ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ท่องเที่ยว กระทู้แรกของเรา แม่หญิงบ้าๆที่ภาษาอังกฤษระดับ Yes No Ok เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกแบกเป้ใบเดียว เดินทางคนเดียว ไม่มีเพลนมีแค่ความกล้า และพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง
เอาล่ะมาเริ่มต้นการท่องเที่ยวกันเลย
**ทยอยลงคะ(แอบทำเวลางาน55)
1เราจองตั่วเครื่องบิน AirAsia ช่วงเดือน กพ. 59 ในราคาประมาณ 11000 บาท
2เราจองที่พักผ่านเว็บ Booking.com (ที่เลือกจองที่นี้เพราะเราสามารถยกเลิกการจองได้โดยไม่เสียเงิน) เราจองเข้าพักที่ Khaosan World Asakusa Hostel 3คืน 7500เยน สองพันกว่าบาท
3 เตรียมตัว
3.1 เป้สะพายหลังยี่ห้อ carry all รุ่น BTS15:#13820 (ของใช้ประจำ)
3.2 กระเป๋ากระสอบไซต์ L (ยืมพี่ที่ทำงานเอาไว้ใส่ของฝากซื้อตอนกลับ)
3.3 เสื้อยืดสบายๆ3ตัว กางเกงยีนใส่ไป1ตัว กางเกงนอน1 เสื้อคาดิเกน ใส่ติดตัว เดรส1ตัว,ผ้าปิดตา,หมอนป่าลมรองคอ,ผ้าขาวม้าประจำตัว
3.4 ยา ,ไทลินอล500 1แผง , ยาแก้แพ้ 1แผง ,ธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินขวดเล็ก ,พลาสเตอร์ปิดแผล 10อัน
3.5 power bank eloop 13000 mA 2เครื่อง(ใช้จริงแค่1เครื่อง ไม่รู้จะแบกไปทำไม)
3.6 AdapterแบบQuick charge 3port(เตรียมไปเผื่อ)
3.7 เอกสารใบจองที่พัก,ตั๋วขากลับ(เช็คอินตั้งแต่ขาไปปริ้นติดไปด้วย),หนังสือรับรองการทำงาน(ไปคนเดียวเลยติดตัวไว้)
3.8 เงิน 100000เยน แบ่งเป็น
3.8.1 10000เยน(เงินพี่ที่ทำงานฝากซื้อของ)
3.8.2 30000เยน(เดินทาง,ที่พัก,กิน)
3.8.3 30000เยน(แม่ให้ยืมคืนพร้อมดอกเบี้ยT_T)
3.8.4 30000เยน(ติดตัวไว้เดาว่าต้องมีใครฝากซื้อเพิ่ม)
3.8.5 บัตรเครดิส(ติดไปงั้นๆไม่คิดจะใช้55)
3.9 Pocket WiFi  (เราเช่ามาจากบูธJ-Plan Holiday Samurai WiFi ช่วงงานTITF 4วัน 716บาท)
3.10 google Map

วันเดินทาง 22-05-16

AirAsia XJ600 23.45pm เคาน์เตอร์ เปิดเริ่มเช็คอิน 20.45pm.แนะนำทำเว็บเช็คอินมาก่อน เพราะคิวยาวมาก

เดินพิธีการขาออกนอกราชอาณาจักรตามปกติ แล้วไปเดินเล่นในเกตรอ บินดึกคนน้อย ร้านค้าก็เปิดน้อย

แอบซนชมไปทั่ว

ซื้อตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง ท้ายเครื่องเลยจ้า ยังดีที่สุ่มให้51A (ข้อดีเอนแบบไม่เกรงใจ ข้าวได้ก่อน เข้าห้องน้ำง่าย ขึ้นเครื่องก่อน ข้อเสีย ลงเครื่องช้า เสียงชักโครกชัดกว่าเสียงเครื่องยนต์)

วิวที่ได้จาก51A

05.30เวลาญี่ปุ่น 3.30เวลาไทย แอร์แจกอาหารจ้า กะเพราไก่ไข่เจียว 180บ.จองพร้อมตั๋ว รสชาติกลางๆแต่หิวไม่เหลือสักเม็ด
แอร์จะแจกใบArrivalและใบcustoms
**งานเข้าแล้วเมื่อแอร์ดันแจกใบArrivalรุ่นเก่า แต่ที่แม่หญิงเตรียมตัวมันเป็นแบบใหม่ เน็ตก็ไม่มี(นี้มันบนฟ้าเฟ้ย) แถมคนนั่งข้างๆดันเป็นญี่ปุ่นที่ยังนอนหลับมิตื่น
วิธีแก้ปัญหาหันซ้าย ขาว เล็งเป้าหมายพี่ไทยที่นั่งแถวถัดไป ส่งยิ้มตาเศร้า เสียงน้อยๆแล้วกล่าวว่า "ขอโทษคะ รบกวนขอดูเป็นตย.เขียนได้มั้ยคะ"คนไทยใจดีมีน้ำใจพร้อมให้ความช่วยเหลือคะ (ขอขอบพระคุณพี่ผู้หญิงที่นั่ง51Cคะ)

