ที่ฝรั่งเรียนเก่งกว่าคนไทยเพราะมีตำราดีๆให้อ่านมากมายของเรามีน้อย แถมอ่านได้เลยของเราต้องมาฝึกภาษาถึงจะเข้าใจ ใช่ไหม?

1 ตำราเรียนของไทยมีน้อย ต้องแย่งกันอ่านเวลาสอบ สอบกันร้อยกว่าคนในหอสมุดมีตำรา สามเล่ม ตำรามีให้เลือกน้อย อ่านก็ยาก ของฝรั่งมีให้เลือกมากมาย ง่ายหรือฮาดคอร์ เด็กฝรั่งมีตำราให้เลือกเยอะเข้ากับจริตของตน หนังสือต่างประเทศมีจำนวนมาก ครอบคลุมทุกศาสตร์ ทุกสาขาวิชา ของไทยทั้งน้อยและขาด แต่ตอนนี้ก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่จัดว่าน้อยอยู่ดี

2 จะไปอ่านเทกก็อ่านไม่รู้เรื่อง งงแปลไม่ออก แปลคำออกก็ไม่เข้าใจประโยค ว่าหมายความว่าอย่างไร ของฝรั่งเขาเกิดมาก็ฝึกพูดภาษานี้กันแล้วใช้ได้คล่อง อ่านได้คล่อง

3 ฝรั่งฐานะโดยรวมดีกว่าเรามากมีเวลา มีเงินมาอ่านหนังสือ

สรุปเจอสามกำแพงที่ต้องฝ่าไป กำแพงภาษา กำแพงเงิน กำแพงตำราไทยมีน้อย
และฝรั่งกับเราก็ต่องฝ่าอีกกำแพงคือความยากของคณิตศาสตร์


ฝรั่งต้องผ่านแค่ด่านเดียว ของเราต้องผ่านสี่ด่านอรหันต์


ผมเชื่อว่าความเก่งมีผล แต่สิ่งแวดล้อมก็มีผลมาก คนเห็นเก่งๆก็เพราะเขามีเงิน มีเวลาไปอ่านหนังสือ
หนังสือบรรจุความรู้มากมาย


คนไม่อ่านหนังสือที่บรรจุความรู้มนุษย์กว่าห้าพันปีต้องทำงานใช้แรงแน่


ความจริงใครจะเก่งไม่เก่งก็อยู่ที่อ่านหนังสือ คนเก่งๆก็มีเงินซื้อหนังสืออ่านเยอะกว่าคนอื่นก็แค่นั้น
อ่านตำราเรียนก็เหมือนอ่านนวนิยาย อ่านก็รู้ไม่อ่านก็ไม่รู้อ่านมากๆบ่อยๆก็จำตัวละครเนื้อเรื่องได้แม่น
เช่นกันอ่านตำราบ่อยๆก็เชี่ยวชาญเก่ง

ใครจะเมพไม่เมพไม่ต้องไปดูการแต่งตัว มหาวิทยาลัยที่เรียน เสื้อผ้าหน้าผม ความเป็นอยู่ ใครจะเมพวัดกันที่ตอนอยู่ในห้องส่วนตัวเล็กๆเงียบๆใครอ่านหนังสือ ตั้งใจศึกษา ทุ่มเท เป็น motivated student มากกว่ากัน เหมือนนักฟุตบอลไม่ต้องไปดูสนามใหญ่แค่ไหน  สปอนเซอร์เยอะ รวย นักเตะหล่อ คนเชียร์เยอะแค่ไหน จะเมพไม่เมพอยู่ตอนสนามฝึกซ้อมสี่เขียวเล็กๆ




แค่นี้เอง ผมคิดถูกไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คคห 1 บอกว่า
ในขณะที่ประเทศไทยคนรู้ภาษาจะค่อนข้างเห็นแก่ตัว    คนที่ศึกษาจากต่างประเทศมาไม่ค่อยจะอยากแปลเป็นภาษาตัวเองให้คนอื่นอ่าน    เพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องลำบากเสียเงินไปเรียนแล้วเรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาหาข้อมูลได้ง่ายๆ     ต้องให้ลำบากมากๆเหมือนตน

^
เราเจอมากรณีไม่ใช่งี้นะ

ตอนเรามีโอกาสได้แปลหนังสือให้ สนพ เราเสนอหนังสือวิชาการดีๆให้ สนพ ไปขอลิขสิทธิ์มาแปล ไม่มี สนพ ไหนเอาเลย ส่วนใหญ่เราจะโดน สนพ บังคับให้ "แปลนิยาย"

เราเป็นคนไม่ชอบอ่านนิยาย เราเลยแปลหนังสือให้ สนพ ไปแค่ไม่กี่เล่มเอง จากนั้นเราทำงานแปลเอกสารมาโดยตลอด จากประสบการณ์การแปลงานด้านวิชาการ และจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อค้นคว้าเองมากๆ ทำให้เราเรียนรู้เนื้อหาสาระความรู้ดีๆสะสมไว้ในหัวมากพอที่จะเขียนหนังสือให้ความรู้ดีๆได้ คือเขียนเองได้ไม่ต้องแปล

เราเลยคุยๆกับเพื่อนที่เป็นนักเขียนที่ได้เงินจากการเขียนหนังสือมากจนมีเงินไปอยู่เมกา  คือปรึกษาเพื่อนเราคนนี้เรื่องเราจะเริ่มเขียนหนังสือดีๆเป็นภาษาไทยส่งให้ สนพ   แต่เพื่อนเราตอบว่า "พี่ไม่ต้องไปเขียนหนังสือให้ความรู้อะไรดีๆหรอก มันขายไม่ออกหรอก ที่หนูขายหนังสือได้เงินมาเยอะ ก็เพราะว่าหนูเขียนหนังสือแนว erotic เป็นภาษาไทยต่างหากล่ะ...มันเลยขายง่ายได้เงินดี555"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่