้งใน 'พันทิป' กระทู้แรกของเราคือหาบ้านให้หมาแมวจร
เมื่อตอนเป็นจิตอาสาซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกับมู้นี้เลย แต่กระทู้นี้ เรามาเล่าว่า เราไปทำอะไรมาบ้าง
'เมื่อฉันโสด'
ชีวิตมันเปลี่ยน ก็เลยอยากมาเมาท์มอย เรื่องชีวิต...ยังไงหล่ะ
100 สิ่งเมื่อเขาทิ้งฉันไป...
โอ๊ยตอนแรกจะตั้งชื่อมู้แบบนี้ แต่! มันดราม่าปั๊ยยย ไม่เอาเสพติดความ ดารุมะนะ
กลับมาโฟกัสกับการใช้ชีวิตในสถาณภาพ 'โสด' กันดีกว่า
100 Things when i'm single
บางทีใครจะรู้ว่าความโสดนั้น อาจจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราทำอะไรได้มากกว่าที่เคย (รู้งี๊โสดดดดดดดด นานแล้ว!)
เราเชื่อว่าคนเราจะมี ‘กำลังพิเศษ’ ได้ก็ตอนที่
1. มีความรัก
2. อกหัก เออนั่นแหล่ะ
นี่อาจจะเป็นความไร้สาระที่มาตั้งกระทู้ แต่เราก็นั่งทบทวนแล้วว่า เออ เอาหน่ะไหนๆก็มาจุดๆนี้แล้ว ฮ่าๆ
ถือซะว่าเป็นกระทู้อวยความโสด ครบรอบ 1 ปีพอดิบ พอดี แล้ว 1 ปีที่โสดเราไปทำอะไรมาบ้างหล่ะ
เริ่มเลยมะ!
1. 'อกหักสิ่'
ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ! จุดๆนี้หากใครเคยผ่านมาแล้ว แสดงความยินดี แท็คมือป๊าปๆด้วย คุณสตรองมาก แต่ใครยังไม่เคย หรือยังผ่านไปไม่ได้ ก็เอาใจช่วยค่าาา เพราะอาการนี้ สิ่งเดียวที่จะช่วยคุณได้คือหัวใจของตัวเองเท่านั้น เคนะ วันแรกเลยเดินจิตหลุดไปริมทะเล ลอยมาก จำได้ว่าเดินจากบ้านไปทะเล เป็นโลๆ ลอย ลอยได้อีก เดินกินน้ำตา เดินตัวสั่น เหมือนมือถือสั่นเวลามีสายเรียกเข้าเลย
2. 'กินไม่ได้ นอนไม่หลับ'
เรียนรู้คำนี้ได้แบบเข้าถึงจริงๆคนเราจะอดนอนได้ขนาดไหนกันนะ ต่อให้หลับตาลงแต่สมองยังมีแต่ภาพซ้ำๆ เห็นอะไรที่ยัดเข้าปากได้เป็นคลื่นไส้ ขนาดแม่เอาของโปรดมาให้อยู่ตรงหน้าสาย- ยังกระเดือกไม่ลง ช่วงนั้นกินแต่น้ำตา ดราม่าไปอี๊กก เป็นแบบนี้หนักๆอยู่เป็นเดือนๆ ทำได้ไงฟระ
3. 'ผอม'
พออดนอนเอามากๆ กินก็ไม่ได้ ไหนจะบ้าว่ายไปว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดิน คือไม่สามารถพยามให้ตัวเองอยู่เฉยๆได้ งานบ้านมีก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 มาทำมันเข้าไป! เห้ยยยย น้ำหนักลงไป 10โล ++ ภายใน 2 เดือน ไม่ผอมแบบนี้มาเป็นสิบปีละ ไปเจอเพื่อน เจอพี่ ก็ทักหมด เห้ยยยผอมมมม รึมันจะเป็นเรื่องดีย์ 55
4. 'ํโยโย่ เอฟเฟค'
อย่าพึ่งดีใจไป หลังจากนั้นพอเราเริ่มสตรองขึ้น แ ด ร ก ไม่ยั้งเลยค่ะ โยโย่สิ่ รอไร น้ำหนักเด้งกลับมาแบบไม่น่าให้อภัยมาก สาย-กลับมาแล้ววว 555 ฉันครายหนักมากก
5. 'หมาเกือบกัด'
มีวันนึงจิตหลุด วิ่งออกไปนอกบ้านตอน 4-5ทุ่ม เปลี่ยวก็เปลี่ยว วิ่งไปแบบขาสั้น รองเท้าแตะ หมาริมทางไล่สิคะ กำลังร้องไห้สะอื้นๆอยู่ น้ำตาจุกเลย กรี้ดๆ เลยร้องขอความช่วยเหลือจากฝรั่งที่เปิดบาร์แถวๆนั้น ตกใจแล้วสปีค นี๊ด Help