08.00 ล้อถึงพื้นใจเต้นตุ้บๆ อ่านมาร้อยกระทู้ร้อยรีวิวไม่เท่าลองเอง สู้เว้ย
วิชาเอาตัวรอดที่1เราผูกมิตรกับเพื่อนญี่ปุ่นข้างๆเรา สื่อกันด้วยอังกฤษแบบง่ายๆสำเนียงไทยจ๋ากับญี่ปุ่นจ๋า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ท่องเที่ยว ระหว่างทางจากเครื่องเดินมาด่านตม.ไกลดีแท้ แถมมีทางแยกสำหรับรอเปลี่ยนเครื่องด้วย (เดินมาคนเดียวคงงงนิดๆ)จงตามป้ายArrivalไป
เราผ่านตม.มาอย่างสดใส ต่อมาคือไปรับกระเป๋าแต่เราไม่มี ด่านต่อไปคือ ศุลกากรจ้า
วิชาเอาตัวรอดที่2 ศุลกากรช่องไหนดี? ที่อ่านมาสีเขียวเข้าช่องนั้น ยืนงงๆพอคิวว่างเจ้าหน้าที่จะรู้งานแล้วเรียกเราเข้าช่องนั้นเอง (ความรู้เพื่อนชาวญี่ปุ่นช่องNumber of Dependents ใบcustoms เรามาคนเดียว ให้ วง 0 ทั้ง3ช่อง แทนการปล่อยว่าง)
"You have one pack "
Me;"Yes am 4Day พร้อมรอยยิ้ม"

Welcome To Japan
เปิดWiFi สัญญาณเต็ม ถึงไหนถึงกันพี่น้อง เข้าเมืองไงดีง่ายที่สุดก็ จงตามป้ายTrainไป

วิชาตัวรอดที่3 แบงค์ย่อยอยู่หนใด? ตู้จำหน่ายตั๋วรถไฟคือคำตอบ  บัตรIC suicaมีอายุ5ปีเริ่มนับจากการใช้งาน เก็บไว้เป็นที่ระทึก(ฉันจะกลับมาอีกแน่นอน55)เติมไป2000มัดจำบัตร500เหลือ1500 เอาไว้ใช้เข้าเมืองและซื้อของกิน

วิชาตัวรอดที่4 เดินทางให้ประหยัดในโตเกียว4วัน >>Tokyo Subway 72-hour Ticketช่วยเราได้ (http://www.tokyometro.jpหาข้อมูลดู) แต่ตอนนี้เราอยู่ narita จ.chiba บัตรนี้ใช้ได้ที่โตเกียวจ้า เก็บไว้ก่อน

ลูกทุ่งแบบเรา keisei main line แตะบัตรด้วย suica 1025เยนถึงUeno นั่งหลับยาวๆ1ชม.18นาทีแต่......เรายังไม่ไป เราแวะเที่ยวNaritaก่อน

นั่งkeisei main line Sta.Narita Airport Terminal2 3 ลง St.Narita 7นาที

แล้วไปทางไหนดี? มองซ้ายขวา แล้วเดินตามไป (ทีนี้ไม่มีวินมอไซต์ให้ถามทาง แต่ถามทางคนแถวนั้นก็บอกเรานะ)

ถึงแล้ว Naritasan Shinshoji Temple ถามทางใช้คำว่า Shinshoji เจ้าถิ่นจะอ้อทันที (เราซื้อข้าวปั้นกับน้ำมาจากร้านค้าติดมาด้วย)

เราถึง 10โมงครึ่ง ใหญ่ สวย กว้าง และอากาศดีมาก


ทางเข้าห้องน้ำ คือดีงาม

ไปเช้าคนน้อยดี

เป็นการกินข้าวปั้นที่บรรยากาศดีมาก


ออกจาก Naritasan Shinshoji Temple เกือบบ่ายโมง รู้สึกพลังงานเริ่มหมดเลยจะไปที่เช็คอินที่พักแถวAsakusa นั่งรถไป keisei main line Sta.Narita เปลี่ยนขบวนที่สถานี AOTO ถึงสถานีก็ลง เดินตามป้ายตัวAสีแดง รอรถไปที่มีแถบสีแดง นั่งหลับซักพักก็ถึง แตะบัตรsuicaออกจากสถานี 946 เยน เดินตามคนเยอะๆออกมาจะโผล่มาที่หน้า sensoji temple โชคดีชั้นที่1 มาตอนที่กระเบื้องหลังคาหล่น sensoji temple ปิดซ่อมประตูหน้าจ้า
รีวิวที่พักเรา ห้อง10เตียงรวมชายหญิง ราคา7500เยน 3คืน
รีวิวที่พัก