ขอยืมแพทเทิร์นคำพูดของหลายๆคนที่ตั้ง "กระทู้แรก" มาใช้หน่อยนะคะ (มันเริ่มยากจริงๆ)
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยกันล่วงหน้าเลยนะคะ อิอิ
เรานั่งมองห้องกระทู้อยู่นานว่าจะบลูแพลนเน็ต หรือ แกลอรี่ ดี?
เพราะทริปพรีเวดเราคือไปเที่ยว "พูซาน" ด้วย ... สุดท้าย! แยกกันคนละห้องละกัน ฮ่าฮ่า
Part ของถ่ายพรีเวด ไว้ห้องนี้
Part ของเที่ยวและรูปพรีถ่ายเล่นๆ Out door ไว้ให้นู้นละกัน ^^" >>>
http://ppantip.com/topic/35282167
ป.ล. รูปเยอะอยู่นะคะ ต่อ wifi จะได้ไม่เปลืองเน็ตเน้อ ;)
ป.ล.2 UPDATE ราคาแพ็คเกจถ่ายภาพของ Piona Studio สามารถสอบถามราคาโปรโมชั่นที่ทาง Piona ให้พิเศษสำหรับคนที่จองผ่าน @ออมม่าย๊า
https://www.facebook.com/oommaya/ inbox สอบถามข้อมูลต่างได้ทางช่องทางนี้เลยค่ะ
(ราคาโปรเริ่มต้น 990,000W หรือประมาณ 29,700 บาท ขึ้นอยู่กับโปรแต่ละเดือน)
ตอน ๑ ทำไมต้องไปถ่าย Pre wedding ที่เกาหลี ทั้งๆที่ว่าที่สามีไม่ใช่ “โอปป้า”
เป็นคำถามยอดฮิต สำหรับคนที่ไม่รู้จักเรา ดังนั้น!!! ขอแนะนำตัวเองคร่าวๆก่อนแล้วจะเริ่มคลี่คลายคำถามนะคะ
เราเป็น “ติ่ง” ค่ะ ที่ใครๆก็เรียกกันว่า “ติ่งเกาหลี” เราเป็นติ่งตั้งแต่ปี 2002 (ติ่งรุ่นป้า) โดยเริ่มจากการเป็นติ่งภาพยนตร์ ดราม่า(ซีรี่ย์) จากนั้นก็เป็น E.L.F และ โซวอน เมน ฟานี่ (งงมั้ย? ภาษาติ่ง 555) แปลได้ว่าเราเป็นแฟนคลับซุปเปอร์ จูเนียร์ และเกิร์ล เจเนอเรชั่น โดยชอบทิฟฟานี่มากที่สุด
ช่วงนึงติดรายการ WGM : We got marriage งอมแงมโดยเฉพาะคู่ “ยงซอ” ยงฮวา CN BLUE กับนุ้งซอ (น้องซอ ^^”) น้องเล็กแห่ง SNSD (SNSD ก็คือเกิร์ลเจน) คู่ “ทึกโซรา” (อีทึก ซุปเปอร์ จูเนียร์และนักแสดงสาว คังโซรา) We got marriage เป็นรายการที่เอาดารามาแต่งงานกันแบบปลอมๆ ใช้ชีวิตคู่ ซึ่งเป็นรายการที่มุ้งมิ้ง แต่ได้ข้อคิด และ Level ความ #มโน ที่สูงมาก จิกหมอนกันทะลุที่นอนเลยทีเดียว นอกจากนี้ขึ้นชื่อว่า “เกาหลี” พี่เค้ามีอะไรดีเค้าก็ “ขายชาติ” กันผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง นอกจากจะทำให้เราไปเกาหลี 10 กว่ารอบ (ทั้งเพราะ Location จากซีรี่ย์หรือไปเกาะกระจกเป็นตุ๊กแกดูอีทึกกับอึนฮยอกจัดรายการวิทยุ kiss the radio สมัยนั้น !) ตอนจบในรายการของแต่ละคู่ ถ้าจบแบบ Happy ending ก็จะโชว์การถ่ายภาพ Pre wedding ยั่วน้ำลาย ทั้งติ่งโสด ติ่งไม่โสด
เราไม่รู้ว่าเราเรียกตัวเองว่าช่างภาพดีมั้ย? เคยรับงานถ่ายภาพประปราย แบ็คกราวน์เราจบไอทีนิเทศศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่ถ่ายการกุศล ฟรีแลนซ์ ถ่ายฟรีๆ เหอๆ แต่เราชอบถ่ายรูปมาก และคลุกคลีกับวงการ Pre wedding มากพอสมควร ก่อนตัดสินใจไปถ่าย Pre wedding ที่เกาหลี ยอมรับว่าใช้เวลานานมากในการค้นฟ้าควานหางานถ่ายภาพทั่วประเทศไทย ทั้งคนที่ใช้คำโฆษณาว่าถ่ายภาพ #พรีเวดสไตล์เกาหลี #สตูดิโอพรีเวดสไตล์เกาหลี (อันนี้นี่อารมณ์ถ่ายไม่ได้ ก็อปสตูก็ยังดี) สุดท้าย! เอาวะ! คำนวณสิ! เช่าเฉพาะสตู เอาช่างภาพที่เราไว้ใจที่สุด แต่พี่เค้าก็พูดกับเราตรงๆว่า “เอารูปแบบนี้ พี่ยอม” T T แถมคำนวณราคาเช่านู่นนี่นั่นแยกแล้ว แพงกว่าบินไปถ่ายอีก ดูรูปเกือบทุกสตูแล้วจริงๆ อะไรไม่รู้ที่บอกว่า “ฟีลมันไม่ใช่” จนก่อนไปก็ยังหลับหูหลับตาบอกคุณแฟนว่า “เราถ่ายที่นี่ก็ด่ะ” คือมันมีสตูที่เป็นฉากสไตล์นั้น เลยกลั้นใจ!! แต่แฟนคงอยากให้เป็นของขวัญวันเกิด ^^♥
ก็แค่ภาพ Pre wedding ทำไมต้องอะไรขนาดนั้น?