เป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่า ฮ่าๆ กูไม่กลัวภาษาอังกฤษแล้วเว้ยยยยยยย
6. 'พบแพทย์'
อันนี้เป็นข้อที่ไม่อยากบันทึกลงไปในไดอารี่เลย ไมอ่ะ อ๋อ ไปหาหมอจิตเวช เพราะเราต้องการความช่วยเหลือแล้วหล่ะ
เราทำงานไม่ได้ ทุกๆ 15 นาที ครึ่งชั่วโมงเราดิวงานอยู่น้ำตาก็ไหล เราแว่บเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ทำงานไม่ได้เลย ฝืนสุดๆ นอนไม่หลับ หาวิธีอยากตายตลอดเวลา พูดตอนนี้เราไม่อินเลย แต่เรายังจำความรู้สึกช่วงนั้นได้ดีแบบลืมไม่ลงเลยหล่ะ คือวันๆ เราเอาแต่ร้องไห้ พร่ำเพ้อถึงเรื่องความรัก หาวิธีทำไงเค้าถึงจะกลับมา ทำไงเราจะลืม ทำไงเราจะตาย ไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากไปไหน ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน อยากตาย อยากตาย ออกไปปั่นจักรยาน แล้วทิ้งจักรยานเดินต่อ เดินไปไหนไม่รู้ ไม่หิว ไม่ง่วง อยากให้รถมาชนตาย เดินลงอ่างเก็บน้ำแถวๆหมู่บ้าน อยากให้จม แต่ดันว่ายน้ำเป็นอีก กินเป็ดล้างท้องสิ๊ ...แล้วไง ใจไม่กล้าพอ กินไปแล้วก็อ๊วกออก ปากลอกเลยต้องไปกินน้ำตาม ตบหน้า ต่อยกำแพง เอาคัตเตอร์เฉาะๆ แล้วไง ก็ไม่เจ็บ แม่ต้องคอยโทรมาห้ามไว้ตลอดเวลา ไม่ก็บึ่งรถมาส่อง สงสารแม่มาก เราไม่กลับไปอยู่บ้านด้วยกับที่บ้านก็ไม่ได้ เราต้องอยู่คนเดียว แล้วช่วงนั้นรู้เลยใครเป็นคนที่ห่วงเรา เราไม่ได้บอกใคร นอกจากแม่กับเพื่อนสนิทจริงๆ พอมาถึงตอนนี้เรานึกถึงแล้วเราก็หดหู่นะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เราอยากได้ยาที่ทำให้เราหลับ เราไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ทั้งสิ้น วันหยุดเลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพ ไปรพ.รัฐในกทม. แน่นอน เราไปเจอคนที่เค้าป่วยเยอะแยะ ได้คุยกับหมอ หมอให้ทำบททดสอบ กรอกนู่นนี่ แล้วก็นั่งคุย เราก็ร้องไห้สิ่ แน่นอนว่าอาการซึมเศร้าของเรา มันส่งผลให้ระบบประสาทหลั่งสารผิดปกติ อะไรซักอย่าง แล้วเราก็มีอาการของไบโพลาร์ ที่หมอบอก หมอก็นัด ก็จัดยามา กลับมากินอยู่ไม่กี่วันเท่านั้นอ่ะ เพราะไม่ชอบอาการข้างเคียงเลย มันลอยๆ แถมถึงจะหลับไป แต่สะดุ้งตื่นกลางคืนทุกที
7. 'Alcoholic'
มันเลยทำให้เราหาทางออก เราไม่อยากไปหาหมอ เสียตังค์ เสียเวลา แต่เราอยากหลับ เราเลยไปพึ่งแอลกอฮอลล์ มันก็ช่วยให้เราเมาหลับไป เรากินเหล้า ไวน์ ว๊อดก้า ห่าเหวไรก็ไม่รู้ กิน ทุก วัน! ปกติเราเป็นคนที่กินบ้างเวลาสังสรรค์กับที่บ้าน กับเพื่อนนี่ยิ่งน้อยใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้เจอเพื่อนเป็นปีๆละ นี่กินทุกวัน นั่งกินยันเช้าคนเดียว กินไปร้องไห้ไป เช้าแล้ว หลังบ้านมีแต่ขวดแอลลกอฮอลล์ และแน่นอนเราหมดเงินรวมๆแล้วเป็นแสน! ทั้งกินที่บ้าน ทั้งออกไปปาตี้นอกบ้าน กับการติดเหล้า ของเราแบบไร้สติสุดๆ มาทำงานยังแอบพกมากินเลย (อยากจะกลับไปตบปากตัวเองรัวๆ)
