บอกเล่าประสบการณ์จัดงานศพให้สุนัขครั้งแรก ที่วัดกระทุ่มเสือปลา
สำหรับคนที่มีความผูกพันกับสุนัข เมื่อสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักมาจากไป พูดจริงๆ ว่าต้องใช้เวลาทำใจสักพัก ซึ่งสำหรับผมแล้ว มีความผูกพันกับลัคกี้ เจ้าหมาปอมตัวนี้มาก เนื่องจากเลี้ยงมานานเกือบ 10 ปี ที่ไม่ว่าจะกินนอน เล่น ก็มีมันคอยเข้ามาออเซาะ นั่งรอเวลาเปิดประตูเข้าบ้านไม่ว่าจะกลับดึกดื่นขนาดไหน เรียกว่าเป็นทั้งเพื่อนและคนในครอบครัวก็ว่าได้ ซึ่งตั้งแต่นี้ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว แต่ถึงยังไงก็ต้องทำใจครับ เพราะเจ้าลัคกี้ของผมมันแก่มากแล้ว หลังๆ นี่เดินแทบไม่ไหว และขนเริ่มร่วง ต้องเอาข้าวให้น้ำมาให้กินกันถึงที่ ครั้งสุดท้ายที่พาไปหาคุณหมอ หมอบอกว่าหมาแก่ ขนจะเริ่มร่วง จะเริ่มนอนนิ่ง ไม่ทานข้าว จนมาถึงเมื่อวานตอนสายที่ผมเอาข้าว เอาน้ำไปให้มันกิน แต่เหมือนมันนอนหลับ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น จนจับตัวมันดู ปรากฏว่ามันไม่หายใจเสียแล้ว ผมนี่ตกใจมาก ใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม ทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากเริ่มตั้งสติได้ ผมจึงอุ้มเจ้าลัคกี้มาวางบนผ้าผืนใหญ่ แล้วจึงคิดว่าด้วยความรักและผูกพันมานาน ผมก็อยากทำอะไรดีดีให้เค้าเป็นครั้งสุดท้าย จึงคิดว่าจะเอาเจ้าลัคกี้ไปจัดพิธีศพที่วัด ถึงใครจะว่าหรือเกินเหตุ แต่จริงๆ แล้วผมว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า ที่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็มีสิทธิที่จะได้รับการดูแลและเอาใจใส่จนถึงวันที่จากไป เพราะเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผมไม่แพ้กับคนในครอบครัวเลย
เมื่อตัดสินใจว่าจะจัดงานศพให้เจ้าลัคกี้ ผมก็เริ่มหาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละครับ เพราะไม่เคยจัดงานศพให้สุนัขมาก่อนเหมือนกัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เลยมาเจอกระทู้ที่เพื่อนๆ หลายคนแนะนำว่า วัดกระทุ่มเสือปลา ซึ่งเป็นวัดที่ มีบริการรับฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ก็เลยลองโทรติดต่อเข้าไปที่วัด เพื่อนัดหมายเวลา และจองคิวกับทางเจ้าหน้าที่วัด ซึ่งคิวว่างพอดีเช้านี้ เลยนัดกับเจ้าหน้าที่เพื่อนำเจ้าลัคกี้มาทำพิธี เมื่อมาถึงวัด ก็พบว่าบรรยากาศภายในวัดนั้นร่มรื่น เป็นธรรมชาติ มีศาลาและเตาเผาสัตว์เลี้ยงอยู่ริมน้ำ โดยศาลาที่ใช้นั้นมีลักษณะเป็นศาลาไม้คล้ายเครื่องเรือนไทย ปูพรมแดงติดแอร์ทั้งหลัง สวยงามเลยทีเดียว
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่วัดมาช่วยอุ้มร่างของลัคกี้เข้าไปยังศาลาวัดที่ใช้ทำพิธี โดยภายในศาลาได้มีการตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม น่าประทับใจมากครับ ในส่วนการตกแต่งสถานที่นั้นทางวัดตกแต่งได้สวย และใส่ใจอย่างที่ผมคาดไม่ถึง