ถ้าคนที่รู้จักเราจะรู้ว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับ “งานแต่งงาน” เลย ถ้าไม่นับเรื่องหน้าตาในสังคม ฐานะทางสังคมของพ่อแม่ แต่ทำไมต้องให้ความสำคัญกับภาพ Pre wedding ขนาดนั้น? คำถามที่ขอถามกลับก่อนจะตอบคือ “รูปที่ติดไว้ตามผนังบ้าน ใส่กรอบตั้งเต็มบ้าน ส่วนใหญ่เป็นภาพ “Pre wedding” หรือ “ภาพในงาน” เรามีพี่ชายสองคนซึ่งแต่งงานแล้ว “ภาพในงาน” คือภาพที่ถูกเก็บลงอัลบัม ยิ่งสมัยนี้ช่างภาพส่งภาพเป็นไฟล์ ก็อยู่ใน CD แบบนั้น แต่ภาพ “Pre wedding” ต้องเห็นทุกวัน Acting องค์ประกอบภาพ ฟีลลิ่ง ส่วนใหญ่มาเต็มกว่าภาพวันงาน เพราะวันงานของเรา เราให้ความสำคัญกับแขกที่มาร่วมงานเท่านั้นค่ะ และนี่คือเหตุผล ^^
สำหรับ ... เราจะเลือก Studio ไหนดี? จะโดนหลอกมั้ย? จะคุยกันยังไง? เดี๋ยวมาต่อตอน ๒ นะคะ
[CR] Pre wedding Korea : แฟนฉันไม่ใช่โอปป้า แต่ติ่งดราม่า อยากเป็นนางเอกซีรี่ย์ (สักครั้งในชีวิต)
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยกันล่วงหน้าเลยนะคะ อิอิ
เรานั่งมองห้องกระทู้อยู่นานว่าจะบลูแพลนเน็ต หรือ แกลอรี่ ดี?
เพราะทริปพรีเวดเราคือไปเที่ยว "พูซาน" ด้วย ... สุดท้าย! แยกกันคนละห้องละกัน ฮ่าฮ่า
Part ของถ่ายพรีเวด ไว้ห้องนี้
Part ของเที่ยวและรูปพรีถ่ายเล่นๆ Out door ไว้ให้นู้นละกัน ^^" >>> http://ppantip.com/topic/35282167
ป.ล. รูปเยอะอยู่นะคะ ต่อ wifi จะได้ไม่เปลืองเน็ตเน้อ ;)
ป.ล.2 UPDATE ราคาแพ็คเกจถ่ายภาพของ Piona Studio สามารถสอบถามราคาโปรโมชั่นที่ทาง Piona ให้พิเศษสำหรับคนที่จองผ่าน @ออมม่าย๊า https://www.facebook.com/oommaya/ inbox สอบถามข้อมูลต่างได้ทางช่องทางนี้เลยค่ะ
(ราคาโปรเริ่มต้น 990,000W หรือประมาณ 29,700 บาท ขึ้นอยู่กับโปรแต่ละเดือน)
ตอน ๑ ทำไมต้องไปถ่าย Pre wedding ที่เกาหลี ทั้งๆที่ว่าที่สามีไม่ใช่ “โอปป้า”
เป็นคำถามยอดฮิต สำหรับคนที่ไม่รู้จักเรา ดังนั้น!!! ขอแนะนำตัวเองคร่าวๆก่อนแล้วจะเริ่มคลี่คลายคำถามนะคะ
เราเป็น “ติ่ง” ค่ะ ที่ใครๆก็เรียกกันว่า “ติ่งเกาหลี” เราเป็นติ่งตั้งแต่ปี 2002 (ติ่งรุ่นป้า) โดยเริ่มจากการเป็นติ่งภาพยนตร์ ดราม่า(ซีรี่ย์) จากนั้นก็เป็น E.L.F และ โซวอน เมน ฟานี่ (งงมั้ย? ภาษาติ่ง 555) แปลได้ว่าเราเป็นแฟนคลับซุปเปอร์ จูเนียร์ และเกิร์ล เจเนอเรชั่น โดยชอบทิฟฟานี่มากที่สุด