8. 'โครงการมอเตอร์ไซด์คันแรก'
มีเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง มอไซด์คันแรกในชีวิตที่เราตั้งชื่อให้ ว่า GiFi เป็นมอไซด์เราต้องอดทนนะ ตอนนี้อายุ 8 เดือน ก็ 8พันโลแล้ว ไปไหนมั่งวะแกรรรร เฉลี่ยนเดือนละพันโลเลย นี่ถ้าออกเดินทางจริงๆเลขไมไปไกลถึงยุโรปแล้วนะ 55
9. 'Minion'
ไปดูหนังในโรงหลังจากโสด คนเดียวครั้งแรก มันจะเป็นเรื่องธรรมดาของเรามากถ้าเป็นตอนเกือบ 10 ปีที่แล้ว เพราะเราไปดูหนังคนเดียวบ่อยๆ แต่ครั้งนี้
ไม่เหมือนเดิม นี่เลือกไปดูมินเนี่ยนเลยเพราะคิดว่าเออ ดูการ์ตูนตั๊ลล๊าคๆ แล้วเราจะคลายเครียดได้
.....ร้องไห้ตั้งแต่ต้นยันจบเลยค่ะ สงสารน้องหรั่งเบาะข้างๆที่มากับขุ่นพ่อมากก พี่นี่นั่งซู๊ดขี้มูกทั้งเรื่อง มีจังหวะขำก็ขำค่ะ เอ้าซู๊ดดด
ขี้มูกมา ฮ่าๆ น้ำตานองกันไป
10. 'Ant Man'
ตอนหลังเลย ม่ะ! ไหนลองอีกที ให้ตายเถอะนี่ Ant Man ตูก็ยังร้องไห้ได้ กลัวโรงหนังไปสักพักเลยทีนี้
(chiiiiiiia! นี่ตูพกตั๋วหนังไปโรงหนังเพื่อดูหนังด้วยหรอเนี่ย)
(ตอนนี้โอเคละนะ ชอบฟีลกินป๊อปคอร์นคนเดียวไม่มีใครมาแย่งมากกกกกกก อ่าวสายแดรกไปเลยค่ะ)
(555555)
(เลิกวงเล็บได้แล้ว!)
11. 'ดาดฟ้า'
เราปีนขึ้นดาดฟ้าไปนั่งเท่ๆบ่อยมาก แต่เบื้องหลังคือมันเริ่มจากเราจะจะขึ้นไปกระโดดลงมาตะหาก แต่ดันหยิบมือถือไปด้วย แล้วเพื่อนเราคนนึงไลน์มาพอดี ว่าเห้ยยยย กูไประยอง มามีทแอนด์กรี๊ดกันมั๊ยแกรรรร บ่องตรง ขอบคุณมากที่มาเตือนสติ ไม่งั๊นได้แปลงร่างเป็นพุดดิ้งสแปรชข้างล่างละ เลยถ่ายรูปแทนละกัน ไหนๆก็ปีนขึ้นมาละ ตอนหลังที่แห่งนี้เลยเป็นที่โปรดของเราเลย เวลาเราคิดงานไม่ออก หรืออยากมองฟ้ากว้างๆ ขึ้นไปค่ะพี่สุชาติ! (ว่าแต่พี่สุชาติเป็นใคร ทำไมเล่นกันจัง)
12. 'เพื่อน'
ถึงเวลาเลิกงมอยู่กับความคิดตัวเองแล้วไปเจอเพื่อนแล้ว คราวนี้เพื่อนสนิทลากไป ตอนแรกก็นัดกันไปว่ายน้ำนะ ไหงอยู่ดีๆมาโผล่ที่ข้าวสาร คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เพื่อนหนิทลากไปเจอเพื่อนของเพื่อน เมื่อก่อนไปข้าวสารชอบไปเดินถ่ายรูป หาของกิน แต่ไม่เคยเมา นี่จัดทาวเวอร์ไป แด๊นซ์เลยค่ะ ต่อด้วย Bucket อีก3 ขึ้นไปแดนซ์กับโคโยตี้หน้าร้าน อืมมมมม เราเคยเห็นคนเมาขึ้นไปเต้น หน้าร้าน หรือบนเวทีไรงี๊นะ แล้วก็คิดในใจ ต้องกล้าขนาดไหนวะ?
ถึงกล้าขึ้นไป...ตอนนี้ก็รู้แล้วหล่ะ ขนาดนี้หล่ะแกรรร ปิดทริปด้วยการซัดสุกี้ตรงวงเวียนบางลำพูร้อนๆ แล้วอ๊วกข้างทางเอาออก ที่ทำทั้งหมด...ยังมีสติตลอดค่ะบรัย
13. 'แม่จ๋า'
ได้ขับมอไซด์ให้แม่ซ้อนครั้งแรก ตอนแรกแม่กลัว ตอนหลังแม่คงอยากให่เราสบายใจมั๊ง ไปช๊อปปิ้งกัน ตากแดดกันไปจ้า มุมิ มุมิ
14. 'ทะเลสีดำ'
ไปเล่นน้ำทะเลตอนตี 2 แว๊นด์ออกจากบ้านไป เหน็บว๊อดก้า ไปนั่งนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็กลับมาบ้านอาบน้า
ไปทำงานต่อ ไม่หลับไม่นอน อิหอยหลอดดดดดดดดดดดด
.