หลังจากที่นำร่างของลัคกี้ใส่โลงสีชมพูซึ่งมีลายการ์ตูนรูปสุนัขแสนน่ารักเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยเจ้าหน้าที่จะนิมนต์พระเข้ามาทำพิธี โดยเริ่มจากพิธีขอขมา ซึ่งเป็นการขอขมากับสัตว์เลี้ยง ที่เราอาจจะทำไม่ดีกับเค้าในตอนที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นก็เป็นการอธิษฐานผ้าบังสุกุล เสร็จแล้วพระท่านจะชักผ้าบังสุกุลและต่อด้วยการถวายสังฆทาน แล้วพระก็จะสวดมนต์ และจบด้วยการกรวดน้ำรับพร
เสร็จจากพิธีพระ ก็จะเป็นการวางดอกไม้จันทน์ โดยพระท่านจะวางดอกไม้จันทน์นำฤกษ์ให้ก่อน เสร็จแล้วนำโลงไปยังเตาเผาซึ่งเป็นเตาเผาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่จะให้เราวางดอกไม้จันทน์คนละ 1 ดอก แล้วก็เริ่มทำการเผา
ซึ่งข้อดีของการใช้บริการที่วัดนี้ก็คือสามารถรอรับกระดูกกลับไปได้เลย โดยใช้เวลานั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งการที่จะสามารถรับกระดูกกลับไปได้นั้นต้องมีการทำพิธีก่อนรับกลับไปด้วย เพื่อเป็นการเชิญวิญญาณของลัคกี้กลับไป หลังจากทำพิธีเสร็จก็สามารถรับกระดูกของลัคกี้กลับไปได้ครับ เป็นอันเสร็จพิธี ที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย แถมยังรู้สึกดีที่ได้ทำพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้องเพื่อให้ดวงวิญญาณของเจ้าลัคกี้สุนัขสุดรักของผมที่ผูกพันกันมานานได้ไปสู่สุคติ เผื่อชาติหน้าเค้าจะได้เกิดมาในภพภูมิที่ดี และได้มาเป็นเพื่อนที่แสนดีของผมอีกครั้ง
สำหรับใครที่อยากทำพิธีฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข หรือแมว สามารถเข้าไปสอบถามได้ที่วัดกระทุ่มเสือปลา จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ วัดอยู่ตรงซอยอ่อนนุช 67 นี่เองครับ หาไม่ยากเลย
แผนที่วัดกระทุ่มเสือปลา
บอกเล่าประสบการณ์จัดงานศพให้สุนัขครั้งแรก ที่วัดกระทุ่มเสือปลา
สำหรับคนที่มีความผูกพันกับสุนัข เมื่อสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักมาจากไป พูดจริงๆ ว่าต้องใช้เวลาทำใจสักพัก ซึ่งสำหรับผมแล้ว มีความผูกพันกับลัคกี้ เจ้าหมาปอมตัวนี้มาก เนื่องจากเลี้ยงมานานเกือบ 10 ปี ที่ไม่ว่าจะกินนอน เล่น ก็มีมันคอยเข้ามาออเซาะ นั่งรอเวลาเปิดประตูเข้าบ้านไม่ว่าจะกลับดึกดื่นขนาดไหน เรียกว่าเป็นทั้งเพื่อนและคนในครอบครัวก็ว่าได้ ซึ่งตั้งแต่นี้ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว แต่ถึงยังไงก็ต้องทำใจครับ เพราะเจ้าลัคกี้ของผมมันแก่มากแล้ว หลังๆ นี่เดินแทบไม่ไหว และขนเริ่มร่วง ต้องเอาข้าวให้น้ำมาให้กินกันถึงที่ ครั้งสุดท้ายที่พาไปหาคุณหมอ หมอบอกว่าหมาแก่ ขนจะเริ่มร่วง จะเริ่มนอนนิ่ง ไม่ทานข้าว จนมาถึงเมื่อวานตอนสายที่ผมเอาข้าว เอาน้ำไปให้มันกิน แต่เหมือนมันนอนหลับ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น จนจับตัวมันดู ปรากฏว่ามันไม่หายใจเสียแล้ว ผมนี่ตกใจมาก ใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่ม ทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากเริ่มตั้งสติได้ ผมจึงอุ้มเจ้าลัคกี้มาวางบนผ้าผืนใหญ่ แล้วจึงคิดว่าด้วยความรักและผูกพันมานาน ผมก็อยากทำอะไรดีดีให้เค้าเป็นครั้งสุดท้าย จึงคิดว่าจะเอาเจ้าลัคกี้ไปจัดพิธีศพที่วัด ถึงใครจะว่าหรือเกินเหตุ แต่จริงๆ แล้วผมว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า ที่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็มีสิทธิที่จะได้รับการดูแลและเอาใจใส่จนถึงวันที่จากไป เพราะเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผมไม่แพ้กับคนในครอบครัวเลย