ช่วงนึงติดรายการ WGM : We got marriage งอมแงมโดยเฉพาะคู่ “ยงซอ” ยงฮวา CN BLUE กับนุ้งซอ (น้องซอ ^^”) น้องเล็กแห่ง SNSD (SNSD ก็คือเกิร์ลเจน) คู่ “ทึกโซรา” (อีทึก ซุปเปอร์ จูเนียร์และนักแสดงสาว คังโซรา) We got marriage เป็นรายการที่เอาดารามาแต่งงานกันแบบปลอมๆ ใช้ชีวิตคู่ ซึ่งเป็นรายการที่มุ้งมิ้ง แต่ได้ข้อคิด และ Level ความ #มโน ที่สูงมาก จิกหมอนกันทะลุที่นอนเลยทีเดียว นอกจากนี้ขึ้นชื่อว่า “เกาหลี” พี่เค้ามีอะไรดีเค้าก็ “ขายชาติ” กันผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง นอกจากจะทำให้เราไปเกาหลี 10 กว่ารอบ (ทั้งเพราะ Location จากซีรี่ย์หรือไปเกาะกระจกเป็นตุ๊กแกดูอีทึกกับอึนฮยอกจัดรายการวิทยุ kiss the radio สมัยนั้น !) ตอนจบในรายการของแต่ละคู่ ถ้าจบแบบ Happy ending ก็จะโชว์การถ่ายภาพ Pre wedding ยั่วน้ำลาย ทั้งติ่งโสด ติ่งไม่โสด
เราไม่รู้ว่าเราเรียกตัวเองว่าช่างภาพดีมั้ย? เคยรับงานถ่ายภาพประปราย แบ็คกราวน์เราจบไอทีนิเทศศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่ถ่ายการกุศล ฟรีแลนซ์ ถ่ายฟรีๆ เหอๆ แต่เราชอบถ่ายรูปมาก และคลุกคลีกับวงการ Pre wedding มากพอสมควร ก่อนตัดสินใจไปถ่าย Pre wedding ที่เกาหลี ยอมรับว่าใช้เวลานานมากในการค้นฟ้าควานหางานถ่ายภาพทั่วประเทศไทย ทั้งคนที่ใช้คำโฆษณาว่าถ่ายภาพ #พรีเวดสไตล์เกาหลี #สตูดิโอพรีเวดสไตล์เกาหลี (อันนี้นี่อารมณ์ถ่ายไม่ได้ ก็อปสตูก็ยังดี) สุดท้าย! เอาวะ! คำนวณสิ! เช่าเฉพาะสตู เอาช่างภาพที่เราไว้ใจที่สุด แต่พี่เค้าก็พูดกับเราตรงๆว่า “เอารูปแบบนี้ พี่ยอม” T T แถมคำนวณราคาเช่านู่นนี่นั่นแยกแล้ว แพงกว่าบินไปถ่ายอีก ดูรูปเกือบทุกสตูแล้วจริงๆ อะไรไม่รู้ที่บอกว่า “ฟีลมันไม่ใช่” จนก่อนไปก็ยังหลับหูหลับตาบอกคุณแฟนว่า “เราถ่ายที่นี่ก็ด่ะ” คือมันมีสตูที่เป็นฉากสไตล์นั้น เลยกลั้นใจ!! แต่แฟนคงอยากให้เป็นของขวัญวันเกิด ^^♥
ก็แค่ภาพ Pre wedding ทำไมต้องอะไรขนาดนั้น?
ถ้าคนที่รู้จักเราจะรู้ว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับ “งานแต่งงาน” เลย ถ้าไม่นับเรื่องหน้าตาในสังคม ฐานะทางสังคมของพ่อแม่ แต่ทำไมต้องให้ความสำคัญกับภาพ Pre wedding ขนาดนั้น? คำถามที่ขอถามกลับก่อนจะตอบคือ “รูปที่ติดไว้ตามผนังบ้าน ใส่กรอบตั้งเต็มบ้าน ส่วนใหญ่เป็นภาพ “Pre wedding” หรือ “ภาพในงาน” เรามีพี่ชายสองคนซึ่งแต่งงานแล้ว “ภาพในงาน” คือภาพที่ถูกเก็บลงอัลบัม ยิ่งสมัยนี้ช่างภาพส่งภาพเป็นไฟล์ ก็อยู่ใน CD แบบนั้น แต่ภาพ “Pre wedding” ต้องเห็นทุกวัน Acting องค์ประกอบภาพ ฟีลลิ่ง ส่วนใหญ่มาเต็มกว่าภาพวันงาน เพราะวันงานของเรา เราให้ความสำคัญกับแขกที่มาร่วมงานเท่านั้นค่ะ และนี่คือเหตุผล ^^
สำหรับ ... เราจะเลือก Studio ไหนดี? จะโดนหลอกมั้ย? จะคุยกันยังไง? เดี๋ยวมาต่อตอน ๒ นะคะ