.
.
และแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยน ที่เรา เลิกคิดว่าตัวเองไร้ค่า... เราไปเจอมิตรภาพต่างแดนคนนึง ด้วยความแอลกอฮอลิค เราเซย์ไฮไป มิตรภาพเลยบังเกิด คุยกัน นาง Solo trip นางมาเที่ยวอินโดนีเซีย 5-6 เดือน นี่นางแวะมาพัทยา มาสักเอาแบบฟูลอ๊อฟชั่น กะไม่ให้เหลือพื้นที่หลังเลยทีเดียว คือไง มันเป็นเรื่องแปลกของเรามากกกกก แกมาทำไมตั้งครึ่งโลกเพื่อมาสัก บ้านยูไม่มีหรอ แล้วชิวจังวะ ทำไมฟรีด้อมแบบนี้!
เพราะบอกเลยก่อนหน้านี้เราเป็นคนโลกแคบ ตอนมีแฟนมากๆ คือเหมือนชีวิตก็หยุดไป ใช้ชีวิตแบบแม่บ้าน ทำงานบ้าน เลี้ยงแมว กินแฟ ทำงานไปวันๆเพื่อที่จะเค้าดาวน์รอดู GOT อยากกลับไปโบกกะโหลกตัวเองช่วงนั้นจัง เรามีความฝันอยากเที่ยวรอบโลกก็จริง..แต่ แต่ แต่ ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เราจะมีข้อจำกัดมากมายอยู่ในหัว เราไม่กล้าสร้างมิตรใหม่ๆ เรากลัวนู่ กลัวนี่ เกรงใจ วางแผนเที่ยวอีก ต้องจองตั๋วนะ ต้องจองที่พักนะ How to go to there โอ้ยยย เยอะ ไหนจะเรื่องตังค์ที่ต้องมาเก็บเผื่ออนาคตอีก จบที่ไม่ได้ไปค่ะ บรัยยย 555 เอาๆ แล้วไงอิฝ.นางนี้พาเราเปิดโลกกว้าง วงเล็บ...สายดาร์คมาก สาวน้อยสายแบ๊วฮาร์ดคอร์แบบเรา ไปเปิดประตูต้องรับความจริงกันค่า
15. 'เกย์บาร์'
นางพาเที่ยวบาร์เกย์ เพราะนางมีเพื่อนเป็นเกย์รุ่นใหญ่ที่ไทย แบบ เกย์โชว์จริงๆ ไม่ใช่อัลคาซ่า หรือ ทิฟฟานี่ ที่เป็นคาบาเรต์ สวยๆ
นี่อยู่พัทยาแบบจริงจังมา 1 ปี กับที่แวะมาหาแม่ช่วงวันหยุดเป็นเกือบ 10 ปีพึ่งรู้ พัทยา มี งี๊ ! แต่ไม่คิดว่าขนาดนี้ด้วย
คือเป็นเกย์ผับที่มีโชว์อย่างว่าเลย ดึ๊บๆ ดึ๊บๆ ดึ๊บๆ
เห้ย มีอาบน้ำบนเวทีด้วย เห้ย เดินตัวติดกัน หมุนๆรอบร้านเลย เห้ย เราโอเค เราสนุกกก มาวววว ไปๆๆ คืนนึงคือเดินเข้าร้านนี้ จิบ 1 แก้ว ไปต่อค่ะ ตั้งแต่พัทยากลางยัน ว๊อคกิ้ง สตรีท
16. 'สักสี'
นางเห็นชอบถ่ายรูปนางเลยพาไปดูตอนโดนเข็มทิ่มที่ร้านสักแล้วให้ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ถ่ายสโลโมก็สนุกดี ให้เราได้ช่วยออกแบบด้วย เราก็วางโพล๊ะลงในPhotoshop โห่ยย ก็พึ่งรู้กระบวนการวิธีการจริงจังก็คราวนี้หล่ะ
17. 'รูดเสา'
ไหนๆก็แดนซ์กับโคโยตี้ที่ข้าวสารมาละ คราวนี้อัพเวลที่บาร์ท้องถิ่นเลย ขึ้นไปบนบาร์ที่มีเสารูด แล้วไปขอให้บาร์เกิลล์สอนเต้นรูดเสาให้โหน่ยยย เสื้อยืด เกงยีนส์ เท้าแตะบ้านๆนี่แหล่ะค่า ลูกค้ามาม่าซังหนีโหมดดด 555555
100 THINGs WHEN I'M SINGLE
.
.