เมื่อตัดสินใจว่าจะจัดงานศพให้เจ้าลัคกี้ ผมก็เริ่มหาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละครับ เพราะไม่เคยจัดงานศพให้สุนัขมาก่อนเหมือนกัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เลยมาเจอกระทู้ที่เพื่อนๆ หลายคนแนะนำว่า วัดกระทุ่มเสือปลา ซึ่งเป็นวัดที่ มีบริการรับฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ก็เลยลองโทรติดต่อเข้าไปที่วัด เพื่อนัดหมายเวลา และจองคิวกับทางเจ้าหน้าที่วัด ซึ่งคิวว่างพอดีเช้านี้ เลยนัดกับเจ้าหน้าที่เพื่อนำเจ้าลัคกี้มาทำพิธี เมื่อมาถึงวัด ก็พบว่าบรรยากาศภายในวัดนั้นร่มรื่น เป็นธรรมชาติ มีศาลาและเตาเผาสัตว์เลี้ยงอยู่ริมน้ำ โดยศาลาที่ใช้นั้นมีลักษณะเป็นศาลาไม้คล้ายเครื่องเรือนไทย ปูพรมแดงติดแอร์ทั้งหลัง สวยงามเลยทีเดียว
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่วัดมาช่วยอุ้มร่างของลัคกี้เข้าไปยังศาลาวัดที่ใช้ทำพิธี โดยภายในศาลาได้มีการตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม น่าประทับใจมากครับ ในส่วนการตกแต่งสถานที่นั้นทางวัดตกแต่งได้สวย และใส่ใจอย่างที่ผมคาดไม่ถึง
หลังจากที่นำร่างของลัคกี้ใส่โลงสีชมพูซึ่งมีลายการ์ตูนรูปสุนัขแสนน่ารักเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยเจ้าหน้าที่จะนิมนต์พระเข้ามาทำพิธี โดยเริ่มจากพิธีขอขมา ซึ่งเป็นการขอขมากับสัตว์เลี้ยง ที่เราอาจจะทำไม่ดีกับเค้าในตอนที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นก็เป็นการอธิษฐานผ้าบังสุกุล เสร็จแล้วพระท่านจะชักผ้าบังสุกุลและต่อด้วยการถวายสังฆทาน แล้วพระก็จะสวดมนต์ และจบด้วยการกรวดน้ำรับพร
เสร็จจากพิธีพระ ก็จะเป็นการวางดอกไม้จันทน์ โดยพระท่านจะวางดอกไม้จันทน์นำฤกษ์ให้ก่อน เสร็จแล้วนำโลงไปยังเตาเผาซึ่งเป็นเตาเผาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่จะให้เราวางดอกไม้จันทน์คนละ 1 ดอก แล้วก็เริ่มทำการเผา
ซึ่งข้อดีของการใช้บริการที่วัดนี้ก็คือสามารถรอรับกระดูกกลับไปได้เลย โดยใช้เวลานั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งการที่จะสามารถรับกระดูกกลับไปได้นั้นต้องมีการทำพิธีก่อนรับกลับไปด้วย เพื่อเป็นการเชิญวิญญาณของลัคกี้กลับไป หลังจากทำพิธีเสร็จก็สามารถรับกระดูกของลัคกี้กลับไปได้ครับ เป็นอันเสร็จพิธี ที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย แถมยังรู้สึกดีที่ได้ทำพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้องเพื่อให้ดวงวิญญาณของเจ้าลัคกี้สุนัขสุดรักของผมที่ผูกพันกันมานานได้ไปสู่สุคติ เผื่อชาติหน้าเค้าจะได้เกิดมาในภพภูมิที่ดี และได้มาเป็นเพื่อนที่แสนดีของผมอีกครั้ง
สำหรับใครที่อยากทำพิธีฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข หรือแมว สามารถเข้าไปสอบถามได้ที่วัดกระทุ่มเสือปลา จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ วัดอยู่ตรงซอยอ่อนนุช 67 นี่เองครับ หาไม่ยากเลย
แผนที่วัดกระทุ่มเสือปลา