สวัสดี นี่เป็นกระทู้แรก ของเรา... นี่เป็นธรรมเนียมการเกริ่นคำนำของการตั้งกระทู้ในพันทิปรึเปล่าแหะ
อ๋อ ไม่ใช่ 55 แซววววว นี่เป็นกระทู้ที่สองของเรา ที่มาตั้งใน 'พันทิป' กระทู้แรกของเราคือหาบ้านให้หมาแมวจร
เมื่อตอนเป็นจิตอาสาซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกับมู้นี้เลย แต่กระทู้นี้ เรามาเล่าว่า เราไปทำอะไรมาบ้าง
'เมื่อฉันโสด'
ชีวิตมันเปลี่ยน ก็เลยอยากมาเมาท์มอย เรื่องชีวิต...ยังไงหล่ะ
100 สิ่งเมื่อเขาทิ้งฉันไป...
โอ๊ยตอนแรกจะตั้งชื่อมู้แบบนี้ แต่! มันดราม่าปั๊ยยย ไม่เอาเสพติดความ ดารุมะนะ
กลับมาโฟกัสกับการใช้ชีวิตในสถาณภาพ 'โสด' กันดีกว่า
100 Things when i'm single
บางทีใครจะรู้ว่าความโสดนั้น อาจจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราทำอะไรได้มากกว่าที่เคย (รู้งี๊โสดดดดดดดด นานแล้ว!)
เราเชื่อว่าคนเราจะมี ‘กำลังพิเศษ’ ได้ก็ตอนที่
1. มีความรัก
2. อกหัก เออนั่นแหล่ะ
นี่อาจจะเป็นความไร้สาระที่มาตั้งกระทู้ แต่เราก็นั่งทบทวนแล้วว่า เออ เอาหน่ะไหนๆก็มาจุดๆนี้แล้ว ฮ่าๆ
ถือซะว่าเป็นกระทู้อวยความโสด ครบรอบ 1 ปีพอดิบ พอดี แล้ว 1 ปีที่โสดเราไปทำอะไรมาบ้างหล่ะ
เริ่มเลยมะ!
1. 'อกหักสิ่'
ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ! จุดๆนี้หากใครเคยผ่านมาแล้ว แสดงความยินดี แท็คมือป๊าปๆด้วย คุณสตรองมาก แต่ใครยังไม่เคย หรือยังผ่านไปไม่ได้ ก็เอาใจช่วยค่าาา เพราะอาการนี้ สิ่งเดียวที่จะช่วยคุณได้คือหัวใจของตัวเองเท่านั้น เคนะ วันแรกเลยเดินจิตหลุดไปริมทะเล ลอยมาก จำได้ว่าเดินจากบ้านไปทะเล เป็นโลๆ ลอย ลอยได้อีก เดินกินน้ำตา เดินตัวสั่น เหมือนมือถือสั่นเวลามีสายเรียกเข้าเลย
2. 'กินไม่ได้ นอนไม่หลับ'
เรียนรู้คำนี้ได้แบบเข้าถึงจริงๆคนเราจะอดนอนได้ขนาดไหนกันนะ ต่อให้หลับตาลงแต่สมองยังมีแต่ภาพซ้ำๆ เห็นอะไรที่ยัดเข้าปากได้เป็นคลื่นไส้ ขนาดแม่เอาของโปรดมาให้อยู่ตรงหน้าสาย- ยังกระเดือกไม่ลง ช่วงนั้นกินแต่น้ำตา ดราม่าไปอี๊กก เป็นแบบนี้หนักๆอยู่เป็นเดือนๆ ทำได้ไงฟระ
3. 'ผอม'
พออดนอนเอามากๆ กินก็ไม่ได้ ไหนจะบ้าว่ายไปว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เดิน คือไม่สามารถพยามให้ตัวเองอยู่เฉยๆได้ งานบ้านมีก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 มาทำมันเข้าไป! เห้ยยยย น้ำหนักลงไป 10โล ++ ภายใน 2 เดือน ไม่ผอมแบบนี้มาเป็นสิบปีละ ไปเจอเพื่อน เจอพี่ ก็ทักหมด เห้ยยยผอมมมม รึมันจะเป็นเรื่องดีย์ 55
4. 'ํโยโย่ เอฟเฟค'
อย่าพึ่งดีใจไป หลังจากนั้นพอเราเริ่มสตรองขึ้น แ ด ร ก ไม่ยั้งเลยค่ะ โยโย่สิ่ รอไร น้ำหนักเด้งกลับมาแบบไม่น่าให้อภัยมาก สาย-กลับมาแล้ววว 555 ฉันครายหนักมากก
5. 'หมาเกือบกัด'
มีวันนึงจิตหลุด วิ่งออกไปนอกบ้านตอน 4-5ทุ่ม เปลี่ยวก็เปลี่ยว วิ่งไปแบบขาสั้น รองเท้าแตะ หมาริมทางไล่สิคะ กำลังร้องไห้สะอื้นๆอยู่ น้ำตาจุกเลย กรี้ดๆ เลยร้องขอความช่วยเหลือจากฝรั่งที่เปิดบาร์แถวๆนั้น ตกใจแล้วสปีค นี๊ด Help
เป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่า ฮ่าๆ กูไม่กลัวภาษาอังกฤษแล้วเว้ยยยยยยย
6. 'พบแพทย์'
อันนี้เป็นข้อที่ไม่อยากบันทึกลงไปในไดอารี่เลย ไมอ่ะ อ๋อ ไปหาหมอจิตเวช เพราะเราต้องการความช่วยเหลือแล้วหล่ะ
เราทำงานไม่ได้ ทุกๆ 15 นาที ครึ่งชั่วโมงเราดิวงานอยู่น้ำตาก็ไหล เราแว่บเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ทำงานไม่ได้เลย ฝืนสุดๆ นอนไม่หลับ หาวิธีอยากตายตลอดเวลา พูดตอนนี้เราไม่อินเลย แต่เรายังจำความรู้สึกช่วงนั้นได้ดีแบบลืมไม่ลงเลยหล่ะ คือวันๆ เราเอาแต่ร้องไห้ พร่ำเพ้อถึงเรื่องความรัก หาวิธีทำไงเค้าถึงจะกลับมา ทำไงเราจะลืม ทำไงเราจะตาย ไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากไปไหน ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน อยากตาย อยากตาย ออกไปปั่นจักรยาน แล้วทิ้งจักรยานเดินต่อ เดินไปไหนไม่รู้ ไม่หิว ไม่ง่วง อยากให้รถมาชนตาย เดินลงอ่างเก็บน้ำแถวๆหมู่บ้าน อยากให้จม แต่ดันว่ายน้ำเป็นอีก กินเป็ดล้างท้องสิ๊ ...แล้วไง ใจไม่กล้าพอ กินไปแล้วก็อ๊วกออก ปากลอกเลยต้องไปกินน้ำตาม ตบหน้า ต่อยกำแพง เอาคัตเตอร์เฉาะๆ แล้วไง ก็ไม่เจ็บ แม่ต้องคอยโทรมาห้ามไว้ตลอดเวลา ไม่ก็บึ่งรถมาส่อง สงสารแม่มาก เราไม่กลับไปอยู่บ้านด้วยกับที่บ้านก็ไม่ได้ เราต้องอยู่คนเดียว แล้วช่วงนั้นรู้เลยใครเป็นคนที่ห่วงเรา เราไม่ได้บอกใคร นอกจากแม่กับเพื่อนสนิทจริงๆ พอมาถึงตอนนี้เรานึกถึงแล้วเราก็หดหู่นะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เราอยากได้ยาที่ทำให้เราหลับ เราไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ทั้งสิ้น วันหยุดเลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพ ไปรพ.รัฐในกทม. แน่นอน เราไปเจอคนที่เค้าป่วยเยอะแยะ ได้คุยกับหมอ หมอให้ทำบททดสอบ กรอกนู่นนี่ แล้วก็นั่งคุย เราก็ร้องไห้สิ่ แน่นอนว่าอาการซึมเศร้าของเรา มันส่งผลให้ระบบประสาทหลั่งสารผิดปกติ อะไรซักอย่าง แล้วเราก็มีอาการของไบโพลาร์ ที่หมอบอก หมอก็นัด ก็จัดยามา กลับมากินอยู่ไม่กี่วันเท่านั้นอ่ะ เพราะไม่ชอบอาการข้างเคียงเลย มันลอยๆ แถมถึงจะหลับไป แต่สะดุ้งตื่นกลางคืนทุกที
7. 'Alcoholic'
มันเลยทำให้เราหาทางออก เราไม่อยากไปหาหมอ เสียตังค์ เสียเวลา แต่เราอยากหลับ เราเลยไปพึ่งแอลกอฮอลล์ มันก็ช่วยให้เราเมาหลับไป เรากินเหล้า ไวน์ ว๊อดก้า ห่าเหวไรก็ไม่รู้ กิน ทุก วัน! ปกติเราเป็นคนที่กินบ้างเวลาสังสรรค์กับที่บ้าน กับเพื่อนนี่ยิ่งน้อยใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้เจอเพื่อนเป็นปีๆละ นี่กินทุกวัน นั่งกินยันเช้าคนเดียว กินไปร้องไห้ไป เช้าแล้ว หลังบ้านมีแต่ขวดแอลลกอฮอลล์ และแน่นอนเราหมดเงินรวมๆแล้วเป็นแสน! ทั้งกินที่บ้าน ทั้งออกไปปาตี้นอกบ้าน กับการติดเหล้า ของเราแบบไร้สติสุดๆ มาทำงานยังแอบพกมากินเลย (อยากจะกลับไปตบปากตัวเองรัวๆ)
8. 'โครงการมอเตอร์ไซด์คันแรก'
มีเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง มอไซด์คันแรกในชีวิตที่เราตั้งชื่อให้ ว่า GiFi เป็นมอไซด์เราต้องอดทนนะ ตอนนี้อายุ 8 เดือน ก็ 8พันโลแล้ว ไปไหนมั่งวะแกรรรร เฉลี่ยนเดือนละพันโลเลย นี่ถ้าออกเดินทางจริงๆเลขไมไปไกลถึงยุโรปแล้วนะ 55
9. 'Minion'
ไปดูหนังในโรงหลังจากโสด คนเดียวครั้งแรก มันจะเป็นเรื่องธรรมดาของเรามากถ้าเป็นตอนเกือบ 10 ปีที่แล้ว เพราะเราไปดูหนังคนเดียวบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม นี่เลือกไปดูมินเนี่ยนเลยเพราะคิดว่าเออ ดูการ์ตูนตั๊ลล๊าคๆ แล้วเราจะคลายเครียดได้
.....ร้องไห้ตั้งแต่ต้นยันจบเลยค่ะ สงสารน้องหรั่งเบาะข้างๆที่มากับขุ่นพ่อมากก พี่นี่นั่งซู๊ดขี้มูกทั้งเรื่อง มีจังหวะขำก็ขำค่ะ เอ้าซู๊ดดด
ขี้มูกมา ฮ่าๆ น้ำตานองกันไป
10. 'Ant Man'
ตอนหลังเลย ม่ะ! ไหนลองอีกที ให้ตายเถอะนี่ Ant Man ตูก็ยังร้องไห้ได้ กลัวโรงหนังไปสักพักเลยทีนี้
(chiiiiiiia! นี่ตูพกตั๋วหนังไปโรงหนังเพื่อดูหนังด้วยหรอเนี่ย)
(ตอนนี้โอเคละนะ ชอบฟีลกินป๊อปคอร์นคนเดียวไม่มีใครมาแย่งมากกกกกกก อ่าวสายแดรกไปเลยค่ะ)
(555555)
(เลิกวงเล็บได้แล้ว!)
11. 'ดาดฟ้า'
เราปีนขึ้นดาดฟ้าไปนั่งเท่ๆบ่อยมาก แต่เบื้องหลังคือมันเริ่มจากเราจะจะขึ้นไปกระโดดลงมาตะหาก แต่ดันหยิบมือถือไปด้วย แล้วเพื่อนเราคนนึงไลน์มาพอดี ว่าเห้ยยยย กูไประยอง มามีทแอนด์กรี๊ดกันมั๊ยแกรรรร บ่องตรง ขอบคุณมากที่มาเตือนสติ ไม่งั๊นได้แปลงร่างเป็นพุดดิ้งสแปรชข้างล่างละ เลยถ่ายรูปแทนละกัน ไหนๆก็ปีนขึ้นมาละ ตอนหลังที่แห่งนี้เลยเป็นที่โปรดของเราเลย เวลาเราคิดงานไม่ออก หรืออยากมองฟ้ากว้างๆ ขึ้นไปค่ะพี่สุชาติ! (ว่าแต่พี่สุชาติเป็นใคร ทำไมเล่นกันจัง)
12. 'เพื่อน'
ถึงเวลาเลิกงมอยู่กับความคิดตัวเองแล้วไปเจอเพื่อนแล้ว คราวนี้เพื่อนสนิทลากไป ตอนแรกก็นัดกันไปว่ายน้ำนะ ไหงอยู่ดีๆมาโผล่ที่ข้าวสาร คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เพื่อนหนิทลากไปเจอเพื่อนของเพื่อน เมื่อก่อนไปข้าวสารชอบไปเดินถ่ายรูป หาของกิน แต่ไม่เคยเมา นี่จัดทาวเวอร์ไป แด๊นซ์เลยค่ะ ต่อด้วย Bucket อีก3 ขึ้นไปแดนซ์กับโคโยตี้หน้าร้าน อืมมมมม เราเคยเห็นคนเมาขึ้นไปเต้น หน้าร้าน หรือบนเวทีไรงี๊นะ แล้วก็คิดในใจ ต้องกล้าขนาดไหนวะ?
ถึงกล้าขึ้นไป...ตอนนี้ก็รู้แล้วหล่ะ ขนาดนี้หล่ะแกรรร ปิดทริปด้วยการซัดสุกี้ตรงวงเวียนบางลำพูร้อนๆ แล้วอ๊วกข้างทางเอาออก ที่ทำทั้งหมด...ยังมีสติตลอดค่ะบรัย
13. 'แม่จ๋า'
ได้ขับมอไซด์ให้แม่ซ้อนครั้งแรก ตอนแรกแม่กลัว ตอนหลังแม่คงอยากให่เราสบายใจมั๊ง ไปช๊อปปิ้งกัน ตากแดดกันไปจ้า มุมิ มุมิ
14. 'ทะเลสีดำ'
ไปเล่นน้ำทะเลตอนตี 2 แว๊นด์ออกจากบ้านไป เหน็บว๊อดก้า ไปนั่งนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็กลับมาบ้านอาบน้า
ไปทำงานต่อ ไม่หลับไม่นอน อิหอยหลอดดดดดดดดดดดด
.
.
.
และแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยน ที่เรา เลิกคิดว่าตัวเองไร้ค่า... เราไปเจอมิตรภาพต่างแดนคนนึง ด้วยความแอลกอฮอลิค เราเซย์ไฮไป มิตรภาพเลยบังเกิด คุยกัน นาง Solo trip นางมาเที่ยวอินโดนีเซีย 5-6 เดือน นี่นางแวะมาพัทยา มาสักเอาแบบฟูลอ๊อฟชั่น กะไม่ให้เหลือพื้นที่หลังเลยทีเดียว คือไง มันเป็นเรื่องแปลกของเรามากกกกก แกมาทำไมตั้งครึ่งโลกเพื่อมาสัก บ้านยูไม่มีหรอ แล้วชิวจังวะ ทำไมฟรีด้อมแบบนี้!
เพราะบอกเลยก่อนหน้านี้เราเป็นคนโลกแคบ ตอนมีแฟนมากๆ คือเหมือนชีวิตก็หยุดไป ใช้ชีวิตแบบแม่บ้าน ทำงานบ้าน เลี้ยงแมว กินแฟ ทำงานไปวันๆเพื่อที่จะเค้าดาวน์รอดู GOT อยากกลับไปโบกกะโหลกตัวเองช่วงนั้นจัง เรามีความฝันอยากเที่ยวรอบโลกก็จริง..แต่ แต่ แต่ ทุกครั้งที่ออกเดินทาง เราจะมีข้อจำกัดมากมายอยู่ในหัว เราไม่กล้าสร้างมิตรใหม่ๆ เรากลัวนู่ กลัวนี่ เกรงใจ วางแผนเที่ยวอีก ต้องจองตั๋วนะ ต้องจองที่พักนะ How to go to there โอ้ยยย เยอะ ไหนจะเรื่องตังค์ที่ต้องมาเก็บเผื่ออนาคตอีก จบที่ไม่ได้ไปค่ะ บรัยยย 555 เอาๆ แล้วไงอิฝ.นางนี้พาเราเปิดโลกกว้าง วงเล็บ...สายดาร์คมาก สาวน้อยสายแบ๊วฮาร์ดคอร์แบบเรา ไปเปิดประตูต้องรับความจริงกันค่า
15. 'เกย์บาร์'
นางพาเที่ยวบาร์เกย์ เพราะนางมีเพื่อนเป็นเกย์รุ่นใหญ่ที่ไทย แบบ เกย์โชว์จริงๆ ไม่ใช่อัลคาซ่า หรือ ทิฟฟานี่ ที่เป็นคาบาเรต์ สวยๆ
นี่อยู่พัทยาแบบจริงจังมา 1 ปี กับที่แวะมาหาแม่ช่วงวันหยุดเป็นเกือบ 10 ปีพึ่งรู้ พัทยา มี งี๊ ! แต่ไม่คิดว่าขนาดนี้ด้วย
คือเป็นเกย์ผับที่มีโชว์อย่างว่าเลย ดึ๊บๆ ดึ๊บๆ ดึ๊บๆ
เห้ย มีอาบน้ำบนเวทีด้วย เห้ย เดินตัวติดกัน หมุนๆรอบร้านเลย เห้ย เราโอเค เราสนุกกก มาวววว ไปๆๆ คืนนึงคือเดินเข้าร้านนี้ จิบ 1 แก้ว ไปต่อค่ะ ตั้งแต่พัทยากลางยัน ว๊อคกิ้ง สตรีท
16. 'สักสี'
นางเห็นชอบถ่ายรูปนางเลยพาไปดูตอนโดนเข็มทิ่มที่ร้านสักแล้วให้ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ถ่ายสโลโมก็สนุกดี ให้เราได้ช่วยออกแบบด้วย เราก็วางโพล๊ะลงในPhotoshop โห่ยย ก็พึ่งรู้กระบวนการวิธีการจริงจังก็คราวนี้หล่ะ
17. 'รูดเสา'
ไหนๆก็แดนซ์กับโคโยตี้ที่ข้าวสารมาละ คราวนี้อัพเวลที่บาร์ท้องถิ่นเลย ขึ้นไปบนบาร์ที่มีเสารูด แล้วไปขอให้บาร์เกิลล์สอนเต้นรูดเสาให้โหน่ยยย เสื้อยืด เกงยีนส์ เท้าแตะบ้านๆนี่แหล่ะค่า ลูกค้ามาม่าซังหนีโหมดดด 555555